ตอนที่ 429 : คิมิมาโร่ และ ซาสึเกะ

The Strongest Hokage

พลังสถิตร่าง 9 หาง?!

 

เมื่อได้ยินคำพูดของ ไนโตะ คิมิมาโร่ , ฮาคุ และ คาริน ก็แสดงท่าทีตกใจและไม่อยากเชื่อออกมาพร้อมกัน

 

พวกเขาไม่ได้ตกใจกับตัว นารูโตะ แต่ความจริงที่ว่าเขาเป็น พลังสถิตร่างของ 9 หาง ต่างหากที่ทำให้พวกเขาตกใจ

 

ภรรยาของ ไนโตะ , อุซึมากิ คุชินะ ก็เป็นพลังสถิตร่างของ 9 หางไม่ใช่เหรอ?!

 

อุซึมากิ คาริน ที่อยู่ใกล้กับ คุชินะ มากที่สุดเธอย่อมรู้ดี

 

คุชินะ เป็นคนฝึกฝนให้กับ คิมิมาโร่ และ ฮาคุ ดังนั้นพวกเขาจึง เข้าใจชัดเจนว่าเธอแข็งแกร่งและไร้เทียมทานเพียงใด แม้ว่าพวกเขารวมมือกันก็ไม่สามารถเอาชนะ คุชินะได้

 

นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดรองจาก ไนโตะ ก็คือ คุชินะ

 

นอกจากนี้ เธอก็ยังใกล้จะฝึกโหมดเซียนขั้นสุดท้ายเสร็จแล้ว

 

แต่ตอนนี้กลับมี อุซึมากิ อีกคนปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และเขาก็เป็นพลังสถิตร่างของ 9 หาง ซึ่งทำให้ คิมิมาโร่ และ คนอื่นๆ ตกใจมาก!

 

“ฉันจะอธิบายยังไงดี ในร่างของ คุชินะ มีจักระ 9 หางแค่ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน และตอนนี้ส่วนที่ใหญ่ที่สุดก็อยู่ในเด็กชายชื่อ อุซึมากิ นารูโตะ คนนั้น”

 

“แม่ของ นารูโตะ ก็เป็นคนจาก ตระกูลอุซึมากิ เช่นกัน เธอชื่อ อุซึมากิ เมอิ เธอเป็นเพื่อนที่ดีของ คุชินะ แต่เธอถูกโจมตีตอนที่ นารูโตะ เกิดและเธอก็เสียชีวิตเพื่อปกป้องเขา”

 

ไนโตะ เลือกคำพูดที่ง่ายที่สุดเพื่ออธิบายสถานการณ์ เมื่อ คิมิมาโร่ และคนอื่นๆ ก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง พวกเขาก็มอง นารูโตะ ในมุมที่ต่างไปจากเดิม พวกเขาไม่ได้ดูถูกเขาอีกต่อไป แต่รู้สึกเอาจริงเอาจังกับเขา

 

คิมิมาโร่ ไม่สนใจว่า กาอาระ จะแข็งแกร่งแค่ไหน และสัตว์หางของเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน ตอนนี้เขาจดจ่ออยู่กับ อุซึมากิ นารูโตะ ที่เป็นพลังสถิตร่างของ 9 หางเท่านั้น

 

ท้ายที่สุดแล้ว ครั้งหนึ่งเขาก็เคยต่อสู้กับ คุชินะ แม้จะแค่การซ้อม แต่เขาก็น่าสังเวชมาก เขาไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใกล้เธอได้ คิมิมาโระ ผู้ภาคภูมิใจในความเร็วและพละกำลังตัวเองมาก ในวันนั้นเขาพบว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับ คุชินะ เลยด้วยซ้ำ

 

เมื่อได้เห็นและสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของ คุชินะ ที่บดขยี้เขาเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่อาจประเมินพลังของ 9 หาง ต่ำเกินไปได่อีกต่อไป

 

คิมิมาโร่ รู้ดีว่าเมื่อ ไนโตะ เอ่ยชื่อพวกเขาขึ้นมา แสดงว่าพวกเขาคู่ควรที่จะต่อสู้ด้วย

 

เมื่อสังเกตเห็นดวงตาที่เฉียบคมของ คิมิมาโร่ ไนโตะ ก็หัวเราะคิกคัก “ถ้านายสนใจขนาดนั้น ก็ไปเล่นซะสิ”

 

“หมายถึง…”

 

เห็นได้ชัดว่า คิมิมาโร่ แปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่า ไนโตะ จะพูดแบบนั้น และเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ ไนโตะ

 

ไนโตะ ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันจะไปดูที่ที่หัวหน้าทีมคนอื่น ๆ มารวมกัน ฉันจะสมัครสอบให้พวกเธอเอง พวกเธอไปสนุกเถอะ”

 

พอพูดจบ ไนโตะ ก็หายตัวไป ทิ้งทั้ง 3 คนไว้ตรงนั้น

 

ดวงตาของ คิมิมาโร่ เป็นประกาย จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงยังทิศทางที่ ไนโตะ เพิ่งจากไป “ขอบคุณครับ ท่านไนโตะ!”

 

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย จากนั้นเขาก็รีบเดินเข้าไปหาพวกเขา

 

ฮาคุ ที่ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินตาม

 

เอาจริงดิ…” สำหรับ คาริน เธอรู้สึกหงุดหงิด เธออยากอยู่กับ ไนโตะ มากกว่า นารูโตะ กับ ซาสึเกะ แต่จู่ ๆ เขาก็หายตัวไป และเธอก็ไม่สามารถตรวจจับถึงเขาได้ เธอดูหมดหนทางและจำเป็นต้องเดินตาม ฮาคุ และ คิมิมาโระ ไป

 

……….

 

“เฮ้ แกชื่ออะไร?”

 

เมื่อมองไปที่ 3 นินจาซึนะ ที่กำลังจะเดินจากไป ซาสึเกะ ก็กระโดดลงจากต้นไม้แล้วถาม

 

เทมาริ หันกลับมาแล้วตอบขณะที่เธอดูปลื้มใจมาก “อ๊ะ!! ฉันเหรอ…?”

 

“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงไอ่หมอนั่น”

 

ซาสึเกะ ไม่สนใจ เทมาริ และจ้องไปที่ด้านหลังของ กาอาระ

 

กาอาระ หันกลับมาเหลือบมอง ซาสึเกะ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “กาอาระ จาก ซึนะ…ฉันก็สนใจนายเหมือนกัน นายชื่ออะไร?”

 

“อุจิฮะ ซาสึเกะ”

 

ซาสึเกะ มองมาที่ กาอาระ ขณะที่ดวงตาของเขาฉายแสงที่อธิบายไม่ถูก กาอาระ หันหลังกลับและเดินจากไป แต่จู่ ๆ กาอาระ ก็หยุดเดิน

 

ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงอื่นดังมาจากด้านข้าง

 

“อุจิฮะ ซาสึเกะ…”

 

นี่ใครกัน?!

 

เสียงนี้ทำให้ทั้งคู่สะดุ้ง พวกเขาหันศีรษะแล้วมองไปทางซ้าย พวกเขาเห็นเด็กหนุ่มรูปงามที่มีผมสีขาวยาวถึงไหล่

 

นั้นก็คือ คิมิมาโร่

 

“ผู้ชายคนนี้…เขามาจากไหน?!”

 

ทั้งคู่ตกตะลึง อันที่จริงการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของ คิมิมาโร่ ทำให้ ซาสึเกะ ตกใจมากกว่าครั้งของ กาอาระ เสียอีก

 

เพราะ กาอาระ ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านล่าง แต่ คิมิมาโระ ปรากฏตัวอยู่ตรงกลางระหว่าง ซาสึเกะ และ กาอาระ

 

เทมาริ , คันคุโร่ , นารูโตะ , ซาสึเกะ พวกเขาทั้งหมด ไม่รู้เลยว่า คิมิมาโร่ มาอยู่ตรงหนี้ได้อย่างไร แต่พวกเขารู้ว่า ความเร็วของเขาเร็วกว่า กาอาระ!

 

ก่อนที่ ซาสึเกะ จะถามถึงตัวตนของ คิมิมาโระ ต่อไปของ คิมิมาโร่ ก็ทำให้ ซาสึเกะ สีหน้าเปลี่ยนไปและจิตสังหารที่รุนแรงก็ปะทุไปทั่วร่างกาย

 

“นายคือน้องชายของ อุจิฮะ อิทาจิ…แต่ดูเหมือนว่านายจะไม่มีอะไรพิเศษเลยนิ นายดูอ่อนแอกว่าเขามาก”

 

คิมิมาโร่ มอง ซาสึเกะ อย่างใจเย็น ซาสึเกะ มองไม่เห็นความเร็วของเขาด้วยซ้ำ และดูเหมือนว่า ซาสึเกะ จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาจากไหน เทียบกับ อิทาจิ ไม่ได้เลยจริง ๆ

 

แม้ว่า ซาสึเกะ จะอายุน้อยกว่า อิทาจิ มาก แต่ คิมิมาโระ ก็แก่กว่าเขาเพียง 2 ปีเท่านั้น

 

แต่ตอนที่ คิมิมาโร่ อายุ 13 ปี เขาก็แข็งแกร่งกว่า ซาสึเกะ ตอนปัจจุบันมากแล้ว หรืออย่างน้อยเขาก็สามารถมองเห็นความเร็วของ อิทาจิ ได้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถตอบโต้ได้ก็ตาม

 

มี 3 ระดับในการแบ่งความห่างชั้นของความเร็ว

 

ระดับแรกก็คือแม้ว่าความเร็วของศัตรูจะสูงกว่า แต่ก็สามารถหลบหลีกและตอบโต้ได้

 

ระดับที่ 2 คือ ความเร็วของศัตรูเร็วมากจนไม่สามารถตอบสนองหรือหลีกเลี่ยงมันได้ แม้ว่าจะมองเห็นได้ราง ๆ ก็ตาม

 

ระดับที่ 3 คือ ตามองไม่เห็นอะไรเลย

 

“แกกำลังพูดเรื่องอะไร?!”

 

อุจิฮะ อิทาจิ เป็นเป้าหมายของ ซาสึเกะ มาโดยตลอด ตัวเขาเองไม่ต้องการพูดถึงชื่อ อิทาจิ แต่ คิมิมาโร่ กลับพูดถึง อิทาจิ อย่างแผ่วเบาและเปรียบเทียบเขากับ อิทาจิ ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังบอกอีกว่าเขาอ่อนแอมากอีกด้วย

 

นี่ถือเป็นการจุดประกายความโกรธในหัวใจของ ซาสึเกะ!