แดนนิรมิตเทพ บทที่ 747
เมื่อได้ยินคำถามของพิธีกรแล้ว เพื่อนนักศึกษาต่างรู้สึกตกตะลึง นึกไม่ถึงว่ามู่หรงยานเอ๋อร์จะมาตามหาผู้ชาย

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีน้องใหม่สาวสวยมาคนหนึ่ง ทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความหวัง แต่หลังจากตื่นเต้นตั้งนาน ถึงได้รู้ว่าความจริงแล้วน้องใหม่คนนี้มาตามหาแฟนของตนเอง

พวกเขารู้สึกเหมือนคนที่กำลังจะตายด้วยความกระหายอยู่กลางทะเลทราย ทันใดนั้นก็พบแหล่งน้ำ แต่เมื่อวิ่งไปถึงแล้ว มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น!

ไม่ต้องพูดถึงว่าความรู้สึกนั้นมันสิ้นหวังเพียงใด

“เฮ้อ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนไหนที่โชคดีขนาดนี้ ที่สามารถได้รับความรักจากคุณหนูยานเอ๋อร์!”

ผู้ชายส่วนใหญ่คิดแบบนี้ พวกเขาต่างรู้สึกอิจฉาริษยาผู้ชายที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมา

จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยสีหน้าเศร้า “จบแล้ว จบแล้ว ที่แท้เทพธิดามู่หรงยานเอ๋อร์มีชายในดวงใจแล้ว”

ทันใดนั้น จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยความโมโหว่า “ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวคนนั้นเป็นใคร ที่ทำให้ผู้หญิงดีแบบนี้ตามมาถึงที่นี่ได้!”

ห่าวเจี้ยนกล่าวด้วยสีหน้าอิจฉาเช่นกัน “สิ่งที่ทำให้ยิ่งรู้สึกโกรธก็คือจนถึงตอนนี้แล้ว คือไอ้สารเลวคนนั้นยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก ปล่อยให้คุณหนูยานเอ๋อร์เผชิญกับสายตาของคนมากมายอยู่บนเวทีคนเดียว”

ถึงแม้ว่าปฏิกิริยาของพวกกู่หลินเฟิงไม่รุนแรงเท่ากับจี๋ต๋าจิ่วตูและห่าวเจี้ยน แต่พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของสองคนนั้น

ลูกน้องของเสิ่นเจี้ยนเหวินแสดงสีหน้าอิจฉาเช่นกัน “คุณชายเสิ่น ดูเหมือนว่ามีคนชิงตัดหน้าได้ครอบครองหัวใจของคุณหนูหยานเอ๋อร์ไปแล้ว! โชคร้ายจริง ๆ ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวคนไหนที่โชคดีขนาดนี้!”

เสิ่นเจี้ยนเหวินถอนหายใจด้วยความเสียใจ “สามารถทำให้ผู้หญิงแบบนี้ตามมาถึงมหาวิทยาลัยหัวหนานได้ สถานะของบุคคลนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้ฉันก็คงต้องชิดซ้ายไปเลย!”

“ต่อไปพวกนายจะพูดอะไรก็ต้องระวังหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ล่วงเกินคนที่พวกเราไม่สามารถล่วงเกินได้”

พวกลูกน้องพยักหน้าเห็นด้วย “พวกเราจำไว้แล้ว!”

ขณะนี้ พิธีกรสาวที่อยู่บนเวทีกล่าวว่า

“มู่หรงยานเอ๋อร์ คุณสามารถบอกชื่อผู้ชายที่คุณกำลังตามหาให้พวกเราฟังได้ไหม?”

มู่หรงยานเอ๋อร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาเป็นประกาย ดูเหมือนว่าเพียงแค่เอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น ก็สามารถทำให้เธอรู้สึกมีความสุข

นักศึกษาที่อยู่ด้านล่างยิ่งอิจฉาริษยามากขึ้นไปอีก

“ผู้หญิงที่รักปักใจ แถมหน้าตาสวยและบุคลิกดี ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวคนไหนที่โชคดีขนาดนี้?”

จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม แทบอยากจะยืนขึ้น เขาพับแขนเสื้อขึ้น กัดฟันกล่าวด้วยความโมโหว่า “ไอ้สารเลวคนนั้นเป็นใครกันแน่? ยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก ถ้าเป็นฉัน ฉันจะรีบขึ้นไปบนเวทีแล้วพาคุณหนูยานเอ๋อร์ลงมา!”

ห่าวเจี้ยนกำหมัดไว้แน่น กัดฟันและกล่าวว่า “ถูกต้อง อีกสักครู่ถ้าไอ้สารเลวคนนั้นปรากฏตัวออกมา พวกเราไปต่อยมันสักที เพื่อระบายความโกรธแทนคุณหนูยานเอ๋อร์ดีไหม?!”

“โอเค”

สมาชิกของหอพักห้อง 306 มีความเห็นอกเห็นใจ และมีความคิดเห็นตรงกันกับข้อเสนอนี้

เฉินโม่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าวันนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากจะปรากฏตัวออกมา ก็คงจะไม่ได้แล้ว

บนเวที ตอนนี้ในสมองของมู่หรงยานเอ๋อร์ ปรากฏภาพที่เฉินโม่ยืนขวางอยู่ตรงหน้าเธอตอนที่เจอวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่า เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและชัดเจนว่า “เขาชื่อเฉินโม่ เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง!”

จี๋ต๋าจิ่วตูตกตะลึงครู่หนึ่ง หันไปมองเฉินโม่และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฮ่า ๆ ไอ้เบื๊อกเฉิน นึกไม่ถึงว่าจะมีคนที่ชื่อเหมือนนาย!”

“ไม่เห็นจะมีอะไรน่าแปลก? ในหัวเซี่ย มีคนที่ชื่อแซ่เดียวกันมากมาย แม้แต่คนที่ชื่อแซ่เดียวกัน เกิดวัน เดือน ปี เดียวกันก็ยังมีมากมาย!” ห่าวเจี้ยนกล่าวอย่างจริงจัง

มีเพียงเจี่ยจวินซื่อเท่านั้นที่มองเฉินโม่ด้วยความสงสัย และมีความซับซ้อนปรากฏอยู่ในสายตาของเขา