บทที่ 376 การมาถึงของราชา

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ผมเป็นกัปตันของเครื่องบินลำนี้ พวกคุณมีความต้องการอะไรก็พูดมาได้เลย พวกเราจะยอมทำตามทุกอย่าง”

“ผมต้องการแค่อย่างเดียว นั่นก็คือพวกคุณห้ามทำร้ายใครทั้งนั้น!”

การปรากฏตัวของกัปตันก็ทำให้เย่เทียนถึงกับตากระตุก ดวงตาสีดำได้เหลือบมองเซ่เจียด้วยความโมโหไปแวบหนึ่ง

เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกไปว่าไม่มีทางยอมให้เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางไปไหนเด็ดขาด นี่มันไม่เท่ากับการมาหักหน้าเขาหรอกเหรอ?

“ไม่ต้องพูดมาก ฉันต้องการให้เปลี่ยนเส้นทางไปหยุนเตียนเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ทุกๆ ห้านาทีฉันจะฆ่าคนหนึ่งคน!”

ไอ้ฟันทองตะโกนออกมาด้วยความโมโห

“ตกลง!ผมจะเปลี่ยนเส้นทางไปที่หยุนเตียนเดี๋ยวนี้!”

กัปตันมองหน้าเย่เทียนด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง เรื่องถึงขั้นนี้ คนที่จะสามารถจัดการกับพวกกล้าบ้าบิ่นก็มีเพียงชายหน้าตาอัปลักษณ์คนนี้เท่านั้นแล้ว

“อีกอย่าง เราต้องการให้มันไปที่ห้องนักบินพร้อมกับแกด้วย! ไม่อย่างนั้นเราจะทำการฆ่าคนทันที!”

ยังไม่ทันที่กัปตันจะได้หันหลัง ไอ้ฟันทองก็ชี้ปืนไปที่เย่เทียนอีกครั้ง

กัปตันส่งสัญญาณให้เย่เทียนด้วยสายตา ต้องการให้เย่เทียนยอมทำตามไปก่อน

แต่ทว่า ยังไงเย่เทียนก็ไม่ยอมทำตาม ยังคงนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเกียจคร้าน แล้วมองไอ้ฟันทองด้วยสีหน้าที่จะยิ้มไม่ยิ้ม

ปั้ง!

ไอ้ฟันทองถูกเย่เทียนจ้องจนขนลุก กัดฟันแล้วยิวไปยังขาของลูกค้าคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ

“อ้า!”

เลือดสดๆ ได้ทะลักออกจากปากแผลทันที เมื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นมาจากขา สีหน้าของผู้โดยสารคนนั้นก็บูดเบี้ยวและเหงื่อเม็ดใหญ่ก็ผุดออกจากหน้าผากทันที

“เรียนผู้โดยสารทุกท่าน ถ้าทุกท่านเชื่อใจผม ก็รีบเอามือกุมหัวแล้วซุกเข้าไปที่ต้นขา”

“แน่นอนว่า ไอ้โง่พวกนี้อาจจะยิงไปที่คุณ แต่พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าพวกคุณดวงซวยแล้วเกิดตายขึ้นมา ผมสัญญาว่าจะส่งพวกมันลงไปชดใช้ให้อย่างแน่นอน!”

เย่เทียนยักคิ้วเบาๆ และพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

หลังจากที่ตกใจไปครู่หนึ่ง ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ตั้งสติได้ แล้วพากันทำตามที่เย่เทียนพูด สองมือกุมหัวแล้วพยายามซุกหัวเข้าไปใต้ขาให้ได้มากที่สุด

“กะ แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? นี่แกคิดจะทำอะไรกันแน่?”

ไอ้ฟันทองที่ได้ยินอย่างนั้น ก็รีบดึงผู้โดยสารคนหนึ่งมาบังไว้ข้างหน้า ในเวลาเดียวกันมือขวาที่ถือปืนก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่พรรคพวกอีกสองคนก็ไม่ต่างกัน พยายามหลบอยู่ข้างหลังของลูกค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ตาย!’

เย่เทียนได้เปล่งเสียงออกจากซอกฟันอย่างไม่ชอบใจหนึ่งพยางค์ ยกมือทั้งสองขึ้นอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นก็มีบอลแรงดันอากาศสามลูกพุ่งออกจากมือ เพียงพริบตาเดียวก็เจาะทะลุหว่างคิ้วของไอ้ฟันทองกับพวกไปแล้ว!

แต่ว่า ถ้ามีใครไปเทียบกันดีๆ ละก็ จะต้องสังเกตเห็นอย่างแน่นอนว่ารูที่กำลังมีเลือดไหลออกมาตรงบนหว่างคิ้วของหนึ่งในนั้นได้เบี้ยวไปนิดหนึ่ง

“โชคดีที่ไม่มีอะไรผิดพลาด!’

พอเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายแล้ว เย่เทียนก็แอบรู้สึกโล่งอก

ถ้าควบคุมลูกบอลแรงดันอากาศเพียงแค่ลูกเดียว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเย่เทียนเลย สองลูกยังพอไหว

แต่ถ้าสามลูก มันก็พอทำให้เย่เทียนกดดันได้เหมือนกัน

หนึ่งคือเขาเพิ่งทำศึกหนักกับฮวาอวี่เฟยมา ในเวลาเพียงสองชั่วโมงไม่มีทางที่จะฟื้นฟูได้

สองคือการที่ต้องโจมตีด้วยลูกบอลแรงดันอากาศถึงสามลูกที่อยู่คนละทางในเวลาเดียวกัน แถมยังต้องรับประกันว่ามันจะไม่พลาดเป้า ความเร็วก็ต้องเร็วจนอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ เลย

นี่มันก็เหมือนกับการวาดวงกลมด้วยมือขวาและวาดสี่เหลี่ยมด้วยมือขวาไม่มีผิด ถึงทำอะไรสองอย่างในเวลาเดียวกันมันจะเป็นเรื่องยาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีใครทำได้

แต่ถ้าต้องทำสามอย่างหรือสี่อย่างพร้อมกัน ความยากมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลกันเลยทีเดียว!

“กรี๊ด!”

พอเห็นพวกไอ้ฟันทองล้มลงกับพื้น ผู้โดยสารที่ตกใจจนขวัญกระเจิงตั้งแต่แรกก็ทนไม่ไหวจนได้กรีดร้องออกมา สายตาแต่ละคู่ที่มองมายังเย่เทียนต่างก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว

เรื่องถึงขั้นนี้ พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าพวกไอ้ฟันทองนั้นตายยังไง แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นฝีมือของเย่เทียนอย่างแน่นอน

กับเรื่องที่ไม่เข้าใจ พวกเขาจะไม่กลัวได้เหรอ?

“ทุกท่านใจเย็นลงก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ผมได้แจ้งเรื่องไปที่ตำรวจของเจียงหนันแล้ว พวกเขาได้รอพวกเราอยู่ที่สนามบินแล้ว ถึงตอนนั้นทางเราอยากขอความร่วมมือทุกท่านให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยนะครับ”

กัปตันที่ยังควบคุมสติได้ จึงรีบก้าวออกมา แล้วตะโกนให้กำลังใจกับผู้โดยสารทั้งหลาย

“ยังมัวอึ้งอะไรอีก? ยังไม่รีบลากคนพวกนี้ไปข้างหลังอีก?”

กัปตันได้หันไปสั่งแอร์สาวหลายคนที่กำลังตกใจจนหน้าซีด พอเห็นสถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว เขาถึงหันมาที่เย่เทียน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณผู้ชาย คุณ…..”

“ผมง่วงแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็อย่ามากวนผมละกัน”

เย่เทียนโบกมือ หมุนตัวแล้วเดินกลับไปในชั้นเฟิร์สคลาสอย่างสบายๆ

สำหรับลูกค้าคนอื่นในเครื่องบินลำนี้ เหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวในครั้งนี้ คงเป็นความซวยที่จะได้พบเจอได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่มันไม่ใช่กับเย่เทียน สายฝนโลหิตที่เขาพบเจอนั้นมากมายเหลือเกิน เขาจึงไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด

สิบนาทีหลังจากนั้น เซ่เจียก็กลับมาที่ชั้นเฟิร์สคลาสเหมือนกัน และจ้องมองเย่เทียนที่กำลังหลับอย่างไม่ปิดบังจากอีกฟากของทางเดิน

ถึงแม้เย่เทียนจะลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม ฆ่าจนไม่เหลือสักคน แต่ภายในใจ เซ่เจียก็ไม่ได้รู้สึกว่าเย่เทียนทำอะไรผิด

แต่กลับกันเลย เซ่เจียถึงขั้นสนใจเย่เทียนขึ้นมาอย่างมากเลยด้วยซ้ำ

“เขาเป็นใครกันแน่นะ?”

ไม่ว่ายังไง หลังจากนั้นสองชั่วโมงเครื่องบินก็ค่อยๆ ลงจอดที่สนามบิน ขณะที่อยู่บนเมฆสีขาวก็ยังสามารถมองเห็นฝูง ‘มด’ มากมายที่ยืนอยู่ในสนามบินด้านล่าง

คนพวกนี้ต่างก็เป็นเหล่าตำรวจที่ได้รับเรื่องแล้วรีบเดินทางมา สามารถพูดได้เลยว่าได้ล้อมสนามบินเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็หนีออกไปไม่ได้

ไม่ว่ายังไง การจี้เครื่องบินก็เป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก เป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถทำให้สะเทือนไปทั้งประเทศเลย!

และผ่านไปอีกสิบห้านาที ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอดได้สำเร็จ พอประตูของเครื่องบินเปิดออก หน่วยรบพิเศษที่อาวุธครบมือกลุ่มหนึ่งก็ได้พุ่งมาที่ประตูทันที

“ง่วงจะตายอยู่แล้ว”

ภายใต้ปากกระบอกปืนที่เล็งมา ก็มีชายหนุ่มที่ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่คนหนึ่งเดินออกมาจากทางประตู เมินเฉยต่อเหล่าหน่วยรบพิเศษทั้งหลาย และบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน

และคนๆนี้ นอกจากเย่เทียนยังจะเป็นใครได้อีก?

“ห้ามขยับ!”

“ยกมือไว้บนหัว!”

วินาทีต่อมา ตำรวจนับร้อยที่อยู่รอบๆ ก็ได้ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ต้องยกพวกกันมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ? มันแค่เรื่องเล็กๆ เองไม่ใช่รึไง!”

เย่เทียนทำเหมือนเพิ่งมองเห็นพวกเขา และเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ “ไปเรียกผู้บัญชาโจ๋หย่วนหันของพวกคุณมา”

ความจริงแล้ว มันไม่จำเป็นต้องให้เย่เทียนเปิดปากพูดก็ได้ โจ๋หย่วนหันที่มองผ่านกล้องส่องทางไกลจะที่ไม่ไกลพอเห็นว่าเขาเป็นใคร ก็รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาทันที “คะ คุณชายเย่ ทำไมคุณถึงมาอยู่ในเครื่องบินลำนี้ได้ครับ?”

ภายใต้สายตาที่มึนงงอันนับไม่ถ้วนโจ๋หย่วนหันก็ทำตัวต้อยต่ำที่สุด

“ถ้าผมไม่อยู่บนนั้น เกรงว่าว่าป่านนี้เครื่องบินลำนี้จะบินไปถึงแล้วก็ไม่รู้!”

เย่เทียนเบ้ปาก “คนร้ายทั้งหมดสิบคน ผมเหลือไว้คนหนึ่ง พวกคุณเอาไปสอบสวนดีๆ! ผมคิดว่าในบริษัทของสายการบินนี้ต้องมีพวกมันแฝงตัวอยู่แน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเอาอาวุธมากมายขนาดนั้นขึ้นเครื่องไปได้แน่นอน!”

“อีกเรื่อง ผมไม่ต้องการออกหนังสือพิมพ์ คุณน่าจะรู้นะว่าต้องทำยังไง”

หลังจากสั่งการไปพอสังเขป เย่เทียนก็หมุนตัวแล้วเดินจากไปอย่างสบายใจเฉิบ

ตำรวจบางคนอยากที่จะเข้ามาขวางเย่เทียน แต่ภายใต้การโบกมือให้สัญญาณจากโจ๋หย่วนหันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องวางใจ ในใจก็แอบคาดการว่าเย่เทียนมีตำแหน่งระดับไหน ถึงขนาดทำให้โจ๋หย่วนหันให้เกียรติขนาดนี้

ใครก็ไม่เคยสังเกตมาก่อนว่า มีเงาของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังจ้องมองแผ่นหลังของเย่เทียนไกลออกไปจากทางช่องหน้าต่างของเครื่องบิน ความสนอกสนใจปรากฏขึ้นในแววตาที่สวยงาม….