ตอนที่ 1640

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,640 : ตราผนึกมารไปที่ใดแล้ว!?

 

เยี่ยมู่ไป๋มาที่นี่เพราะต้องการเห็นต้วนหลิงเทียนตกตายกับตา

 

ต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ที่สังหารน้องสามของมัน เช่นนั้นมันจึงเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ! ยังแทบอดพุ่งไปป่นร่างต้วนหลิงเทียนให้แหลกไม่ไหว อนิจจามันรู้ตัวดีว่าไร้สามารถไม่อาจทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้เลย จึงทำได้แต่ฝากความหวังไว้กับอ๋องเฉียนเท่านั้น..

 

ทว่าตอนนี้กระทั่งอ๋องเฉียนก็ไม่อาจทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้

 

สำหรับตราผนึกมารนั้น มันก็รู้สึกสนใจอยู่บ้าง แต่พอรับทราบว่าหลินตงถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายไปแล้ว มันก็ไม่มีอารมร์จะมาสนใจตราผนึกมารอีกต่อไป

 

นี่เพราะมันรู้ตัวว่าพลังฝีมือมันมีเท่าไหร่ และรู้ดีว่าคงไม่มีวันได้แตะตราผนึกมาร

 

เยี่ยมู่ไป๋มองต้วนหลิงเทียนอย่างคับแค้น ใคร่อยากพุ่งไปแลกชีวิตฆ่าอีกฝ่ายเสียให้ได้

 

อนิจจาพอมันคิดถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสามารถฆ่าได้กระทั่งตัวตนในขอบเขตเซียน มันก็ได้แต่หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความคับแค้น ยังบังเกิดความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ สุดท้ายก็ไร้ซึ่งความกล้าแม้แต่จะมองหน้าต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป…

 

เนื่องจากความขัดแย้งกันระหว่างอ๋องหรงและอ๋องเฉียน ความสนใจของผู้ชมกว่า 9 ส่วนจึงอยู่ที่การเผชิญหน้ากันของทั้งคู่

 

ผลที่ตามมาคือต้วนหลิงเทียนคล้ายจะถูกลืมเป็นการชั่วคราว

 

เมื่อเห็นว่าอ๋องเฉียนกับอ๋องหรงเขม่นกันทั้งเริ่มกัดกันยังกับสุนัข มุมปากต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มแสยะขึ้นมา

 

“มันมิรู้จริงๆหรือไรว่าตราผนึกมารมิได้อยู่ในแหวนพื้นที่ของมัน?”

 

ตอนนี้เองมีเสียงหนึ่งดังเข้าหูต้วนหลิงเทียน เป็นเสียงของผู้เฒ่าหั่วที่อยู่ภายในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ

 

“มันไม่มีเวลาจะยืนยันเรื่องนี้หรอกท่านผู้เฒ่าหั่ว มันคงไม่คิดด้วยซ้ำว่าตราผนึกมารจะไม่อยู่ในแหวนพื้นที่มัน…เพราะสุดท้ายตราผนึกมารก็หายไปคามือขณะที่มันกำลังจะเก็บ ยึดตามสามัญสำนึกของมันๆก็ได้แต่คิดว่าตราผนึกมารถูกเก็บลงแหวนไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะหายไปไหน”

 

ต้วนหลิงเทียนส่งเสียงตอบกลับ

 

“น่ากลัวว่าต่อให้มันหลับก็ยังมิอาจฝันถึงว่าเจ้าจักมีเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ!”

 

เสียงผู้เฒ่าหั่วดังขึ้นอีกครั้ง

 

ภายในชั้นแรกของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ปรากฏร่างผู้เฒ่าหั่วยืนอยู่ ในมือพลิกหมุนป้ายศิลามุมแหว่งดูชมอย่างสนใจ…มันคือตราผนึกมาร!

 

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ตอนที่ต้วนหลิงเทียนเขวี้ยงปาตราผนึกมารเข้าใส่อี้เฟิง เขาก็ควบคุมบังคับเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติที่ถูกย่นจ่อจนมีขนาดเท่าละอองธุลีให้เกาะติดไปกับตราผนึกมารด้วย…และในเมื่อเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติถูกซ่อมแซมไปถึงชั้นที่ 3 แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็สามารถควบคุมมันได้ในระดับหนึ่ง

 

แน่นอนว่าการควบคุมที่ว่าก็เพิ่มแค่การเคลื่อนที่ไปมาเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากมาย

 

อย่างไรก็ตามแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

 

ด้วยสายอันเฉียบแหลม ต้วนหลิงเทียนย่อมจับจ้องมองความเคลื่อนไหวของอ๋องเฉียนได้ทุกอิริยาบท เมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเก็บตราผนึกมารลงแหวน เขาก็ชิงควบคุมเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติให้ดูดตราผนึกมารเข้าไปเก็บไว้เสียก่อน!

 

เนื่องจากอ๋องเฉียนไม่ได้ตรวจสอบว่าตราผนึกมารอยู่ในแหวนแล้วหรือไม่ มันย่อมคิดว่าตราผนึกมารสมควรถูกเก็บลงแหวนไปแล้วเรียบร้อย!

 

แต่มันคงไม่รู้ตัวเลย…ว่าตราผนึกมารนั้นไม่ได้อยู่ในแหวน!

 

“ดูสุนัขกัดกันเข้าเถอะ…ให้พวกมันกัดกันจนขนร่วงหมดตัวไปเลยก็ดี”

 

ต้วนหลิงเทียนมองอ๋องหรงที่กำลังรบกับอ๋องเฉียนด้วยสายตาดูแคลน เขารู้ดีว่าเรื่องนี้กว่าพวกมันจะสะสางกันได้ก็คงอีกนาน!

 

ในสายตาของเขา

 

อ๋องเฉียนที่อยากให้เขาตายย่อมเป็นศัตรูของเขา

 

อ๋องหรงเองก็มิใช่ตัวดีอันใด!

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่สนใจจะอยู่ดูผลสุนัขทั้ง 2 ที่กำลังกัดกันว่าตัวใดจะชนะ!

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้ดีว่าอีกไม่นานอ๋องเฉียนต้องค้นพบเรื่องที่ตราผนึกมารไม่ได้อยู่ในแหวนของมันเป็นแน่

 

ดังนั้นเขาจึงคิดจะจากไปทันที

 

“คุณชายใหญ่หัง…ศิษย์พี่ครูและสหายของข้า รบกวนฝากไว้ให้ท่านช่วยดูแลแล้ว”

 

ต้วนหลิงเทียนมองซือถูหังค่อยกล่าวส่งเสียงผ่านปราณแท้

 

“ปรมาจารย์ต้วน ท่านจักไปแล้วหรือ?”

 

พอได้ยินเสียงที่ส่งมาจากต้วนหลิงเทียน ซือถูหังละสายตาจากอ๋องเฉียนที่กำลังรบกับอ๋องหรงมาหันมองต้วนหลิงเทียนทันที

 

“ใช่”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ

 

ซือถูหังแน่นอนว่าต้องรบเร้าให้ต้วนหลิงเทียนอยู่ต่อ แต่แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนก็ตอบปฏิเสธไป

 

หลังจากที่กล่าวอำลาป๋ายลี่หง และเหล่าสหายอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็จากไปอย่างเงียบงัน และไม่ได้เดินทางกลับเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิงแต่อย่างไร กลับมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือแทน

 

จุดหมายต่อไปของเขาคือคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน

 

แน่นอนว่ามันเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น

 

จุดหมายปลายทางที่แท้จริงของเขาคือ คฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน!

 

ตอนที่อยู่ในเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิง ต้วนหลิงเทียนก็ได้สอบถามเกี่ยวกับที่ตั้งของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานมาแล้ว และนั่นทำให้เขารู้ว่าต้องเดินทางผ่านเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนไปกว่าครึ่งค่อน

 

ต้วนหลิงเทียนเลือกที่จะจากไปเช่นนี้ ป๋ายลี่หงและซื่อหม่าฉางฟงก็รู้สึกลังเลใจไม่น้อย ยังอยากจะติดตามไปกับต้วนหลิงเทียนด้วยซ้ำ

 

แต่พวกมันรู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปกระทำ เพราะพวกมันรู้ว่าสำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว เรื่องของคู่หมั้นทั้ง 2 นั้นสำคัญที่สุด…

 

วัตถุประสงค์การเดินทางครั้งนี้ ก็เป็นต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกออกมาด้วยตัวเอง

 

ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงไม่อยากติดตามไปเป็นภาระให้ต้วนหลิงเทียน

 

ห่างออกไปไกลๆ ตอนนี้ฝ่ายอ๋องหรงกับฝ่ายอ๋องเฉียนก็รบติดพันกันนัวเนีย

 

ฝ่ายอ๋องเฉียนนั้นนอกเหนือจากชายชราทั้ง 2 แล้ว ซือถูหมิงก็เป็นขอบเขตเซียนเช่นกัน!

 

ตอนแรกฝ่ายอ๋องเฉียนมีเซียนถึง 4 แต่อี้เฟิงถูกตราผนึกมารจัดการไปแล้วจึงเหลือแค่ 3

 

แต่ด้านอ๋องหรงก็หลงเหลือขอบเขตเซียนอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น ส่วนอีกคนได้ถูกตราผนึกมารสังหารไปแล้ว เพราะมันเป็นผู้ฝึกมารเช่นกัน!

 

เช่นนั้นจากสถานการณ์ปัจจุบันผู้ใดสูงต่ำกว่ากัน ทุกคนล้วนมองออกได้ไม่ยาก

 

ด้วยเหตุนี้อ๋องหรงจึงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเฝ้ามองอ๋องเฉียนฝ่าวงล้อมจากไป…

 

“บัดซบเอ๊ย! หากข้ารู้ว่าเรื่องราวจักเป็นเช่นนี้ข้าน่าจะพาคนมาให้มากหน่อย!”

 

ใบหน้าอ๋องหรงอัปลักษณ์ปั้นยากนัก มันเสียใจสุดแสนที่ไม่พาขอบเขตเซียนมาให้มากกว่านี้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีปัญญายุดอ๋องเฉียนเอาไว้ได้

 

“ไปกันเถอะ! เร่งกลับไปที่จวน! พวกเราจะรวบรวมคนแล้วไปเดินเล่นที่จวนอ๋องเฉียนสักครา!!”

 

พอคิดถึงเรื่องที่ตราผนึกมารตกไปอยู่ในมืออ๋องเฉียน อ๋องหรงย่อมรู้สึกไม่พอใจอย่างแรง! มันจึงกัดฟันแล้วพาทุกคนกลับจวนอ๋องหรง หมายไปรวบรวมกำลังพลแล้วบุกไปกดดันอ๋องเฉียนถึงจวน เรื่องแบ่งสันปันส่วนสิทธิ์การใช้งานตราผนึกมาร!

 

เมื่อเห็นการจากไปของอ๋องหรงและอ๋องเฉียน ทุกผู้คนก็รู้ว่าคงไม่มีเรื่องบันเทิงใจอะไรให้ดูชมอีก

 

และเมื่อหันมองย้อนไปยังตำแหน่งที่ต้วนหลิงเทียนเคยอยู่ก่อนหน้า ต่างก็พบว่าต้วนหลิงเทียนหายไปแล้วเช่นกัน

 

“อ้าว แล้วต้วนหลิงเทียนเล่า ไปที่ใดแล้ว?”

 

“เขาจากไปตั้งแต่เมื่อใดกันข้ามิทันเห็นเลย?”

 

“พวกเรามัวแต่สนใจอ๋องหรงกับอ๋องเฉียนจนลืมเรื่องอื่น จะไม่ทันเห็นเขาจากไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก…”

 

……

 

เนื่องจากไร้เรื่องราวใดๆให้ตื่นเต้นอีก ทั้งต้วนหลิงเทียนก็ไม่อยู่แล้ว ผู้คนจึงเริ่มแยกย้ายสลายตัวกันกลับทันที

 

แน่นอนว่ายังมียอดฝีมือขอบเขตเซียนอีกมากมายที่เริ่มเหินร่างแผ่สำนึกเทวะปูพรมค้นหาต้วนหลิงเทียนอย่างตั้งใจ เจตนาของพวกมันชัดเจนนัก คืออยากหาตัวต้วนหลิงเทียนให้เจอแล้วชิงวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอดมาเสีย!

 

นอกจากนี้การที่ต้วนหลิงเทียนครอบครองวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอดแถมตราผนึกมารได้! นั่นหมายความว่าอาจยังมีสมบัติเลิศล้ำอื่นใดอีกในแหวน!!

 

ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงพยายามหาตัวต้วนหลิงเทียนอย่างขยันขันแข็ง

 

อนิจจาที่พวกมันถูกลิขิตให้ผิดหวัง เพราะต้วนหลิงเทียนจากไปไกลแล้ว

 

“ลูกหัง ท่านปรมาจารย์ต้วนได้กล่าวอำลาเจ้าก่อนไปหรือไม่?”

 

ขณะเดินทางกลับตระกูลซือถูในเมืองหลวง ซือถูฮ่าวก็ส่งเสียงผ่านปราณแรกกำเนิดถามไถ่ออกมา

 

ซือถูหังพยักหน้า

 

“แล้วท่านปรมาจารย์ต้วนได้กลับไปที่ตระกูลของพวกเราหรือไม่?”

 

ซือถูฮ่าวส่งเสียงกล่าวถามออกมาอีกครั้ง

 

ซือถูหังส่ายหน้าไปมา “ฟังจากที่ท่านปรมาจารย์ต้วนกล่าว…ท่าทางท่านคงมิกลับไปเมืองหลวงอีกแล้ว และก่อนที่ท่านจะจากไปยังฝากให้ข้าดูแลปรมาจารย์ป๋ายลี่หงและคนอื่นๆให้ดี เห็นชัดว่าท่านปรมาจารย์ต้วนตั้งใจฝากฝังทุกคนไว้กับข้า”

 

“น่าเสียดายยิ่งนัก”

 

ซือถูฮ่าวถอนหายใจออกมาอย่างสะทกสะท้อน การกระทำวันนี้ของต้วนหลิงเทียนก็สร้างความตกตะลึงให้มันนัก

 

มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะมีพลังฝีมือร้ายกาจขนาดนี้ อีกทั้งยังมีตราผนึกมารอันเป็น 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติดอันดับในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ไว้ในครอบครอง!

 

ต้องทราบด้วยว่าจนถึงเมื่อวานนี้ต้วนหลิงเทียนยังเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูพวกมันอยู่เลย!

 

‘ดูเหมือนเรื่องที่นิกายหยินหมิงถูกทำลาย ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นฝีมือปรมาจารย์ต้วนเพียงคนเดียว…มีตราผนึกมารเช่นนี้ก็มิน่าแปลกใจเลยที่ท่านสามารถสังหารอาวุโสสูงสุดของนิกายหยินหมิงได้’

 

ซือถูฮ่าวลอบกล่าวในใจ

 

อย่างไรก็ตามพอคิดถึงจุดนี้ก็นึกได้ว่าตอนนี้ตราผนึกมารได้ตกไปอยู่ในน้ำมือของอ๋องเฉียน ซึ่งเป็นคู่แข่งกับอ๋องหรง ที่ตระกูลพวกมันเข้าร่วม ทำให้ซือถูฮ่าวเริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง

 

ด้วยมีตราผนึกมารอยู่ในมือ อ๋องเฉียนน่ากลัวจะเหมือนพยัคฆ์ติดปีก ยากที่จะเอาชนะได้ง่ายๆ!

 

กระทั่งอ๋องหรงก็คงยากที่จะเอาชนะ!

 

และเมื่ออ๋องหรงล้มเหลวในการขึ้นครองราชน์ ฝ่ายจวนอ๋องเฉียนก็จะได้เป็นฮ่องเต้คนต่อไป ถึงตอนนั้นน่ากลัวว่าตระกูลซือถูของมันจะไม่มีจุดจบอันดี!

 

มันรู้ซึ้งถึงความอำมหิตของอ๋องเฉียนดี!

 

เช่นนั้นแล้วพอนึกถึงเรื่องนี้ ซือถูฮ่าวจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลใจอย่างหนัก

 

ถึงแม้ป๋ายลี่หงและคนอื่นๆจะเดินทางมาพร้อมตระกูลซือถู หากแต่บทสนทนาของกลุ่มสหายต้วนหลิงเทียนกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

“บ้าเอ๊ย! เรื่องนี้ยากทำใจรับได้จริงๆ!!”

 

เฉินเฉ่าช่วยกล่าวส่งเสียงถึงทุกคนออกมาด้วยความฮึดฮัด “ตราผนึกมารนั่นเป็น 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติดรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเลยนะ! แต่กลับถูกอ๋องเฉียนฉกไปดื้อๆแบบนั้น!!”

 

“นั่นสิ! แถมอ๋องเฉียนนั่นก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอ๋องหรงที่ตระกูลซือถูสนับสนุนอีก หากอ๋องเฉียนมีอำนาจเพิ่มขึ้นมา น่ากลัวว่าจะไม่ส่งผลดีถึงพวกเราเช่นกัน”

 

หนานกงยี่ยิ้มกล่าวออกมาหน้าแห้ง

 

ซื่อหม่าฉางฟงและคนอื่นก็เป็นกังวลเช่นกัน

 

มีเพียงป๋ายลี่หงเท่านั้น ที่คล้ายจะไม่ได้เป็นกังวลกับเรื่องนี้สักเท่าไร

 

ขณะเดียวกันทางด้านอ๋องเฉียน มันก็เดินทางกลับมาถึงจวนอ๋องเฉียนเรียบร้อย

 

และเมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องเฉียน สิ่งแรกที่อ๋องเฉียนคิดกระทำก็คือ หยิบตราผนึกมารออกมาลูไล้ให้หายอยากสักครา!

 

ทว่าพอมันคิดจะเรียกตราผนึกมารออกมาลูบไล้หอมจูบให้ชื่นใจมันก็พบเรื่องราวผิดท่าประการหนึ่ง…ตราผนึกมารกลับไม่ได้อยู่ในแหวนพื้นที่ของมัน!

 

“เป็นไปไม่ได้!!”

 

นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของอ๋องเฉียน เพราะมันรู้สึกว่าการที่ตราผนึกมารไม่อยู่ในแหวนพื้นที่ของมันนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะมันเป็นคนเก็บตราผนึกมารลงแหวนด้วยตัวเอง!

 

แถมตอนนั้นข้างกายมันก็ไม่มีใครอื่น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาแย่งชิงตราผนึกมารไปจากมือมัน!

 

ต่อมาอ๋องเฉียนก็เริ่มค้นหาในแหวนพื้นที่อย่างบ้าคลั่ง พยายามมองสำรวจทุกสิ่งทุกอย่างในแหวนอย่างใจจดจ่อ ทว่าสุดท้ายก็ไม่พบตราผนึกมาร!

 

ทันใดนั้นเหงื่อเย็นเม็ดเขื่องก็เริ่มผุดซึมกลางหน้าผากอ๋องเฉียน สีหน้ายังแปรเปลี่ยนไปมหันต์ “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่? ผู้ใดสามารถบอกข้าได้บ้างว่านี่มันเรื่องผีสางอันใด!?”

 

ตอนนี้เองอ๋องเฉียนอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกใจ ทั้งไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

“องค์ชาย 4 เกิดอันใดขึ้นหรือท่าน?”

 

ตอนนี้เองชายชราทั้ง 2 ด้านหลังอ๋องเฉียนก็พบว่าสีหน้าท่าทางของอ๋องเฉียนผิดปกติ จึงเร่งถามออกมาทันที และพอพบว่าตราผนึกมารไม่อยู่ในแหวนพื้นที่ของอ๋องเฉียน พวกมันก็ชักหน้าเหวอทันที

 

เกิดอันใดขึ้นกัน!?

 

วาจาของอ๋องเฉียนนั้น พวกมันรู้ดีว่าไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอน!

 

เพราะพวกมันได้กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าไปแล้ว ว่าจะจงรักภัคดีอยู่ติดตามข้างกายอ๋องเฉียน ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงรู้ดีว่าอ๋องเฉียนไม่จำเป็นต้องหลอกลวงอะไรพวกมันเลย!