เพราะมีฮัวชิงหยุนทั้งสองคนอยู่ข้างกาย ดังนั้นเมื่อสักครู่หยางโปเลยไม่ได้อยู่ตรงนั้นนานมากเกินไป ตอนนี้เขาส่งทั้งสองคนขึ้นรถไปแล้ว เขาจึงอดทนอีกต่อไปไม่ได้แล้ว คิดที่จะรีบกลับไป !
เฉาหยวนเต๋อโบกมือให้ “ ระวังตัวด้วย ! ”
หยางโปโบกมือ “ วางใจได้ ผมจะระวังตัว ! ”
หยางโปมองรถที่ขับออกไป จากนั้นเขาก็หันหลังเดินกลับไปตามทางที่เขาเพิ่งมา
เพิ่งเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว โทรศัพท์ของหยางโปก็ดังขึ้น เขาก้มลงมองก็เห็นว่ามันเป็นสายโทรเข้าของเยว่จวิ้นเหยา
“ หยางโป ทำไมจู่ๆคุณถึงคิดโทรมาหาฉัน ? ” น้ำเสียงของเยว่จวิ้นเหยาดูตื่นเต้นเล็กน้อย
หยางโปลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากว่า “ โจวซินเป็นคนยังไง ? ”
“ เขาเหรอ ? ก็พอใช้ได้นะ ! ” เยว่จวิ้นเหยาตอบ “ ทำไมเหรอ ? เขาทำอะไรให้คุณไม่พอใจใช่ไหม ! ”
หยางโปขมวดคิ้ว “ จิงอันซือไท่อยู่ไหม ? คุณนำโทรศัพท์ไปให้เธอหน่อยได้ไหม ”
“ นี่คุณรังเกียจฉันเหรอ ? ถึงกับไม่อยากคุยกับฉันเลยว่างั้น ! ” เยว่จวิ้นเหยากล่าว
หยางโปหมดทางเลือก ก็เลยต้องอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าให้ฟัง
เยว่จวิ้นเหยาโกรธมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ” นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ ? เขาทำแบบนี้จริงๆเหรอ ? ”
หยางโปพยักหน้า ” มีเรื่องนี้อยู่จริงๆ ผมแค่อยากปรึกษาจิงอันซือไท่หน่อยว่าผมควรตัดขาข้างหนึ่งหรือแขนขาทั้งสองข้างของเขาไหม ? ”
เยว่จวิ้นเหยาพูดอย่างโกรธเคือง “ ยังจะถามอีกทำไม ในเมื่อเขากล้าทำเรื่องแบบนี้ ก็คงเตรียมใจไว้แล้ว คงต้องยอมรับผลของการกระทำ คุณไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยพูดกับอาจารย์ให้ ! ”
“ อืม ผมเข้าใจแล้ว ! ” หยางโปขานรับ
เมื่อเยว่จวิ้นเหยาพูดแบบนี้ หยางโปก็พอที่จะเตรียมใจไว้แล้ว นั่นก็หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างโจวซินและเขาเอ่อเหมยซานไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมากนัก แต่ตอนที่จิงอันซือไท่ขอให้
หยางโปดูแลโจวซิน มันทำให้หยางโปรู้สึกพะว้าพะวัง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้หลงเหลืออยู่แล้ว !
หยางโปรีบกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ที่นี่กลับว่างเปล่าไร้วี่แววคนอยู่แล้ว หยางโปจึงไปสอบถามเหตุการณ์ที่แผนกต้อนรับของโรงแรม.ไอลีนโนเวล.
แผนกต้อนรับของโรงแรมบอกไปตามตรงว่า “ ไปกันแล้ว งานของพวกเขาจบแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ต่างออกไปกันแล้ว มีคนเหลืออยู่ในงานไม่กี่คนแล้ว ! ”
เดิมทีหยางโปคิดที่จะให้บทเรียนแก่โจวซิน แต่เวลานี้กลับทำอะไรไม่ได้ !
หยางโปจึงทำได้เพียงเดินกลับออกไปเท่านั้น เขาเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง ในขณะที่จะขึ้นรถอยู่นั้น พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นโจวซินยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม เขานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จู่ๆก็รีบปิดประตูรถและกระโดดข้ามราวกั้นถนนพุ่งไปทางฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว !
เดิมทีโจวซินยังคงรู้สึกค่อนข้างที่จะสบายใจอยู่มาก แต่เมื่อเห็นหยางโปวิ่งตรงเข้ามา ก็นิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปทันที เขาเหลือบมอง และรีบขึ้นรถ เร่งสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที !
เมื่อตอนที่หยางโปวิ่งเข้ามา อีกฝ่ายก็ออกไปแล้ว
หยางโปขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรมาก เรื่องนี้ต้องไม่จบลงแบบนี้แน่ คนที่เผชิญหน้ากับเขา เขาไม่มีวันปล่อยอีกฝ่ายไปแน่ !
แต่ถึงยังไง หยางโปก็ไม่ได้ไล่ตามไป แต่คิดที่จะกลับไปที่รถ
เขาเพิ่งเดินมาได้สองก้าว โทรศัพท์ก็ดังขึ้น และยังคงเป็นสายโทรเข้ามาของเยว่จวิ้นเหยา
แต่น้ำเสียงดูเย็นชากว่ามาก
“ สวัสดี หยางโปใช่ไหม ? ฉันจิงอัน ! ”
“ จิงอันซือไท่ สวัสดี ! ” หยางโปทักทายไปด้วยในขณะที่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ เขาคิดไม่ถึงเลยว่า จิงอันซือไท่จะโทรกลับมาเร็วขนาดนี้
จิงอันพยักหน้าแล้วถามกลับมาด้วยความสงสัย ” เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น ? ”
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องเล่าใหม่ให้ฟังอีกครั้ง เขาไม่ได้ใส่สีตีไข่เพิ่มเช่นกัน !
จิงอันกลับอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ เรื่องนี้มันค่อนข้างยากที่จะแก้ไข ก่อนหน้านี้เธอเคยโทรมาขอให้หยางโปดูแลโจวซินให้ เธอมีหรือจะคิดว่า ผ่านไปยังไม่นาน โจวซินก็เริ่มที่จะคิดไม่ซื่อกับ
หยางโปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามองจากจุดประสงค์ครั้งนี้แล้ว โจวซินน่าจะอิจฉาหยางโปและต้องการหาวิธีให้เขาฝึกฝนให้ได้โดยเร็ว
แต่วิธีการเหล่านี้สำหรับทุกคนแล้ว มันล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติล้ำค่าที่มีค่ามากมายมหาศาล ต่อให้เป็นตัวเธอเองก็คงไม่ยอมพูดเรื่องนี้ออกมาง่ายๆ นับประสาอะไรกับหยางโป เขาไม่มีหน้าที่อะไรที่ต้องมารับผิดชอบช่วยเหลือผู้อื่น !
“ อืม ฉันรู้เรื่องนี้แล้ว ” จิงอันซือไท่พูดแค่นี้ แล้วก็วางสายไป
หยางโปอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จิงอันซือไท่หมายความว่าอะไร ?
พอกลับมาถึงบ้าน หลินหลินก็รีบเข้าไปต้อนรับเขา ดึงหยางโปพลิกไปพลิกมามองย้อนขึ้นลง
” เกิดอะไรขึ้น ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”
หยางโปหัวเราะ “ แม่ ไม่ต้องห่วง ผมไม่เป็นไร ”
หลินหลินมองสำรวจขึ้นๆลงๆ เมื่อเห็นว่าเขาไม่เป็นไรจริงๆ ถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เฉาหยวนเต๋อก็รออยู่ที่นี่เช่นกัน เมื่อเห็นหยางโปไม่เป็นไร ถึงได้ขอตัวกลับอย่างวางใจ
ฮัวชิงหยุนดึงหยางโปไว้ไม่ยอมปล่อยมือ ทำราวกับว่าถ้าปล่อยมือแล้วหยางโปจะไปอีก
หยางโปปลอบโยนอยู่นาน ถึงทำให้ฮัวชิงหยุนวางใจ
ก่อนกินข้าว หลินหลินลากหยางโปไปด้านข้างและกระซิบถาม ” ลูกก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว เรื่องบางเรื่องควรที่จะรู้ไว้ ลูกอย่าคิดอะไรบ้าๆเชียวนะ ! ”
หยางโปนิ่งอึ้งไม่ค่อยเข้าใจ “ แม่ ทำไมเหรอ ? เรื่องในครั้งนี้มันเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้คิดอะไรมากมาย ! ”
หลินหลินจ้องหน้าหยางโป ส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า ” ลูกกำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้ ลูกอย่าได้ออกบวชเพื่อละทางโลกก่อนที่จะแต่งงานเชียวนะ ! ”
หยางโปตะลึงงัน แต่ได้สติกลับคืนมา เขาหัวเราะพลางพูดว่า “ แม่ ไม่ต้องห่วงนะ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด ! ”
หลินหลินถึงได้ยอมรามือ
ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้โจวซินเคยตามไล่ล่าเขา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า
เขาต้องไล่ล่าโจวซิน เพื่อทวงถามหาความยุติธรรมกลับคืนมา
โจวซินไม่คุ้นเคยกับตี้จิง เขาจึงต้องไปโน้นนี่ไปเรื่อยเปื่อย พบเจอกับใครก็คิดไปว่าเขาต้องมีปัญหาไปซะหมด เขากลัวว่าจะถูกหยางโปจับได้
แต่ความสัมพันธ์ของหยางโปในตี้จิงนั้นซับซ้อน เขาคลุกตัวอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูงไม่นาน ก็มีคนส่งข่าวโจวซินและพบตัวโจวซิน
ตอนที่หยางโปปรากฏตัวต่อหน้า โจวซิน โจวซินถึงกับตกใจจนใจตกไปอยู่ตรงตาตุ่ม เขาจ้องหน้าหยางโป ” คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง ? ”
หยางโปมองไปที่โจวซิน ” เสวียนจงล่ะ ? ”
“ พวกเราสองคนแยกจากกันแล้ว ! ” โจวซินรู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะหยางโปได้ในเวลานี้ จึงทำได้เพียงพูดความจริง
หยางโปขมวดคิ้ว เขามองไปรอบๆ “ คุณมีเบอร์โทรเขาไม่ใช่เหรอ ? โทรไปเลยสิ ! ”
โจวซินค่อนข้างที่จะจนปัญญา ” ผมติดต่อไปแล้ว แต่เขาปิดเครื่อง ! ”
หยางโปจ้องหน้าโจวซินเขม็ง ” คุณควรจะรู้ไว้นะว่าผลของการกระทำในครั้งนี้คืออะไร ทำไมคุณถึงยังทำแบบนี้ ? หรือคุณคิดว่าพวกคุณจะทำมันสำเร็จได้ ? ”
โจวซินรีบส่ายหน้า “ เรื่องนี้มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ผมแค่คิดที่จะเล่นสนุกเท่านั้น ”
หยางโปมองไปที่โจวซิน ” อ้อ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นผมก็เข้าใจแล้ว ! ”
ในขณะที่พูด หยางโปก็เดินไปด้านหน้าและก้าวเข้าไปหาโจวซิน ” คุณคิดว่าผมควรทำยังไง ? ”
โจวซินตัวสั่นสะท้าน ดูเหมือนจะตัวสั่นไปทั้งตัว “ คุณปล่อยผมไปเถอะ คราวหน้าผมไม่กล้าทำอีกแล้ว ! ”
หยางโปจ้องหน้าโจวซินเขม็ง ” ครั้งหน้าไม่กล้าทำอีกแล้ว แต่ครั้งต่อไปล่ะ ? ”
หลังของโจวซินชนเข้ากับกำแพง ค่อยๆเลื่อนตัวทรุดลงด้านล่าง ดูหวาดผวามาก !