ตอนที่ 322 ผู้มาเยี่ยมเยือน

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เขาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นถังซีออกมาในชุดนอนผ้าโปร่งสีดำคอคว้านลึกเซ็กซี่มาก และเฉียวเหลียงยังได้กลิ่นน้ำหอมชาแนลหมายเลขห้าที่เธอมักใช้ประจำอีกด้วย เขาเอนกายอยู่บนเตียง อดแอบยิ้มในใจไม่ได้ ขณะมองเธอเรื่อยๆ เหมือนไม่มีอะไร สายตาเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม แต่ยังคงไม่แสดงท่าทีใดๆ

 

 

ถังซีก้มลงมองชุดนอนของตัวเองเมื่อเห็นว่าไม่มีผลใดๆ ต่อเฉียวเหลียง เขาไม่สะทกสะท้านสักนิดเลยเหรอที่เห็นเธอแต่งตัวแบบนี้! เขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า เมื่อคิดเช่นนี้ ถังซีก็ตัดสินใจดึงชุดนอนลงไปอีกเพื่อให้คอเสื้อลึกยิ่งขึ้น และค่อยๆ คืบคลานขึ้นไปบนตัวเขา พร้อมกับกล่าวว่า “ฉันจะหลับแล้ว ปล่อยให้ฉันนอนนะ…”

 

 

เฉียวเหลียงมองดูถังซีซึ่งค่อยๆ ก่ายขึ้นมาบนร่างกายเขาช้าๆ แล้วยิ้ม มองเธอด้วยความรัก “แต่ผมคิดว่าท่าทางคุณไม่ได้ดูเหมือนกำลังจะหลับ”

 

 

เมื่อถังซีได้ยินคำพูดของเขา ดวงตาเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เธอเอนกายลงบนเตียง มองเขาด้วยกิริยาอาการที่คิดว่าเย้ายวนที่สุด และยิ้มอย่างเชิญชวน “ฉันสวยไหม”

 

 

“สวย” เฉียวเหลียงพยักหน้า ถังซีรู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่งที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ในวินาทีถัดมาเธอก็ได้ยินเฉียวเหลียงบอกว่า “แต่ชุดนอนนี้ไม่เหมาะกับรูปร่างคุณ”

 

 

ถังซีขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่ชอบใจ “ทำไมล่ะ”

 

 

เฉียวเหลียงมองเธอขึ้นๆ ลงๆ แล้วกล่าวด้วยท่าทางลังเล “รูปร่างคุณแบนเหมือนนักเรียนประถม”

 

 

ถังซีโกรธปรี๊ดทันที เธอผุดลุกขึ้นนั่ง จ้องหน้าเฉียวเหลียงเขม็ง “แบนเหมือนเด็กประถมเหรอ! นี่คุณกำลังหัวเราะเยาะรูปร่างฉันเหรอ! อ้อ ที่ท่าทางคุณดูไม่สนใจ เพราะคุณไม่ชอบรูปร่างฉันใช่ไหม คุณก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ นั่นแหละ ชอบพวกนางแมวยั่วสวาทใช่ไหม! มิน่าล่ะถึงได้ชอบไปเที่ยวทะเลบ่อยๆ ตอนที่ไปลองบีชนั่นก็ไม่ใช่เพื่อไปตามหาฉันหรอก แต่เพื่อไปหาดูสาวสวยนุ่งบิกินี่ใช่ไหม!”

 

 

เฉียวเหลียงมองเธอด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีเสน่ห์ จากนั้นก็ดึงเธอลงไปนอนข้างๆ โดยไม่พูดอะไร ถังซีเม้มริมฝีปาก ผลักเขาออกไป “ไปให้พ้น ฉันไม่ต้องการให้คุณมานอนข้างฉัน”

 

 

“แต่ผมต้องการ” เฉียวเหลียงจับมือเธอขึ้นมาจูบซ้ำๆ ขณะกระซิบ “ผมอยากนอนข้างคุณ เพราะผมจะนอนไม่หลับถ้าไม่มีคุณ ผมไม่สนใจผู้หญิงคนไหนหรอก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ยั่วยวนยังไงก็ตาม ไม่มีใครมีความหมายสำหรับผม และผมไม่รู้สึกอะไรกับพวกเธอเลย”

 

 

แม้จะยังดูท่าทางปั้นปึ่ง แต่จริงๆ แล้วถังซีมีความสุขมากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอผลักเฉียวเหลียงออกไป และกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดความจริงหรือเปล่า เมื่อกี้คุณหัวเราะเยาะรูปร่างฉัน!”

 

 

“ถ้าผมไม่พูดแบบนั้น ผมกลัวว่าผมจะอดใจไม่ไหว…” ทันใดนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ ขณะกล่าวว่า “ผมไม่ควรปล่อยให้คุณ…”

 

 

ถังซีมองตามหลังเขาและยิ้ม ประกายแห่งความรักวิบวับไปทั่วดวงตาเธอ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นไปที่ห้องแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า จริงๆ แล้วเธอหนาวมากในชุดนอนผ้าไหมตัวนั้น… ถังซีสั่นสะท้าน “อูย… หนาวจังเลย…”

 

 

เมื่อเฉียวเหลียงออกมาจากห้องน้ำถังซีหลับไปแล้ว เฉียวเหลียงคลานขึ้นเตียง ดึงผ้าห่มออกแล้วนอนลงข้างเธอ ถังซียิ้ม กอดเอวเขา ราวกับรู้สึกได้ว่าเขามาแล้ว และหลับไปอีกครั้ง เฉียวเหลียงก้มมองใบหน้าที่หลับสนิทของถังซี ดวงตาเขาเป็นประกายด้วยความรักความเสน่หา เขาจูบเธอเบาๆ ที่หน้าผาก แล้วปิดไฟ…

 

 

 

 

เมื่อถังซีตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวเหลียงไม่อยู่ในห้อง ถังซีรู้ว่าเขาคงออกไปแล้ว เธอจึงไม่เรียกหาเขา แต่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องแต่งตัว แล้วลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้นล่าง ขณะกำลังทานอาหารเช้า คนรับใช้ก็เข้ามาบอกว่าทนายความมาแล้ว ถังซีเลิกคิ้ว วางแก้วนมลงบนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่สนามกอล์ฟด้านนอก เธอสั่งคนรับใช้ “พาทนายไปที่สนามกอล์ฟ ฉันจะรอเขาอยู่ที่นั่น”

 

 

ทนายความเดินตามคนรับใช้ไปจนถึงสนามกอล์ฟ เขากวาดตามองอุทยานเอ็มไพร์ขนาดใหญ่อย่างตื่นตาตื่นใจ แม้จะเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่เขาก็อดอุทานในใจไม่ได้ทุกครั้งที่มาที่นี่ ตระกูลถังร่ำรวยมหาศาล มีสิทธิและเอกสิทธิ์อย่างน่าทึ่งในเมืองหลวง แต่ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลจะยกสมบัติทั้งหมดให้แก่คนแปลกหน้า! เขาสงสัยจริงๆ ว่าคุณหนูถังคิดยังไงถึงทำแบบนี้…

 

 

ถังซีหันหลังไปมองทนายความเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เธอดูนิ่งเฉย แต่สง่างามเช่นเคย “เตรียมเอกสารพร้อมหรือยังคะ”

 

 

ทนายความพยักหน้า หยิบเอกสารออกจากกระเป๋าเอกสารส่งให้ถังซี เขาขยับแว่นกรอบทองขณะกล่าวว่า “เตรียมมาแล้วครับ กรุณาตรวจดูด้วยครับ คุณถัง หากคุณคิดว่าเอกสารใช้ได้ ก็ลงนามรับรองได้เลย หลังจากนั้นก็จะมีผลบังคับใช้ครับ”

 

 

ถังซีรับพินัยกรรมมา อ่านดูทั้งหมดและพยักหน้า “ดีค่ะ เราไปลงนามรับรองเอกสารกันบ่ายวันนี้เลย”

 

 

ทนายความมองหน้าถังซีด้วยท่าทางลังเล “ผมเกรงว่าเราจะทำในบ่ายวันนี้ไม่ได้ครับ คุณถัง สำนักงานรับรองพินัยกรรมปิดครับวันนี้ ไม่สามารถลงนามรับรองได้จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้เป็นอย่างเร็วที่สุด”

 

 

ถังซีขมวดคิ้ว พรุ่งนี้เธอต้องไปโรงเรียน และจัดการกับการงานต่างๆ พรุ่งนี้เธอไม่ว่างเลย ถ้าอย่างนั้นเธอจะทำได้อย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์… แต่ในวันศุกร์…

 

 

เธอครุ่นคิดและพยักหน้า “ถ้าวันนี้ไม่สามารถรับรองเอกสารได้ ก็ให้เป็นวันศุกร์ ฉันต้องออกไปทำธุระข้างนอกพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง เจอกันที่ประตูสำนักงานทนายความเช้าวันศุกร์ก็แล้วกัน”

 

 

หลังจากทนายความกลับไปแล้ว ถังซีกำลังจะออกไปข้างนอก เมื่อคนรับใช้มารายงานว่ามีคนมาเยี่ยมเธอ ถังซีเลิกคิ้ว “ให้เขาเข้ามา”

 

 

แม้ฉินซินหยิ่งกับถังซีจะเป็นเพื่อนกันมาหลายปี แต่เธอก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับฉินเปิ่นหยวนเท่าไรนัก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขามาที่นี่ ทันทีที่ก้าวเข้ามาในอุทยานเอ็มไพร์เขาก็ต้องตะลึงกับความใหญ่โตหรูหราของอุทยานเอ็มไพร์ และจากนั้นดวงตาเขาก็มีประกายละโมบฉายชัด…

 

 

แต่ในไม่ช้าฉินเปิ่นหยวนก็ควบคุมอารมณ์ได้ แม้เขาจะต้องการทำให้ทุกอย่างที่นี่เป็นของตัวเอง แต่เขาก็รู้ว่าไม่อาจเปิดเผยความคิดที่แท้จริงต่อหน้าผู้คนได้ เขายิ้มและเดินตามคนรับใช้ไปที่สนามกอล์ฟ ทันทีที่เห็นถังซีเขาก็ยิ้มประจบประแจง และก้าวยาวๆ เข้าไปหาเธอ “ซีซี บ้านเธอใหญ่โตมาก ฉันใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงจากประตูบ้านมาถึงตรงนี้ ถึงจะขึ้นรถรับส่งกลางทางก็ตาม”

 

 

ถังซียิ้ม หันไปมองคนรับใช้ซึ่งพยักหน้าและถอยออกไป ถังซีชี้ไปที่เก้าอี้สีขาวข้างโต๊ะกลม “นั่งก่อนสิคะ ประธานฉิน”

 

 

ฉินเปิ่นหยวนยิ้ม รีบตอบรับแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ “ฉันไม่คิดมาก่อนว่าอุทยานเอ็มไพร์จะกว้างใหญ่ขนาดนี้ ดูสิ มีสวนสนุก มีโลกใต้ทะเล และ…”

 

 

ถังซีส่งรอยยิ้มจางๆ มองฉินเปิ่นหยวนที่พยายามสาธยายชักแม่น้ำทั้งห้า โดยไม่ได้ขัดจังหวะเขา ในที่สุดเมื่อฉินเปิ่นหยวนรู้สึกเก้อเขินเกินกว่าจะพูดต่อไปภายใต้การจ้องมองของเธอ ถังซีก็หันไปมองคนรับใช้ ซึ่งถือถาดยืนรออยู่ข้างๆ คนรับใช้จึงก้าวเข้ามาพร้อมกับถาดในมือทันที แล้ววางกาแฟสองถ้วยลงตรงหน้าถังซี และฉินเปิ่นหยวน