ตอนที่ 1723 ถึงคราวของดาบสอง

Monster Paradise

ตอนที่ 1723 ถึงคราวของดาบสอง

 

หลินฮวงตรวจผ่านห่วงโซ่ลําดับเทพนับร้อยล้านในอาณาจักรเขาด้วยจิตเทวะ เขาตระหนักว่ามันเหมือนเดิมกฏกับห่วงโซ่ทั้งหมดถูกผนึกโดยพลังลี้ลับ พวกมันไม่สามารถทําการวิเคราะห์ได้อีก

 

อย่างช่วยไม่ได้ เขาทําได้แค่ล้มเลิกแผนรวมผนึกเต๋าเพิ่ม

 

แม้เขาจะก้าวเข้าสู่ระดับเด็จากการปิดประตูบ่มเพาะ และความสามารถก็เพิ่มขึ้นมาก เขาก็ยังหงุดหงิดพอเจอเรื่องแบบเดิม

 

เขาลอบคาดเดาถึงปัญหา

 

“ข้าพบทางตันแบบนี้มาก่อนเพราะข้าไปถึงขีดจํากัดของจ้าวเทวะขั้นสูงสุด ข้าอยู่ห่างจากระดับเต่ําแค่ก้าวเดียว มันเป็นปกติที่จะเกิดทางต้นสําหรับจุดทะลวงผ่านสําคัญแบบนั้น แต่ข้าก้าวเข้าระดับเต่ําแล้วทําไมสถานการณ์เดียวกันถึงเกิด?”

 

หลินฮวงเริ่มคิดถึงมันจากมุมมองต่างๆ

 

“เหตุผลที่ขีดจํากัดถูกปลดดูเหมือนจะเกิดจากที่ดาบหนึ่งรวมผนึกเต๋ในอาณาจักรข้า ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดทั้งกระบวนการรวมผนึกเต๋ามีความรู้สึกประหลาดในอาณาจักรข้าด้วย มันพิสูจน์ว่าการรวมผนึกเต่ของเขาอาจเป็นส่วนที่ทําให้ขีดจํากัดข้าถูกปลด”

 

“ถ้าข้ามองตามตรรกะนี้ ขีดจํากัดของข้าคงถูกปลดออีกถ้ามีคนอื่นมาทําการรวมผนึกเต๋ในอาณาจักรข้าและกลายเป็นจ้าวเทวะ?”

 

หลินฮวงทําการคาดเดา

 

แม้เขาจะไม่รู้ทฤษฎีเบื้องหลังชี้ชัด เขาก็อนุมานได้ตามตรรกะ

 

“มาลองดู!”

 

เนื่องจากเขาได้ข้อสรุปแบบนั้น เขาย่อมต้องยืนยันมัน

 

มันดันว่าดาบหนึ่งไม่ใช่แค่คนเดียวที่กําลังจะปิดประตูบ่มเพาะในครั้งนี้ ดาบสองถึงดาบสิบล้วนกําลังรออยู่ซึ่งหมายความว่าเขามีเก้าโอกาสในการยืนยัน

 

เขาออกอาณาจักรเสมือนกลับไปอาณาจักรวัตถุ

 

หลินฮวงกลับไปอาณาจักรของเขาทันที

 

พอเห็นว่าดาบหนึ่งคุ้นเคยกับพลังใหม่แล้วหลินฮวงก็ปรากฏตัวข้างเขา

 

“ยินดีด้วย เจ้าเป็นจ้าวเทวะแล้ว!”

 

“ท่านจอมดาบ..”ก่อนจะได้ยินเสียงของหลินฮวง ดาบหนึ่งไม่สัมผัสถึงกลิ่นอายเขาเลย เขาเพิ่งได้สติหลังตกตะลึงไปชั่วขณะตอนเห็นหลินฮวงยืนตรงหน้าเขา เขาก้มหัวทันที”ขอบคุณท่านจอมดาบที่สั่งสอนข้า!”

 

แม้เขาจะมักเคารพหลินฮวง แต่คนที่เขาเคารพสุดก็ยังมักเป็นจอมเทพ เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่ตัวเขาจะก้าวไปไกลเกินจอมเทพ

 

“ข้าแค่ผลักดันเจ้า เจ้าสามารถทะลวงผ่านได้ด้วยตัวเจ้าเองทั้งนั้น”หลินฮวงตบไหล่ดาบหนึ่ง

 

“ท่านจอมดาบกลิ่นอายท่าน…”ดาบหนึ่งอดสงสัยไม่ได้ เขายังสัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายของหลินฮวง

 

“อืม?”

 

หลินฮวงไม่สังเกตเห็นว่ากลิ่นอายของเขาแทบผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ในความเป็นจริง เขาไม่ได้ตั้งใจทํามัน แต่มันดูเหมือนจะเป็นผลพิเศษที่มาพร้อมกับการเลื่อนเป็นระดับเต่า

 

เขารีบปรับกลิ่นอายเขาทันทีหลังได้ยินคําเตือนของดาบหนึ่ง เขาปรับกลิ่นอายเขาให้เป็นอะไรที่จ้าวเทวะขั้นกลางควรมี

 

ตอนนี้ดาบหนึ่งถึงสามารถสัมผัสได้ถึงการดํารงอยู่ของหลินฮวง

 

“ข้าเพิ่งทะลวงผ่านมา และไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติ” หลินฮวงอธิบายด้วยรอยยิ้ม”เจ้าสามารถสัมผัสได้แล้วใช่ไหม?”

 

“ขอรับ”แม้ดาบหนึ่งจะพูดงั้น เขาก็ลอบเดาว่าตอนนี้จอมดาบของเขามีระดับอะไรกันแน่ กลิ่นอายที่ไร้การดํารงอยู่ของเขาได้เป็นอาณาจักรที่เขาเข้าใจไปแล้ว

 

“ดาบสองกับคนอื่นจะออกจากการปิดประตูบ่มเพาะในไม่ช้า เจ้าอยากอยู่และดูการผสานของพวกเขาหรืออยากกลับไปเขตดาวท้องฟ้า?”หลินฮวงถาม

 

“ข้าจะอยู่ ข้าอยากใช้เวลานี้ทําความคุ้นเคยกับพลังใหม่”ดาบหนึ่งตัดสินใจโดยไม่ลง

 

แม้เขาจะเป็นพวกบ้างาน เขาก็ไม่อยากพลาดเรื่องสําคัญตอนพี่น้องเขาทําการผสาน

 

ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้การเร่งเวลาหมื่นเท่าของวังจอมเทพ ดาบสองกับคนอื่นควรย่อยมรดกที่จอมดาบให้ได้สบายๆ

 

“ข้าจะให้มรดกจ้าวเทวะกับเจ้า ศึกษามันซะถ้ามีเวลา”หลินฮวงยกมือและยื่นนิ้วออกไป

 

ล่าแสงสีเลือดพุ่งผ่านอากาศไปทันที มันเจาะทะลุหน้าผากของดาบหนึ่งไป

 

ดาบหนึ่งยังไม่ทันรู้เรื่องอะไร เขาก็สัมผัสได้ถึงมรดกที่ผสานเข้ากับวิญญาณเทพเขาแล้ว

 

เขาหลับตาเพื่อจดจ่อกับมันทันท เขาเริ่มอ่านมรดก

 

หลินฮวงเตรียมมรดกจ้าวเทวะไว้แล้ว มันยังถูกคัดมาให้เหมาะกับทาสดาบแต่ละคนเช่นกัน

 

ในความเป็นจริง เขาคิดว่าดาบหนึ่งกับคนอื่นอาจไม่ต้องบ่มเพาะเส้นทางที่เลือกหลังเลื่อนเป็นจ้าวเทวะสําเร็จ

 

แต่มรดกที่เลือกมาก็สามารถป้องกันพวกเขาจากการเลือกเดินบนเส้นทางผิดๆทั้งหลายได้ตอนพวกเขาเป็นจ้าวเทวะ

 

พอเห็นว่าดาบหนึ่งเข้าสู่สภาวะดําดิ่งไปแล้วหลินฮวงก็ใช้กระจกห่อหุ้มดาบหนึ่งไว้

 

แม้เขาจะอยู่ข้างดาบหนึ่ง และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการณ์อะไรในอาณาจักรเขา เขาก็ยังคิดว่ามันควรเพิ่มการป้องกันอีกชั้นอยู่ดี

 

หลังตั้งการป้องกันรอบดาบหนึ่ง เขาก็นั่งสมาธิเงียบๆรอในจุดที่ดาบหนึ่งอยู่ รอให้ดาบสองเข้ามาทําการผสานอย่างอดทน

 

ประมาณครึ่งวันต่อมาความปั่นป่วนก็ปะทุจากวังจอมเทพอีกครั้ง

 

ดาบสองออกจากการปิดประตูบ่มเพาะแล้ว

 

หลินฮวงตรวจเขาด้วยจิตเทวะ กลิ่นอายของดาบสองไม่อ่อนแอไปกว่าดาบหนึ่งก่อนการผสาน เห็นได้ชัดว่าเขาพร้อมแล้ว

 

แค่ความคิด หลินฮวงลากเขามาหาทันที

 

ตอนนี้เอง ดาบหนึ่งหลุดจากสภาวะดําดิ่งตอนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของดาบสอง

 

เขาเห็นม่านพลังโปร่งใสรอบตัวเขาทันทีที่เขาลืมตา

 

วินาทีต่อมาหลินฮวงก็ถอนม่านพลังนั้นไป

 

ดาบหนึ่งพยักหน้าให้หลินฮวงเล็กน้อยเป็นการขอบคุณจากนั้นก็หันไปมองดาบสอง

 

ดาบสองมองหลินฮวงก่อนและก้มหัวให้เขา “ท่านจอมดาบ”

 

จากนั้นเขาก็หันไปมองดาบหนึ่ง พอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เปลี่ยนไป เขาก็ตกใจและมีความสุข”เจ้าทําได้แล้ว?!”

 

“ใช่” ดาบหนึ่งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม”เจ้าก็จะทําได้เช่นกัน”

 

“ข้าจะถือว่าเป็นคําอวยพร” ดาบสองยิ้มและมองรอบๆก่อนถามเจ้าทําการผสานที่นั่งั้นเหรอ?”

 

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ยังหลงเหลือ

 

“ใช่แล้ว” ดาบหนึ่งพยักหน้า

 

“งั้นข้าจะทํามันที่นี่ด้วย ข้าคิดว่านี่คือดินแดนสมบัติ!”ดาบสองหัวเราะลั่น”ต่อให้ข้าจะล้มเหลวและโดนกลบฝังที่นี่ ข้าก็ควรสามารถอวยพรให้ผู้สืบทอดของข้าได้”

 

ดาบหนึ่งพูดไม่ออก”เจ้าช่วยพูดอะไรที่เป็นมงคลหน่อยได้ไหม?”

 

“ข้าแค่พูดเล่นเพื่อคลายความเครียดของข้าเฉยๆ”ดาบสองหัวเราะ

 

“ไม่ต้องกังวลอะไร ความหนาแน่นของกลิ่นอายเจ้าไม่ได้อ่อนแอไปกว่าของดาบหนึ่งก่อนเขาทําการผสานเขาแทบไม่พบอุปสรรคอะไรตลอดทั้งการผสาน เจ้าควรไม่เป็นไร”หลินฮวงปลอบเขาทั้งหมดที่เจ้าต้องทําคือกําจัดความคิดฟุ้งซ่านไปและจดจ่อกับการผสาน”

 

ดาบหนึ่งเดินไปข้างหน้าและส่งอัญมณีวิญญาณกับดาบที่เขาใช้ระหว่างการผสานให้ดาบสองอาวุธเต่สองชิ้นนี้น่าทึ่งมาก อย่าลืมส่งต่อพวกมันให้คนอื่นตอนเจ้าทําเสร็จแล้ว”

 

หลินฮวงอดหน้าแดงไม่ได้ตอนเห็นฉากน่าอึดอัดนี้ เขาอดยากับพวกเขาไม่ได้ว่า

 

“ข้าจะให้อาวุธเต่ําครบชุดกับพวกเจ้าตอนเจ้าท่าการผสานสาเร็จ”