ตอนที่ 325 สุนัขจรจัด

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

“ฮ่าๆ พยายามปกป้องที่รักของเธอเหรอ” ฉินซินหยิ่งมองเหออี๋หยางอย่างเย้ยหยัน และตะคอกใส่เขา “ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้น ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงได้มีอะไรๆ มากกว่าฉันมากมาย เธอแค่โชคดีที่ได้เกิดมาในตระกูลถัง! ถ้าไม่มีตระกูลถัง เธอก็ไม่มีอะไรเทียบฉันได้!”

 

 

เหออี๋หยางมองฉินซินหยิ่งอย่างหมดความอดทน และตะคอกกลับอย่างเยือกเย็น “ทำไมถังซีถึงได้มีอะไรๆ มากกว่าเธอมากมายน่ะเหรอ ก็เพราะเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับสิ่งที่ถังซีได้รับไงล่ะ” เขาจ้องฉินซินหยิ่งที่มีสีหน้าคล้ำลงๆ เรื่อยๆ และกล่าวเสียงต่ำ “ฉินซินหยิ่ง ฉันเคยคิดว่าฉันควรใส่ใจเธอให้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าไม่มีใครช่วยเธอได้ เพราะเธอมันโลภเกินไป ฉันคงทำได้แค่รอดูเธอทำลายตัวเอง”

 

 

“หุบปาก!” ฉินซินหยิ่งมองเหออี๋หยางด้วยใบหน้าบึ้งตึง กล่าวอย่างเลือดเย็น “ฉันจะทำลายถังซี ฉันจะให้เธอคอยดูว่าฉันจะผลักผู้หญิงที่เป็นที่รักของเธอ จากจุดสูงสุดลงไปยังจุดต่ำสุดยังไง!”

 

 

เหออี๋หยางหัวเราะเยาะ “ถ้างั้นฉันก็ขอให้เธอประสบความสำเร็จก็แล้วกัน!”

 

 

ฉินซินหยิ่งก้าวเท้าผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว เหออี๋หยางหันมาจ้องมองเธอ และนึกถึงสิ่งที่ถังซีถามเขาในห้องทำงาน

 

 

“เธอจะยังไม่บอกฉินซินหยิ่งเหรอ ว่าเธอรักเขา” ถังซีมีท่าทางสงสัย เขาไม่รู้ว่าถังซีล่วงรู้เรื่องความรักของเขาที่มีต่อฉินซินหยิ่ง ซึ่งเป็นความลับที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเขาได้อย่างไร เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย และคิดว่าจะไม่มีวันบอกใคร เขาคิดว่าถังซีไม่รู้

 

 

เขาจึงตกใจที่ได้ยินถังซีถามเขาเรื่องนี้ เขามองเธอด้วยความประหลาดใจ ถังซีกล่าวว่า “เท่าที่ฉันรู้จักฉินซินหยิ่งมา ถ้าเธอไม่สารภาพรัก ซินหยิ่งจะไม่มีทางรู้ว่าเธอรักเขา และถ้าเป็นอย่างนั้นเธอจะไม่มีวันได้รับคำตอบใดๆ จากซินหยิ่ง แม้แต่คำปฏิเสธ”

 

 

“เธอรู้เหรอ” เขาลุกขึ้นจากโซฟา จ้องมองถังซีด้วยความพิศวง

 

 

ถังซียิ้ม “เธอหมายถึงฉันรู้ว่าเธอรักฉินซินหยิ่ง หรือรู้ว่าฉินซินหยิ่งรักเฉียวเหลียงล่ะ”

 

 

เขายิ้ม ดวงตาเขาฉายแววความรู้สึกผิด “ฉันขอโทษนะ ฉันรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไรลงไป แต่ฉันไม่ได้บอกเธอ ฉันปล่อยให้เธอ…”

 

 

“เหออี๋หยาง ฉันโง่มากเลยใช่ไหมในสายตาเธอ” ถังซีมองเขาด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าเธอสดใสราวกับแสงแดดยามเที่ยง เธอบอกว่า “ฉันรู้มาตลอดว่าซินหยิ่งทำอะไรฉัน แต่ฉันเห็นซินหยิ่งเป็นเพื่อน ฉันเลยปล่อยให้เขาทำร้ายฉัน แต่จากนี้ไปฉันจะไม่คบผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนอีกแล้ว อย่าได้ปกป้องเขาอีก ไม่อย่างนั้นฉันเกรงว่าเธอเองก็อาจต้องเจ็บเหมือนกัน’

 

 

เหออี๋หยางจ้องมองร่างฉินซินหยิ่งที่กำลังเดินห่างออกไป ดวงตาเขาค่อยๆ เปียกชุ่มด้วยน้ำตา เขาจำได้ว่าเขาตอบถังซีว่าอย่างไร “ความรักของฉันที่มีต่อซินหยิ่ง ถูกซินหยิ่งทำลายหมดสิ้นไปแล้ว ฉันหวังว่าเราจะยังคงเป็นเพื่อนกัน และฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องเสียใจกับผู้หญิงใจร้ายคนนั้นอีกต่อไปแล้ว”

 

 

เหออี๋หยางจำคำพูดของตัวเองได้ดี เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ จากนั้นก็เฝ้ามองรถที่ขับออกไป และยิ้มออกมาอย่างชิงชังตัวเอง

 

 

เขาสารภาพรักกับเธอแล้ว เขาทำแบบนั้นมาแล้วหลายครั้ง! แต่ผู้หญิงคนนั้นแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน หรือบางทีก็บิดเบือนความหมายของเขา เขาจึงไม่มีความรู้สึกอยากสารภาพรักกับเธออีกต่อไป นั่นคือเหตุผลที่เขาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นมนุษย์ที่ใจร้ายที่สุดในโลก…

 

 

แต่ตอนนี้เขารู้สึกโชคดีที่เธอไม่ยอมรับรักเขา…

 

 

มิฉะนั้นเธอจะต้องใช้ประโยชน์จากความรักของเขาอย่างแน่นอน และทำให้เขาทำลายคุณค่าในตัวเองจนหมดสิ้น…

 

 

บางทีเธออาจทำให้เขาทำลายแม้แต่ความภาคภูมิใจในตนเอง ที่อาจเหลืออยู่เพียงอณูสุดท้ายในตัวเขา โชคดีที่ตอนนี้เขายังรักษาตัวตนของตนเองไว้ได้

 

 

 

 

อาหกพาถังซีไปที่บริษัท ทันทีที่ถังซีไปถึงอาคารเอ็มไพร์ เธอก็เห็นชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเธอ…

 

 

ถังซีจ้องมองชายคนนั้น แล้วเข้าไปหลบหลังอาหก…

 

 

อาหกอึ้ง “…” เขารีบเข้ายืนขวางชายคนนั้นทันที…

 

 

“ถังซี! เธอหมายความว่ายังไง! ฉันเป็นประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ก่อนที่เธอจะกลับมา และทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ตอนนี้เธอกลับมาและฉันก็ถูกไล่ออก! อะไรทำให้เธอคิดว่าเธอสามารถไล่ฉันออกได้ตามที่เธอต้องการ!” ถังเหาซึ่งถูกอาหกรั้งตัวไว้ตะโกนใส่ถังซี

 

 

ถังซียืนอยู่หลังอาหก มองหน้าถังเหาอย่างเย็นชา “ถังเหา เธอไม่รู้หรือว่าเธอทำอะไรลงไป ฉันไม่ได้จู่ๆ ก็อยากไล่เธอออก แต่เธอต้องการหาเรื่องฉัน” ถังซีก้าวออกมาข้างหน้า หลังจากแน่ใจแล้วว่าอาหกควบคุมถังเหาไว้ได้ เธอมองเขาอย่างเย็นชา ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แล้วอะไรทำให้เธอคิดว่า ฉัน ประธานเอ็มไพร์กรุป ไม่สามารถไล่เธอออกได้ ถ้าฉันมีความประสงค์”

 

 

โดยไม่ให้โอกาสถังเหาพูดอะไร เธอเดินผ่านเขาไปเลย ถังเหาดิ้นรนอย่างหนัก และตะโกนออกมาดังๆ เมื่อเห็นเธอเดินจากไป “ถังซี หยุดเดี๋ยวนี้! เธอต้องมีเหตุผลที่ดีให้ฉัน!”

 

 

อย่างไรก็ตามถังซีเดินจากไปโดยไม่ได้ชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ ถังเหาเบิกตาโพลง ตะโกนใส่อาหก “ปล่อยฉัน! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร! ปล่อยฉัน!”

 

 

อาหกไม่สนใจเขา

 

 

“ไอ้บัดซบ แกเป็นสุนัขรับใช้ของเธอเหรอ ทำอะไรเฉพาะที่เธอสั่งให้ทำเท่านั้นหรือไง! ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะ…”

 

 

อาหกผลักถังเหาออกไปทันที เมื่อมองเห็นถังซีเดินเข้าไปในลิฟต์ ถังเหากำลังดิ้นรนไม่คาดคิดว่าอาหกจะปล่อยเขา เขาล้มกระแทกลงบนถังน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาด น้ำในถังกระเด็นสาดออกมา เขาจึงต้องนั่งอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำสกปรกที่ไหลนอง…

 

 

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาอยากจะหัวเราะ แต่ไม่กล้า จึงรีบเดินจากไป อาหกมองดูถังเหาซึ่งนั่งอยู่บนพื้นแล้วหัวเราะเยาะ “ดูสิ คุณเหมือนสุนัขจรจัดเลย”

 

 

“แกว่าไงนะ” ถังเหาพรวดพราดลุกขึ้น จ้องหน้าอาหกเขม็ง

 

 

อาหกมองหน้าถังเหาด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น และหัวเราะเยาะ “ผมบอกว่าคุณเหมือนหมาจรจัด…” ก่อนเขาจะพูดจบถังเหาก็รีบวิ่งเข้าไปชกเขา อาหกหันหน้าเบี่ยง หลบหมัดได้อย่างง่ายดาย ถังเหาเหวี่ยงหมัดใส่เขาอีกครั้ง อาหกยืนนิ่ง เตะขาถังเหาอย่างว่องไว ถังเหาเจ็บแปลบที่ขาขึ้นมาอย่างแรง ล้มลงไปอีกครั้ง น้ำสกปรกกระเซ็นไปทั่วตัวเขา และเขาดูเละเทะไม่มีดีเลยคราวนี้

 

 

อาหกเหลือบตามองลงไปที่ถังเหา และกล่าวอย่างเฉยเมย “ผมรู้ ว่าคุณเป็นใคร ถังเหาคนขี้โอ่ผู้ไร้น้ำยาลูกชายถังเจี๋ยเหริน เอาละ ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าคุณเป็นใคร แล้วคุณจะทำไมล่ะ”