ตอนที่ 1,641 : ขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังเสียข้าวสารไปอีกกำมือ!
“ไฉนถึงเกิดเรื่องอะไรพรรค์นี้ขึ้นมาได้ ข้าเห็นกับตาชัดๆว่าตราผนึกมารวูบหายเข้าไปในแหวน! แล้วไฉนในแหวนถึงมิมีตราผนึกมารอยู่เล่า!?”
อ๋องเฉียนแทบจะเสียสติไปให้ได้ นับว่าเรื่องนี้เคี่ยวกรำจิตใจของมันอย่างยากจะทานทน!
หรือว่าแหวนพื้นที่มันจะกินตราผนึกมารเข้าไปแล้ว?
“องค์ชาย 4 …ใช่ต้วนหลิงเทียนนั่นมั่นเล่นตุกติกอันใดกับตราผนึกมารหรือไม่?”
ตอนนี้เองเฒ่าชรา 1 ใน 2 ด้านหลังอ๋องเฉียนพลันกล่าวเสริมออกมา
“เล่นตุกติก? มันยังเล่นตุกติกอันใดได้!? ตัวมันอยู่ไกลจากข้านัก อีกทั้งตราผนึกมารก็ห่างไกลจากมันขนาดนั้น พวกเจ้ามีใครเห็นตราผนึกมารบินกลับไปหามันหรือไม่เล่า?”
อ๋องเฉียนพยายามคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าแต่ก็ส่ายหัวไปมาอย่างไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ก็เหมือนกับเป็ดที่สุกแล้วจะให้มันลุกขึ้นมาบินได้อย่างไร?
พอได้ยินคำของอ๋องเฉียนชายชราทั้งสองก็นิ่งเงียบ
ในฐานะที่พวกมันก็เป็นตัวตนในขอบเขตเซียน พวกมันย่อมมั่นใจในพลังฝีมือทั้งสายตา หากให้ถามว่าพวกมันเห็นตราผนึกมารบินไปไหนหรือไม่ พวกมันย่อมตอบได้ทันทีว่าไม่มี! และต่อให้ตราผนึกมารบินหนีได้จริงพวกมันก็ไม่มีทางไม่เห็น!!
อีกทั้งในเวลานั้นพวกมันยังเห็นชัดถนัดตา ว่าตราผนึกมารวูบหายไปจากอากาศคามือของอ๋องเฉียน เห็นชัดว่าเป็นอ๋องเฉียนเรียกเก็บลงสู่แหวนพื้นที่!
ทว่าตอนนี้อ๋องเฉียนกลับบอกว่าหาตราผนึกมารในแหวนพื้นที่ไม่พบ!
“องค์ชาย 4 ท่านใจเย็นก่อน ลองหาดูในแหวนดีๆอีกครั้งเถอะ!”
ชายชราทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอีกครั้ง พวกมันรู้สึกว่าเรื่องราวนี้มันแปลกประหลาดเกินไป ยังคิดว่าตราผนึกมารไม่น่าจะหายไปไหนได้นอกจากอยู่ในแหวน…
“พวกเจ้าเห็นข้าเป็นเด็ก 3 รึไง!? ข้าค้นหาทุกซอกทุกมุมในแหวนหลายรอบแล้วแต่กลับมิมี! ยังจะให้ข้าหาอีกครั้งกับผีอันใด!?”
หลังได้ฟังคำแนะของชายชรา อ๋องเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะสบถออกมาอย่างหัวเสีย ท่าทางกิริยาไม่คล้ายเป็นองค์ชายอีกต่อไป
การหายไปของตราผนึกมาร ทำให้มันรู้สึกยอมรับไม่ได้แล้วจริงๆ!
นอกจากนี้มันยังนำตราผนึกมารกลับมาภายใต้สายตาของอ๋องหรงอีกด้วย!
มันย่อมเดาออกได้ไม่ยาก ว่าวันนี้อีกไม่นานอ๋องหรงต้องยกพลมาทวงสิทธิ์เรื่องตราผนึกมารถึงจวนมันแน่!
ด้วยอ๋องหรงรู้ถึงพลังอำนาจของตราผนึกมารดี เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะปล่อยวางเรื่องนี้!
หากยังมีตราผนึกมารอยู่ในมือ ต่อให้มันต่อสู้กับอ๋องหรงจนเละกันไปข้าง มันก็ยังพอมีหนทางรักษาตราผนึกมารเอาไว้…แต่ตอนนี้กระทั่งตราผนึกมารมันยังไม่มี จะไม่ให้หัวเสียได้อย่างไรไหว?
ไม่เพียงแต่มันไม่มีตราผนึกมาร แต่มันยังชักนำปัญหาใหญ่หลวงมาสู่ตัว!
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมันไม่รู้เลยว่าตราผนึกมารนั้นหายไปจากแหวนพื้นที่ของมันได้อย่างไร มันมั่นใจมากว่าเก็บตราผนึกมารลงแหวนพื้นที่แล้วแน่ๆ?
“หรือยอดศาสตราเซียนที่ติด 1 ใน 10 ในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่จักมีความสามารถพิสดารในการปกปิดซ่อนเร้น?”
อ๋องเฉียนอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เรียกว่าตอนนี้มันดั่งคนหน้ามืดตามัวพยายามคลำหาหนทางไปอย่างสะเปะสะปะ
“น้อง 4 ออกมาพบกันหน่อย!!”
ในขณะที่อ๋องเฉียนเจียนจะทึ้งหัวตัวเองอยู่รอมร่อด้วยมิอาจขบคิดได้จริงๆว่าตราผนึกมารมันหายไปที่ใดกันแน่ เสียงหนึ่งพลันดังลั่นก้องจวนอ๋องเฉียนของมัน! เป็นอ๋องหรงพายอดฝีมือมากดดันมันแล้วจริงๆ แถมอีกฝ่ายยังพาขอบเขตเซียนแทบมากมายบุกมาอย่างเอิกเกริก คล้ายมาเดินซื้อหาผัดกาดในตลาด!
และแน่นอนว่าทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนของอ๋องหรง หน้าอ๋องเฉียนก็บิดเบี้ยวราวเคี้ยวข้าวถูกแมลงวัน
“อ๋องเฉียน อ๋องหรงมาหาท่านเพราะเรื่องตราผนึกมารไม่ผิดแน่…แต่ตอนนี้ท่านไม่มีตราผนึกมาร ข้ากลัวว่าให้ท่านกล่าวออกไปพวกมันก็ไม่เชื่อท่านแน่”
ซือถูหมิงที่นิ่งเงียบอยู่นานอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา
ในเรื่องนี้มันเองก็รู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
มันเองก็เห็นกับตาว่าตราผนึกมารวูบหายไปคามือของอ๋องเฉียน หากไม่ใช่หายเข้าแหวนพื้นที่ไป หรือจะให้มันหายไปในอากาศเฉยๆ?
ทว่าพอกลับมาถึงจวน อ๋องเฉียนกลับบอกว่าตราผนึกมารไม่อยู่ในแหวน!
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของมันก็คือ อ๋องเฉียนกำลังเสแสร้งตีหน้าเซ่อว่าไม่มีตราผนึกมารต่อพวกมัน เพราะจะอย่างอย่างไรตราผนึกมารก็เป็นวัตถุเลิศล้ำในตำนาน น่ากลัวว่าจะมีคนมากมายที่คิดช่วงชิง
แน่นอนว่ามันรู้สึกว่าเรื่องราวนี้โง่งมเกินกว่าที่มันจะทำใจเชื่อได้
ทุกผู้คนล้วนเห็นกันชัดถนัดตาว่าตราผนึกมารหายไปคามืออ๋องเฉียน เว้นเสียแต่อ๋องเฉียนจะสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าไม่มีเท่านั้น!
อย่างไรก็ตามอ๋องเฉียนจะกล้ากล่าวคำสาบานออกมางั้นเหรอ? ในเมื่อมันเจตนาเสแสร้งแสดงโง่งมแบบนี้ จะรนหาที่ตายทำอะไร?
จนถึงตอนนี้ซือถูหมิงก็ฝังหัวแน่วแน่ว่าเป็นอ๋องเฉียนแสร้งตีหน้าเซ่อหลอกมัน ตราผนึกมารก็คงอยู่ในแหวนนั่นล่ะ แค่อีกฝ่ายเสแสร้งไปเท่านั้น!
จุดประสงค์ของการเสแสร้งนี้ก็คงแค่จะปิดหูปิดตาหลอกลวงพวกมัน
หากอ๋องเฉียนมิอาจปิดหูปิดตาหลอกคนข้างกายได้ แล้วจะปิดหูปิดตาหลอกคนนอกได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามพออ๋องเฉียนพามัน เยี่ยมู่ไป๋ และขอบเขตเซียนทั้ง 2 ออกไปพบอ๋องหรง เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อพลันบังเกิดขึ้นตรงหน้า…
“ข้าอ๋องเฉียน ขอสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าถ้าหากข้ามีตราผนึกมารไว้ในครอบครอง! ข้ายินดีถูกอัสนีฟ้าพิฆาตตกตาย!!”
ทันทีที่ประจันหน้ากับอ๋องหรง อ๋องเฉียนพลันชิงกล่าวคำสาบานออกมาก่อนที่อ๋องหรงจะทันได้กล่าวอะไรออกมาแม้แต่ครึ่งคำ!
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
……
ด้วยเสียงอัสนีลั่นผ่า 9 คำรบ เป็นการบ่งบอกว่าสวรรค์ตอบรับคำสาบานแล้ว!
อย่างไรก็ตามถึงแม้สวรรค์จะตอบรับคำสาบานแล้ว แต่อ๋องเฉียนยังอยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกฟ้าผ่าหัว ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า วาจาที่มันกล่าวสาบานออกไปเมื่อครู่..เป็นความสัตย์จริง!
ด้วยอยู่ๆอ๋องเฉียนก็กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าออกมาแบบนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้อ๋องหรงและขอบเขตเซียนทั้งหลายที่พามาด้วยแปลกใจ ยังสร้างความประหลาดใจให้คนฝ่ายอ๋องเฉียนอีกด้วย และคนที่ประหลาดใจก็คือซือถูหมิงกับเยี่ยมู่ไป๋นั่นเอง…
อันที่จริงแล้วในใจเยี่ยมู่ไป๋ก็คิดเหมือนกันกับซือถูหมิง ว่าอ๋องเฉียนกำลังเสแสร้งแสดงหลอกมัน
อย่างไรก็ตามพออ๋องเฉียนกล่าวคำสาบานออกมาแบบนี้ ทำให้พวกมันตระหนักได้ทันทีว่าอ๋องเฉียนกลับไม่ได้เสแสร้งตีหน้าเซ่อหลอกพวกมัน!!
“เป็นไปมิได้!!”
เมื่อเห็นว่าอ๋องเฉียนกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าออกมาแบบนั้นแล้วยังอยู่ดี อ๋องหรงก็รู้สึกเหลือเชื่อเกินกว่าจะรับไหว “น้องสี่ นี่เจ้าคิดเล่นเล่ห์อันใดกันแน่ ทุกผู้คนล้วนเห็นกันชัดถนัดตาว่าตราผนึกมารหายเข้าไปในแหวนพื้นที่ของเจ้า!!”
“เล่นเล่ห์กับน้องสาวเจ้า! ข้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้าเถอะ!!”
แต่เดิมอารมณ์อ๋องเฉียนก็มิสู้ดีเป็นทุน พอเห็นว่ากระทั่งมันสาบานไปแล้วแต่อ๋องหรงยังไม่เชื่อมันก็มีโมโหขึ้นมาทันที ถึงขั้นสบถด่าออกไปราวอันธพาล
หลังจากนั้นมันก็คร้านจะกล่าวใดกับอ๋องหรงสืบต่อเพียงหันหลังเดินกลับเข้าจวนไปอย่างฮึดฮัดทันที
พอเห็นอ๋องเฉียนเผยทีท่าราวเด็กน้อยหัวเสียทั้งกล่าวด่าออกมาแบบนี้ อ๋องงหรงเองก็ถึงกับอึ้งไปไร้คำจะกล่าว! เพราะมันเองก็รู้ดีว่าคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้ามิอาจฝ่าฝืน นี่เป็นกฏเหล็กที่รู้กันดีในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้กล่าวหยุดอ๋องเฉียนเอาไว้ แต่อ๋องหรงก็ยังรั้งซือถูหมิงเอาไว้และกล่าวถามออกมา
“เรียนองค์ชายรอง พวกเรารู้ว่าท่านต้องการมีสิทธิ์ในการใช้ตราผนึกมาร อย่างไรก็ตามพอองค์ชาย 4 กลับมาถึงจวน ท่านก็ได้ค้นหาในแหวนพื้นที่อย่างดีแล้ว แต่กลับมิพบตราผนึกมารอยู่ในนั้น เห็นได้ชัดว่าสมควรเป็นต้วนหลิงเทียนเล่นตุกติกอันใดสักอย่างขณะส่งมอบตราผนึกมาให้องค์ชาย 4”
เป็นหนึ่งใน 2 ชายชราที่มักติดตามอยู่ด้านหลังอ๋องเฉียน อดไม่ได้ที่จะกล่าวอธิบายออกมาแทนซือถูหมิง
“ถูกแล้ว! จะอย่างไรตราผนึกมารก็เป็น 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติดรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ บางทีมันอาจมีพลังอำนาจวิเศษที่พวกเรายังไม่ล่วงรู้ เพราะเรื่องที่พวกเรารู้เกี่ยวกับตราผนึกมาร ก็มีแต่เรื่องราวจากข่าวที่ลือกันในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเท่านั้น”
ชายชราอีกคนกล่าวเสริมออกมา
หลังจากกล่าวจบพวกมันทั้งคู่ก็หันหลังเดินกลับเข้าจวนเพื่อไปคอยคุ้มครองอ๋องเฉียนต่อทันที
“น้องสี่เจ้ามันโง่เขลานัก! ไฉนเจ้าถึงไม่ตรวจสอบในแหวนพื้นที่ให้ดีตั้งแต่แรก?”
ตอนนี้แม้อ๋องหรงจะไม่อยากเชื่อเพียงใด ก็จำต้องเชื่อ
เพราะสุดท้ายอ๋องเฉียนก็กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าออกมาแล้ว
จังหวะนี้อ๋องหรงก็ได้แต่พาคนทั้งหมดย้อนกลับไปเท่านั้น เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ในจวนอ๋องเฉียนต่อไป
“ถ่ายทอดคำสั่งของข้าออกไป! ให้ทุกคนออกไปตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนมาให้จงได้โดยไม่ต้องสนว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใด! ข้าต้องได้ตราผนึกมารนั่น!!”
หลังจากที่กลับมาถึงจวน อ๋องหรงก็เร่งสั่งการออกไปทันที มันไม่อาจต้านทานอำนาจล่อลวงยั่วใจของตราผนึกมารได้จริงๆ และหากมันได้ครองตราผนึกมารล่ะก็ คิดเป็นฮ่องเต้ประเทศฝูเฟิงก็เป็นเรื่องราวที่มั่นใจได้เลย!
“น้องสี่…หลินตงตกตายไปเช่นนี้ วันหน้าท่าทางเจ้าจักลำบากแล้วล่ะ!”
หลังจากออกคำสั่งไป อ๋องหรงก็เริ่มเผยยิ้มออกมาทันที
ในขณะเดียวกันกับที่อ๋องหรงถ่ายทอดคำสั่งล่าตัวต้วนหลิงเทียน อ๋องเฉียนที่สงบใจลงแล้วก็เริ่มออกคำสั่งเดียวกัน
อีกทั้งหลังจากสั่งการคนไปแล้ว อ๋องเฉียนก็นึกถึงเรื่องที่หลินตงตายขึ้นมาเพราะต้วนหลิงเทียนได้! จึงอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นออกมาชุ่มหลัง “จะอย่างไรตอนนี้ผู้คนก็ล่วงรู้กันหมดแล้วว่าเป็นข้าที่เชิญหลินตงมาฆ่าต้วนหลิงเทียน! การที่หลินตงมาตกตายในประเทศฝูเฟิง ตระกูลหลินไม่ยอมเลิกรากับข้าง่ายๆแน่”
“พวกมันต้องคิดว่าหากข้าไม่เชิญหลินตงมาที่ฝูเฟิง หลินตงก็คงไม่ต้องตาย”
พอนึกถึงเรื่องนี้อ๋องเฉียนอดไม่ได้ที่จะหน้าเสีย ครั้งนี้มันคิดขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารไปอีกกำมือแล้วจริงๆ
ถึงแม้ว่าตระกูลราชวงศ์ของประเทศฝูเฟิงก็เป็นขุมพลังชั้น 6 ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลิน แต่เรื่องนี้ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีมันเป็นต้นเหตุ น่ากลัวว่าตระกูลราชวงศ์คงไม่คิดยื่นมือเข้าช่วย
ก้นของอ๋องเฉียน ตัวอ๋องเฉียนต้องเป็นผู้เช็ดล้างเอง!
หลินตงตกตาย ตราผนึกมารปรากฏ
เมื่อจบการประลองเป็นตายระหว่างหลินตงกับต้วนหลิงเทียน เรื่องราวดังกล่าวก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิงในเวลาอันสั้น ดั่งมหาพายุซัดเข้าเมืองก็ไม่ปาน บ้านไหนก็เริ่มกล่าวกันไปทั่ว!
และด้วยความเร็วในการแพร่กระจายของข่าวดังกล่าว น่ากลัวอีกไม่นานทั้งประเทศฝูเฟิง กระทั่งทั่วทั้งเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนก็ต้องรับทราบเรื่องราวนี้กันหมดแน่!!
หลินตงเป็นผู้ใดเล่า?
ยอดฝีมืออันดับ 1 ของรายนามนภา!!
กระทั่งเช่นนั้นแล้ว แต่ยังถูกฆ่าตาย อีกทั้งยังตกตายหลังจากที่ทะลวงผ่านไปยังขอบเขตเซียน เรียกว่าข่าวนี้ดั่งพายุที่พัดผ่านไปทั่วเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนแล้วจริงๆ!
แน่นอนว่าการตายของหลินตงยังไม่ใช่ข่าวที่สะท้านสะเทือนแดนดินที่สุด!
ข่าวที่ยิ่งใหญ่ดั่งระเบิดลงยิ่งกว่าความตายของหลินตงก็คือ การปรากฏขึ้นมาของตราผนึกมาร!!
ตราผนึกมาร เป็น 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องกล่าวถึงเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนด้วยซ้ำ ผู้ฝึกตนทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าล้วนอยากครอบครองมันไว้ทั้งสิ้น!
เช่นนั้นจึงเดาได้ไม่ยากว่าหากข่าวนี้แพร่ออกไป จะมียอดฝีมือที่เข้มแข็งมากน้อยเท่าใดที่คุ้มคลั่ง!
ในขณะที่ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิงปานมหาพายุ ก็มีร่างหนึ่งที่คล้ายจะอิดโรยจากการเดินทางมาถึงเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิง!
และทันทีที่มาถึงเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิง จุดหมายแรกสุดของมันก็คือตระกูลซือถู!
“ข้ามาพบซือถูฮ่าว!!”
คนผู้นี้ไม่ได้เข้าตระกูลซือถูทางประตูหน้า หากแต่เหินลอยอยู่ในอากาศ เสียงที่กล่าวยังดังก้องปานฟ้าผ่าไปทั่วตระกูลซือถู!
ชายคนนี้มาในชุดคลุมลมดำ ใบหน้ายังมีหน้ากากปีศาจที่กำลังยิ้มแสยะปิดบังหน้าตาเอาไว้!