เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเบาๆดังออกมาจากมุมหนึ่ง เขามองไปทางต้นเสียงที่ดังออก ถ้าเขาไม่ได้เห็นที่มาของเสียงด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็ เขาก็คงไม่สามารถที่จะรับรู้ได้เลยว่าเป็นใคร คนที่ซ่อนตัวอยู่ก็คืออาร์คบิชอปมากิวิเวียน
เย่ฉางยังคงยิ้มออกมา “จริงงั้นหรอ? แต่ดูเหมือนว่าอาร์คบิชอปมากิจะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการดื่มเลยนะ… เธอดูเคร่งครัดและเข้มงวดมาก!”
“นั่นเป็นเพราะว่านายไม่เคยไปอยู่ที่โบสถ์ต่างหากล่ะ นี่คือขวดไวน์จิตวิญญาณอายุ 60 ปี ถ้าฉันไม่ได้ซ่อนมันไว้เป็นอย่างดี ไวน์ขวดนี้จะต้องถูกเธอพรากไปจากฉันอย่างแน่นอน แต่ก่อนฉันก็เคยไร้เดียงสาแบบนายมาก่อนนี่แหละ…” ครอสมาร์หงุดหงิด และเทไวน์ใส่แก้วให้กับตัวเองอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยื่นแก้วไวน์ไปให้กับเย่ฉาง “นั่งดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ…”
“ฉันจะไม่ยอมให้นายใส่ร้ายป้ายสีอาร์คบิชอปมากิต่อหน้าฉัน! นายควรหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว หรือต้องการที่จะให้ฉันกลายเป็นบ้าไปเสียก่อน!!” เย่ฉางตะโกนออกมาอย่างหุนหันด้วยความชอบธรรม การตะโกนของเขาทำให้ครอสมาร์ถึงกับพูดไม่ออก ‘เขาเป็นบ้าอะไรกันถึงได้ตะโกนออกมาแบบนั้น?’ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว ‘หรือว่าจะเป็น!? บ้าเอ๊ย!!!’
“อ่า… ถ้าฉันไม่ได้ยินมาก่อนว่าวีรบุรุษของลูกสาวฉันมาที่โบสถ์ก่อนหน้านี้ ฉันคงไม่รู้เลยว่านายจะเอาฉันไปพูดในทางที่ไม่ดีแบบนี้ล่ะนะ…” ครอสมาร์ได้ยินเสียงของอาร์คบิชอปมากิดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ทำให้หลังของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบ เขามองไปที่เย่ฉางด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน ‘ไอบัดซบเอ๊ย! ทำไมนายถึงไม่บอกฉันสักหน่อยว่าเธออยู่ที่นี่! นายถึงขั้นขายเพื่อนเพื่อทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมาเชียวหรือ!’ เขารีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว “ผมรู้ว่าลอร์ดบิชอปที่ยิ่งใหญ่จะมา ดังนั้นผมจึงได้เตรียมไวน์ชั้นดีไว้สำหรับคุณ และน้องชาย PaleSnow เพื่อให้ทั้งสองคนได้เพลิดเพลินกันรสชาติอันยอดเยี่ยม คำพูดก่อนหน้านี้ของผมเป็นเพียงเรื่องตลกเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ท่านอย่าได้ใส่ใจเลยครับ ความสามารถในการจัดการกับแอลกอฮอล์ของลอร์ดมากินั้นยอดเยี่ยมที่สุดในคริสตจักรแน่นอนอยู่แล้วครับ!”
“นายเป็นคนมีหน้ามีตาและฉลาดแกมโกงดีนะ” อาร์คบิชอปมากิอดยิ้มออกมาไม่ได้ ในขณะที่เธอนั่งลง และเห็นไวน์จิตวิญญาณอายุ 60 ปี “อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยนายก็ยังพอรู้วิธีที่จะเอาตัวรอดในสถานการณ์แบบนี้ไปได้อีกนะ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ฉันเพียงแค่ดื่มไปไม่กี่ขวดต่อปีเท่านั้นเอง ครั้งต่อไป…”
“โอ้ ผมต้องส่งมอบไวน์ขวดนี้กับคุณอย่างแน่นอน ไม่ ไม่ใช่สิ! ผมต้องส่งมอบมันให้กับคริสตจักรอยู่แล้วครับ!” ครอสมาร์มอบของขวัญให้เธอราวกับอัศวิน
อาร์คบิชอปมากิพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ขอให้แสงสว่างจงสถิตอยู่กับนาย…”
“……” เย่ฉางหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา ‘คริสตจักรถูกสร้างขึ้นมาจากเหล่าร้ายและอันธพาลงั้นหรือ?’
“ครอส นั่งลงได้แล้ว…” อาร์คบิชอปมากิยิ้มออกมา
“ฉันได้ยินมาว่านายกำลังฟื้นฟูเทพธิดาทั้งสามอยู่งั้นหรือ?” ครอสมาร์เปลี่ยนจากคนอัธยาศัยดีไปเป็นอีกคน เพราะการที่มีบิชอปนั่งอยู่ข้างๆเขา ทำให้เขาไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับเย่ฉางราวกับเพื่อนสนิทได้
“อืม ฉันได้ไปสำรวจซากปรักหักพังทั้งสามของแบล็กพีคมา และได้ยอมรับคำร้องขอของเทพธิดาทั้งสาม ฉันจึงได้จัดตั้งสมาคมเทพธิดา และกำลังเตรียมพร้อมที่จะกวาดล้างหุบเขาแห่งความตาย และฉันยังวางแผนที่จะฟื้นฟูหุบเขาให้กลับสู่สภาพเดิมเหมือนที่เคยเจริญรุ่งเรืองดั่งในอดีต แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าดินแดนที่แห้งแล้งเป็นยังไงบ้างในตอนนี้…” เย่ฉางไม่ได้กังวลว่า ความเชื่อของพวกเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิม เขาได้รับรู้จากเย่เทียนแล้วว่า เทพธิดาแห่งธรรมชาติ และพระเจ้าแห่งแสงเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นลูกสาวทั้งสามคนของเทพธิดาแห่งธรรมชาติจึงเป็นหลานสาวของพระเจ้าแห่งแสงด้วย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ถูกกำจัด แต่พวกเธอก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือเช่นกัน อย่างมากที่สุด พวกเขาก็สามารถเชื่อมสัมพันธ์กันฉันมิตรได้
“เหล่าคนเก่าคนแก่ที่สมาคมนักผจญภัยมาหาฉัน เพื่อขอให้ฉันอย่าได้สร้างเรื่องยุ่งยากให้กับนาย เพราะ ‘หมาป่าแห่งความโลภ’ ได้เข้าร่วมสมาคมเทพธิดากับนายด้วย…” มากิยิ้มออกมา
“ท่านหมายถึงคนที่คอยสกัดกั้นนายพลมาระแห่งอาณาจักรเหล็กไหล และทหารหลายพันคน! นักผจญภัยที่ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมาได้ทำลายล้างศัตรูเพื่อแก้แค้นให้กับสามีของเธองั้นหรอครับ? ‘หมาป่าแห่งความโลภ’?” ครอสมาร์ตกใจ
“สามีของเธอเป็นนายทหารระดับสูงแนวหน้าของอาณาจักรพลาเนทารี่ – ฮาลัน เขาเสียชีวิตเพื่อที่จะช่วยหมู่บ้านแบล็คริเวอร์ที่ตั้งอยู่ตรงชายแดน หลังจากที่เขาเสียชีวิตไป นายพลมาระได้ตัดหัวของเขา และแขวนไว้บนกำแพงเพื่อให้คนอื่นๆเห็น…” มากิได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวส่วนนั้นของประวัติศาสตร์
“หลังจากนั้นเหล่าเอลฟ์ก็ได้อพยพไป จนทางตอนเหนือแทบจะไม่มีเอลฟ์อาศัยอยู่เลย ต่อมาเธอก็ได้กลายเป็นทาสหญิงที่ถูกนำมาขายอยู่ในเมืองไวท์สโตน เธอได้รับการช่วยชีวิตจากฮาลัน เรื่องราวเหล่านี้มันก็เหมือนกับเทพนิยาย แต่เป็นตอนจบที่ไม่แฮปปี้สักเท่าไหร่นัก…” ครอสมาร์พูดเสริม เย่ฉางได้แต่ถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขาก็ได้รับรู้ประวัติของลินดาแล้ว
“อายุขัยของเอลฟ์และมนุษย์แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ยังไงซะทั้งสองคนก็ไม่สามารถมีชีวิตในปั้นปลายด้วยกันได้หรอก…” มากิส่ายหัวไปมา
อย่างไรก็ตาม เย่ฉางก็ยิ้มออกมาและพูดขัดจังหวะ “ความรักที่แท้จริงไม่สนใจเกี่ยวกับเวลา แม้การได้รักกันเพียงแค่ชั่ววินาที ก็อาจจะแปรเปลี่ยนรักที่นิจนิรันด์ได้ ในขณะที่ช่วงเวลาของความเศร้าโศกทุกข์ทรมาน จะคงอยู่กับเราไปตลอดกาล…”
ทั้งสองคนหันไปมองเย่ฉางด้วยความประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งคำถามกับเขา
เย่ฉางรู้ว่าเขาก็ไม่ได้รู้อะไรดีไปมากกว่ากันสักเท่าไหร่นัก เขารู้สึกเยาะเย้ยตัวเอง แต่ทุกคนก็มีความทะเยอทะยานของตัวเองด้วยเช่นกัน บางคนก็รักในอำนาจ บางคนก็รักในผลประโยชน์ บางคนก็รักในเซ็กซ์ แต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากคำนั้นได้ ‘ความรัก’ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดมาพร้อมกัน แต่เขาก็คาดหวังว่าจะได้ตายด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ‘ความรัก’ สำหรับเขาตอนนี้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย…
มากิมองไปที่เย่ฉางและเลิกคิ้วขึ้น ‘เด็กคนนี้เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวหรือไม่? คนที่จีน่าเลือกน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ดี…’
เย่ฉางส่ายหัว “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งต่อสู้กับปีศาจเงามา และได้กองขี้เถ้ามาเป็นจำนวนมาก ครอสมาร์ นายต้องการอะไรบ้างไหม?”
“ขี้เถาปีศาจเงา!? เท่าไหร่?!” ครอสมาร์ไม่มีเวลาได้ตกตะลึง ก่อนที่มากิจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้
“เต็มคลังสินค้าทั้ง 2 แห่ง ฉันวางแผนที่จะขายมันเพื่อเงิน…” เย่ฉางพึมพำ
ครอสมาร์รู้จักคลังสินค้าของพวกเขาดี ‘พวกเขาเก็บพวกมันจนเต็มคลังสินค้าขนาดใหญ่ได้ถึง 2 แห่ง!? นั่นมันเป็นปีศาจเงาเกือบ 10,000 ตัวเลยนะ! โชคของเด็กคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว!’ ขี้เถ้าปีศาจเงามีประโยชน์เป็นอย่างมากกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธาตุแสงและธาตุความมืด สำหรับคริสตจักรแล้ว ขี้เถ้าเหล่านี้สามารถใช้เพื่อเพิ่มความต้านทานความมืด และใช้เพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อใช้ต่อสู้กับนักบวชแห่งความมืด และผู้พิพากษาแห่งความมืดได้ มันเป็นสินค้าที่ช่วยเพิ่มกลยุทธ์ที่ใช้ต่อต้านธาตุความมืดขั้นที่ 3 ได้! อาร์คบิชอปมากิถูกล่อลวงไปโดยทันที แต่เธอก็ยังเลือกตัดสินใจที่จะเงียบไปก่อนอยู่ดี…
“เป็นสินค้าที่ดี ถึงแม้ว่าเราจะซื้อในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมเล็กน้อยก็ตาม แต่… ฉายาอัศวินกิตติมศักดิ์ของนาย ฉันสามารถเลื่อนระดับขึ้นให้นายได้ ฉันจะแนะนำให้นายเลื่อนระดับเป็นกัปตันอัศวินกิตติมศักดิ์…” คำพูดของมากิทำให้ครอสมาร์ประหลาดใจ ตำแหน่งกัปตันอัศวินกิตติมศักดิ์นั้นไม่ต่ำต้อยเลยทีเดียว! ตำแหน่งนี้มันมีอำนาจอย่างแท้จริง! พวกเขาสามารถใช้เพื่อเข้าถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังได้เลย! เขาคิดถึงจีน่าและรู้สึกโล่งใจ นี่คือแม่สามีที่กำลังมองหาลูกเขยในอนาคตใช่หรือไม่?
เย่ฉางไม่รู้สึกอะไรมากนัก เมื่อเขาได้ยินว่าเขาจะกลายเป็นกัปตันอัศวินกิตติมศักดิ์ เขาไม่รู้เลยจริงๆว่ามันคืออะไร แต่เนื่องจากอาร์คบิชอปต้องการมัน เขาก็จะมอบมันให้กับเธอ การที่ขายให้เธอถูกลงกว่าเดิมเล็กน้อยไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร อีกอย่างหนึ่ง พวกเขาก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานในเมืองแบล็กร็อค และพวกเขายังต้องการที่จะช่วยให้ครอสมาร์มีตำแหน่งที่สูงขึ้นอีกด้วย “ขอขอบคุณอาร์คบิชอปมากิมากครับ…”
“แล้วขี้เถ้าประเภทนี้คืออะไรกันครับ?” เย่ฉางหยิบขี้เถ้าของ Rabbis ออกมา
“มันเป็นขี้เถ้าขั้น 2! ขี้เถ้าประเภทนี้จะขายได้ราคาดีมาก มันจะคุ้มค่ากับเหรียญทองที่ได้รับมาอย่างแน่นอน…” ครอสมาร์ตรวจสอบเล็กน้อยและพูดขึ้นมา
“ถ้านายตกลง นายสามารถขายขี้เถ้าอันนี้ให้ฉันด้วยราคาสองเท่าของราคาตลาดได้…” อาร์คบิชอปมากิพูดออกมา
เย่ฉางพยักหน้าด้วยความลังเล จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ! “ราคาตลาดสองเท่า? สองเท่า?”
“อืม…” อาร์คบิชอปมากิพยักหน้า
ครอสมาร์หรี่ตาลง สิ่งนี้หายากเป็นอย่างมาก และยังมีความต้องการสูงอีกด้วย! สินค้าชนิดนี้มีเพียงหัวหน้านักบวชเท่านั้นที่มีไว้ในครอบครอง ส่วนคนอื่นๆนั้น พวกเขาจะถูกแจกจ่ายให้เพียงเล็กน้อย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาซื้อสินค้าชนิดนี้ได้ในราคาตลาดทั่วไป! ถ้าอาร์คบิชอปมากิตัดสินใจที่จะนำสินค้าเหล่านี้ไปขายที่เมืองอื่น เธอจะได้กำไรเป็นหลายเท่าตัว ถึงแม้เธอจะรับซื้อเป็นราคาสองเท่าของตลาดก็ตาม แต่เธอไม่ได้ขาดทุนเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นขี้เถ้าขั้น 3 ในก่อนหน้านี้ก็ตาม…