ตอนที่ 1642

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,642 : ยอดฝีมือขอบเขตเซียนขัดเกลา

 

การที่สามารถเหินลอยในเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิงได้ ย่อมหมายความว่าเป็นยอดฝีมือในขอบเขตเซียนขึ้นไปเท่านั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้นการที่อีกฝ่ายมาลอยร่างเหนือตระกูลซือถู และตะโกนเรียกหาซือถูฮ่าวอย่างโอหัง ย่อมใช่ขอบเขตเซียนธรรมดาๆแน่นอน หาไม่แล้วมันคงไม่กล้าถือดีขนาดนี้!

 

“ผู้ใดหาญกล้าบุกรุกตระกูลซือถูของข้า!?”

 

หลังจากที่เสียงเรียกของชายชุดดำดังจบคำ พลันมีเสียงหนึ่งอันแฝงไว้ด้วยโทสะกังวานออกมาไกลๆ

 

ต่อมาเบื้องหน้าชายในชุดคลุมดำก็ปรากฏชายชราร่างหนึ่ง

 

ชายชราผู้นี้แลดูแข็งแกร่ง เส้นผมขนคิ้วสีขาวหากแต่ผิวกลับสีแดงก่ำ สองตาจับจ้องมองไปยังชายในชุดคลุมดำด้วยความเย็นชา “ยังใส่หน้าปากปีศาจเช่นนี้ คิดเสแสร้งเป็นภูตผีหรือไร?”

 

“เจ้าคือซือถูฮ่าว?”

 

หลังจากชายชราปรากฏตัวขึ้น ชายในชุดคลุมดำสวมหน้ากากปีศาจยิ้มแสยะ ก็กล่าวถามออกมา

 

ผมสีขาวของชายชราถูกมัดรวบเป็นมวยไว้ด้านหลัง มองไปคล้ายเทพเซียนอมตะผู้หนึ่ง ทั่วร่างเผยให้เห็นกลิ่นอายพลังอันลึกล้ำ

 

“เจ้าเป็นผู้ใด!?”

 

ชายชราที่แลคล้ายเทพเซียนไม่ตอบคำชายชุดดำหากแต่เลือกที่จะถามกลับเสียงแข็ง

 

“ถามมากเรื่องนัก!”

 

ทันทีที่ชายชรากล่าวถามจบคำ ชายชุดดำก็แค่นคำออกด้วยรำคาญทั้งยกมือขึ้น แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไร

 

ทว่าทันใดนั้นเองพลังงานอันมหาศาลขุมหนึ่ง พลันผุดโผล่ขึ้นมาจากความว่าง ยังคล้ายทะเลสาบสงบที่บังเกิดระลอกคลื่นจากก้อนหิน มวลพลังกำจายออกไปกดดันเข้าใส่ชายชราดังกล่าว!

 

ชายชราที่เผยใบหน้าเฉยเมยก่อนหน้าพลันขมวดคิ้วยู่ย่น มันเร่งเร้าปราณแรกกำเนิดออกมาทันใด

 

จากกลิ่นอายพลังของปราณแรกกำเนิด ก็บ่งบอกให้รู้ว่ามันไม่ใช่ขอบเขตเซียนธรรมดาๆ

 

ปงงง!!

 

อนิจจาแม้มันจะเร่งเร้าปราณแรกกำเนิดออกมาก็เท่านั้น เมื่อถูกคลื่นพลังอันมหาศาลของชายชุดดำ ก็ดั่งเอาไข่ไปกระทบหิน ปราณแรกกำเนิดที่แผ่พุ่งออกมาต้านทานดับสลายหายไปทันใด ยังถูกมวลพลังมหาศาลของชายชราชุดดำซัดเข้ากลางอก!

 

ร่างชราพลันปลิดปลิวกระเด็นไปนับ 100 หมี่อย่างไร้หนทางต่อต้าน ก่อนที่จะหยุดร่างประคองตัวกลางอากาศได้อีกครั้ง

 

“ซะ…เซียนขัดเกลา! จะ…เจ้าที่แท้เป็นใครกันแน่?!”

 

หลังจากกระอักโลหิตออกมา 2-3 ครั้ง ชายชราก็แลดูมีสภาพน่าเวทนานักต่างจากตอนแรกลิบลับราวกับจากบัณฑิตเป็นขอทาน! สายตาที่ใช้มองชายชุดดำตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของวิญญาณ!

 

“ท่านบรรพบุรุษผู้เฒ่า!”

 

ชายในชุดดำยังไม่ทันได้ตอบคำก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

 

ทันใดนั้น ร่างชายวัยกลางคนร่างหนึ่งก็วูบมาปรากฏ เป็นซือถูฮ่าว ผู้นำตระกูลซือถู

 

ฟังจากที่ซือถูฮ่าวเรียกหา ชายชราคนนี้ที่แท้เป็นบรรพบุรุษของตระกูลซือถูนั่นเอง!

 

“ข้าจะถามอีกครั้ง…เจ้าคือซือถูฮ่าวใช่หรือไม่?”

 

ถึงแม้ใบหน้าของชายชุดดำจะถูกบดบังไปด้วยหน้ากากรูปปีศาจแสยะยิ้ม หากแต่แววตาอันแสนเย็นชายังเผยให้เห็นชัดเจน และเมื่อมันแลเห็นสภาพบรรพบุรุษ แผ่นหลังของมันก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเย็นทันที

 

“ท่านอาวุโส ข้าคือซือถูฮ่าว”

 

เห็นว่ากระทั่งบรรพบุรุษยังถูกอีกฝ่ายซัดทำร้ายจนบาดเจ็บ เช่นนั้นมันย่อมไม่มีปัญญาต้านทานอีกฝ่ายได้แน่

 

ใจของมันเริ่มเต็มไปด้วยความกังวลทั้งสงสัยทันที ‘จากที่ท่านบรรพบุรุษผู้เฒ่ากล่าวออกมาเมื่อครู่ ชายชุดดำในหน้ากากปีศาจแสยะยิ้มผู้นี้ กลับเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนขัดเกลา…ตัวท่านบรรพบุรุษอยู่ในขอบเขตเซียนดั้งเดิมขั้นสูงสุดแล้ว เช่นนั้นผู้ที่สามารถทำร้ายท่านได้ง่ายๆ สมควรเป็นตัวตนในขอบเขตเซียนขัดเกลาขึ้นไปเท่านั้น!’

 

จังหวะนี้ซือถูฮ่าวอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวในใจ

 

กระทั่งในตระกูลราชวงศ์ของประเทศฝูเฟิง ก็มียอดฝีมือในขอบเขตเซียนขัดเกลาน้อยคนนัก!

 

และในประเทศฝูเฟิงแห่งนี้ นอกจากยอดฝีมือที่มีอยู่ไม่กี่คนของตระกูลราชวงศ์แล้ว ก็มีแต่สื่ออวิ๋น ประมุขนิกายอัคคีล่องลอยเท่านั้น ที่เป็นยอดฝีมือในขอบเขตเซียนขัดเกลา

 

ขอบเขตเซียนนั้น ก็ยังแยกย่อยได้อีกหลายด่าน

 

หลังจากที่ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเซียนได้ จะอยู่ในด่านพลังที่เรียกว่า เซียนดั้งเดิม และในด่านพลังนี้ก็ยังแบ่งย่อยได้อีก 4 ขีดขั้น อันได้แก่เซียนดั้งเดิมขั้นต้น เซียนดั้งเดิมขั้นกลาง เซียนดั้งเดิมขั้นเชี่ยวชาญ และเซียนดั้งเดิมขั้นสูงสุด!

 

หลังจากที่ทะลวงผ่านขอบเขตเซียนดั้งเดิมขั้นสูงสุดไปแล้ว ท่านก็จะบรรลุถึงขอบเขตเซียนขัดเกลา และยอดฝีมือระดับนี้ส่วนมากจะเป็นเสาหลักของขุมลังชั้น 6!

 

แน่นอนว่ายังมีขุมพลังชั้น 7 บางขุมพลังที่มียอดฝีมือในขอบเขตเซียนขัดเกลาดำรงอยู่!

 

นิกายอัคคีล่องลอยเองก็ถือได้ว่าเป็นขุมพลังชั้น 7 เท่านั้น!

 

ถึงแม้ว่าตัวนิกายจะถูกจัดให้อยู่ในขุมมพลังชั้น 7 ทว่าด้วยพลังอำนาจของสื่ออวิ๋นเพียงคนเดียว จึงทำให้นิกายถูกกล่าวว่าเป็นขุมพลังชั้น 7 ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ

 

ซือถูฮ่าวนั้นเป็นแค่เซียนดั้งเดิมขั้นกลางเท่านั้น มันไม่อาจเทียบกับบรรพบุรุษผู้เฒ่าของมันได้เลย นับประสาอะไรกับเซียนขัดเกลาที่มีพลังฝีมือเหนือชั้นกว่านั้น

 

“เจ้าคือซือถูฮ่าว ผู้นำตระกูลซือถูคนปัจจุบัน?”

 

ชายในชุดดำเหลือบมองซือถูฮ่าวทั้งกล่าวถามออกมา

 

ด้วยอีกฝ่ายสวมหน้ากากปีศาจยิ้ม ทำให้ซือถูฮ่าวไม่อาจเห็นหน้าค่าตาอีกฝ่ายได้ มันสุดที่จะคิดคาดได้จริงๆ ว่าไฉนอยู่ๆเซียนขัดเกลาถึงบุกมาหามันที่ตระกูลซือถูแบบนี้ได้!!

 

“ใช่”

 

อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับคำจี้ถามของชายชุดดำ ซือถูฮ่าวย่อมไม่กล้าหย่อนคล้อยละเลย เร่งพยักหน้าเร็วไวทั้งกล่าวถามออกไปด้วยใจกังวล “ท่านอาวุโสมาที่นี่เพื่อหาข้างั้นหรือ มิทราบว่าอาวุโสมีอันใดกับข้า?”

 

ตอนนี้เองชายชราผิวแดงก่ำผมสีขาวก็มาลอยร่างข้างๆซือถูฮ่าว จับจ้องไปยังร่างชายชุดดำไม่วางตา ในสายตายังเผยความหวาดกลัวเอาไว้ไม่น้อย

 

พลังฝืมือของคู่ต่อู้สูงส่งเกินไป!

 

ถึงแม้มันจะเป็นเซียนดั้งเดิมขั้นสูงสุด แต่ก็ไร้พลังอำนาจจะต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย

 

‘อย่างน้อยๆมันต้องเป็นเซียนขัดเกลาขั้นกลาง!’

 

มาถึงขั้นนี้แล้วมันแทบจะมั่นใจเรื่องนี้

 

ตอนนี้เองในอากาศว่างเปล่าห่างออกไปไม่ไกล พลันมีอีกร่างหนึ่งลอยค้างเติ่งอยู่กลางหาวไม่ขยับเขยื้อนราวกับมีรากงอกเงย

 

ร่างนี้กลับเป็น ซือถูโฮ่ว ผู้อาวุโสของตระกูลซือถู!

 

มันเห็นบรรพบุรุษผู้เฒ่าของตระกูลซือถู ถูกศัตรูสยบลงได้อย่างง่ายดาย ยังบาดเจ็บสาหัสจากการลงมืออย่างขอไปทีจากชายชุดดำไม่น้อย! ตอนนี้มันรู้สึกเสมือนตัวเองเป็นมดตัวกระจ้อยร่อยยามอยู่ต่อหน้าชายชุดดำ

 

ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายทำให้มันหวาดกลัวถึงก้นบึ้งของหัวใจแล้วจริงๆ

 

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีแขกกิตติมศักดิ์นามต้วนหลิงเทียน อยู่ที่ตระกูลซือถูด้วยใช่หรือไม่?”

 

ชายชุดดำมองถามซือถูฮ่าวต่อทันที

 

“อาวุโสมาหาปรมาจารย์ต้วนหรือ?”

 

พอได้ยินวาจาถามไถ่นี้ของอีกฝ่าย ซือถูฮ่าวอดไม่ได้ที่จะตกใจ เพราะมันคิดไม่ถึงเลยว่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนขัดเกลาจะมาเยือนตระกูลซือถูเพราะแขกกิตติมศักดิ์ ต้วนหลิงเทียน

 

“อาวุโส ท่านปรมจารย์ต้วนมิได้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูเราอีกแล้ว…”

 

ซือถูฮ่าวได้แต่เผยยิ้มขื่นขมตอบกลับ

 

“หืม? มิได้เป็นแขกกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูอีกแล้ว? นี่เจ้าหมายความว่าอะไร?”

 

เมื่อชายในชุดดำได้ยิน แววตาก็เปลี่ยนไปโดยพลัน ยังกล่าวถามออกมาทันทีเสียงเย็น นอกจากนั้นกลิ่นอายพลังอันน่ากลัวก็แผ่พุ่งออกมารอบกาย พาลให้ซือถูฮ่าวอดไม่ได้ที่จะหนาวสะท้านไปถึงไขสันหลัง

 

“อาวุโสข้ามิได้มีใดปิดบังท่าน ปรมาจารย์ต้วนได้ออกจากตระกูลซือถูไปตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน”

 

ซือถูฮ่าวเผยยิ้มเจื่อนๆออกมา

 

“ออกไปแล้ว?”

 

เสียงชายชุดดำเข้มขึ้น “แล้วมันไปไหน?”

 

“เอ่อ อาวุโส ข้าคิดว่า…ท่านน่าจะยังมิรู้เรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนใช่หรือไม่?”

 

ซือถูฮ่าวกล่าวออก

 

มันย่อมตระหนักได้ชัดเจนว่าชายชุดดำเบื้องหน้าเผยเค้าความอ่อนล้าอิดโรยจากการเดินทางไกลมา แถมอีกฝ่ายสมควรพึ่งมาถึงเมืองหลวง นอกจากนี้คงมุ่งหน้าตรงมายังตระกูลซือถูทันที เห็นได้ชัดว่าคงไม่ได้รู้ข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศฝูเฟิงก่อนหน้าเลย หาไม่แล้วคงไม่มาเยือนตระกูลซือถูแบบนี้

 

“มีเรื่องอะไร?”

 

ขายในชุดดำกล่าวถามด้วยน้ำเสียงแฝงรำคาญ

 

พอได้ยินจากน้ำเสียงว่าความอดทนของชายชุดดำคล้ายจะหมดสิ้นเต็มที ซือถูฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว ไม่กล้ารอช้าอะไรรีบกล่าวเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไปทันที

 

หลังจากนั้นมันก็ได้ยินเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนหลังออกจากตระกูลซือถู

 

“ต้วนหลิงเทียนฆ่า หลินตง ยอดฝีมืออันดับ 1 ในรายนามนภาของเขตอิทธิพลคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน?”

 

พอได้ยินเรื่องนี้ ลูกตามันอดไม่ได้ที่จะหดเล็กลงโดยพลัน

 

“หลินตงยังคงถูกฆ่า แม้จะทะลวงถึงขอบเขตเซียนแล้ว?”

 

ยิ่งพอได้รู้เรื่องนี้แววตาของชายชุดดำอดไม่ได้ที่จะเผยความตื่นตระหนกตกใจ!

 

ผู้ฝึกตนขอบเขตสู่เซียนกลับสังหารผู้ฝึกตนขอบเขตเซียน?

 

ถึงแม้จะเป็นการลอบโจมตี แต่การที่ต้วนหลิงเทียนอาศัยพลังฝีมือสู่เซียนสังหารเซียนได้นั้น เป็นเรื่องราวที่เหลือเชื่อดั่งพลิกแผ่นฟ้าแล้ว!

 

‘นั่นมันยังเป็นอะไรที่ผู้คนกระทำได้ด้วยหรือ?’

 

นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของมัน เพราะมันไม่เคยได้ยินเลยว่ามีสู่เซียนคนไหนสามารถลอบโจมตีสังหารตัวตนในขอบเขตเซียนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าได้

 

อย่างไรก็ตาม พอได้รับทราบเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่ง ชายชุดดำก็ทิ้งเรื่องความตายของหลินตงไปทันที!

 

“ตราผนึกมาร!? 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติดอันดับในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ในความครอบครองของต้วนหลิงเทียน…กระทั่งยังใช้มันฆ่าผู้ฝึกมารขอบเขตเซียนไปอีก 2 ในพริบตา?!”

 

พอได้ยินว่าตราผนึกมารอยู่ในมือของต้วนหลิงเทียน สองตาองชายชุดดำก็ทอประกายแห่งความโลภขึ้นมาทันที อีกทั้งลมหายใจยังถี่รัวขึ้นไม่น้อย

 

ตราผนึกมาร!

 

นั่นคือสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง!

 

“จวนอ๋องเฉียน!?”

 

หลังได้รับทราบว่าตราผนึกมารตกอยู่ในมือของอ๋องเฉียน ชายชุดดำก็หายไปจากสายตาของซือถูฮ่าวทันที ราวกับคนทั้งคนอันตรธานหายไปในอากาศ

 

หลังจากชายชุดดำไปแล้ว ซือถูฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างอ่อนล้า

 

ตอนนี้เม็ดเหงื่อยังผุดซึมออกมาจากหน้าผากไม่หยุด

 

ด้วยการสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าของอ๋องเฉียนเรื่องที่ไม่มีตราผนึกมารในครอบครองไม่ได้แพร่กระจายออกมา ซือถูฮ่าวจึงไม่ได้รู้เลยว่าตราผนึกมารไม่ได้อยู่ในมืออ๋องเฉียน หาไม่แล้วมันจะไม่บอกชายชุดดำไปว่าตราผนึกมารอยู่ในมืออ๋องเฉียน เพราะนั่นยังต่างอะไรกับกล่าวโป้ปด?

 

“บรรพบุรุษผู้เฒ่า…มันเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนขัดเกลาหรือ?”

 

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆสงบใจ ซือถูฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะมองถามชายชราข้างๆ อย่างระมัดระวัง

 

“มันเป็นเซียนขัดเกลาจริงๆ กระทั่งอย่างน้อยๆก็เป็นเซียนขัดเกลาขั้นกลาง!”

 

ชายชราพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ต่อหน้ามันข้าไร้พลังอำนาจที่จะต้านทานอันใด…นี่เป็นความรู้สึกที่มีแต่ขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นกลางขึ้นไปจะมอบให้ข้าได้เท่านั้น!”

 

“เซียนขัดเกลาขั้นกลาง!?”

 

ซือถูฮ่าวที่ได้ฟังก็สะท้านขึ้นมาในใจทันที

 

ต้องทราบด้วยว่าแม้จะเป็นตระกูลราชวงศ์ของประเทศฝูเฟิงก็มีเซียนขัดเกลาขั้นกลางแค่คนเดียว และนั่นก็คือสุดยอดฝีมืออันดับ 1 ของประเทศฝูเฟิงแล้ว

 

ทว่าตอนนี้ชายวัยกลางคนที่มา กลับมีพลังทัดเทียมกับตัวตนเช่นนั้น

 

ขอบเขตเซียนขัดเกลาก็แบ่งออกเป็นขีดขั้นย่อยเหมือนกันกับเซียนดั้งเดิม อันได้แก่ ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นเชี่ยวชาญ และขั้นสูงสุด และแต่ละขีดขั้นก็มีพลังความแข็งแกร่งห่างกันมาก

 

‘ข้าไม่คิดเลยว่าแม้ข้าจะยังหาต้วนหลิงเทียนมิพบ แต่กลับได้รับทราบเรื่องราวอันน่าตื่นตระหนกขนาดนี้! หากข้าได้รับตราผนึกมานั่นมาล่ะก็ ข้าจะเหยียบย่ำเจ้าเฒ่าชรานั่นให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าได้ง่ายดาย จากนั้นข้าจิ้งหยวนผู้นี้ก็สามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดมืดสาขาประเทศฝูเฟิงแทนมัน!’

 

ทันทีที่ชายชุดดำมาถึงน่านฟ้าเหนือจวนอ๋องเฉียน ใจของมันก็เต้นรัวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น!