บทที่ 1405 ผลาญวิญญาณระเบิดโชค

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ทะเลทรายตะวันตก

 

มันเป็นเวลากลางคืน ดวงดาวมากมายส่องประกายอยู่บนท้องฟ้า

 

ในทะเลทราย กลางวันจะร้อนและกลางคืนจะหนาวเย็น

 

ฟางหยวนบินลงสู่เนินทรายไร้นามอย่างนุ่มนวล

 

‘หลังจากบินมานานยังไม่มีคนไล่ล่า ฟงจิวเก้อเป็นคนเดียวที่วังสวรรค์ส่งมางั้นหรือ?’

 

ฟางหยวนสงสัย

 

‘ลืมมันไปก่อน ข้ามีเรื่องอื่นต้องทำตอนนี้’

 

ฟางหยวนนำไห่ลั่วหลัน ไป่หนิงปิง และคนอื่นๆออกมาจากมิติช่องว่าง

 

“ต่อไปข้าจะใช้ท่าไม้ตายกับอิงอู๋เซี่ย ระหว่างนี้ความแข็งแกร่งของเราจะลดลง ความปลอดภัยของเราจะอยู่ในมือของพวกเจ้า” ฟางหยวนกล่าวกับไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน เทพธิดาเมี่ยวหยิน และเทพธิดากระต่ายขาว

 

ผู้อมตะทั้งสี่รับทราบและเริ่มออกลาดตระเวนบริเวณรอบๆ

 

ฟางหยวนจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างระมัดระวัง

 

ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล มันไม่ยากที่เขาจะจัดตั้งค่ายกลวิญญาณระดับมนุษย์ แต่เขายังต้องระวังในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ทรงพลังที่สุดของราชันภูเขาม่วงคือค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วง แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่มีวิญญาณอมตะที่สามารถใช้เป็นแกนกลาง

 

หากเขาต้องการดัดแปลงค่ายกลวิญญาณอมตะแม่น้ำโลหิตสีม่วง เขาต้องใช้เวลาอนุมานสองถึงสามวัน

 

ด้วยเหตุผลหลายประการ ฟางหยวนจึงเลือกจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอื่น

 

ค่ายกลวิญญาณนี้เพียงพอที่จะป้องกันการโจมตีของศัตรู

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือฟางหยวนต้องแข่งขันกับเวลา

 

วังสวรรค์ยังไม่ส่งคนอื่นออกไล่ล่าเขา นี่ยิ่งทำให้ฟางหยวนกังวลมากขึ้น

 

แน่นอนว่าค่ายกลวิญญาณที่สร้างขึ้นเป็นการชั่วคราวไม่สามารถเปรียบเทียบกับค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ของภาคใต้

 

ในค่ายกลวิญญาณมีเพียงฟางหยวนและอิงอู๋เซี่ย

 

“ท่านผู้นำ เพื่อเป้าหมายของนิกายเงา ข้าจะทำอย่างดีที่สุด!” อิงอู๋เซี่ยเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

 

ฟางหยวนพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้าก็เริ่มก่อน”

 

อิงอู๋เซี่ยนั่งลงและใช้พลังงานอมตะ

 

ครู่ต่อมาท่าไม้ตายอมตะก็ถูกกระตุ้นการทำงาน

 

ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค!

 

ทันใดนั้นโชคของอิงอู๋เซี่ยก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกเวียนศีรษะ

 

ท่าไม้ตายนี้ใช้จิตวิญญาณเพื่อเพิ่มโชคของผู้อมตะเป็นการชั่วคราว ดังนั้นเมื่อท่าไม้ตายถูกใช้งาน จิตวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยจึงอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก

 

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะฟางหยวนมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนสะสมวิญญาณความเด็ดเดี่ยวเอาไว้มากมาย มันเพียงพอสำหรับเหตุการณ์เลวร้ายที่สุด

 

อิงอู๋เซี่ยฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

 

อย่างไรก็ตามเขายังสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไปบางส่วน

 

ด้วยเหตุนี้จึงมีเพียงฟางหยวนและอิงอู๋เซี่ยเท่านั้นที่สามารถกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้

 

สำหรับคนอื่นๆ รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของพวกนางอ่อนแอเกินไป

 

ผู้อมตะแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาจกล่าวได้ว่าไม่มีผู้ใดสามารถบ่มเพาะได้หลากหลายเส้นทางเช่นฟางหยวน

 

หลังจากอิงอู๋เซี่ยก็ถึงคราวของฟางหยวน

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายนี้ เขาล้มเหลวสองครั้งก่อนจะประสบความสำเร็จ

 

ฟางหยวนสามารถมองเห็นโชคเหนือศีรษะของเขาพลุ่งพล่านและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

เขาพยักหน้าและแจ้งผมที่หกให้เริ่มหลอมรวมวิญญาณทันที

 

ผมที่หกและอิงอู๋เซี่ยมีโชคที่เชื่อมโยงถึงกัน

 

ทั้งสองเชื่อมโยงโชคกันที่โลกใต้บาดาลของภาคเหนือระหว่างการไล่ล่าของฟางหยวน

 

เพื่อปิดกั้นฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยพยายามทุกวิถีทางเพื่อหนุนเสริมความแข็งแกร่งให้กับผมที่หก โชคเป็นหนึ่งในนั้น

 

การไล่ล่าของฟางหยวนหยุดลงขณะที่ผมที่หกไม่ตายและสามารถกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้อย่างปลอดภัย

 

ตอนนี้ฟางหยวนต้องการใช้การเชื่อมโยงนี้เพื่อเพิ่มโชคให้ผมที่หก

 

ย้อนกลับไปอิงอู๋เซี่ยเคยใช้ท่าไม้ตายนี้เพิ่มโชคให้กับตนเองเพื่อหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะมาแล้ว แต่น่าเสียดายที่วังสวรรค์ชิงหลอมรวมมันไปก่อน

 

ความพยายามของอิงอู๋เซี่ยในครั้งนั้นช่วยให้ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์

 

ฟางหยวนได้รับข้อมูลนี้มาจากราชันภูเขาม่วง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้วิธีเดียวกันในสถานการณ์นี้

 

ท้ายที่สุดแล้วโชคก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการหลอมรวมวิญญาณ

 

มีหลักฐานมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ในอดีตเพราะความโชคดีของเทพอมตะตะวันเดือด บรรพชนผมยาวจึงประสบความสำเร็จในการสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง

 

วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า!

 

หลังจากใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค ฟางหยวนตรวจสอบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของตน

 

เขาพบว่ารากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาตกต่ำลงมาก

 

หลังจากใช้ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปบ่มเพาะจิตวิญญาณ ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

แต่ด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค ความพยายามที่ผ่านมาของเขาหายไปแทบทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่เสียดาย เขาสามารถบ่มเพาะใหม่ในภายหลัง แต่หากเขาเสียชีวิตตอนนี้ ทุกอย่างจะจบสิ้น

 

สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆเช่นไป่หนิงปิง พวกนางมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไม่เพียงพอที่จะใช้ท่าไม้ตายนี้

 

ฟางหยวนคิดก่อนถามอิงอู๋เซี่ย “ด้วยรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเจ้า เจ้าสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้ได้กี่ครั้ง?”

 

อิงอู๋เซี่ยตอบ “ข้าสามารถใช้มันได้อีกสองครั้ง แต่ท่านผู้นำมีมรดกของท่านสีม่วง ท่านควรรู้ว่าคนผู้หนึ่งไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชคซ้ำๆ แม้จะใช้มันอีกครั้ง ผลลัพธ์ของมันก็จะไม่เพิ่มขึ้น”

 

ฟางหยวนพยักหน้า “ข้าเพียงถาม”

 

เขารู้สึกชื่นชมเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นอย่างมาก

 

แม้อิงอู๋เซี่ยเป็นเพียงร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่เขาก็มีรากฐานที่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชคได้ถึงสี่ครั้ง

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณสมกับเป็นผู้อมตะระดับเก้าในตำนานและเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณขึ้นมาบนโลกใบนี้อย่างแท้จริง

 

“ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชคถูกใช้ไปแล้ว นี่คือทั้งหมดที่เราสามารถทำได้ ไปกันเถอะ” ฟางหยวนลุกขึ้น

 

ในไม่ช้าค่ายกลวิญญาณก็ถูกเก็บกลับเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวนก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางอีกครั้ง

 

พวกเขาต้องเดินทางต่อไป

 

วังสวรรค์รู้ตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขาและจะส่งผู้อมตะมาหาพวกเขาขณะเดียวกันเจตจำนงสวรรค์ก็กำลังวางแผนการของมัน

 

หากฟางหยวนและคนอื่นๆอยู่ในสถานที่เดิมเป็นเวลานาน พวกเขาจะพบปัญหามากมาย

 

…..

 

ในสวรรค์สีขาว

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดบินขึ้นไป

 

ขณะเดียวกันคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์ก็กำลังไล่ล่ามันมาอย่างไม่ลดละ

 

“อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดถึงขีดจำกัดของมันแล้ว”

 

“ถูกต้อง มันอดทนได้ดีมาก”

 

“เอาล่ะ การเคลื่อนไหวนี้จะทำให้เจ้าได้พักผ่อน”

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะยิงลำแสงสีทองออกไป

 

แสงสีทองพุ่งเข้าโจมตีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ร่างของมันถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงสีทอง นี่ทำให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลง

 

แต่ในวินาทีต่อมากลับมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

 

เมฆสีขาวก่อตัวขึ้นบนเส้นทางที่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดร่วงหล่นลงไป

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดตกลงไปในก้อนเมฆและหายตัวไปที่นั่น

 

“โอ้ ไม่ นี่คือเมฆขาวดำ!”

 

“หยุดการโจมตีเร็ว อย่าทำลายเมฆก้อนนี้!”

 

สองผู้อมตะจากวังสวรรค์อุทานด้วยความตกใจ แต่มันสายไปแล้ว ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมาก

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดหายเข้าไปกลุ่มเมฆขณะที่ลำแสงสีทองพุ่งปะทะก้อนเมฆโดยตรง

 

เมฆสีขาวเปลี่ยนเป็นสีทอง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้มันจะร่วงลงจากอากาศ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ลำแสงสีทองจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะหยุดลง

 

แต่การแสดงออกของสองผู้อมตะจากวังสวรรค์เปลี่ยนเป็นตกตะลึง

 

“นี่เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

 

“มันบังเอิญเกินไปหรือไม่?”

 

“เมฆขาวดำสามารถเคลื่อนที่ไปมาระหว่างสวรรค์ทั้งสอง”

 

“ผู้ใดจะคิดว่ามันจะปรากฏขึ้นที่นี่”

 

“โชคร้ายนัก!”

 

สองผู้อมตะจากวังสวรรค์แทบคลั่ง พวกเขาทุ่มเทความพยายามอย่างมากกับภารกิจนี้และต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะจำนวนมหาศาล

 

“ไล่ล่า!”

 

“อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายสายตรวจสอบของเรา เราจะข้ามกำแพงพลังงานและกลับสู่สวรรค์สีดำ!”

 

“ถูกต้อง นี่เป็นภารกิจแรกของเราหลังจากเข้าสู่วังสวรรค์ เราจะล้มเหลวไม่ได้! แม้เราจะต้องไล่ล่ามันไปจนสุดขอบโลก เราก็ต้องจับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดตัวนี้ให้ได้!”