หลังจากไปเยือนกโยยองที่ตำหนัก กโยซึลก็ได้เริ่มไปไหนมาไหนภายในพระราชวังมากขึ้น และในวันนี้นางก็ตัดสินใจจะไปเยือนอุทยานดอกไม้ที่พระราชวังกลาง พูดถึงสวนแล้วไม่ว่าจะที่วังตะวันออกหรือวังฝ่ายนอกย่อมมีอยู่แล้ว ทว่าหลังจากที่ได้ยินจากซังกุงว่าอุทยานดอกไม้ที่พระราชวังกลางเป็นที่ที่ ‘งดงามที่สุดในพระราชวัง’ กโยซึลจึงตัดสินใจจะไปเยี่ยมชมทันที เพราะเป็น ‘อุทยานดอกไม้’ มิใช่ ‘สวนพักผ่อน’ ที่นั่นจึงเต็มไปด้วยเหล่าไม้งาม และยังได้ยินว่ามีดอกไม้ล้ำค่าที่หาชมที่ไหนได้ยากอยู่อีกด้วย กโยซึลมุ่งหน้าไปยังอุทยานดอกไม้ที่พระราชวังกลางกับแม่นมด้วยความตื่นเต้น
พระราชวังกลางแบ่งออกเป็นส่วนกลางและส่วนนอก บริเวณทั้งหมดของส่วนนอกนั้นเชื้อพระวงศ์ทุกคนเข้าออกได้ตามอำเภอใจ ทว่าในส่วนกลางที่เป็นส่วนตัวที่สุดนั้นเป็นที่ตั้งของตำหนักแทกอนที่เป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดิและองค์ฮวังฮู ดังนั้นแม้แต่พระชายาฮวางแทจาเองก็ต้องมากับฮวางแทจาจึงจะสามารถเข้าไปได้ โดยปกติแล้วหากต้องการเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ หรือในเวลาที่ต้องหารือกันเรื่องงานบ้านเมืองก็มักจะไปท้องพระโรงและต้องไปในเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
ต่างจากฮวากุกที่มีธรรมเนียมว่าต้องเข้าเฝ้าเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุขดิบแก่พระราชาและพระราชินิในทุกเช้า ที่มกกุกนั้นหากไม่มีเรื่องเร่งด่วนอะไรก็ยากที่จะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิและองค์ฮวังฮูได้ ในงานอภิเษกกโยซึลได้ไปยืนต่อหน้าองค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดิ แต่เพราะตนในตอนนั้นมีผ้าคลุมหน้าสีแดงบดบังอยู่ และด้วยความตื่นเต้นตนจึงไม่ได้เห็นใบหน้าของทั้งสองพระองค์ชัดๆ และเพราะการเข้าเฝ้าทั้งสองพระองค์เป็นเรื่องยาก อีกทั้งทั้งสองพระองค์ยังไม่ค่อยให้ใครได้พบหน้าโดยง่าย กโยซึลจึงยกทั้งสองเป็นผู้สูงส่งที่ยากจะเข้าหา
“มีเรื่องอันใดหรือเพคะ”
เมื่อถึงประตูใหญ่หน้าอุทยาน ทหารยามสองคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็ยกหอกที่ถือไว้ขึ้นมาขวางหน้า ทหารสองคนนี้เป็นเพียงทหารที่คอยเฝ้าอุทยาน และด้วยเหตุที่กโยซึลเพิ่งเข้าวังมาได้ไม่นาน แถมยังไม่ค่อยออกมาข้างนอกตำหนัก จึงทำให้ทหารผู้น้อยทั้งสองคนนี้ไม่รู้จักกโยซึล เมื่อทหารทั้งสองขวางหน้า แม่นมที่ไม่สบอารมณ์จึงออกหน้าแทน
“บังอาจ! รู้หรือไม่ว่าพระองค์เป็นใคร กล้ามาขวางทางอย่างนั้นหรือ ยังไม่รีบถวายบังคมอีก ท่านผู้นี้คือพระชายาฮวางแทจา”
“ขอพระราชทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ พันปี พันปี พันพันปี เข้าเฝ้าพระชายาฮวางแทจาพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อรู้ถึงสถานะของกโยซึล ทหารยามทั้งสองจึงลดหอกลงและทำความเคารพแก่กโยซึล กโยซึลที่ยังไม่ชินต่อการทำความเคารพเช่นนี้จึงรู้สึกเกร็งเล็กน้อย ผ่านไปเพียงครู่หนึ่งทหารยามทั้งสองจึงลุกขึ้น กโยซึลและแม่นมจึงเดินไปยังประตูใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไปยังอุทยานดอกไม้ และในขณะที่แม่นมกำลังจะก้าวตามกโยซึลที่เพิ่งเดินผ่านประตูไปนั้น ทหารยามทั้งสองก็ขวางนางไว้
“ขออภัยขอรับ อุทยานดอกไม้เป็นที่ที่เชื้อพระวงศ์และข้าราชการชั้นสูงเข้าออกได้เท่านั้นขอรับ”
ตำแหน่งของแม่นมนั้นคือ ‘ยูอนบูอิน[1]’ ถึงแม้ว่าจะเป็นตำแหน่งที่เมื่อเทียบกับข้าราชการทั่วไปแล้วถือว่าเป็นตำแหน่งที่สูงอยู่บ้าง ทว่าไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ข้าราชการชั้นสูง’ ได้ แม่นมงงงันอยู่เพียงชั่วครู่ หลังจากนั้นจึงก้าวถอยออกมา และเอ่ยกับกโยซึลว่า
“พระชายาเพคะ บ่าวจะรออยู่ที่นี่ พระองค์ไปเดินเล่นเถอะเพคะ”
“เข้าใจแล้ว”
กโยซึลพยักหน้ารับแล้วเดินหายเข้าไปข้างใน แม่นมที่มองตามหลังกโยซึลด้วยความห่วงใยเดินออกมายืนตากแดดห่างจากทหารยามเพียงเล็กน้อยเพื่อรอกโยซึลกลับมา
เมื่อเดินมาใกล้อุทยาน กลิ่นดอกไม้ก็ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เมื่อกลิ่นสะอาดบริสุทธิ์สัมผัสเข้าที่จมูก กโยซึลก็เผยรอยยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ ด้วยเหตุที่ในอุทยานมีดอกไม้พันธุ์หายากอยู่มาก นอกจากประตูใหญ่ข้างนอกแล้ว ยังมีแนวกำแพงกั้นและประตูใหญ่อีกประตูหนึ่งที่เชื่อมสู่พื้นที่ด้านใน แนวกำแพงที่โอบล้อมอุทยานนั้นมีไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่ไม่ทราบชื่อปกคลุมอยู่เต็มไปหมด และไม้เลื้อยนั้นยังออกดอกไม้สีแสดขนาดเล็กน่ารักอีกด้วย กโยซึลที่เอาแต่มองไปที่ดอกไม้พวกนั้นจนก้าวเข้ามาด้านในอุทยานอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ว้าว สมแล้วที่เป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ กว้างใหญ่มาก”
ในอุทยานดอกไม้ที่กว้างขวางจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดนั้นมีทางแคบๆ แทรกอยู่ และทั้งสองข้างทางก็ยังปลูกไม้พุ่มเล็กๆ ไว้ด้วย ทั้งยังมีดอกไม้เล็กนานาสีที่ทั้งงดงามและเรียบหรูที่ส่งกลิ่นหอมคลุ้งผสมปนเปกันอยู่ แต่หาได้ทำให้เคืองสายตาไม่ กโยซึลเลือกเริ่มเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ เส้นทางหนึ่งจากหลายสายเส้นทางในนั้น และทุกครั้งที่เจอทางแยกนางจะเลือกทางที่อยู่ตรงหน้าตนเสมอ
ไม่รู้ว่านางเดินมานานแค่ไหนแล้ว แต่ด้วยดอกไม้งามที่เบ่งบานละลานตาตรงหน้าทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็เจอเข้ากับพื้นที่ว่างที่กว้างขวางราวกับว่าตนได้เดินมาถึงจุดศูนย์กลางแล้ว และที่ตรงกลางนั้นก็มีแหล่งน้ำที่เล็กเกินกว่าจะเรียกกว่าทะเลสาบและใหญ่เกินว่าจะเรียกว่าบ่อน้ำได้ ตรงกลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆ อยู่เกาะหนึ่ง และที่เกาะนั้นมีศาลาตั้งอยู่ สะพานที่สามารถเดินไปยังศาลานั้นได้มีถึงห้าสะพาน
“เข้าไปดีไหมนะ”
ขณะที่กโยซึลกำลังลังเลอยู่นั้น พลันเสียงดุเข้มของสตรีนางหนึ่งก็ดังขึ้น
“เจ้าเป็นใครกัน!”
เมื่อกโยซึลหันไปก็เจอกับสตรีนางหนึ่งที่สวมวิกผมสูง แต่งตัวสง่างามก้าวเข้ามาใกล้ พร้อมถือปลายผ้าแพรยาวไว้หลวมๆ หญิงริมฝีปากแดงนั้นไม่รู้ว่านางมียศสูงหรืออย่างไร เครื่องประดับบนตัวถึงได้หรูหราฟู่ฟ่าถึงเพียงนี้ และด้วยความที่กโยซึลชอบแต่งตัวเรียบง่ายไม่สนใจเครื่องประดับที่หรูหรา สตรีนางนี้จึงอาจคิดว่ากโยซึลเป็นเพียงสนมปลายแถวที่ไม่ได้รับแม้แต่การแต่งตั้ง
——
[1] ยูอนบูอิน แม่นมยศคุณหญิง