บทที่ 524 จากเรี่ยวแรงของเสด็จอาเก้า ครั้งเดียวคงไม่พอ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 524 จากเรี่ยวแรงของเสด็จอาเก้า ครั้งเดียวคงไม่พอ
ค่ำคืนอันลึกล้ำ ความรักอันเข้มข้น ภายในห้องแสงไฟสลัวทำให้เกิดความคลุมเครือและกำกวม หลังจากที่เสด็จอาเก้ากดเฟิ่งชิงเฉินลงไปที่เตียงแล้ว มือซ้ายของเขาก็ปลดเสื้อผ้านางออกอย่างคล่องแคล่ว

เมื่อร่างกายเห็นเย็นวาบ เฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกสร่างจากสุราขึ้นมาบ้างเล็กน้อย นางเข้าใจสถานการณ์ของทั้งสองคนในตอนนี้ และเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้มีท่าทีจะปฏิเสธ มีเพียงสถานการณ์เช่นนี้เท่านั้นนางจึงจะรู้สึกว่าตนและเสด็จอาเก้าใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก ในเมื่อไม่ต้องการปฏิเสธก็เพียงสนุกไปกับมัน เสด็จอาเก้าจะกลับจวนแล้ว ดูจากภายนอกแม้เหมือนนางจะไม่สนใจ แต่ในความเป็นจริงนางก็ไม่อยากจากเขาไป ทว่าไม่อาจทำสิ่งใดได้ หากว่าเสด็จอาเก้ายังไม่ไปละก็ นางคงจะถูกลากไปจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำเป็นแน่

เฟิ่งชิงเฉินขยับร่างกายเล็กน้อย เพื่อให้ตัวเองนอนสบายกว่าเดิม ตอนที่เสด็จอาเก้าใช้มือซ้ายปลดเปลื้องเสื้อผ้าและกางเกงชั้นในของนางออก เฟิ่งชิงเฉินซึ่งนึกขึ้นได้ว่ามื้อกลางวันนางถูกหลอกเข้าแล้ว

ด้วยฤทธิ์ของสุรา นางใช้มือทั้งสองข้างเกี่ยวไปที่คอของเสด็จอาเก้า ปลายลิ้นของนางสัมผัสไปยังปลายหูของเสด็จอาเก้าเบาๆ แล้วกล่าวขึ้นอย่างมีเสน่ห์ว่า “ตงหลิงจิ่ว มือซ้ายของเจ้าช่างคล่องแคล่วยิ่งนัก มองดูแล้วต่อให้มือขวาของเจ้าบาดเจ็บมากมายเพียงไร ก็ไม่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเจ้าเลย”

ขณะที่กล่าวนางก็พลิกตัวแล้วบังเอิญไปทับที่แขนข้างขวาของเสด็จอาเก้าซึ่งได้รับบาดเจ็บ

เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีถึงอาการบาดเจ็บของแขนข้างขวาของเสด็จอาเก้าว่าเป็นเช่นไร หลังจากลงโทษเขาเล็กน้อยแล้วนางก็ได้ขยับออกอย่างเชื่อฟัง เพราะหากมือของเสด็จอาเก้าใช้ไม่ได้ขึ้นมาล่ะก็คนที่รู้สึกเสียใจเป็นคนแรกคงจะเป็นนาง

เมื่อเผชิญหน้ากับการกระทำเช่นนี้ของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าไม่แม้แต่หน้าเปลี่ยนสี คิ้วของเขาไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย ได้แต่เผยอริมฝีปากยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฮูหยินพึงพอใจก็พอแล้ว”

บนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินบัดนี้มีเพียงผ้าที่ปิดร่างกายอยู่อีกชิ้นหนึ่ง รูปร่างอันเย้ายวนใจของเฟิ่งชิงเฉินทำให้เสด็จอาเก้าไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาก้มศีรษะลงไปบรรจงจูบที่ริมฝีปากของนางอย่างเร่าร้อนและดุเดือด ราวว่าจะกินเฟิ่งชิงเฉินเข้าไปทั้งตัว

“เฟิ่งชิงเฉิน ข้าคิดถึงเจ้า คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”

ริมฝีปากเขายุ่งอยู่ในการพัวพันกับเฟิ่งชิงเฉิน มือซ้ายที่ไม่ได้บาดเจ็บของเขาก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เนื่องจากมือขวาได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ดังนั้นมือซ้ายจึงค่อนข้างที่จะยุ่ง มือซ้ายของเขาอยู่ที่ด้านหน้าตรงหน้าอกของเฟิ่งชิงเฉิน แล้วคลึงไปยังจุดอันนุ่มนวล

“อืม……อ่า” เพียงแค่จูบหนึ่งเท่านั้นแต่กลับทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเร่าร้อนไปทั้งร่างกาย ในใจของนางดูเหมือนมีไฟถูกจุดขึ้น ช่องท้องแน่น มีความร้อนไหลลงสู่ด้านล่าง ขาของนางเปิดออกโดยธรรมชาติ ท่าทางราวกับว่าเชิญท่านเข้ามาเด็ดดอมได้ตามสมอารมณ์หมาย เฟิ่งชิงเฉินบิดร่างกายของนางไปมาด้วยท่าทางกระสับกระส่าย ดวงตาอันคลุมเครือคู่นั้นแฝงถึงความประหลาดใจขึ้นมา

เป็นไปเช่นนี้ได้อย่างไร เสด็จอาเก้าคงไม่ได้วางยานางหรอกใช่หรือไม่? แต่คงไม่ใช่ เสด็จอาเก้าไม่ใช่คนเช่นนั้น ถ้าอย่างนั้นสุรานั้นต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ เฟิ่งชิงเฉินนึกถึงเรื่องราวขององค์หญิงเหยาหวาและลั่วอ๋องขึ้นมา

หึๆ……เฟิ่งชิงเฉินคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่ามีอยู่วันหนึ่งเสด็จอาเก้าจะใช้กลยุทธ์นี้กับนาง ชายผู้นี้อยากจะปีนขึ้นมาบนเตียงนางมากเหลือเกิน วิธี ต่ำต้อยเช่นนี้เขายังคิดออกมาได้

เสด็จอาเก้าให้ความสนใจกับท่าทางการแสดงออกของเฟิ่งชิงเฉินตลอดเวลา เนื่องจากเขากลัวว่าตนเองจะรีบร้อนมากเกินไปจนทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกไม่สบายตัว เมื่อเฟิ่งชิงเฉินโมโหขึ้นแล้วจะเตะเขาลงจากเตียง เมื่อพบว่าแววตาของเฟิ่งชิงเฉินดูไม่สบายใจก็รู้ได้ว่านางกำลังคิดบางอย่างอยู่ ใช่แล้ว เขาใช้กลยุทธ์บางอย่างกับนาง แต่เขาจะไม่ทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อนางแน่

เขาเพียงแค่ต้องการทำให้ร่างกายของนางอ่อนไหวมากขึ้น และง่ายต่อการเพลิดเพลินในช่วงเวลาเช่นนี้ เนื่องจากสตรีและบุรุษแตกต่างกัน ผู้ชายเพียงแค่ได้ส่งใส่เข้าไปและปลดปล่อยออกมาก็จะรู้สึกถึงความสุข แต่ผู้หญิงความรู้สึกดีโดยมากแล้วจะเกิดขึ้นกับการเล่าโลมก่อนหน้า การเล้าโลมคือความสุขของสตรี เช่นนี้นางก็จะได้ไม่ปฏิเสธในช่วงเวลาสำคัญ……

ริมฝีปากของเสด็จอาเก้าเผยอขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย เขากดทับอยู่บนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินแล้วเข้าไปแนบหู กระซิบข้างนางด้วยความล้อเลียนว่า “ชิงเฉิน ร่างกายเร่าร้อนมากใช่ไหม ต้องการให้ข้าก่อนเจ้าหรือไม่ เจ้าอยากให้ข้าเข้าไปใช่หรือไม่”

“เหอะ” คำถามเช่นนี้จะให้นางตอบอย่างไร เฟิ่งชิงเฉินเบือนหน้าหนี ขาทั้งสองข้างของนางพัวพันอยู่กับข้าของเสด็จอาเก้า

นางไม่เชื่อหรอกว่ามีนางคนเดียวที่ต้องการแล้วเสด็จอาเก้าไม่ต้องการ เสด็จอาเก้าควรจะต้องการมากกว่าที่นางคิดเสียอีก

เสด็จอาเก้าหัวเราะออกมาเบาๆ ในวันนี้เขาจะไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ แน่ เขาพยุงตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วบรรจงจูบไปที่ใบหูของเฟิ่งชิงเฉินไปมาด้วยปลายลิ้น “ชิงเฉิน หากเจ้าไม่ตอบ ข้าจะไม่ขยับเขยื้อน” มือซ้ายของเขาเคลื่อนไปอยู่ที่หน้าอกของเฟิ่งชิงเฉิน แล้วบีบหน้าอกอันอ่อนนุ่มของนางอย่างแรง

“โอ้ย” เฟิ่งชิงเฉินร้องออกมาด้วยความเจ็บ ร่างของนางเด้งขึ้นเล็กน้อย บริเวณที่ลับของนางชนเข้ากับจุดแข็งของเสด็จอาเก้าพอดี เสด็จอาเก้าปล่อยมือออกแล้วค่อยๆ คลึงมันอย่างเบามือ เฟิ่งชิงเฉินหายใจเหนื่อยหอบว่า “เจ้าจะกล่าวสิ่งใดอีก ผู้ที่เจ้าเล่ห์เอาเปรียบอย่างเจ้า ยังไม่รีบ……”

“อืม……”

เสด็จอาเก้ากัดไปที่ปลายหูของเฟิ่งชิงเฉินเบาๆ เฟิ่งชิงเฉินอดทนไม่ไหวและร้องออกมาอีกครั้ง นางแทบจะคลั่งแล้ว ชายคนนี้ต้องการจะทรมานนางหรืออย่างไร

“ตกลง ข้าจะรีบเร่ง”

ดูเหมือนเสด็จอาเก้าจะชื่นชอบท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินที่ครึ่งตื่นครึ่งสร่างเมาเช่นนี้เหลือเกิน เขาชื่นชมอยู่สักครู่ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปยังอาณาเขตต่อไปบนร่างนาง เขาหยุดการกระทำจู่โจมด้วยคำพูดแล้วใช้ความเคลื่อนไหวมายึดครองร่างกายของนางแทน

เสด็จอาเก้ากัดไปที่ยอดปทุมของเฟิ่งชิงเฉินเบาๆ มือใหญ่ของเขาเคลื่อนตัวลงไปด้านล่างแล้วหยุดอยู่บริเวณหน้าท้อง ปลายนิ้วของเขากำลังหยอกล้อบริเวณสะดือของนางเบาๆ

เสด็จอาเก้าจำได้ว่าบริเวณนี้ของเฟิ่งชิงเฉินค่อนข้างที่จะอ่อนไหว และเป็นจริงดังนั้นเขาเพียงแค่สัมผัสมันเบาๆ ลมหายใจของเฟิ่งชิงเฉินก็ดูไม่เป็นจังหวะ ร่างกายของนางอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ

“ตงหลิงจิ่ว เจ้าอย่าได้ทรมานข้าได้หรือไม่ หากเจ้าไม่รีบ ก็ปล่อยข้าไปเถิด” เฟิ่งชิงเฉินผลักเสด็จอาเก้าออก แต่คิดไม่ถึงว่าแม้มีเสื้อผ้ากันอยู่ แต่ตอนที่เฟิ่งชิงเฉินสัมผัสไปที่บริเวณหน้าอกของเสด็จอาเก้า มือทั้งคู่ก็เกิดเป็นปฏิสติสัมปชัญญะขึ้นมา นางสัมผัสลูบไล้ไปที่แผ่นอกของเขา แล้วเคลื่อนลงไปที่เอวของเสด็จอาเก้าอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบปลดเสื้อผ้าของเสด็จอาเก้าออก……

เฟิ่งชิงเฉินแอบตำหนิตนเองในใจว่าเหตุใดนางจึงเป็นดั่งเช่นสตรีผู้มักมากในกาม แต่มือของนางนั้นก็เคลื่อนไหวอย่างกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น ไม่อาจจะยับยั้งความปรารถนาในใจลงไปได้ นางต้องการเสด็จอาเก้า อยากได้ผู้ชายคนนี้มากเหลือเกิน ต้องการให้เขากอดนางเติมเต็มนาง……

สุราของเสด็จอาเก้าต้องผิดปกติไปอย่างแน่นอน เฟิ่งชิงเฉินคิดเช่นนั้น และเมื่อพบเข้ากับเหตุผลแล้วนางก็ไม่ได้ยับยั้งตนเองอีกต่อไป แต่กลับเปลื้องเสื้อผ้าของเสด็จอาเก้าออกทันที

เป็นเรื่องปกติที่ชายหนุ่มหญิงสาวจะทำเรื่องรักต่อกัน นางกับเสด็จอาเก้าไม่ได้เพิ่งจะทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก นางจะเขินอายทำไมกัน นางจะกระตือรือร้นหน่อยเป็นไร

มือทั้งสองข้างโอบอยู่ที่เอวของเสด็จอาเก้าแล้วลูบมันไปมา เอวของเขาช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกินน่าอิจฉายิ่ง

เฟิ่งชิงเฉินต้องการที่จะบีบเนื้อบริเวณเอวของเสด็จอาเก้าเล็กน้อย แต่บริเวณนั้นไม่มีเนื้อส่วนเกินออกมาเลย ทำให้นางต้องล้มเลิกความตั้งใจ แล้วโยกย้ายมือไปที่อื่น

ดวงตาของนางหมุนรอบ เฟิ่งชิงเฉินพบจุดสีแดงเล็กๆ สองจุดอยู่ที่หน้าอกของเสด็จอาเก้าด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์นั้น เฟิ่งชิงเฉินโอบเอวของเสด็จอาเก้าขึ้น แล้วพายุร่างของนางขึ้นมาเงยหน้ากัดไปที่จุดสีแดงตรงหน้าอกของเสด็จอาเก้าอย่างแรง

“อา……” เสด็จอาเก้าหายใจออกมาด้วยความเจ็บแต่กลับรู้สึกเหมือนถูกย้อมไปด้วยความรัก เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเสียงนั้นที่ข้างหูทำให้นาง รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นไปทั่วร่างกาย ความร้อนไหลไปตรงหว่างขาของนาง

ในเวลานี้มือของเสด็จอาเก้าก็เคลื่อนลงไปด้านล่าง ฝ่ามือของเขาปกคลุมส่วนลับของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้ความเร่าร้อนพุ่งทะยานสู่หัวใจของเขา

หัวใจของเสด็จอาเก้าสั่นคลอนเล็กน้อย เขากลืนน้ำลายลงคอ ในใจแอบคิดว่า สุราที่บ่มเพาะเอาไว้ของราชวงศ์ก่อนไม่ธรรมดาจริงๆ

เขาจำได้เป็นอย่างดีว่าในครั้งก่อนต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก กว่าบริเวณนั้นของเฟิ่งชิงเฉินจะดูชุ่มชื้นขึ้น แต่ในครั้งนี้เขาเพิ่งจะเล้าโลมนางไปได้ครึ่งหนึ่ง บริเวณที่ลับของเฟิ่งชิงเฉินก็เปียกชุ่มเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งสองจึงจะเสพสุขได้อย่างราบรื่น

เสด็จอาเก้ารู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินเตรียมพร้อมแล้วในบัดนี้ ส่วนบริเวณนั้นของเขาก็ลุกตั้งมาตั้งนานแล้ว เขาจ้องมองไปยังที่รับของเฟิ่งชิงเฉินแต่ยังไม่ได้รีบร้อนจะสอดใส่

เขาจำได้ดีว่าในครั้งก่อน ตอนที่เขาสอดใส่เข้าไปนั้นสีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินดูทรมานเหลือเกิน นางเพิ่งประมีประสบการณ์เช่นนี้ในครั้งแรก จึงทำให้บริเวณนั้นรัดแน่นมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสอดใส่เข้าไป เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่รู้สึกถึงความสุข

ครั้งแรกอาจจะไม่คุ้นเคยแต่ครั้งที่สองก็ชำนาญขึ้นกว่าเดิม ในครั้งนี้เสด็จอาเก้าดูคุ้นเคยกับร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้นกว่าเดิม และรับรู้ได้ว่าควรทำเช่นไรเฟิ่งชิงเฉินถึงจะรู้สึกผ่อนคลาย

เรื่องเช่นนี้ควรที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี เขาจะมัวเห็นแก่ตัวไม่ได้

เสด็จอาเก้าใช้นิ้วสอดเข้าไปก่อนแล้วขยับเข้าออก เพื่อทำให้บริเวณนั้นของเฟิ่งชิงเฉินเกิดความขยับขยายแล้วชุ่มชื้น เฟิ่งชิงเฉินอยู่ใต้การควบคุมของเสด็จอาเก้า และปล่อยให้เสด็จอาเก้าเคลื่อนไหว โดยนางส่งเสียงครวญครางออกมาเป็นบางครั้งคราว ต้องขอบอกว่าทักษะของเสด็จอาเก้าช่างเก่งกาจเหลือเกิน นางชื่นชอบในบริการเช่นนี้ของเสด็จอาเก้ายิ่งนัก เนื่องจากผู้ที่ได้รับบริการนี้จากเสด็จอาเก้า คาดว่าคงจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ณ บัดนี้

เมื่อคิดได้ดังนี้อารมณ์ของเฟิ่งชิงเฉินก็ดียิ่งนัก ขณะที่นางกำลังเพลิดเพลินกับการปฏิบัติของเสด็จอาเก้า ขณะเดียวกันนางก็มอบความสุขคืนให้แก่เสด็จอาเก้าด้วย มือทั้งสองข้างของนางลูบไล้ไปบริเวณเอวและตรงไปที่ด้านล่าง นางเคลื่อนไหวเป็นวงกลมบริเวณท่อนล่างของเสด็จอาเก้า หายใจเหนื่อยหอบแล้วกำไปบริเวณที่แข็งทื่อของเสด็จอาเก้า

“อือ” เสด็จอาเก้าส่งเสียงครวญออกมาเบาๆ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อแล้วหยดลงสู่ข้างล่าง

เขาพยายามอดทนอย่างยิ่ง แต่เจ้าบริเวณนั้นของเขากลับถูกเฟิ่งชิงเฉินยึดกุมเอาไว้แน่นเขาไม่กล้าจะขยับ

เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาด้วยความชั่วร้ายแล้วค่อยๆ ขยับมือไปมา เสด็จอาเก้าหายใจหอบอย่างหนัก ร่างกายของเขาตรึงแน่น เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงได้ส่งเสียงร้องออกมา เพียงแค่ครั้งหนึ่งแล้วก็ถูกระงับลงไป

“เสด็จอาเก้าเหตุใดจึงไม่ร้องออกมาเล่า ครวญครางออกมาเถิดข้าชื่นชอบนัก……” เมื่อเห็นเสด็จอาเก้าพยายามระงับเสียงของตนเอาไว้ นางก็เจ้าเล่ห์ และสัมผัสไปที่บริเวณบนสุดของเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือ

“อืม อา……เฟิ่งชิงเฉิน ตามที่เจ้าปรารถนา” เสด็จอาเก้าพ่นลมหายใจออกมา นิ้วของเขายังคงอยู่ในร่างของเฟิ่งชิงเฉิน เขาเปลี่ยนทิศทางแล้ว ใช้แรงกดเข้าไปข้างในจนสุด สัมผัสถึงบริเวณอ่อนนุ่มและบอบบางของนาง

“……อา” เฟิ่งชิงเฉิน ส่งเสียงครวญครางออกมา นางดีดเอวขึ้นเล็กน้อย มือของนางปล่อยออกแล้วกอดไปที่หลังของเสด็จอาเก้า

“ชิงเฉิน ค่ำคืนนี้ช่างยาวนานนัก พวกเราค่อยสนทนากันอย่างช้าๆ แต่ว่าให้ข้าเข้าไปข้างในก่อนค่อยว่ากัน”

เสด็จอาเกาไม่อาจรอได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อถูกเฟิ่งชิงเฉินกระทำเช่นนั้นจึงทำให้ร่างกายด้านล่างร้อนและแข็งขึ้นกว่าเดิม เสด็จอาเก้าวดึงนิ้วออกจากร่างของนาง กระแสความร้อนไหลออกมาตามนิ้วของเขา เฟิ่งชิงเฉินสัมผัสได้ว่าร่างกายส่วนล่างดูว่างเปล่า มือทั้งสองข้างกอดเสด็จอาเก้าไว้โดยสัญชาตญาณ……

เสด็จอาเก้าไม่ปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินรอนานจนเกินไป เขากางขาของเฟิ่งชิงเฉินออกแล้วจับเอวของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ กดร่างกายเข้าไปฝังร่างของเขาลงไปในนาง ครั้งแรกที่เสด็จอาเก้าสอดใส่ทั้งสองคนได้ส่งเสียงครวญครางออกมา……

เสด็จอาเก้ากระแทกเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำเสียงของเฟิ่งชิงเฉินดูเบาบางลงเรื่อยๆ เมื่อเสด็จอาเก้าปลดปล่อยเข้าไปในร่างของนางเป็นครั้งแรก เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อาจขยับไหวแล้ว

เหตุใดจึงนานเช่นนี้ นางเหนื่อยจนแทบขาดใจ

แต่ดูเหมือนว่าด้วยเรี่ยวแรงของเสด็จอาเก้าแล้วนั้นเพียงครั้งเดียวคงจะไม่พอ……