ตอนที่ 1639

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,639 : เรื่องราวที่พลิกตลบ!

 

เพียงเวลาชั่วอึดใจ ตราผนึกมารก็ลอยล่องมาถึงเบื้องหน้าอ๋องเฉียน ไอพลังทมิฬที่ปกคลุมอยู่ค่อยๆสลายหายไป

 

หลังจากนั้นตราผนึกมารที่เห็นกันชัดถนัดตาว่าเป็นป้ายหินมุมแหว่ง ก็ค่อยๆร่อนลงบนมืออ๋องเฉียน!

 

การที่ได้ถือตราผนึกมารเอาไว้ในมือ ทำให้อ๋องเฉียนรู้สึกลิงโลดใจนัก!

 

และตอนนี้ทุกสายตาที่อยู่ในเขาเป่ยหมัง นอกจากต้วนหลิงเทียนแล้ว…ล้วนจับจ้องไปยังอ๋องเฉียนทั้งสิ้น!

 

กล่าวให้ชัดคือจับจ้องไปยังตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียน!

 

ตราผนึกมารนั้น ด้วยความที่เป็นสิ่งของที่พวกมันเคยได้ยินแต่ในตำนาน ทั้งหมดจึงสนอกสนใจกันไม่น้อย

 

ฟั่บ!

 

แต่ทว่าในขณะที่ทุกสายตาไม่เว้นหลินตงกำลังจับจ้องมองไปยังตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียนนั้นเอง พลันมีเสียงกระบี่หอนขึ้นมาเบาๆ ยังเบาเสียราวกับเสียงจั๊กจั่นกระพือปีกดังขึ้นในอากาศ ก่อนที่จะหายไปในชั่วพริบตา!

 

คงมีเพียงยอดฝีมือในขอบเขตเซียนเท่านั้นที่จะสามารถได้ยินเสียงหอนของกระบี่ดังกล่าวได้

 

ในบรรดาผู้คนเหล่านั้น…รวมถึงหลินตงด้วย!

 

“แย่แล้ว!!”

 

พร้อมกันกับที่ได้ยินเสียงหอนของกระบี่ หลินตงก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังอันน่าหวาดกลัวกำลังปรี่ตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง กลิ่นอายพลังดังกล่าวยังอัดแน่นไปด้วยเจตนาฆ่าฟันอันอำมหิต! สีหน้าของมันเปลี่ยนเป็นหวาดผวาเสียขวัญทันที!!

 

และโชคชะตาของมันได้กำหนดเอาไว้แล้ว ว่าสีหน้านี้จะเป็นสีหน้าสุดท้ายในชีวิตของมัน!!

 

เมื่อยอดฝีมือขอบเขตเซียนหันกลับมา พวกมันก็เห็นคลื่นกระบี่สะบั้นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งแหวกฟ้าหายไปไวๆ

 

ขณะเดียวกัน ร่างหลินตงก็ถูกผ่ากลางจากกระหม่อมถึงหว่างขา ร่างแยกออกเป็นสองเสี่ยง…!

 

ส่วนอีกด้าน ต้วนหลิงเทียนที่เผชิญหน้ากับหลินตง ในมือถือไว้ด้วยกระบี่เล่มหนึ่ง!

 

อย่างไรก็ตามกระบี่ในมือเขากลับไม่ใช่กระบี่นิลสวรรค์แต่อย่างไร มันเป็นกระบี่พลังมีสภาพที่ควบแน่นจากปราณแท้ที่เขาสลับสับเปลี่ยนด้วยความเร็วสูง! แถมด้วยเจตนาฆ่าฟันที่ยังไม่ดับลง พาลให้ตัวกระบี่ยังคงเปล่งกลิ่นอายพลังสังหารออกมาอย่างน่ากลัว!!

 

“นี่มัน…”

 

เมื่อเห็นว่าหลินตงตกตายไปแล้ว สติเหล่าเซียนจึงกลับมาแจ่มใสอีกครั้ง พวกมันมองเรื่องราวด้วยสายตาอื้ออึง เพราะไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้!!

 

หลินตงที่ทะลวงถึงขอบเขตเซียนแล้ว…กลับถูกต้วนหลิงเทียนสังหารในกระบี่เดียวงั้นหรือ?!

 

‘เพราะความสนใจของหลินตงอยู่ที่ตราผนึกมารมิผิดแน่ จึงได้ถูกต้วนหลิงเทียนลอบโจมตีสังหารไปเช่นนี้!’

 

ครู่ต่อมาในใจของเหล่าขอบเขตเซียนทั้งหลายก็ได้แต่คาดเดากันไปเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตามการคาดเดาเรื่องนี้ ไม่นานก็ถูกปัดตกไปจากหัวของพวกมัน

 

ผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกปรือในขอบเขตสู่เซียน ต่อให้ลอบโจมตีอย่างไร…แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะสังหารตัวตนในขอบเขตเซียนลงได้แบบนี้…ถึงแม้ขอบเขตเซียนที่ว่าจะพึ่งทะลวงผ่านมาได้ก็ตาม!

 

ช่องว่างระหว่างสู่เซียนกับขอบเขตเซียนนั้น มากมายเกินไป! ยังห่างกันประหนึ่งสวรรค์และโลก…ไม่มีทางหักลบกลบความต่างได้เลย!!

 

ดังนั้นถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะลอบโจมตี แต่หลินตงก็ไม่น่าจะตกตายได้!

 

อนิจจาความจริงตั้งอยู่เบื้องหน้าทั้งเห็นตำตา พวกมันไม่เชื่อก็จำต้องเชื่อ!

 

อย่างไรก็ตาม มีแต่เหล่าขอบเขตเซียนเท่านั้นที่รับรู้ถึงเรื่องนี้ สำหรับผู้อื่นความสนใจของทั้งหมดยังอยู่ที่ตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียน แรงดึงดูดและยั่วยวนใจของตราผนึกมารมันสูงเกินไป พวกมันจึงไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าหลินตงถูกฆ่าตายไปแล้ว!

 

แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพราะพวกมันไม่ได้ยินเสียงหอนของกระบี่ ที่เกิดจากกระตวัดกระบี่อันฉับไว!

 

ส่วนบรรดาขอบเขตเซียนทั้งหลาย หลังถูกการกระทำของต้วนหลิงเทียนทำให้ตกใจ พวกมันก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเหลือเชื่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะละสายตาไปสนใจตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียนเหมือนเดิม!

 

การตายของหลินตง ตราผนึกมาร

 

ระหว่างทั้งคู่เห็นได้ชัดว่าตราผนึกมารน่าสนใจมากกว่า

 

“เรียนท่านอ๋อง…หลินตงตายแล้ว”

 

ตอนนี้เองชายชราทั้ง 2 ที่หันกลับมาสนใจตราผนึกมาร เร่งกล่าวเตือนอ๋องเฉียนออกมาทันที

 

“ว่าอะไร!?”

 

ได้ยินวาจานี้จากชายชราทั้ง 2 อ๋องเฉียนเสมือนถูกน้ำเย็นราดรดศีรษะ มันฟื้นความรู้สึกจากอาการตื่นเต้นดีใจทันที

 

พอหันไปมองยังเหนือฟ้าทิศทางก่อนหน้า และพบว่าคงเหลือแต่ละอองโลหิตจางๆ แต่ไร้ร่างหลินตง ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

 

“นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่!? ผู้ใดฆ่ามัน!?”

 

อ๋องเฉียนรู้สึกงุนงงสงสัย ด้วยไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง

 

แน่นอนว่ามันไม่เคยมีความคิดที่ว่าหลินตงจะถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าอยู่ในหัวแม้แต่นิดเดียว เพราะต้วนหลิงเทียนจะอย่างไรก็ยังอยู่ในขอบเขตสู่เซียน เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังฝีมือคุกคามหลินตง!

 

ตอนนี้เอง หลายๆคนก็เริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของอ๋องเฉียน ยังเริ่มหันมองไปทางเดียวกับอ๋องเฉียน

 

“อ้าว…หลินตงไปที่ใดแล้ว?!”

 

“ไฉนอยู่ดีๆหลินตงถึงหายตัวไปเล่า!?”

 

……

 

หลายคนที่ตระหนักถึงเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ และหลังจากหันมองไปเหนือฟ้าโดยรอบสักพักก็ไม่มีใครเห็นหลินตงแม้แต่คนเดียว

 

หากพวกมันก้มลงไปมองที่พื้นเขาเป่ยหมังสักนิด คงสังเกตุเห็นซากร่างเลอะเลือน 2 เสี่ยงได้ไม่ยาก

 

ถึงแม้เหล่าขอบเขตเซียนจะรู้ดีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ด้วยพวกมันกำลังให้ความสนใจกับตราผนึกมารกันอยู่ จึงไม่มีใครคิดจะกล่าวอธิบายออกมา ทำให้ผู้คนสงสัยกันไปอีกพักหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม การหายตัวไปของหลินตงก็ไม่ทำให้ผู้คนสนใจอยู่นาน

 

เพราะตราผนึกมารเป็นอะไรที่สร้างความสนใจให้พวกมันมากกว่า

 

“ศิษย์น้อง หลินตงมัน…”

 

ป๋ายลี่หงที่แม้จะคาดเดาอะไรได้ออก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงผ่านปราณแท้กล่าวถามออกมา

 

“ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล หลินตงนั่นมันตายแล้ว ไม่อาจเป็นภัยให้ข้าสืบไป…”

 

ต้วนหลิงเทียนส่งเสียงตอบกลับ

 

“เจ้าใช้กระบี่เล่มนั้นหรือ?”

 

ป๋ายลี่หงถามถึงกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนเคยใช้ออกมา เพราะสำหรับมันแล้วนอกจากกระบี่เล่มดังกล่าวมันก็คิดไม่ออกจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในขอบเขตสู่เซียนจะฆ่าหลินตงที่ทะลวงผ่านเซียนได้อย่างไรอีก

 

“ใช่”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ เพราะเมื่อครู่เขาใช้กระบี่นิลสวรรค์ฆ่าหลินตงที่พึ่งทะลวงถึงขอบเขตเซียนจริงๆ

 

“มิได้เปิดเผยใช่หรือไม่?”

 

ป๋ายลี่หงกล่าวถามออกมาอีกครั้ง

 

“ไม่แน่นอน”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัว พร้อมอธิบายออกมา “ในขณะที่ข้าลงมือ ความสนใจของทุกคนไม่เว้นหลินตงล้วนอยู่ที่ตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียนทั้งสิ้น ไม่มีใครมองมาทางข้าเลย…กว่าที่พวกมันจะรู้ตัว ข้าก็ชิงเก็บกระบี่นั่นและเปลี่ยนไปถือกระบี่พลังแทนแล้ว”

 

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ป๋ายลี่หงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ศิษย์น้อง เจ้ามิน่าเปิดเผยเรื่องตราผนึกมารนี่ออกมาเลย แล้วนี่เจ้าคิดมอบให้อ๋องเฉียนเช่นนี้จริงๆหรือ?”

 

“เรื่องนั้นจะเป็นไปได้ยังไงเล่า..ศิษย์พี่ท่านรอชมเรื่องสนุกสนานเถอะ!”

 

ต้วนหลิงเทียนส่งเสียงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ในน้ำเสียงยังแฝงไว้ด้วยความสนุกสนานพิกล

 

ป๋ายลี่หงพอได้ยินก็ถึงกับอึ้งไปตาปริบๆ มันยังหันไปมองตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียนทันที

 

ในขณะที่ทุกสายตาของผู้คนหันกลับมาสนใจตราผนึกมารอีกครั้ง อ๋องเฉียนที่สัมผัสได้ถึงสายตาละโมบจากทั่วสารทิศ รวมถึงตระหนักได้ถึงความเสี่ยงจากการครอบครองสิ่งของเลิศล้ำ มันก็ระงับความยินดีเร่งเก็บตราผนึกมารทันที

 

เพียงห้วงคิด ตราผนึกมารก็อันตรธานหายไปจากมือของมัน

 

พอมันคิดว่าเก็บตราผนึกมารลงแหวนมิติเรียบร้อยดีแล้ว ก็เร่งหันไปกล่าวกับชายชราเสียงเข้มทันที “พวกเรารีบกลับจวนเถอะ!”

 

หลังกล่าวจบ อ๋องเฉียนก็กลับหลังหันเตรียมตัวออกเดินทางทันที

 

จังหวะนี้คล้ายมันจะลืมเลือนการตายของหลินตงไปหมดสิ้น

 

แต่ในเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว มันคิดจะไปก็ไปได้ง่ายๆหรือ?

 

“น้องสี่มีคำกล่าวที่ว่า ‘พบด้วยกันก็ต้องแบ่งปัน’ เจ้าคงมิคิดฮุบตราผนึกมารนั่นเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวหรอกนะ?”

 

เสียงอ๋องหรงพลันดังขึ้นในขณะที่อ๋องเฉียนจะจากไป อีกทั้งยอดฝีมือขอบเขตเซียนทั้ง 2 ที่เคยอยู่ข้างกายก็พุ่งไปขวางหน้าอ๋องเฉียนเอาไว้ หากอ๋องเฉียนไม่คิดแบ่งปันน้ำแกงสักถ้วย วันนี้มันไม่คิดปล่อยให้อ๋องเฉียนจากไปง่ายๆ!!

 

มันสูญเสียยอดฝีมือขอบเขตเซียนไปคนหนึ่ง ทำให้ทุกข์ใจนัก!

 

หากตอนนี้อ๋องเฉียนเอาตราผนึกมารจากไปดื้อๆ ไม่ได้หมายความว่ามันเสียยอดฝีมือขอบเขตเซียนไปหนึ่งคนอย่างสูญเปล่ารึไง?

 

มันย่อมหวังจะได้อะไรชดเชยเป็นธรรมดา!!

 

แน่นอนว่าต่อให้ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของมันจะไม่ตกตาย แต่มันก็ไม่มีทางให้อ๋องเฉียนหยิบชิ้นปลามันจากไปคนเดียวง่ายๆแบบนี้ ตราผนึกมารมีค่าเกินกว่าจะปล่อยผ่านไป!!

 

เมื่อเห็นอ๋องหรงเคลื่อนมาขวางทางเอาไว้ สีหน้าอ๋องเฉียนก็มืดดำลง ตะโกนออกไปเสียงแข็ง “พี่รอง! ตราผนึกมารนี้เป็นต้วนหลิงเทียนจงใจมอบให้ข้า เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย!?”

 

“เหอะ!”

 

อ๋องหรงพ่นลมเสียงเย็น ไม่แยแสวาจานี้ของอ๋องเฉียน

 

ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น มันต้องได้ส่วนแบ่งกลับไปให้จงได้! แม้จะไม่ได้ตราผนึกมารมาครอง แต่มันต้องได้สิทธิ์ใช้งาน ไม่มีทางปล่อยให้อ๋องเฉียนยึดไปคนเดียวเป็นแน่!!

 

อิทธิพลของตราผนึกมารมหาศาลเพียงใดไหนเลยมันจะไม่ล่วงรู้!

 

หากอ๋องเฉียนผูกขาดตราผนึกมารไปแต่ผู้เดียว ยังจะต่างอะไรกับติดปีกให้พยัคฆ์!

 

ในฐานะที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองกับอ๋องเฉียน อ๋องหรงไม่คิดให้อ๋องเฉียนใช้ตราผนึกมารเพิ่มขุมพลังอย่างไม่รู้จบฝ่ายเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะปล่อยมือจากตราผนึกมาร!!

 

นอกเหนือจากคนของจวนอ๋องหรงแล้ว ตอนนี้ทุกสายตาจากทั่วสารทิศไม่เว้นยอดฝีมือจากขุมพลังต่างๆที่มาดูชมการประลองก็เผยความโลภในตราผนึกมารให้เห็นกันชัดเจน อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับขุมพลังของจวนอ๋องหรงและจวนอ๋องเฉียน พวกมันก็ได้แต่ถอดใจในเรื่องนี้

 

ขณะเดียวกันเหล่าขอบเขตเซียนบางคนก็เริ่มกล่าวบอกเรื่องราวให้กับสหายหรือศิษย์ที่มา..ว่าต้วนหลิงเทียนได้ลอบสังหารหลินตงไปแล้ว!

 

ทันใดนั้นพอเรื่องเริ่มแพร่กระจายออกมา ฝูงชนก็แตกตื่นกันยกใหญ่!

 

ต้วนหลิงเทียนลอบจู่โจมสังหารหลินตงในกระบี่เดียว?

 

ถึงแม้ ‘ลอบโจมตี’ จะฟังดูต่ำช้า แต่การที่ตัวตนที่ยังไม่บรรลุขอบเขตเซียนสามารถลอบโจมตี กระทั่งสังหารตัวตนที่บรรลุขอบเขตเซียน…ถึงจะพึ่งทะลวงผ่านมาได้ ก็เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจนัก!

 

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนจึงกลายเป็นจุดสนใจครั้งใหญ่อีกครั้ง

 

“ต้วนหลิงเทียน…กลับลอบจู่โจมสังหารหลินตงได้จริงๆ?”

 

“ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าคว่ำดินนัก! ตอนที่ต้วนหลิงเทียนเผยความเร็วเหนือชั้น ข้าก็คิดว่าหลินตงคงต้องตายแน่แล้ว…อย่างไรก็ตามพอหลินตงทะลวงผ่านไปถึงขอบเขตเซียน ข้าก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนกลับเป็นฝ่ายที่ต้องตายแทน แต่มิคิดมิฝันเลยจริงๆว่าสุดท้ายคนที่ตกตายยังเป็นหลินตง!!”

 

“หลินตงนั่นมิพ้นเป็นเหมือนพวกเรา ที่มัวแต่ไปสนใจตราผนึกมารในมืออ๋องเฉียน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทันระวังต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วต้วนหลิงเทียนคงลอบสังหารมิสำเร็จ!”

 

“ฮึ่ม! ลอบสังหารแล้วจะอย่างไร! อาศัยขอบเขตสู่เซียนแต่สังหารขอบเขตเซียนได้ ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ข้ามิเคยได้ยินมาก่อน! ถึงจะเป็นการลอบโจมตี แต่ข้าก็ไม่เคยได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว!!”

 

“ถูกแล้ว! ต่อให้ครั้งนี้ต้วนหลิงเทียนจะอาศัยการลอบโจมตีสังหารผู้คน แต่ก็สมควรภาคภูมิใจ! สุดท้ายนั่นมันก็ขอบเขตเซียนมิใช่หมูหมากาไก่ ผู้อื่นยังอาศัยขอบเขตพลังสู่เซียนกระทำได้หรือ? หากใครกล้าบอกว่าทำได้ ไปทำให้ข้าพเจ้าดูที!!”

 

……

 

ตอนแรกคำ ลอบโจมตี คล้ายจะเป็นการกระทำอันต่ำช้าไร้ยางอาย

 

แต่พอเกิดขึ้นกับสู่เซียนที่ลอบโจมตีสังหารขอบเขตเซียน จึงไม่มีใครคิดว่าสู่เซียนจะไร้ยางอาย!

 

ยิ่งไปกว่านั้น ต้วนหลิงเทียนกับหลินตงก็กำลังประลองเป็นตายกันอยู่

 

ในเมื่อเป็นหลินตงที่ฟุ้งซ่านเหม่อลอยจนตายตก ก็ล้วนเป็นเพราะมันประมาทผู้อื่นเองทั้งสิ้นยังจะไปโทษผู้ใดได้?

 

“ท่านปรมาจารย์ต้วนฆ่าหลินตง!!”

 

ทางกลุ่มตระกูลซือถู นอกจากซือถูหังกับซือถูโฮ่วที่พบว่าต้วนหลิงเทียนฆ่าหลินตงได้แต่แรก ซือถูหังและคนอื่นๆก็ตกใจกันไม่น้อย พวกมันไม่คิดไม่ฝันเลยว่ากระแสเรื่องราวจะพลิกกลับได้อย่างอัศจรรย์ขนาดนี้!

 

ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้พวกมันพากันสิ้นหวังกันแล้ว!

 

“ฮ่าๆๆๆ…เจ้าต้วนนี่มันร้ายกาจจริงๆ! หลินตงมันจะทะลวงถึงขอบเขตเซียนแล้วอย่างไรเล่า! สุดท้ายก็มันถูกเจ้าต้วนฟันฉับเดียวซี้แหงแก๋มิใช่หรือไร!?”

 

เฉินเฉ่าช่วยหัวเราะออกมาดังลั่น ใบหน้ายังเผยความภาคภูมิใจออกมาราวกับคนที่ฆ่าหลินตงเป็นมันเองไม่ใช่ต้วนหลิงเทียน

 

“ไฉน…ถึงเป็นเช่นนี้ไปได้…ไฉนถึงเป็นเช่นนี้…”

 

ในบรรดาคนของจวนอ๋องเฉียนนั้น เยี่ยมู่ไป๋ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างยากจะยอมรับ มันไม่อาจยอมรับความจริงที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าหลินตงได้