ตอนที่ 1722 เลื่อนเป็นระดับเต่ํา
หลินฮวงไม่ขัดตอนเห็นดาบหนึ่งยืนนิ่งกับที่ หลินฮวงไม่ขัดสิ่งต่างๆตอนเขาเห็นดาบหนึ่งยืนนิ่งกับที่ ใช้เวลานั้นเพื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดหลังเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ เขาดึงจิตสํานึกออกจากตัวโดยตรง
เขาเหลือบมองรอบตัวเขา จากนั้นก็ให้คุณประตูเปิดประตูสู่อาณาจักรเสมือน กายเสมือนของเขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว
กายเสมือนยังเป็นสีดําและขาว มันเงียบไร้ซึ่งเสียง
หลินฮวงตรวจดูรอบๆด้วยจิตเทวะ เขาไม่สัมผัสถึงวอยด์ตัวใด จากนั้นก็อัญเชิญกระท่อมอาณาจักรเสมือนเขาเข้าไปอย่างกระตือรือร้น
เขากระตือรือร้นที่จะทดสอบว่าขีดจํากัดสามพันผนึกเต๋ในตัวของเขาปลดออกหรือยัง
หลังเข้ากระท่อมอาณาจักรเสมือน เขาก็นั่งสมาธิทันที เขาเริ่มกระตุ้นห่วงโซ่ลําดับเทพที่ยังไม่แปลงเป็นรอยประทับเต่ในอาณาจักรของเขา
ตามคาด ห่วงโซ่ลําดับเทพที่ดูเหมือนจะโดนผนึกก่อนหน้าเริ่มแปลงเป็นสภาพปกติ พวกมันสามารถกระตุ้นได้อีกครั้ง
โดยไม่ลังเล หลินฮวงเริ่มกระตุ้นพวกมันอย่างบ้าคลัง
เขาทําการวิเคราะห์ย้อนกลับต่อกฏเทพกับล่าดับเทพในห่วงโซ่เหล่านี้ หลังจากนั้น เขาก็ทําซ้ํา
เขาแปลงห่วงโซ่ลําดับเทพจากเขตแดนเทพที่เขาปล้นจากคนอื่นมายังอาณาจักรของเขา
มันไม่ชัดเจนว่าผ่านไปกี่วันแล้วในกระท่อมอาณาจักรเสมือน
หลินฮวงควบแน่นกฏเทพและลําดับเทพนับล้านอีกครั้ง และเริ่มทําการผสาน
เขาไม่วิตกเกี่ยวกับกระบวนการผสาน เขากังวลว่าขีดจํากัดจากก่อนหน้าจะปรากฏอีกครั้งเพื่อขวางการผสานเขา
แต่ทว่า กระบวนการทั้งหมดราบรื่น
การสื่อสารทางจิต การผสาน การปล้นเต่ํา ทั้งสามขั้นตอนสําเร็จลุล่วง
วอยด์หลายตัวหมายจะครองผนึกเดําเขาระหว่างการปล้นเต๋ หลินฮวงฆ่าพวกมันสบายๆ
ทั้งอย่างนั้น เขารวมผนึกเต่อันที่ 3001 จากห่วงโซ่ล่าดับเทพหนึ่งล้านสาย
พอมองผนึกเต๋ที่ก่อตัวกลางอากาศ หลินฮวงก็รู้สึกเหมือนตกอยู่ในความงุนงง“ข้าทะลวงผ่านระดับเต่เล็กแล้ว?!”
เขารู้ว่ามีอัจฉริยะจํานวนมากที่ติดที่ขีดจํากัดของจ้าวเทวะขั้นสูงสุดและล้มเหลวที่จะก้าวหน้ายังมีหลายคนที่ล้มเหลงในการทะลวงเป็นระดับเต่ก่อนตาย
เขาได้ติดอยู่ ณ จุดนี้มานานเช่นกัน
แต่ทว่า ความจริงที่เขาทะลวงผ่านได้ก็ดูเหมือนจะง่ายไปหน่อย
เขารู้สึกว่ากายเนื้อและวิญญาณในตัวเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ราวกับขีดจํากัดบางอย่างถูกปลดความตกใจฉายชัดบนหน้าเขา
เขาไม่คิดว่าร่างกายกับวิญญาณเทพของเขาจะผ่านการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้แค่เพราะเขามีผนึกเต๋เพิ่มมาอีกผนึก
เขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าเขาทรงพลังขึ้นทุกวินาที
แม้กระทั่งต้นไม้นิพพานที่เชื่อมต่อกับวิญญาณเทพของเขายังอู่ฟู พวกมันกําลังส่งเศษเสี้ยวพลังงานต้นก่าเนิดจากน้ำพมรณะมายังตัวหลินฮวงเรื่อยๆ
ตอนนี้ หลินฮวงไม่สนใจแหล่งพลังงานอีก เขาหลับตาสนิท และดําดิ่งกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและวิญญาณเทพเขาอย่างสมบูรณ์ สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในทุกอนุภาคของร่างกายเขา
มันไม่ชัดเจนว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนตอนสัมผัสของการเปลี่ยนแปลงค่อยๆลดความเร็วลง
การเปลี่ยนแปลงของกายเนื้อกับวิญญาณสิ้นสุดลง
หลินฮวงหลุดออกจากสภาวะดําดิ่ง
เขามั่นใจว่าเขากําวสู่ระดับเต่แล้ว แต่ทว่า เขาไม่รู้ว่าเขาทรงพลังแค่ไหน
เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่มีแบบอ้างอิงดอนเขาอยู่ที่ขีดจํากัดของจ้าวเทวะขั้นสูงสุด แต่ตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนเขาสามารถฆ่าตัวเขาคนก่อนได้เป็นร้อยครั้งภายในหนึ่งวินาที
เขาตระหนักว่าร่างกายกับวิญญาณเทพของเขาเปลี่ยนแปลงเป็นสภาวะใหม่อย่างสิ้นเชิง ร่างกายกับเซลล์เลือดเขาเปลี่ยนเป็นอนุภาค รวมถึงวิญญาณเทพเขา
อนุภาคทั้งสองประเภทสามารถสับเปลี่ยนกันได้ตามใจชอบ
ไม่ใช่แค่นั้น เขาสามารถสัมผัสได้ว่าตราบเท่าที่อนุภาคยังไม่บุบสลาย เขาจะเป็นอมตะ
อนุภาคเช่นนี้สามารถดูดซับพลังงานทุกประเภทจากจักรวาลได้เอง
รวมถึงพลังเทวะของทุกสาย คลื่นกัมมันตภาพรังสีจากวัสดุทุกชนิด กฏเทพ ลําดับเทพ
หลินฮวงยังสงสัยเล็กน้อยว่าตัวเขาคนก่อนที่ระดับจาวเทวะขั้นสูงสุดอาจไม่สามารถทําลายการป้องกันปัจจุบันของเขาได้
เหตุผลเพราะแต่ละอนุภาคในตัวเขาปกคลุมด้วยพลังสวรรค์ธรรมชาติที่แผ่จาก 3001 ผนึกเต๋า
หลังสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวและวิญญาณเทพเขาอย่างถี่ถ้วน ไม่ช้าหลินฮวงก็สังเกตเห็นต้นนิพพานกว่าสองร้อยต้นที่ยังส่งเศษเสี้ยวพลังงานต้นก่าเนิดเข้าตัวเขา
“เกิดอะไรขึ้น?!”หลินฮวงตะลึงพอเห็นขนาดของต้นนิพพาน
ขนาดเริ่มต้นของต้นนิพพานเทียบได้กับร่างยักษ์สวรรค์ ตอนนี้ แต่ละต้นโตจนมีขนาดเท่ากาแล็กซี่พวกเขาใหญ่กว่าเขตดาวหลายแห่งในมหาพิภพ
ต้นไม้กว่าสองร้อยต้นสามารถรวมกันเป็นจักรวาลขนาดเล็กได้พอรวมกัน
สิ่งที่ทําให้หลินฮวงประหลาดใจคือผิวของต้นนิพพานแต่ละต้นปกคลุมไปด้วยชั้นพลังงานที่ดูเหมือนหมอกทองเขาตรวจสอบพวกมันอย่างใกล้ชิด และพบว่าหมอกประกอบไปด้วยอนุภาคพลังงานต้นกําเนิดที่มาจากน้ำพมรณะ
“เกรงว่ามูลค่าของต้นนิพพานเหล่านี้จะเทียบได้กับสมบัติจิตวิญญาณแล้ว”
พอมองต้นนิพพานที่ยังสร้างพลังงานต้นกําเนิด หลินฮวงก็ตรวจสอบชิ้นส่วนมรดกที่สอดแทรกเข้าวิญญาณเทพเขา
ผ่านการตรวจด้วยจิตเทวะ เขาพบว่าชิ้นส่วนมรดกจํานวนมากแผ่กลิ่นอายระดับเต่ เขาคํานวณคร่าวๆและพบว่าปริมาณใกล้เคียงกับหนึ่งส่วนหมื่นของทั้งหมดแม้จะเป็นแค่หนึ่งส่วนหมื่นแต่ก็ยังเยอะ
หลินฮวงดูพวกมันและตรวจสอบ พวกมันคือมรดกระดับเต่เล็ก
บ้างไม่สามารถถือได้ว่าเป็นมรดก เป็นเพียงภาพความทรงจําบางส่วน
หลินฮวงเก็บชิ้นส่วนมรดกเหล่านี้ไว้ก่อนและเริ่มตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงอื่นในตัว
อาวุธเซียนบางชิ้นในตัวของเขาเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ตอนเขาเลื่อนเป็นจ้าวเทวะขั้นสูงสุด อาวุธเซียนได้เปลี่ยนเป็นสมบัติจิตวิญญาณแล้ว
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้พวกมันเป็นยังไง
อย่างไรก็ตาม อาวุธเซียนได้ปกคลุมด้วยรอยประทับเต๋ กลิ่นอายที่แผ่จากพวกมันทรงพลังกว่าต้นนิพพาน
หลินฮวงสามารถเดาถึงพลังของพวกมันได้หากเขาใช้จิตเทวะเพื่อควบคุมมีดบินอาวุธเซียน
เขาควบคุมอาวุธเซียนบางชิ้นเพื่อปกปิดกลิ่นอายพวกมัน ลดพวกมันเป็นอาวุธเต่ขั้นสูงสุดธรรมดา
ต่อมา หลินฮวงก็ตรวจสอบร่างกายเขาอย่างละเอียดและพยายามใช้ผนึกเต๋ของเขาในอาณาจักร
ตามคาด ผนึกเต่าที่เคยโดนจํากัดก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาไม่สามารถหยิบยืมได้แม้แต่ผนึกเดียวใช้ได้แล้ว
หลินฮวงยิ้มพวกมันทีละหนึ่ง
หนึ่ง สอง สาม..
สิบ…
ร้อย…
พัน.
สามพัน…
หมื่น…
สองหมื่น..
สามหมื่น..
30001…
สุดท้ายเขาก็ทดสอบขีดจํากัดของเขาได้ที่ 30001!
นั่นคือขีดจํากัดของผนึกเตที่เขาสามารถใช้ได้นอกอาณาจักรเขา มันเป็นสิบเท่าของจํานวนผนึกเตที่เขามี
จิตสํานึกของเขากลับไปในอาณาจักรอีกครั้งและเริ่มทดสอบจํานวนผนึกเต่ที่เขาใช้ได้ในนี้
แต่ทว่า เขาไม่สามารถทดสอบขีดจํากัดเขาได้ เหตุผลเพราะเขาสามารถใช้ผนึกเต๋าทั้งหมด 43161 ผนึกที่เขามีในอาณาจักรได้
ความสามารถต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลินฮวงเหมือนติดปีก ไม่ช้า เขาก็สงบอารมณ์และวิเคราะห์ห่วงโซ่ล่าดับเทพต่อเพื่อสร้างผนึกเตเพิ่ม
ตอนเขากําลังคิดจะลอง เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้น?!ทําไมขาไม่สามารถวิเคราะห์พวกมันได้?!”
บางสิ่งทําให้หลินฮวงพูดไม่ออก ห่วงโซ่ล่าดับเทพในอาณาจักรของเขาโดนผนึกอีกครั้งเขาไม่สามารถดึงข้อมูลใดจากพวกมันได้
มันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับตอนเขาเลื่อนเป็นจ้าวเทวะขั้นสูงสุดและต้องการรวมผนึกเต๋าที่ 3001