ที่โต๊ะกลมขนาดใหญ่ มีกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดของเมืองแบล็กร็อคนั่งล้อมรอบอยู่ที่นั่น ทำให้บรรยากาศรอบด้านดูอืมครึมเป็นอย่างมาก

“ฉัน LordAsked ต้องการส่วนแบ่ง 30%!” LordAsked พูดอย่างตรงไปตรงมา

“10% แค่รางวัลพิเศษสำหรับการทำเควสก็เพียงพอแล้ว ฉันไม่ขาดกำลังคน นายควรรู้เอาไว้ด้วยว่า ตอนนี้ฉันเป็นคนที่สามารถมอบเควสให้กับนายได้ คนที่จะได้รับเควสนี้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฉัน พี่ชาย Asked พี่ควรจะทำความเข้าใจตรงจุดนี้เอาไว้ด้วย อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำตามที่พูดล่ะ พี่ชาย…” เย่ฉางยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา

ThornyRose เลิกคิ้วขึ้น ตอนนี้บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยความเหน็บหนาว และคละคลุ้งไปด้วยอารมณ์ที่คุกกรุ่น เธอหันไปมองทางตัวแทนของกิลด์ Flame Dragon Union และ Mad War ที่อยู่ในเมืองแบล็กร็อค พวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อเติมเชื้อไฟให้รุนแรงขึ้น ด้วยข้อเสนอของ LordAsked และ NalanPureSoul พวกเขาจะไม่ได้รับอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย อย่างดีที่สุดพวกเขาก็ได้รับแค่ของเหลือใช้เท่านั้น…

LordAsked เลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย “10%? น้องชายวีรบุรุษ หรือว่านายกำลังมองข้ามกิลด์ Lord’s Reign ของพวกเราอยู่งั้นหรือ…?”

“ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วมันยังไงงั้นหรือ?” จางเจิ้งเฉียงลุกขึ้นยืนด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี

เย่ฉางเอื้อมมือออกไปกดไหล่ให้จางเจิ้งเฉียงนั่งลง จากนั้นเขาก็กล่าวคำขอโทษออกมา “ฮ่าฮ่า ขอโทษที ขอโทษที! พอดีว่าเพื่อนของฉันเป็นคนพูดตรงๆหนะ หวังว่าพี่ชาย Asked จะไม่ถือสานะ…”

หลินหลี่ยกมือของเขาจับไปที่ด้ามดาบ เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่ราวกับว่า เขาจะโจมตีใส่ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าทำให้เขาไม่พอใจ…

LordAsked ขมวดคิ้ว ‘หืมม ไอพวกหมาบ้าเหล่านี้ ถึงแม้ว่าการแบ่งสิ่งของจะเป็นสิ่งสำคัญก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรางวัลพิเศษจากเควส นอกจากนี้พวกเขาก็มีสิทธิ์ เพราะพวกเขาเป็นคนค้นพบเควสจาก NPC เอ๊ะ! เหรียญตรานั้น! ถ้าฉันไม่ผิดล่ะก็ มันคือเหรียญตราประจำตัวไวเคานต์ เขาสามารถเป็นไวเคานต์ได้ยังไงในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้? พวกเขาประสบความสำเร็จอะไรกัน? ระบบยังไม่ทันได้เริ่มต้นสงครามขึ้นเลยด้วยซ้ำ…’

NalanPureSoul ยิ้มออกมาอย่างสง่างาม “พี่ชาย Asked เราได้ยอมรับข้อเสนอ 10% ไปแล้ว ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการกวาดล้างหุบเข้าแห่งความตาย และเปิดเส้นทางไปทางทิศเหนือ ถูกต้องไหม?”

“อ่า ฉันยอมรับข้อเสนอของน้องชายวีรบุรุษก็แล้วกัน” LordAsked ตอบตกลงในท้ายที่สุด เขาหันไปทางตัวแทนจากกิลด์ Flame Dragon และ Mad War และตัดสินใจที่จะหาเวลาในการจัดการกับคนเหล่านี้ จากนั้นเขาจะได้รับส่วนแบ่งของ % เพิ่มขึ้น NalanPureSoul ก็คิดแบบเดียวกัน เขาได้เรียนรู้จากเย่ฉาง ดังนั้น NalanPureSoul จึงแสดงรอยยิ้มอย่างคนใจดีออกมาให้กับตัวแทนจากกิลด์ทั้งสอง ตัวแทนจากกิลด์ทั้งสองได้แต่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เมื่อมองเห็นรอยยิ้มของเขา

“เอาล่ะ ในที่สุดเราก็ตกลงกันได้สักที” เย่ฉางยื่นมือออกไปหา LordAsked ทั้งสองเผชิญหน้ากันและกัน คนหนึ่งมีความหยิ่งทรนง ส่วนอีกคนมีรอยยิ้มที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด พวกเขาทั้งสองเปรียบเหมือนไฟกับน้ำ LordAsked หันกลับและเดินจากไป ในขณะที่เขากำลังเดินจากไป เขาก็เหลือบมองไปที่จางเจิ้งเฉียง และยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา “น่าสนใจจริงๆ…”

“พี่ใหญ่ มันเป็นพวกเขาที่อยู่บนรถไฟ…” LordGrinned ยังไม่ทันได้พูดจบ LordAsked ก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาทันที ‘ไอเด็กบ้า! แกจะตายใช่ไหมถ้าไม่ได้ทำลายอารมณ์ของบิดาคนนี้!?’ เขาตบไปที่หัวของ LordGrinned ด้วยความโกรธเคือง “นายยังอับอายตัวเองไม่พออีกงั้นหรือ!!”

“เขาเป็นหนึ่งในอัศวินที่อยู่ภายใต้คำสั่งของครอสมาร์ และยังเป็นคนที่ได้รับความเคารพอย่างสูงอีกด้วย…” เย่เทียนพูดออกมาอย่างเฉยเมย

เย่ฉางนึกถึงความฝันของครอสมาร์ที่จต้องการเป็นพระสันตะปาปา บางทีผู้ชายคนนั้นอาจจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของครอสมาร์ก็ได้ เมืองแบล็กร็อคเป็นฐานทัพของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกันจากภายในให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะนะ แน่นอนว่าถ้าเขาสามารถกำจัดคู่แข่งคนอื่นๆได้ล่ะก็ เขาก็อาจจะได้รับส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้น เย่ฉางพยักหน้าให้กับตัวแทนทั้งสองจากกิลด์ Flame Dragon Union และ Mad War ด้วยรอยยิ้มอย่างคนใจดี ทั้งสองคนพยักหน้ากลับให้เขาและเดินจากไป

“ว่าแต่ทั้งสองคนนั้นเป็นใครกัน?” เย่ฉางไม่รู้จักพวกเขาเลย เขารู้เพียงแค่ว่า พวกเขาทั้งสองคนคือตัวแทนจากกิลด์ Flame Dragon Union และ Mad War

“BlackWind และ LeftEar ทั้งสองคนเป็นสมาชิกหลักด้วยกันทั้งคู่ และพวกเขายังเป็นตัวสำรองในการแข่งขันของสโมสรอีกด้วย ส่วนความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองคนไม่ค่อยเท่าไหร่นัก…”

“อย่างไรก็ตาม…” เย่ฉางมองไปยังผู้คนจำนวนมากที่สอบถามเกี่ยวกับสามเทพธิดา บางคนก็ถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของดวงดาว, กรุ๊ปเลือด… และการสืบเชื้อสาย

ในสายตาของทีม Happy Firmaments สามเทพธิดาก็เปรียบเสมือนหุ่นเชิด ในขณะที่เย่ฉางเป็นเหมือนกับราชาปีศาจ ที่คอยชักใยอยู่ในเงามืด และทำกับเทพธิดาทั้งสามราวกับเป็นของเล่น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันเป็นเวลาพันปีแล้วที่พวกเธอหลับไหล และด้วยไอคิวของพวกเธอทั้งสาม … ไม่ใช่ว่าไอคิวของพวกเธอทั้งสามอยู่ในระดับต่ำ แต่เป็นเพราะหัวหน้าทีมน่าสะพรึงกลัวเกินไป FrozenCloud มองไปยัง ThornyRose ที่ต้องคอยจัดการเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดนี่ ทำให้เธอสั่นสะท้านทันที ‘ดีนะที่ฉันเป็นเพียงแค่ลูกน้อง … พี่สาวโรสช่างน่าสงสารเกินไปแล้ว’ ThornyRose หันมามอง FrozenCloud และถอนหายใจ ‘น้องเล็กไดโน… เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริงๆ…’

ทุกคนแยกย้ายกลับไปที่สมาคมของตนเอง เย่ฉางถอนหายใจและมองไปที่ประตูทางเข้าสมาคมของเขา เขากำลังจะกลายเป็นหัวหน้าของสมาคมเทพธิดา ดังนั้นมันคงจะดีกว่าที่เขาจะควรไปลาออกจากสมาคมนักผจญภัย ในขณะที่เขาเดินเข้าไปในสมาคมนักผจญภัย ลินดาและพวกคนแก่ก็พาเขาเข้าไปในห้องลับ

“นายได้ตอบรับข้อเรียกร้องของเทพธิดาแห่งธรรมชาติทั้งสามจริงๆงั้นหรือ?” ลินดาเริ่มสั่นสะท้าน

“ใช่ ฉันมาที่นี่เพิ่มมาลาออกจากสมาคมนี้ ฉันได้รับความคาดหวังจากเทพธิดา และจะหาสถานที่สักแห่งหนึ่งเพื่อจัดตั้งสมาคมขึ้นมา…” เย่ฉางมองไปยังทุกคน และพูดออกมาอย่างใจเย็น

เย่ฉางตระหนักว่า ภายในห้องนั้นเงียบมาก ทุกคนกำลังใคร่ครวญบางอย่าง ลินดาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปที่คนรุ่นเก่า “ต้องขอโทษทุกคนด้วย ตระกูลอัสของฉันได้ติดตามเคารพเทพธิดาอันย่ามาหลายชั่วอายุคนแล้ว บรรพบุรุษของฉันสอนไว้ว่า วันหนึ่งในอนาคต เทพธิดาอันย่าจะกลับมา ในฐานะคนรุ่นต่อไปที่ได้รับความคุ้มครองจากเทพธิดา ฉันต้องทำตามเสียงเรียกของเธอ…”

“ฮ่าฮ่า พวกเราทุกคนแก่หงำเหงือกกันหมดแล้ว แต่ลินดา เธอนั้นต่างออกไป เธอไม่เหมือนกับเรา เธอเป็นเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องกังวลกับอายุมากนัก ฉันจะจดจำความทรงจำของเรา ในตอนที่กำลังเดินทางไปยังอาณาจักรพลาเนทารี่…” คุณยายไอวี่โอบกอดลินดาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

“ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากเป็นเหมือนคุณ ชีวิตที่ยาวนานไม่แปลว่าจะมีความสุขเสมอไป…” ลินดาพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน

เย่ฉางหลั่งเหงื่อออกมา ‘โอ้… พวกเธอมาจากยุคสมัยเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอาวุธทำลายล้างคู่นั้นของเธอถึงได้ทรงพลังมาก มันเกิดขึ้นจากการดูดซับสสารสำคัญมาเป็นเวลานานนี่เอง’ เขาถามขึ้นมาว่า “แค๊ก แค๊ก เธอหมายความว่า…”

“ฉันจะเข้าร่วมสมาคมเทพธิดาของนาย ท่านประธาน…” ลินดายิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

“แม้ว่านายจะอยู่ในสมาคมเทพธิดา แต่นายก็ไม่จำเป็นต้องออกจากสมาคมนักผจญภัยก็ได้…” คุณยายไอวี่มองไปที่เย่ฉางและพูดออกมา เธอหันไปหาลินดา “ถ้าเธอต้องการอะไรจากเรา เพียงแค่บอกเรามา มีไม่กี่คนในเมืองแบล็กร็อคหรอกที่กล้ายั่วยุพวกเรา…”

“หืมม ฉันและเบลอาจจะแก่แล้ว แต่ขวานของฉันยังคงเฉียบคมอยู่เสมอ…” ชายชราที่มีความสูง 130 เซนติเมตรเอ็ดตะโรออกมา เย่ฉางเฝ้าดูบรรดาเหล่าผู้อาวุโสได้กล่าวล่ำลากับลินดา ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น “เราจะเป็นเพื่อน, คู่หู, พี่น้อง และพี่สาวกันไปตลอดชีวิต!!” เขาเดินเข้าตรงหน้าเธอ และถามออกมา “เธอเสียใจที่เชื้อสายของเธอมีชีวิตที่ยาวนานงั้นหรือ?”

ลินดาตอบกลับไป “ความสุขไม่เคยมีอยู่ตลอดไป แต่ความเจ็บปวดจะอยู่กับนายไปจนวันตาย…”

เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่เธอจับคันธนูของเธออย่างเหนียวแน่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคันธนูอันนี้มีขนาดเหมาะสำหรับผู้ชาย เขาถอนหายใจออกมา ‘สงคราม? ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม สงครามก็เป็นบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ดี ร่างไร้ชีวิตของผู้ไร้เดียงสามารถทับถมกันเป็นกองภูเขาได้ พวกเขาเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานมากยิ่งกว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับสงครามซะอีก มนุษย์, มนุษย์เทียม และมนุษย์กลายพันธุ์ สงครามครั้งนี้จะมีวันสิ้นสุดจริงๆงั้นหรือ?’

เย่ฉางแต่งตั้งให้ลินดาเป็นรองประธานสมาคมเทพธิดาในเมืองแบล็กร็อค เธอจะเป็นคนคอยจัดการกับเรื่องราวทั้งหมดภายในเมืองนี้ เมื่อลินดาเข้าร่วม เมื่อผู้ชายที่เดินผ่านไปมาเห็นสัดส่วนร่างกายที่สามารถฆ่าผู้ชายได้ของเธอ พวกเขาเหล่านั้นก็จะมุ่งหน้าไปเข้าร่วมกับสมาคมเทพธิดาอย่างแน่นอน ThornyRose สั่นสะท้าน คนเหล่านี้พึ่งพาร่างกายส่วนล่างในการคิดยังงั้นหรือ!? จากนั้นเธอก็มีความคิดบางอย่างแว๊ปขึ้นมา เหมือนมีรูปเงินดอลล่าร์อยู่ที่ตาทั้งสองข้างของเธอ! เธอเริ่มขายบัตรสมาชิกและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าชมนมหนองโพคู่นี้!

เย่ฉางกำลังเดินกลับไปที่ร้านขายของชำเพื่อพักผ่อน แต่เมื่อเขาได้รับข้อความของเย่เทียน เขาจึงเปลี่ยนเส้นทาง ‘ครอสมาร์อยากเจอเรางั้นหรือ?’ เขาเดินเข้าไปในห้องโถงภายในโบสถ์ด้วยความสับสน และพบว่าครอสมาร์กำลังดื่มเหล้า “นี่ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามหรอกหรือ?”

“นี่มันก็แค่กฏระเบียบที่เล็กน้อยเท่านั้น อาร์คบิชอปวิเวียนเป็นผู้หญิงขี้เมาที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ถ้าการห้ามดื่มเหล้าเป็นกฏระเบียบที่เคร่งครัด แล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน…” ครองมาร์ยิ้ม