ตอนที่ 374 คุณชายจะไปเป็นเพื่อนนายด้วย / ตอนที่ 375 หนีไปจากเกาะ

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 374 คุณชายจะไปเป็นเพื่อนนายด้วย 

 

 

           ซือเหยี่ยนตะลึงงัน มองเขาอย่างไม่กล้าจะเชื่อได้ 

 

 

           “ฉันเคยคำนวณความสูงของที่นี่แล้ว กระโดดลงไปไม่แน่ว่าจะตายเสมอไปหรอก” 

 

 

           เขาหยุดสักพัก ก่อนจะยิ้มหัวเราะ “ถ้าหากว่าไม่ระวังแล้วตายไป คุณชายก็จะไปเป็นเพื่อนนายด้วย” 

 

 

           ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นมาในใจระลอกหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาเอียงหน้ามองแววตาอันเด็ดเดี่ยวของเจียงมู่เฉิน 

 

 

           เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้น อีกนิดเขาเกือบจะเปลี่ยนใจแล้ว 

 

 

           แต่นาทีต่อมาเขากลับผลักเจียงมู่เฉินไปอยู่ข้างหลังเขา “คุณเห็นชอบเรื่องนี้ แต่ผมไม่เห็นด้วย ผมทำใจเห็นคุณตายไม่ได้” 

 

 

           เพิ่งจะสิ้นเสียงเขา คนไม่กี่คนที่อยู่รอบข้างก็กรูกันเข้ามา ซือเหยี่ยนตะลุมบอนต่อสู้กับคนสามคน 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองดูแผ่นหลังของซือเหยี่ยน กำหมัดแน่น และก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคำพูดของซือเหยี่ยน 

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่เห็นด้วย นั่นก็เป็นเรื่องของซือเหยี่ยน 

 

 

           ให้เขาหนีไปคนเดียวโดยลำพัง เขาเจียงมู่เฉินเองก็ทำไม่ลง 

 

 

           เจียงมู่เฉินเข้าร่วมการต่อสู้ที่ชุลมุนนี้โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเงาของเขาก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ “คุณกลับมาทำไม ให้คุณไปไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเชิดมุมปากขึ้น “คุณชายบอกแล้ว ต่อให้ตายก็จะตายไปด้วยกันกับนาย” 

 

 

           พ่อบ้านหลินพาบอดี้การ์ดมาเพียงแค่สี่คน เพียงครู่เดียวก็ถูกเจียงมู่เฉินกับซือเหยี่ยนซัดจนลงไปกองกับพื้น 

 

 

           พ่อบ้านหลินเห็นเหตุการณ์แล้ว ก็ยกปืนในมือขึ้นชี้หน้าซือเหยี่ยน “คุณเจียง ปืนนี้ไม่หลอกตานะครับ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินหยุดการกระทำของเขาทันที มาบังตัวอยู่ข้างหน้าซือเหยี่ยนโดยไม่ลังเลเลยสักนิด “ถ้านายอยากฆ่าเขา ก็ฆ่าฉันก่อนสิ เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่านายฆ่าฉันแล้ว นายจะยังมีวิธีไปรายงานคุณชายของนายอยู่หรือเปล่า” 

 

 

           คำพูดของเขาทำให้พ่อบ้านหลินชะงักไปเล็กน้อย เจียงมู่เฉินเห็นสถานการณ์แล้วก็เอื้อมมือจับซือเหยี่ยนไว้ มุ่งหน้าดิ่งลงด้านข้าง ทั้งสองคนกระโดดลงไปทั้งอย่างนั้น 

 

 

           พ่อบ้านหลินยิ่งปืนออกไปทันทีสองนัด แต่ตัวคนได้จมดิ่งหายไปท่ามกลางความมืดมิด ไม่เห็นร่องรอยแล้ว 

 

 

           ตอนนี้ซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉินกระโดดลงไปพร้อมกัน จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ เขารีบจัดคนไปตามหาโดยฉับพลัน 

 

 

           ‘ถึงยังไงรอดก็ต้องเจอคน ตายก็ต้องเจอศพ!’ 

 

 

           เพียงเสี้ยวเวลาที่เจียงมู่เฉินคว้าซือเหยี่ยนกระโดดลงไป ในหัวก็ฉายสะท้อนภาพภาพหนึ่งขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดอย่างรุนแรง 

 

 

           ราวกับมีความทรงจำอะไรบุกทะลุผ่านสมองไปไม่มีผิด 

 

 

           มือที่รั้งซือเหยี่ยนไว้กำแน่นขึ้นมากะทันหัน จากนั้นเสียงหายใจหอบด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นมา 

 

 

           ซือเหยี่ยนกำลังจะเตรียมถามเขา เสียงร่างกระทบน้ำดังครั้งหนึ่ง ทั้งสองคนร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำในบัดดล 

 

 

           ซือเหยี่ยนผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ รู้ว่าทำอย่างไรจะลดแรงกระแทกของร่างกายได้ นาทีนั้นที่ร่วงตกน้ำ ก็วูบไปเพียงไม่กี่วินาที 

 

 

           แต่ยังถือว่ายังฟื้นสติกลับมาได้เร็วมากอยู่ แต่เจียงมู่เฉินที่จับมือกันแน่นสนิทมาตลอดกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย 

 

 

           หัวใจซือเหยี่ยนบีบคั้น ทั้งร่างเหมือนโดนกระแสน้ำเย็นโหมกระหน่ำ หนาวเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาดำน้ำตามหาเจียงมู่เฉินอย่างบ้าคลั่ง 

 

 

           แต่ผืนทะเลกว้างใหญ่เกินไป ทั้งยังเป็นตอนกลางคืน อย่างไรก็มองไม่เห็นเจียงมู่เฉินอยู่แล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนเหมือนคนเสียสติอย่างไรอย่างนั้น ตามหาไปทุกหนแห่ง เขาตามหาด้วยความกระวนกระวายใจอย่างไม่หยุดหย่อน ในหัวก็ฉายสะท้อนภาพใบหน้าของเจียงมู่เฉินอยู่ตลอดเวลา 

 

 

           เขาเพิ่งจะยืนอยู่ต่อหน้า เอ่ยอย่างภูมิใจว่า “ถ้าหากว่าไม่ระวังแล้วตายไป คุณชายก็จะไปเป็นเพื่อนนายด้วย” 

 

 

           ซือเหยี่ยนหัวใจบีบรัดตัวแน่นจนเจ็บ เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจค้นหาอย่างไม่คิดชีวิต เขายังไม่ตาย เจียงมู่เฉินก็จะตายไม่ได้เหมือนกัน 

 

 

           ‘ปีศาจตัวแสบอย่างเจียงมู่เฉินจะมาตายง่ายๆ ได้ยังไง’ 

 

 

           ซือเหยี่ยนดำน้ำลงไปอย่างต่อเนื่อง ค้นหาอย่างไม่หยุดหย่อน หวังว่านาทีต่อไปจะได้เห็นเจียงมู่เฉิน 

 

 

           ครั้งแรกเขาปกป้องเจียงมู่เฉินไว้ไม่ได้ 

 

 

           ครั้งที่สองเขาทนเห็นเจียงมู่เฉินตายไปต่อหน้าต่อตาเขาไม่ได้อีกแล้ว 

 

 

           ความอบอุ่นของอุ้งมือเจียงมู่เฉินยังคงหลงเหลืออยู่ในมือเขา ซือเหยี่ยนยังจำนาทีนั้นที่กระโดดลงมาได้ เขาพยายามกำมือของตัวเองอย่างแน่นหนัก 

 

 

           เขากำมือด้วยความหนักแน่น ราวกับอยากจะความอบอุ่นนั้นไว้ 

 

 

           ‘เฉินเฉินของเขาออกจะเก่งซะขนาดนั้น จะมาตายง่ายๆ ได้ยังไง’ 

 

 

           ไม่ว่าซือเหยี่ยนจะตามหาอย่างไร ในผืนทะเลอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ไม่เห็นแม้เงาใครเลยสักคนเดียว 

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูค่ำคืนอันมืดสนิท หัวใจก็ค่อยๆ เย็นจนชาลงทีละนิดๆ 

 

 

           ‘หรือว่าเฉินเฉินของเขา…จะไม่กลับมาอีกแล้ว’ 

 

 

 

 

 

           ตอนที่ 375 หนีไปจากเกาะ 

 

 

           ทันใดนั้นทะเลที่เงียบสงบก็มีเสียงอ่อนแรงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ซือเหยี่ยนตกตะลึงทันที ลอยอยู่กลางทะเลไม่กล้าขยับไปไหน 

 

 

           เขาพยายามจะรักษาความเงียบสงบฟังอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง 

 

 

           “ซือ…ซือเหยี่ยน…” 

 

 

           เสียงขาดตอนดังขึ้นมา แววตาซือเหยี่ยนประกายความดีใจ รีบวิเคราะห์หาตำแหน่งของเสียงทันที 

 

 

           เขาว่ายน้ำตามต้นทางของเสียงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ว่ายน้ำก็เอ่ยเรียกไปด้วย “เจียงมู่เฉิน…” 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินเสียงซือเหยี่ยน ก็รีบเอ่ยเรียกในทันใด “ฉัน…ฉันอยู่ตรงนี้…” 

 

 

           เขาตอบกลับไปอย่างอ่อนแรง เป็นการบอกซือเหยี่ยนอีกครั้งว่าไม่ได้ฟังผิดไป เจียงมู่เฉินยังมีชีวิตอยู่ 

 

 

           ยิ่งเข้าใกล้ เสียงของเจียงมู่เฉินยิ่งชัดเจน ท่ามกลางความมืดมิดและพร่ามัว ซือเหยี่ยนก็ได้เห็นเงาดำเงาหนึ่ง 

 

 

           เขาพุ่งเข้าไปหาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น กกกอดตัวคนไว้ในอ้อมอก 

 

 

           นาทีนั้นที่เจียงมู่เฉินร่วงหล่นลงน้ำก็วูบไปแล้ว ถ้าไม่ได้พึ่งพลังใจของตัวเองที่มีเพียงน้อยนิด ก็คงจะจมลงไปในทะเลแล้ว 

 

 

           เขาสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิความอบอุ่นจากร่างกายของซือเหยี่ยน จิตใจที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลงในพริบตา 

 

 

           เขาอิงแอบแนบกายซือเหยี่ยน ยกยิ้มมุมปากอย่างขำขัน “คุณชายไม่ได้หลอกนายใช่ไหมล่ะ” 

 

 

           ในใจซือเหยี่ยนว้าวุ่นกันอุตลุดอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ได้มากอดเจียงมู่เฉินที่หายไปและหาเจอแล้วก็พูดไม่ออกเลยสักคำ 

 

 

           ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงเค้นคำพูดออกมาจากลำคออย่างยากลำบาก “อืม” 

 

 

           ซังจิ่งอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากได้ยินความเคลื่อนไหว ก็รีบพาคนเร่งตามมา 

 

 

           “ซือเหยี่ยน เร็วเข้า คนของฟู่เหยี่ยนจะตามมาแล้ว” 

 

 

           ซังจิ่งรีบดึงตัวเจียงมู่เฉินขึ้นมา แล้วก็ดึงซือเหยี่ยนขึ้นมาด้วยเช่นกัน 

 

 

           ทั้งสองคนขึ้นเรือเรียบร้อยแล้ว ซังจิ่งรีบให้คนเดินเครื่องเรือสปีดโบ๊ททันที 

 

 

           “สถานการณ์ข้างหลังเป็นยังไงบ้าง” เมื่อซือเหยี่ยนผ่อนคลายลง ก็รีบเอ่ยถาม 

 

 

           “ยังตามไม่ทันได้แค่ชั่วคราว ผมเพิ่งจะให้ไปถ่วงเวลาไว้ ถ้าพวกเขาจะมาต้องใช้เวลาอีกพอสมควร” 

 

 

           ซือเหยี่ยนได้ยินก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “มุ่งหน้าไปทิศใต้ตลอด หลังจากเทียบท่าก็ทิ้งเรือทันที ที่นั่นผมเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้แล้ว” 

 

 

           “วางใจได้ ผมจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว” 

 

 

           ตั้งแต่เจียงมู่เฉินขึ้นเรือมา ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ หลังจากซือเหยี่ยนแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว ถึงได้รีบมาดูอาการของเจียงมู่เฉิน 

 

 

           เขาหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว เป็นลมไปทั้งอย่างนี้ 

 

 

           หัวใจซือเหยี่ยนบีบคั้น ยื่นมือไปลูบหัวของเจียงมู่เฉิน ยังดีที่ไม่ได้ไข้ขึ้น คงเพราะหมดแรง จึงเป็นลมล้มพับไป 

 

 

           ตอนนี้ทำได้เพียงแค่กลับไปถานโจว ถึงจะพาเจียงมู่เฉินไปส่งโรงพยาบาล 

 

 

           ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วกันเป็นปมแน่น กลัวว่าเจียงมู่เฉินจะไม่สบายขึ้นมากะทันหัน ไม่กล้าจะห่างไปไหนเลยสักนิด 

 

 

           ซังจิ่งมองดูเจียงมู่เฉินในอ้อมกอดของซือเหยี่ยน 

 

 

           ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณชายน้อยอ่อนกำลังลงได้ถึงขนาดนี้ 

 

 

           หัวใจซังจิ่งกระตุกวูบ ค่อยๆ เบนสายตาออกอย่างช้าๆ ตอนนี้ขอเพียงแต่ช่วยเจียงมู่เฉินออกไปได้ เขาก็พอใจแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้องไปคิดแล้ว 

 

 

           อีกอย่างเจ้าของตัวจริงก็อยู่ที่นี่ทั้งคน เขาคนที่เคยทำให้เจียงมู่เฉินตกอยู่ในอันตรายคนหนึ่งจะไปมีคุณสมบัติอะไรไปเป็นห่วงเป็นใยเขา 

 

 

           ซังจิ่งกำมือแน่น สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา 

 

 

           เรือสปีดโบ๊ทพุ่งขับทะยานไป แล่นตามผืนทะเลอย่างรวดเร็ว ทำตามแผนการที่ซือเหยี่ยนวางไว้ก่อนหน้านี้  ขับมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มีเฮลิคอปเตอร์จอดไว้ 

 

 

           ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดก็ถึงสถานที่ที่นัดกันเอาไว้ 

 

 

           เฮลิคอปเตอร์จอดรออยู่ตรงนั้นแล้ว ซือเหยี่ยนช้อนร่างอุ้มเจียงมู่เฉินขึ้นมา “ไปกันเถอะ รีบออกจากที่นี่กัน” 

 

 

           ซังจิ่งหยุดสักพักก่อนเอ่ย “คุณรีบพาเจียงมู่เฉินไปเถอะ ผมยังมีธุระอีกนิดหน่อย บอกเจียงมู่เฉินว่ารอผมจัดการธุระอย่างอื่นเสร็จแล้ว จะไปหาเขาที่ถานโจวอีกที” 

 

 

           ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณไม่ไปกับพวกเราเหรอ” 

 

 

           ถ้าฟู่เหยี่ยนรู้ว่าซังจิ่งแอบช่วยเขาอย่างลับๆ ต้องไม่ปล่อยซังจิ่งไปง่ายๆ อย่างแน่นอน 

 

 

           “ไม่หรอก ขอบคุณ มีบางเรื่องก็หลบไม่พ้น” ซังจิ่งยิ้มหัวเราะ “อีกอย่างผมซังจิ่งก็ไม่ใช่คนที่กล้าทำอะไรแล้วจะไม่กล้ารับในสิ่งที่ทำ”