ตอนที่ 554 ไทเฮาเสด็จมาเยี่ยม / ตอนที่ 555 รู้เรื่องจริง​​​​​​​

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 554 ไทเฮาเสด็จมาเยี่ยม 

 

 

ต่อมาสองสามวัน วันเวลาก็ผ่านไปอย่างสบายๆ เวลาหลิงอวี้จื้อไม่มีอะไรทำก็จะไปคุยเล่นกับลู่ซูหว่าน รอจนร่างกายฟื้นฟูขึ้นมาพอสมควรแล้ว ลู่ซูหว่านก็พูดเรื่องจะไปจากเมืองหลวง นางอยู่ในเมืองหลวงจิตใจก็คอยพะวงตลอดเวลา 

 

 

หลิงอวี้จื้อก็ไม่ได้บังคับ เซียวเหยี่ยนจัดคนให้พาลู่ซูหว่านออกไปจากเมืองหลวง ลู่ซูหว่านตั้งใจจะอยู่อย่างสันโดษ จึงไปอยู่ในชนบท 

 

 

ชีวิตของหลิงอวี้จื้อกลับสู่ความสงบอีกครั้ง เวลาไม่มีอะไรทำเธอก็จะไปเรียนทำกับข้าวในครัว เธอก็อยากทำกับข้าวให้เซียวเหยี่ยนกินเองกับมือเช่นกัน แต่ละวันจะไปขลุกอยู่ในครัวครึ่งค่อนวัน ตั้งใจเรียนมาก 

 

 

“หา…” 

 

 

หลิงอวี้จื้อถือตะหลิวอยู่ นึกว่าตัวเองฟังผิดไป มู่หรงกวานเย่ว์อยากมาหาเธอที่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือ เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า 

 

 

“เจ้าบอกว่าไทเฮาเสด็จมาแล้วหรือ” 

 

 

“ไทเฮาทรงรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่แล้วเพคะ” 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์มาที่นี่จริงๆ หลิงอวี้จื้อไม่กล้าชักช้า รีบปลดผ้ากันเปื้อนออก จัดๆ ทรงผมแล้วออกจากห้องครัวไปกับมั่วชิง เธอเดินก้าวยาวๆ ไปถึงห้องโถง เห็นมู่หรงกวานเย่ว์กำลังนั่งดื่มชาอยู่ตรงนั้นจริงๆ 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์สวมชุดลำลองสีแดงดอกกุหลาบ ปกตินางมักจะสวมชุดประเภทสีม่วงเข้มและสีเขียวเข้ม แน่นอนว่าเรื่องสีก็เกี่ยวข้องกับสถานะของนางด้วย 

 

 

นางเป็นไทเฮา ย่อมต้องสวมชุดที่ดูหนักแน่นมั่นคง ไม่สามารถสวมชุดสีฉูดฉาดหรือดูเหมือนเด็กสาวจนเกินไป 

 

 

ตอนนี้เมื่อเปลี่ยนมาสวมชุดลำลองสีแดงกุหลาบก็ดูสดใสขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับการแต่งหน้าบางกว่าตอนที่นางอยู่ในวังมาก เครื่องประดับผมก็เรียบง่าย เช่นนี้ดูแล้วเหมือนเพิ่งจะอายุยี่สิบต้นๆ นางดูอ่อนวัยกว่าตอนปกติที่อยู่ในวังไปเจ็ดแปดปี 

 

 

หลิงอวี้จื้อไม่กล้าชักช้า เข้าไปแล้วทำคารวะตามระเบียบกฎเกณฑ์ 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์โบกมือตามสบาย 

 

 

“ลุกขึ้นเถิด! เหตุใดพระชายาจึงมีกลิ่นควันและน้ำมันติดตัวหรือ” 

 

 

“กราบทูลไทเฮา หม่อมฉันเพิ่งไปห้องครัวมาเพคะ ดังนั้นจึงมีกลิ่นควันและน้ำมันติดตัว” 

 

 

หลิงอวี้จื้อไม่กล้าบอกมู่หรงกวานเย่ว์ตรงๆ ว่ากำลังเรียนทำอาหาร พระชายาที่เข้าครัวเองแทบจะไม่มี เดี๋ยวจะโดนพูดจาประชดเสียดสีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีก 

 

 

หากเธอให้มู่หรงกวานเย่ว์รู้ว่าตนเองเข้าครัวเพื่อเซียวเหยี่ยน ก็เกรงว่าใจที่อิจฉาริษยาของผู้หญิงจะทำให้มู่หรงกวานเย่ว์รีบหาเรื่องลำบากมาให้เธออีก ต่อหน้ามู่หรงกวานเย่ว์ต้องรู้กาลเทศะหน่อย มิเช่นนั้นจะไม่เป็นผลดีกับตนเองแม้แต่น้อย 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้ซักเรื่องนี้ต่อ สั่งการกับคนใช้ที่อยู่ข้างๆ ว่า 

 

 

“พวกเจ้าออกไปเถิด เรามีเรื่องจะคุยกับพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามลำพัง” 

 

 

“เพคะ” 

 

 

สาวใช้ทั้งห้องต่างออกไป ในบรรดานี้รวมถึงจื่ออีและมั่วชิงด้วย ห้องโถงใหญ่เหลือเพียงมู่หรงกวานเย่ว์กับหลิงอวี้จื้อเท่านั้น 

 

 

หลิงอวี้จื้อเดาไม่ออกว่ามู่หรงกวานเย่ว์มาหาเธอคราวนี้มีจุดประสงค์อะไร เรื่องเดียวที่สามารถมั่นใจได้ก็คือมู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้มาทำให้เธอเดือดร้อน ในเมื่อที่นี่ก็เป็นจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มู่หรงกวานเย่ว์คงไม่ตั้งใจวิ่งมาถึงที่นี่เพื่อหาเรื่องเธอ นอกจากเรื่องที่วางยาเธอครั้งก่อนแล้ว มู่หรงกวานเย่ว์จะคอยหาเรื่องเธอเงียบๆ โดยใช้ให้คนอื่นลงมือ ตัวนางเองจะไม่ลงมือด้วยตนเอง 

 

 

“ไม่ทราบว่าไทเฮามีอะไรรับสั่งหรือเพคะ” 

 

 

หลิงอวี้จื้อถามด้วยความเคารพนอบน้อม ต่อหน้ามู่หรงกวานเย่ว์ เธอรักษากิริยามารยาททุกกระเบียดนิ้ว หลีกเลี่ยงไม่ให้นางติได้ 

 

 

“หลิงอวี้จื้อ วันนี้เรามาหาเพียงเพราะอยากพูดเรื่องหนึ่งกับเจ้า” 

 

 

เมื่อคนอื่นถอยออกไปหมดแล้ว มู่หรงกวานเย่ว์ก็ไม่ได้เรียกเธอว่าพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซ้ำยังเรียกชื่อเธอด้วย ดูเหมือนนางจะเกลียดคำว่าพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เวลาที่ไม่ต้องเรียกเช่นนี้ได้ นางก็ไม่อยากเรียก 

 

 

ตามคาด มีเรื่องจริงๆ หลิงอวี้จื้อถามต่ออย่างเคารพ 

 

 

“หม่อมฉันตั้งใจฟังอยู่เพคะ” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 555 รู้เรื่องจริง​​​​​​​ 

 

 

“นี่อวิ๋นไปจากเมืองหลวงแล้ว” 

 

 

หลิงอวี้จื้อตะลึง เห็นได้ชัดว่า ไม่คิดว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะมาหาเธอเพื่อพูดเรื่องนี้ 

 

 

สองวันก่อนเธอเพิ่งไปเยี่ยมมู่หรงนี่อวิ๋น สองคนคุยหัวเราะกันดีๆ อยู่เลย จู่ๆ มู่หรงนี่อวิ๋นจะจากเมืองหลวงไปได้อย่างไร บาดแผลเขายังไม่หายดีอย่างสมบูรณ์ มิหนำซ้ำนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทำไมมู่หรงกวานเย่ว์จึงมาถึงจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพื่อบอกเธอ 

 

 

เธอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หรือว่ามู่หรงนี่อวิ๋นเกิดเรื่องแล้ว 

 

 

“นี่อวิ๋นไปไหนแล้วเพคะ” 

 

 

ถึงแม้ว่าสีหน้าของมู่หรงกวานเย่ว์ยังดูสงบ แต่แววตาประกายความรังเกียจแวบหนึ่งอย่างมองเห็นได้ 

 

 

เมื่อก่อนรู้สึกว่าแม่นางคนนี้น่าชื่นชอบนัก ขนาดนางยังมีความคิดจะให้นางเป็นลูกสะใภ้ตนเอง 

 

 

เมื่อรู้ว่าเซียวเหยี่ยนชอบนางแล้ว มู่หรงกวานเย่ว์ก็เริ่มเกลียดหลิงอวี้จื้อ ตอนนี้น้องชายของตนเองก็ถูกนางทำร้ายจนเป็นเช่นนี้ ในใจนางรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับหลิงอวี้จื้อขนาดไหน แค่ลองคิดดูก็รู้ 

 

 

“ไทเฮา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนี่อวิ๋นเพคะ” 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ไม่คิดจะปิดหลิงอวี้จื้ออยู่แล้ว มู่หรงหนี่อวิ๋นคิดเผื่อหลิงอวี้จื้อ แต่นางไม่ เด็กคนนี้มีสิทธิ์อะไรจะเสพสุขอย่างสบายอกสบายใจทุกอย่าง นางควรรู้สึกผิด จิตใจไม่ควรสงบสุข 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์เหลือบมองหลิงอวี้จื้ออย่างเย็นชา 

 

 

“นี่อวิ๋นโดนพิษดอกอวี้จีที่สำนักอู๋จี๋ อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว” 

 

 

“อะไรนะเพคะ” 

 

 

หลิงอวี้จื้อมองมู่หรงกวานเย่ว์ด้วยความตกใจ จะเป็นไปได้อย่างไร มู่หรงนี่อวิ๋นจะโดนวางยาได้อย่างไร เห็นอยู่ว่ามั่วชิงบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร มั่วชิงเป็นคนของสำนักอู๋จี๋ ไม่มีทางดูพิษของสำนักอู๋จี๋ไม่ออก นอกเสียจากว่ามั่วชิงหลอกเธอ 

 

 

หรือว่าที่ชุนเหนียงทำเขาเป็นแผลครั้งนั้น ทำให้เขาโดนยาพิษ 

 

 

ในหัวของหลิงอวี้จื้อร้อนรนที่สุด หากไม่ใช่เพราะมู่หรงกวานเย่ว์ยังอยู่ เธอคงเรียกมั่วชิงเข้ามาถามให้รู้เรื่องแล้ว เธอเป็นหนี้บุญคุณมู่หรงนี่อวิ๋นมากมายขนาดนั้น จะเป็นหนี้เขาอีกไม่ได้แล้ว 

 

 

“คราวก่อนเจ้าโง่คนนี้มาหาเรา เสนอว่าเขาจะสู่ขอเฉินปี้ ทำเช่นนี้เพียงเพื่อจะคลายกังวลให้เจ้า สุดท้ายก็ถูกอู๋อ๋องคาบไปเสียก่อน 

 

 

หลิงอวี้จื้อ เจ้านี่เป็นที่โปรดปรานของผู้ชายนัก ทำให้พวกเขาแต่ละคนหลงใหลได้ปลื้ม แม้แต่น้องชายของเราก็หนีไม่พ้น 

 

 

ตอนนี้จวนมู่หรงไม่มีทายาท เราอยากให้เขาได้เป็นผู้สืบทอดจวนมู่หรง และเลือกว่าที่ฮูหยินให้เขาไว้แล้ว 

 

 

สองสามวันนี้ก็จะแต่งงานแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาจะมาจากไปไม่ลาในตอนนี้ 

 

 

หลิงอวี้จื้อ เจ้าทำลายชีวิตเขาแล้ว ยังจะทำให้เขาไม่มีแม้กระทั่งทายาทด้วยหรือ 

 

 

เจ้าโง่นั่นก็สมองเลอะเลือนหมดแล้ว เพื่อเจ้าทำได้ถึงขนาดนี้ เจ้าต้องกล่อมให้เขากลับมาแต่งงาน หากตระกูลมู่หรงหมดสิ้นทายาทแล้ว เราก็จะทำให้จวนมหาเสนาบดีหมดสิ้นทายาทเช่นกัน” 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ยิ่งพูดยิ่งเย็นชา แววตายังมีความรู้สึกเสียมิได้ ที่จริงนางหาตัวมู่หรงนี่อวิ๋นเจอแล้ว เพียงแต่มู่หรงนี่อวิ๋นใช้เรื่องตายมาขู่ ไม่ยินยอมกลับมา มู่หรงกวานเย่ว์กลัวว่าเขาจะทำเรื่องโง่ๆ จริงๆ จึงมาหาหลิงอวี้จื้อ 

 

 

นางรู้ว่าหลิงอวี้จื้อกล่อมให้มู่หรงนี่อวิ๋นกลับมาได้ ชีวิตของมู่หรงนี่อวิ๋นถูกกำหนดไว้แล้ว ตอนนี้นางอยากให้มู่หรงนี่อวิ๋นมีลูกหลานให้ตระกูลมู่หรง ใครจะไปรู้ว่ามู่หรงนี่อวิ๋นจะต่อต้านเรื่องนี้เช่นนี้ 

 

 

เรื่องเหล่านี้หลิงอวี้จื้อไม่รู้เรื่องเลย สองวันก่อนที่เธอไปเยี่ยมมู่หรงนี่อวิ๋น เจ้าหมอนั่นไม่บอกอะไรเธอสักคำ 

 

 

เธอเห็นมู่หรงนี่อวิ๋นเป็นเพื่อนสนิทมาตลอด ไม่เคยคิดเป็นอื่นเลย ตอนนี้จู่ๆ มู่หรงกวานเย่ว์ก็โพล่งเรื่องเหล่านี้ออกมา เวลาสั้นๆ เธอยังย่อยเรื่องไม่ทัน มู่หรงนี่อวิ๋นจะมีความรักต่อเธอเช่นนั้นได้อย่างไร 

 

 

“ไทเฮาเพคะ หากเขาไม่ยินยอมแต่งงาน เหตุใดจะต้องบีบบังคับเขาเช่นนี้หรือเพคะ” 

 

 

“นี่เป็นหน้าที่ของเขา หลิงอวี้จื้อ เขามีวันนี้ได้ล้วนต้องขอบคุณเจ้า เจ้าจำคำพูดของเราเอาไว้ให้ดี หากเขาไม่กลับมาแต่งงาน จวนมหาเสนาบดีก็จะไม่มีทายาทอีกตลอดไป หากไม่เชื่อ จะลองดูก็ได้”