แดนนิรมิตเทพ บทที่ 746
“ฮ่า ๆ ช่างมันเถอะ ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างพิถีพิถัน ไม่เคยแย่งชิงอะไรกับเพื่อน!” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยความใจกว้าง

“จริงเหรอ? ถ้าเช่นนั้นนายก็อย่ามาแย่งโจวเสี่ยวหยู่กับฉันน่ะ!” นี่ถึงจะเป็นจุดประสงค์ของห่าวเจี้ยน

จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกว่าตนเองตกหลุมพราง แต่เขาพูดโอ้อวดออกไปแล้ว เสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

เจี่ยจวินซื่อพูดโจมตีอย่างไร้ความปรานี “ไม่ใช่ว่าไอ้อ้วนไม่อยากแย่งชิงกับเฉินโม่ แต่เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถแย่งชิงได้ ดังนั้นเขาจึงทำเป็นว่าตนเองเป็นคนใจกว้าง”

จี๋ต๋าจิ่วตูจ้องเจี่ยจวินซื่อด้วยความโมโห “พวกนาย… ฮึ่ม ฉันจะย้ายห้อง และไม่สนใจพวกนายอีกต่อไปแล้ว!”

เสิ่นเจี้ยนเหวินซึ่งอยู่ไม่ไกล เหลือบมองพวกจี๋ต๋าจิ่วตูด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

ลูกน้องของเขากล่าวเยาะเย้ย “คุณชายเสิ่น หน้าตาแบบนี้ แล้วยังฝันอยู่อีก ช่างน่าขำสิ้นดี!”

เสิ่นเจี้ยนเหวินกล่าวเบา ๆ “มันเป็นความฝัน ก็ให้พวกเขาฝันไปเถอะ?”

“ฮ่า ๆ” ลูกน้องหัวเราะเยาะกันครู่หนึ่ง

“คุณชาย กล่าวตามตรง ผู้หญิงคนนี้ไม่ด้อยไปกว่าเล่หรูหั่ว ฉันคิดว่าคุณชายน่าจะลองจีบ”

“ใช่ คุณชาย อย่ารักปักใจอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียว ควรจะมองคนอื่นบ้าง!”

เสิ่นเจี้ยนเหวินมองมู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่บนเวทีด้วยสายตาเร่าร้อน “ถ้ามีโอกาส ฉันก็จะลองจีบ!”

บนเวที พิธีกรสาวจับมือมู่หรงยานเอ๋อร์อย่างมีไมตรี และตะโกนบอกนักศึกษาที่กำลังตื่นเต้นอยู่ใต้เวทีว่า “ทุกคนอยากรู้จักนักศึกษาน้องใหม่คนนี้ไหม?”

“อยาก!” เสียงดังมาจากทั่วสารทิศ

“บอกตามตรง ฉันก็อยากรู้จักเหมือนกัน!” พิธีกรกล่าวด้วยความอารมณ์ขัน ทำให้ทุกคนหัวเราะ

“ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ก็ให้นักศึกษาน้องใหม่แนะนำตัว และทักทายทุกคน”

“เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก!” เพื่อนนักศึกษารู้สึกตื่นเต้น โดยเฉพาะพวกผู้ชาย พวกเขาเริ่มสอบถามประวัติของมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว

พิธีกรมอบไมโครโฟนให้มู่หรงยานเอ๋อร์ “นักศึกษาน้องใหม่ อย่าทำให้ทุกคนผิดหวังน่ะ!”

สีหน้าของมู่หรงยานเอ๋อร์แดงระรื่น เธอถือไมโครโฟนและกวาดสายตามองฝูงชนที่อยู่ด้านล่าง แต่น่าเสียดายที่เธอมองไม่เห็นเฉินโม่

“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อมู่หรงยานเอ๋อร์ ฉันมาจากมณฑลเจียงหนาน”

มู่หรงยานเอ๋อร์ ว้าว เป็นชื่อที่ไพเราะจริง ๆ แน่นอนว่าผู้หญิงที่หน้าตาดี ล้วนมีชื่อที่ไพเราะ

สายตาของมู่หรงยานเอ๋อร์กวาดมองอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่พบเฉินโม่ ทำให้เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย

คนที่อยู่ใต้เวทีที่เป็นคนช่างสังเกต ต่างรู้สึกว่ามู่หรงยานเอ๋อร์ผิดปกติ

“เหมือนว่าเธอกำลังมองใครอยู่?”

จี๋ต๋าจิ่วตูยิ้มอย่างกะทันหัน “พวกนายเห็นไหมว่าเมื่อสักครู่มู่หรงยานเอ๋อร์มองฉัน!”

พวกเขา “……”

ห่าวเจี้ยนพูดโจมตีอย่างไร้ความปรานีว่า “เมื่อสักครู่เธอมองฉันเหมือนกัน!”

จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยความโมโหว่า “ไม่เหมือนกัน!”

มู่หรงยานเอ๋อร์กวาดสายตาไปใต้เวทีอีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่พบคนที่กำลังตามหา

ในที่สุดจี๋ต๋าจิ่วตูก็รู้สึกว่ามู่หรงยานเอ๋อร์ผิดปกติ และกล่าวว่า “พวกเราเห็นหรือไม่ว่าเธอกำลังมองหาใครสักคนอยู่?”

“หรือว่ากำลังตามหาผม!” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยสีหน้าหลงตัวเอง

ไม่มีใครสนใจเขา

หลังจากพูดออกไปหนึ่งประโยค มู่หรงยานเอ๋อร์ก็หยุด และเริ่มมองหากลางฝูงชนอีกครั้ง ในที่สุดพิธีกรก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูยานเอ๋อร์ คุณกำลังตามหาใครอยู่ใช่ไหม?”

มู่หรงยานเอ๋อร์พยักหน้า “ใช่ค่ะ!”

“เขาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยของพวกเราใช่ไหม?”

มู่หรงยานเอ๋อร์พยักหน้าอีกครั้ง “ใช่ค่ะ!”

“ผู้ชาย?” พิธีกรรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถาม

สีหน้าของมู่หรงยานเอ๋อร์ยิ่งแดงขึ้นไปอีก เธอพยักหน้าต่อ “ใช่ค่ะ!”

เมื่อมองท่าทางของมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว พิธีกรสาวที่มีแฟนมาสองปีแล้ว ท่าทางของเธอเหมือนกับตนเองตอนที่ได้พบผู้ชายที่ตนเองชอบเป็นครั้งแรก

เธอมั่นใจว่าคนที่มู่หรงยานเอ๋อร์กำลังตามหา ต้องเป็นชายในดวงใจของเธออย่างแน่นอน

พิธีการรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย ผู้หญิงอย่างมู่หรงยานเอ๋อร์ ถึงแม้จะคอยดูแลอยู่ข้างกายก็ยังไม่วางใจเลย แล้วใครที่ทิ้งเธอได้ลงคอ?

ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนโง่เขลาอย่างแน่นอน!