หยางโปมองหน้าโจวซิน เขาไม่คิดว่าโจวซินจะตึงเครียดขนาดนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วโจวซินก็มีตระกูลโจวที่ทรงอิทธิพลมากคอยหนุนหลังอยู่ !
  เขาอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการระแวดระวัง ถือกระบี่หยกไว้ในมือข้างหนึ่ง สายตาก็จับจ้องไปที่โจวซิน ” นำชิ้นส่วนวิชาเรียกลมฝนที่ไม่ครบสมบูรณ์ออกมา ! ”
  โจวซินตกตะลึงครู่หนึ่ง สีหน้าอึดอัดใจ ” จะไปมีวิชาเรียกลมฝนที่ไหนกัน ทั้งหมดผมแค่โกหกคุณเท่านั้น ! ”
  หยางโปจ้องหน้าโจวซินและไม่พูดอะไรมาก จากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้าอีกก้าว
  โจวซินตกใจผงะ ” ตกลง ผมจะบอก ! วิชาเรียกลมฝนมีค่ามากขนาดนี้ ผมไม่ได้เอาติดตัวมาแน่ เอาเก็บไว้ที่โรงแรม ! ”
  หยางโปไม่พูดอะไรมาก จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว
  โจวซินตื่นตระหนกในทันใด ชักของบางอย่างออกมาจากอก แล้วโยนทิ้งไปทันที ” ให้คุณ ! ”
  หยางโปชะงักไปครู่หนึ่ง ระยะห่างที่ใกล้กันมากจนไม่สามารถรับรู้ได้ เขาก้มหน้าและมองเห็นกระดาษยันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่งลอยผ่านไป !
  กระดาษยันต์สีเหลืองดูเบาบาง ปลิวตรงมาทางเขา หยางโปรีบหันกระบี่หยกในมือไปทางยันต์อย่างรวดเร็ว !
  “ ปัง ! ” หยางโปได้ยินเสียงปะทะดัง ทันใดนั้นเขาสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนที่แผ่มากระทบ
  ทำให้เขาเสียการทรงตัวไปในทันที ร่างเซล้มลงไปทางด้านหลัง !
  ดวงตาของหยางโปเป็นประกาย และเห็นโจวซินเดินตรงมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า
  ข้างหลังเขามีเหลียงหรูซิงยืนอยู่ เห็นได้ชัดว่าทั้งสองนัดกันไว้เพื่อรอหยางโปอยู่ที่นี่ !
  หยางโปล้มลงกับพื้นอย่างแรง รู้สึกว่าอวัยวะภายในของเขาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
  ทั้งคนนอนราบอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง ร่างกายเจ็บปวดร้าวระบมไปทั้งตัว !
  เขาพยายามลืมตาขึ้น มองเห็นกระดาษยันต์สีเหลืองที่ดูหมือนถูกจุดไฟ กลายเป็นเถ้าถ่าน
  ดวงตาของเขาเบิกกว้าง นี่คือคาถาฟู่ลู่ใช่ไหม ?
  โจวซินเดินเข้ามาใกล้ “ หยางโป คุณยังต้องการวิชาเรียกลมฝนอยู่ไหม ? คุณคิดว่าวิชายุทธ์มันเอาไปได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยหรือไง ? วิชายุทธ์ในโลกนี้มีสิบสองประเภท ได้มาสักอันก็สามารถเปิดสำนักขึ้นมาได้แล้ว ! วิชาเรียกลมฝนมันเป็นรากฐานของตระกูลโจวของผม แต่มันก็เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวที่ไม่ครบสมบูรณ์ที่ไม่สำคัญอะไร ต่อให้ตระกูลโจวของผมจะยืนหยัดอยู่มาได้เป็นพันปี คุณคิดว่าผมจะมอบมันให้กับคุณหรือไง ? ”
  หยางโปจ้องมองโจวซิน ตกตะลึงนิ่งอึ้งไปหมด เขาคิดไม่ถึงเลยว่าวิชายุทธ์จะน่าหวงแหนถึงเพียงนี้ หากเป็นไปตามคำกล่าวของโจวซินจริงๆแล้ว ถ้างั้นในมือของเขาก็น่าจะมีวิชายุทธ์อยู่ถึงสิบสองประเภท งั้นเขาไม่กลายเป็นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ไปแล้วเหรอ ?
  โจวซินคิดว่าหยางโปตกตะลึงเพราะตัวเอง เขามองไปที่หยางโป “ คุณมันก็เป็นแค่ผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษเท่านั้น ยังมีของอีกมากมายที่คุณไม่เข้าใจ ที่เข้าใจแบบงูๆปลาๆได้ก็แค่อาศัยเพียงการฝึกฝนขั้นวรยายุทธ์ถึงตอนนี้ คุณก็คิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นแล้ว ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคุณได้รับโชคอะไรในทะเลสาบซีหูกันแน่ ! ”
  หยางโปลืมตาขึ้นและเห็นโจวซินนั่งยองๆ ในขณะที่เหลียงหรูซิงยืนอยู่ข้างหลังเขาโดยไม่พูดอะไร เมื่อได้ยินโจวซินพูดถึงคำว่า ” ได้รับโชค ” เหลียงหรูซิงก็อดที่จะทำตาโตไม่ได้ !
  หยางโปยิ้มและในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมเหลียงหรูซิงถึงต้องร่วมมือกับโจวซิน เพราะโจวซินต้องบอก เหลียงหรูซิงแน่ว่าเขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษ เพราะได้รับโอกาสและโชคชะตา จึงมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน จะต้องแย่งโอกาสและโชคชะตาของหยางโปไปได้แน่ๆ !.novel-lucky.
  “ โจวเต้าโหยว เรื่องราวพวกนี้ผมก็ได้บอกคุณไปหมดแล้ว แต่คุณไม่ยอมเชื่อ ยังไงซะ เหลียงเต้าโหยวก็อยู่ที่นี่ ถ้าอย่างนั้นผมจะบอกพวกคุณว่าโอกาสและโชคชะตาที่ทะเลสาบซีหูอยู่ในมือคุณไง ! ” หยางโปกล่าว
  โจวซินตกตะลึง เขามองไปที่ฝ่ามือ ไม่เข้าใจว่าหยางโปหมายถึงอะไร?
  แสงสว่างวาบผ่านตาหยางโปไป ร่างกายก็ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
  โจวซินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และจ้องมองไปที่หยางโป แต่เมื่อเห็นว่าเขายืนขึ้นแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคือง “ คุณหลอกผมเล่นเหรอ ? ”
  หยางโปกลับไม่แย่แสโจวซินอีกต่อไป เขามองไปทางเหลียงหรูซิง และกล่าวออกมาว่า
  “ เหลียงเต้าโหยว คุณกับผมต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญเพียรสันโดษเหมือนกัน เรื่องบางเรื่องผมไม่ต้องพูด คุณก็น่าจะเข้าใจ คุณร่วมมือกับเขาคือ เท่ากับไว้วางใจคนที่ไม่ควรไว้วางใจ เมื่อกี้คุณก็ได้ยินเขาพูดแล้วว่า ตระกูลโจวมีประวัติศาสตร์และสืบทอดกันมานับพันปี ถ้าหากคุณได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาลจริงๆ คุณจะได้รับส่วนแบ่งอะไรไปบ้าง ? ”
  เหลียงหรูซิงตกตะลึงนิ่งเงียบไปทันที ก่อนหน้านี้เขาหวั่นไหวไปกับข้อเสนอของโจวซินจริงๆ เพราะเขาคิดว่า หยางโปที่อายุน้อยขนาดนี้จะสามารถฝึกฝนจนถึงขั้นนี้ได้ยังไง จะต้องมีโอกาสและโชคชะตาพิเศษแน่นอน แต่ใจเขาก็คิดมาตลอด ว่าโอกาสและโชคชะตานี้มันคืออะไร !
  หลังจากการที่ถูกหยางโปเตือนสติ เขาก็ตระหนักได้ว่าตระกูลโจวแข็งแกร่งมาก ต่อให้ได้รับโอกาสและโชคชะตามา ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะได้รับประโยชน์ด้วยหรือไม่ !
  “ คุณอย่าไปฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระ เหลียงเต้าโหยว ตระกูลโจวของผมสืบทอดต่อกันมานับพันปี โอกาสและโชคชะตาของเขาจะเทียบได้กับสิ่งที่ตระกูลโจวสืบทอดต่อกันมาเหรอ ? ผมไม่สนใจโอกาสและโชคชะตาของเขา ! ” โจวซินกล่าว
  หยางโปยิ้มเยาะพลางพูดว่า ” อ้อ โจวเต้าโหยวบอกว่าไม่สนใจ แต่ทำไมคุณถึงยังพายเรือไปที่ทะเลสาบซีหูในคืนที่มีพายุฝนฟ้ากระหน่ำ ? เรื่องนี้ไม่สำคัญใช่ไหม ? ”
  โจวซินนิ่งอึ้งพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะตอบกลับไปว่ายังไง
  หยางโปฟื้นสภาพกลับมาหมดแล้ว เขาชี้ไปที่โจวซินและประณามว่าให้ “ คุณมันเป็นคนเห็นแก่ตัว คุณต้องการทำร้ายผม แต่กลับดึงเหลียงเต้าโหยวเข้ามาพัวพันด้วย คุณรู้ดีว่านี่เป็นความแค้นของเขา ตราบใดที่เรายังจองเวรต่อกัน ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น พวกเราก็ต้องพยายามอย่างไม่คิดชีวิต แต่คุณกลับมีแต่ได้กับได้อย่างเห็นๆ ! ”
  โจวซินโกรธหยางโปจนปวดขมับไปหมด ” ผมก็เป็นแบบนี้คุณจะทำไม ? ”
  หยางโปยิ้ม เขาหันหน้ากลับไปมองเหลียงหรูซิง “ เหลียงเต้าโหยว คุณคิดว่าควรจะจัดการยังไงดี ? ”
  เหลียงหรูซิงมองไปที่หยางโปและโจวซินอีกครั้ง รู้สึกลังเลขึ้นมา สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าใครจะทำให้ใครขุ่นเคืองใจ ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่ดีทั้งนั้น หยางโปมีศักยภาพ โจวซินมีภูมิหลัง เขาค่อนข้างที่จะลังเลใจหันหลังกลับและเดินไปจากที่นี่ !
  ดวงตาของโจวซินเบิกกว้าง ” เหลียงเต้าโหยว ผมไม่ได้ตั้งใจ คุณอย่าไปฟังที่เขาพูดโกหก
  เหลียงเต้าโหยว ! ”
  เหลียงหรูซิงจากที่นี่ไป หยางโปหยิบกระบี่หยกออกมาอีกครั้งและหันไปโจมตีโจวซินทันที !
  โจวซินตกใจผงะและทำได้เพียงหลบเท่านั้น กระบี่ไป่ต้วนของเหลียงหรูซิงถูกตัดขาด เขาไม่มีอาวุธ ภายใต้การโจมตีของหยางโป จึงไม่สามารถที่จะยืนหยัดทนต่อไปได้เลย ในไม่ช้าก็ถูกหยางโปแทงเข้าไปติดต่อกันหลายครั้งและล้มลงไปอยู่บนพื้น
  โชคดีที่สถานที่นั้นอยู่ห่างไกล บอดี้การ์ดของหยางโปก็คอยดูแลอยู่ทุกหนทุกแห่ง จึงไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามา
  โจวซินนอนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดขาว และมีเลือดไหลนองอยู่บนพื้น เขาเงยหน้าขึ้นมองหยางโปอย่างไร้เรี่ยวแรง “ คุณจะฆ่าผมไม่ได้ ตระกูลโจวไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่ ! ”
  หยางโปใช้เท้าเหยียบไปบนบาดแผลของอีกฝ่ายและมองดูโจวซินร้องตะโกนด้วยเสียงแหบพร่า หลังจากรอจนโจวซินหยุดไปชั่วครู่ หยางโปถึงได้เอ่ยปากพูดว่า “ ถ้าผมถูกพวกคุณจับตัวไป คิดว่าคงไม่ได้ถูกกระทำดีไปกว่านี้แน่ ใช่ไหม ? ”
  โจวซินจ้องเขม็งมองไปที่พื้น ไม่กล้าสบตาหยางโป !
  หยางโปไม่สนใจเสียด้วยซ้ำ เขาย่อตัวลง ค้นตัวโจวซิน ไม่นาน เขาก็พบจี้หยกรูปมังกร จี้หยกชิ้นนี้ดีกว่า เขาถึงกับสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังที่หน่าแน่นในใจกลางจี้หยก !
  หยางโปยังค้นพบหนังสืออีกสองเล่ม เล่มหนึ่งมีปกที่น่ากลัว แต่ทั้งเล่มดูเหลือง อีกเล่มคือ
  ( ตำราฟู่ลู่ ) ภาพวาด้านในมีสัญลักษณ์ผีชนิดต่างๆอยู่ !