ตอนที่ 550 ข้ามองคนผิดไป
“หยุดรถ”
เฉินปี้สั่งการเอง
เมื่อได้ยินคำสั่งของเฉินปี้ คนบังคับรถม้าก็หยุดรถ ลู่ซูหว่านคุมตัวเฉินปี้ลงรถไป เห็นโอกาสก็ปล่อยเฉินปี้ แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว เฉินปี้ยังคงตกใจอยู่ ตะโกนว่า
“ตะลึงอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบตามไปอีก”
ลู่ซูหว่านมีครรภ์อยู่ในท้อง ซ้ำยังเป็นพระชายาที่โตมาจากชนชั้นสูงชีวิตสบาย ปกติใส่ใจแต่เรื่องกิริยามารยาท เคยวิ่งป่าราบโดยไม่สนใจภาพลักษณ์เช่นนี้เสียที่ไหน ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงไม่ได้แข็งแรงนัก
ส่วนคนบังคับรถม้านั้นทำงานทุกวัน ซ้ำยังเป็นชายวัยฉกรรจ์ วิ่งเร็วมาก ลู่ซูหว่านเห็นว่ากำลังจะถูกตามทันแล้ว นางก็ร้อนใจแทบทนไม่ไหว นางรู้ว่าเมื่อใดที่ถูกตามทัน เมื่อนั้นตัวเองก็ไม่มีโอกาสไปไหนได้อีกแล้ว
หลิงอวี้จื้อนั่งรถม้าผ่านมาตรงนี้พอดี เธอแง้มม่านหน้าต่างเห็นผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นสาวชาวนาวิ่งป่าราบอยู่ข้างหน้า ข้างหลังมีผู้ชายวัยกลางคนกำลังไล่ตาม
ตอนแรกเธอนึกว่านี่เป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง ก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง จากนั้นก็เห็นว่าข้างหลังมีสาวน้อยคนหนึ่งกำลังหอบหายใจ นั่นไม่ใช่ซูฮว่าหรอกหรือ
ในเมื่อเป็นซูฮว่า เช่นนั้นสถานะของผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าก็น่าสงสัยแล้ว
เธอให้คนหยุดรถม้า สั่งให้มั่วชิงลงไปดู
มั่วชิงตอบรับ นางมีวิทยายุทธ์ ไม่นานก็ตามผู้หญิงผู้ชายสองคนนั้นทัน จากนั้นก็ใช้ขาดักผู้ชายคนนั้นล้มกับพื้น พอเห็นว่าเป็นมั่วชิง ซูฮว่าก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ เหมือนเห็นโรคระบาดอย่างไรอย่างนั้น กลับหลังหันวิ่งทันที
มั่วชิงพาผู้หญิงที่เหมือนสาวชาวนาคนนั้นกลับไปที่รถม้า เมื่อเห็นหน้าชัดๆ แล้ว หลิงอวี้จื้อก็ตะลึง
“พระชายาเว่ยอ๋อง เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ไม่ใช่ออกนอกเมืองไปแล้วหรือ”
ลู่ซูหว่านวิ่งไปพักใหญ่ ยังเหนื่อยอยู่ ขึ้นรถม้ามาแล้วก็อ้าปากหอบหายใจ
จู่ๆ นางก็จับท้องตัวเอง มีสีหน้าตกใจ แววตาที่มองหลิงอวี้จื้อเต็มไปด้วยความวิงวอน
“ท้องข้า…เจ็บ ขอร้องเจ้า ช่วยลูกข้าด้วย”
หลิงอวี้จื้อเพิ่งนึกได้ว่าลู่ซูหว่านมีครรภ์ รีบบอกให้คนรถเร่งความเร็ว พูดปลอบว่า
“เจ้าใจเย็นๆ ลูกเจ้าจะไม่เป็นอะไร”
เห็นหลิงอวี้จื้อรับปาก ลู่ซูหว่านก็โล่งอก ร้อนใจจนถึงขีดสุด ท้องก็ปวดแปลบเป็นระยะๆ นางไม่มีทางจินตนาการได้เลย หากลูกเป็นอะไรไป ตนเองจะอยู่ต่อไปอย่างไร ตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยก็ล้วนเพื่อลูกในท้องทั้งสิ้น
เมื่อถึงจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว หลิงอวี้จื้อก็รีบเชิญหมอมา และประคองลู่ซูหว่านไปห้องรับรองแขกด้วยตนเอง
หมอประจำจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ถือกล่องยาเข้ามาอย่างรีบร้อน จับชีพจรลู่ซูหว่านทันที รายงานว่า
“พระชายาขอรับ ฮูหยินคนนี้ครรภ์ถูกกระทบกระเทือน ยังดีที่มาทันเวลา มิเช่นนั้นคงรักษาเด็กไว้ไม่ได้แล้ว
ข้าจะรีบจ่ายยาป้องกันทารกในครรภ์ทันที จากนั้นจะต้องพักผ่อนนิ่งๆ ระยะหนึ่ง ลงจากเตียงไม่ได้ มิเช่นนั้นมีโอกาสสูงที่จะแท้งบุตรขอรับ”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า เป็นสัญญาณให้หมอไปจ่ายยาทันที
ได้ยินว่ารักษาลูกไว้ได้แล้ว ลู่ซูหว่านที่ผ่อนคลายลงได้แล้วก็เกือบจะเป็นลมไป
ดื่มยาแล้ว ท้องลู่ซูหว่านก็ไม่เจ็บแล้ว นางนอนอยู่บนเตียง รู้สึกขอบคุณหลิงอวี้จื้อจริงๆ นางรู้ว่าหากไม่ใช่เพราะหลิงอวี้จื้อ เด็กคนนี้ก็คงแท้งไปแล้ว
พอหลิงอวี้จื้อมา ลู่ซูหว่านก็ยิ้มอย่างซาบซึ้งใจให้หลิงอวี้จื้อ
“ขอบคุณพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาก หากเจ้าไม่ช่วยเหลือ ลูกของข้าก็คงรักษาไว้ไม่อยู่แล้ว”
“นี่เป็นโชคชะตาของพวกเรา พบกันพอดี เจ้าไปหาเฉินปี้มาหรือ”
แววตาลู่ซูหว่านประกายความเกลียดชังและขยะแขยง
“ข้ามองคนผิดไปเอง”
ตอนที่ 551 มาเสียเที่ยว
“เฉินปี้ใจโหดจริงๆ พี่น้องที่เคยดีกันตกทุกข์ได้ยาก ไม่เพียงแต่ไม่ช่วย ยังเหยียบซ้ำอีก”
“คนเช่นนี้ไม่มีทางจบสวยแน่ ตอนนั้นข้าตาบอดไปเอง มองนางเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันไปได้”
ลู่ซูหว่านพูดจาดูแคลน
“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เจ้าช่วยลูกข้าไว้ ข้าจะตอบแทนเจ้า รอร่างกายข้าดีขึ้นก่อน ข้ามีของขวัญอย่างหนึ่งอยากมอบให้เจ้า”
“ข้านึกว่าเจ้าไม่ซาบซึ้งเสียอีก”
ปฏิกิริยาโต้ตอบเช่นนี้ของลู่ซูหว่านเหนือความคาดหมายของหลิงอวี้จื้อ ไม่นึกว่าพระชายาเว่ยอ๋องจะมีวันที่ได้ข้องเกี่ยวกับเซียวเหยี่ยนอย่างเช่นวันนี้
ลู่ซู่หว่านยังขอบคุณนางอีกด้วย ได้เผชิญหน้ากับนางตอนสงบๆ เช่นนี้ ทำให้หลิงอวี้จื้อรู้สึกประหลาดใจมาก ราวกับว่าได้ทำความรู้จักลู่ซูหว่านผู้ถูกร่ำลือกันกว่าเป็นคนเหลี่ยมจัดเสียใหม่
ลู่ซูหว่านถอนหายใจหนึ่งครั้ง
“การแข่งขันระหว่างท่านเว่ยอ๋องกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องตาย สำหรับเรื่องในวันนี้ ข้าเตรียมใจมานานแล้ว แพ้ก็แพ้ไป ไม่มีอะไรต้องพูดอีก ก็ได้แต่โทษว่ากลวิธีสู้เขาไม่ได้ บ่นใครไม่ได้ อย่างน้อยท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็รักษาสัญญา เขามอบหนทางให้ลูกข้าได้เกิดจริงๆ”
“ยากนักที่จะได้เห็นเจ้าเข้าใจหลักคุณธรรมอย่างถ่องแท้เช่นนี้”
หลิงอวี้จื้อชื่นชม
“เจ้าเป็นเช่นนี้ ก็คุ้มค่าที่ข้าช่วยเจ้าแล้ว”
“ข้าก็ได้แต่หวังว่าต่อไปลูกข้าจะอยู่ห่างไกลข้อพิพาท เป็นคนธรรมดา พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องระวังเฉินปี้เอาไว้ นางแค้นเคืองเจ้าอยู่ในใจ ยังไม่ยอมรามือแน่นอน ผู้หญิงคนนี้ใจคด เสแสร้งเก่งเป็นที่สุด ไม่สามารถเชื่อคำพูดใดๆ ของนางได้เลย”
หลิงอวี้จื้อยิ้มอย่างไม่ยี่หระ
“นางเสแสร้งเก่งจริงๆ แต่หลอกข้าไม่ได้หรอก ขอบคุณพระชายาเว่ยอ๋องมากที่เตือน”
แววตาของลู่ซูหว่านหมองลง
“ข้าไม่ได้เป็นพระชายาเว่ยอ๋องแล้ว หากพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไม่รังเกียจ เรียกข้าว่าซูหว่านก็พอ พูดไปก็รู้สึกละอายใจ เมื่อก่อนข้าดูถูกดูแคลนพระชายา หลงคิดอยู่เสมอว่าพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คงจะอาศัยโชคเล็กๆ น้อยๆ จึงเดินมาถึงวันนี้ได้ ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าข้าคิดผิดไป ข้าคุยโวว่าตนเองฉลาด แต่กลับเกือบตายด้วยน้ำมือเฉินปี้
เจ้ายังไม่ทันได้แต่งงานก็ไล่เฉินปี้ออกจากจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ ทำให้เฉินปี้เสียโอกาสในการได้ใกล้ชิดกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โดยสิ้นเชิง ข้าไม่มีทางต้านทานเฉินปี้ได้ เรื่องนี้ต้องพึ่งพาพระชายาแล้ว เดิมทีข้าคิดจะหยิบสิ่งนั้นไปด้วย แต่มอบให้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะดีกว่า”
“เจ้าเสี่ยงชีวิตเข้าเมืองมาเพื่อของสิ่งนั้นหรือ”
หลิงอวี้จื้อไม่รู้ว่าสิ่งของที่ลู่ซูหว่านพูดถึงคืออะไร ถึงทำให้นางเต็มใจเสี่ยงชีวิตกลับมาเอา
“ใช่ ข้ามาเพื่อของสิ่งนั้นจริงๆ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องขึ้น ข้าจะบอกพระชายาว่าของนั้นอยู่ที่ไหน พระชายาส่งคนไปเอาที่จวนท่านเว่ยอ๋องเถิด!”
“แล้วแท้จริงสิ่งนั้นคืออะไรหรือ”
หลิงอวี้จื้อถามอย่างใคร่รู้
นางสงสัยจริงๆ อะไรกันที่ทำให้ลู่ซูหว่านยินดีเสี่ยงชีวิตอย่างใหญ่หลวงเพื่อกลับมา และยังอยากมอบให้ตนเองด้วย
นางบอกว่าจะมอบให้เธอ จะต้องเป็นของที่เป็นประโยชน์แน่นอน มิเช่นนั้นลู่ซูหว่านคงไม่พูดเช่นนี้
“มุกเมฆาสวรรค์”
ลู่ซูหว่านหยุดสักครู่ถึงได้พูดออกมา หลิงอวี้จื้อทำหน้างง นี่คืออะไร ฟังดูแล้วน่าจะเป็นไข่มุก ก็แค่ไข่มุกเม็ดหนึ่ง คุ้มค่าให้ลู่ซูหว่านตั้งใจวิ่งมาหาเลยหรือ
เห็นหลิงอวี้จื้อทำหน้างง ลู่ซูหว่านก็รู้ว่าเธอไม่รู้จริงๆ ว่ามุกเมฆาสวรรค์คืออะไร แต่ก็ไม่อยากอธิบายมาก
“หากเจ้าอยากรู้ก็ไปถามท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ดู เขาต้องรู้จักแน่นอน สิ่งนี้เป็นสมบัติที่ท่านเว่ยอ๋องได้มาโดยมิได้ตั้งใจ”
“ในเมื่อเป็นสมบัติ เหตุใดเจ้าไม่เก็บเอาไว้ให้ตัวเองล่ะ”
“ไม่มีหินอาตมัน เก็บมุกเมฆาสวรรค์ไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เป็นเพียงไข่มุกธรรมดาเม็ดหนึ่งเท่านั้น ข้าไม่สามารถครอบครองหินอาตมันได้ สำหรับข้าแล้ว สิ่งนี้ก็เหมือนของไร้ค่า”