บทที่ 1642 - จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ตาข่ายดักวิญญาณ วิหคอรุณโปรยปราย

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1642 – จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ตาข่ายดักวิญญาณ วิหคอรุณโปรยปราย

 

เห็นได้ชัดว่าตระกูลหยินนั้นประเมินตระกูลหงต่ําเกินไป การปรากฏตัวของชิงสุ่ยนั้นถือเป็นตัวแปรสําคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ สําหรับหงหงและหงภู่พลังของพวกเขาในตอนนี้นั้นเหนือกว่าเฟิงซี่และผู้อาวุโสหวัง พวกเขานั้นเทียบได้กับหยินเทียนเมื่อใช้พลังสูงสุดในตอนนี้

 

ชิงสุ่ยก็พยายามรับมือกับพวกเขาจนสุดความสามารถ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทําให้ทั้งสองฝ่ายต้องตกตะลึง แต่ลึกๆในใจแล้วนอกเหนือจากการตกตะลึงผู้อาวุโสหวังก็รู้สึกยินดีมากเช่นกัน เช่นเดียวกันสําหรับเฟิงซี่และหยินชา หากไม่ใช่เพราะชิงสุ่ยพวกเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ในตอนนี้

 

ตระกูลหงนั้นรู้สึกเสียใจและอิจฉาตระกูลหยิน ครั้งนี้ตระกูลหงนั้นมั่นใจอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะสามารถทําลายตระกูลหยินไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทําให้พวกเขาต้องผิดหวัง และยิ่งไปกว่านั้นผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนไปได้เช่นกัน มันทําให้พวกเขารู้สึกอยากจะกระอักเลือดออกมา

 

เขาไม่เข้าใจว่าทําไมศัตรูของตนเองถึงโดดเด่นทั้งทางด้านการโจมตี การป้องกัน รวมไปถึงความเร็วก็ด้วยเช่นกัน ในทางกลับกันพวกเขาไม่เพียงแต่รู้สึกอ่อนแอลงแต่ยังรู้สึกเชื่องช้าลงด้วยเช่นกัน

 

ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้มองเห็นว่ามันเป็นเพราะคนที่อายุน้อยที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้ ชิงสุ่ย!

 

ชายผู้นี้มีความสามารถที่แปลกประหลาดในการต่อสู้แห่งนี้ เขามองไปรอบๆการต่อสู้ครั้งนี้อยู่เสมอ และลงมือทําอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เขาและพี่ชายรู้สึกได้ว่าพลังของพวก เขานั้นลดลงไปอย่างมาก นอกจากนี้ตําแหน่งที่เขายืนอยู่นั้นก็มีความพิเศษเช่นกัน ชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนเดียวที่เคลื่อนที่ไปมาในการต่อสู้ครั้งนี้ คนอื่นนั้นต่างก็นิ่งอยู่ที่ตําแหน่งของตัวเอง

 

ดังนั้นด้วยประสบการณ์และความรู้ของพี่น้องตระกูลหง พวกเขารู้สึกว่าต้องกําจัดชายหนุ่มผู้นี้ก่อน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะสามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้

 

ปู ปุ!

 

เฟิงชื่อละหยินชาก็ได้สังหารชายชราไปอีก หยินชาได้สังหารไปถึง 2 คนแล้ว เมื่อศัตรูตระหนักได้ถึงความสําคัญของชิงสุ่ย พวกเขาก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น ดังนั้นงานหลักของพวกเขา คือกําจัดพวกชายชราเหล่านั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถทําลายกลยุทธ์ของศัตรูเคยได้ ไม่อย่างนั้นแล้วหากศัตรูของพวกเขาร่วมมือกันและเล็งเป้าหมายไปที่ซิงชุ่ย เช่นนั้นแล้วก็จะถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง

 

วิหคอรุณโปรยปราย 4 ตัวปรากฏขึ้นรอบตัวของหงหงและหง พวกมันถือเป็นสัตว์อสูรสังหาร พวกมันมีสีดําทั้งตัว ความยาวไม่ถึง 100 เมตรและตัวยาวเหมือนงู

 

มันดูแตกต่างจากวิหคที่ชิงสุ่ยเคยเห็นมามากนัก อีกทั้ง 2 ข้างของมันราวกับกระบี่ขนาดใหญ่ มันเหมือนกับปีกของจักจั่นที่ดูทั้งบางและใส

 

เสียงแหลมเล็กดังขึ้นมา ตอนนี้มันกําลังพุ่งเข้ามาหาชิงสุ่ย นี่ทําให้ทั้งผู้อาวุโสหวังและเฟิงซี่รู้สึกกังวลเล็กน้อย พวกเขาก็รู้สึกเป็นกังวลต่อวิหคอรุณโปรยปรายด้วยเช่นกัน ความจริงแล้วการปรากฏตัวของวิหคอรุณโปรยปรายเป็นสิ่งที่พวกเขารู้สึกหวาดกลัวมากที่สุด

 

เหตุผลที่เฟิงซี่ ผู้อาวุโสหวังและหยินชาเรียกสัตว์อสูรของพวกเขาออกมานั้นก็เพื่อป้องกัน การโจมตีอย่างกะทันหันของวิหคอรุณโปรยปราย สัตว์อสูรพวกเขานั้นคล้ายคลึงกับสัตว์อสูรโล่ซึ่งจะช่วยสามารถป้องกันการโจมตีของวิหคอรุณโปรยปรายได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ

 

แต่ในตอนนี้เมื่อพวกเขาตระหนักได้ถึงพลังของวิหคอรุณโปรยปรายดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ แม้ว่าพลังของพวกมันจะยังไม่ได้ยกระดับไปสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกมันก็อยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ ในหมู่สายพันธุ์เดียวกันนั้นมันถือเป็นยอดด้านความเร็ว ปีกขนาดใหญ่ของมันนั้นสามารถใช้ฟาดฟันทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่มันไม่อาจฟาดฟันได้ แต่ร่างกายของมนุษย์นั้นมันสามารถฟาดฟันได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอน แม้แต่ผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในขั้นแรกเริ่มก็อาจจะถูกมันสังหารไปได้อย่างง่ายดาย

 

คนอื่นๆต้องการช่วยเขา แต่มันสายเกินไปที่จะทําเช่นนั้น คทาทองคําในมือของชิงสุ่ยเปลี่ยนไปเป็นระฆังสะท้านจิตทันที เขาแกว่งมันไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงที่แหลมยิ่งกว่าเสียงร้องของวิหคอรุณโปรยปรายก็ดังออกมา

 

ชิงสุ่ยสั่นระฆังนี้ไปมาไม่หยุด อสูรสยบมังกรใช้โอกาสนี้กระโดดเข้าไปตรงหน้าวิหคอรุณโปรยปราย อสูรสยบมังกรนั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ในตอนนี้ด้วยการพัฒนาจากชิงสุ่ยทําให้พลังและความเร็วของมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

 

อสูรนรกรัตติกาลนั้นยังคงอยู่ใกล้ๆชิงสุ่ยโดยตลอด หากมีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมันจะเอาตัวเองเข้ามาป้องกันชิงสุ่ยในทันที

 

ดังนั้นชิงสุ่ยยังคงมีทางหนีที่รอด แต่ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นไม่จําเป็นต้องทําเช่นนั้น เขากวัดแกว่งง้าวทองทะลวงศัตรูในมืออีกครั้ง

 

ตาข่ายดักวิญญาณ !

 

เถาวัลย์จํานวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบตัวชิงสุ่ย นี่คือความสามารถธาตุไม้ของชิงสุ่ยจากเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุของเขา แม้ว่ามันจะไม่ได้น่าสะพรึงกลัวเท่ากับเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด แต่มันก็เหนือกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดในด้านการครอบคลุมพื้นที่ ด้วยการฝึกฝนในตอนนี้ของชิงสุ่ยความแข็งแรงของเถาวัลย์ในตาข่ายดักวิญญาณนั้นถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง

 

ตาข่ายดักวิญญาณนั้นถือเป็น 1 ในเคล็ดวิชาสังหารที่ทรงพลังของเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุ ตาข่ายดักวิญญาณนั้นโดดเด่นในด้านการควบคุมพื้นที่ แม้ว่ามันจะด้อยกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด แต่ก็ไม่ได้มากนัก มันด้อยกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดเพียงแค่ 20% เท่านั้น ความสามารถในการดูดเลือดของมันยังคงมีอยู่ เพียงแต่ความสามารถในการพัฒนาการและดูดพลังของมันนั้นเหนือกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด

 

เถาวัลย์กระจายจากตัวของชิงสุ่ยไปทั่วทั้งท้องฟ้าและตรงเข้าไปหาวิหคอรุณโปรยปราย อสูรสยบมังกรและวิหคอรุณโปรยปรายต่างก็เผชิญหน้ากันในตอนนี้ พวกมันต่างก็อยู่ภายในเถาวัลย์นี้ แม้แต่วิหคอรุณโปรยปรายที่ทรงพลังนั้นก็ยากยิ่งนักที่จะสยายปีกภายในเถาวัลย์แห่งนี้ มันเหมือนกับมีดที่แหลมคมที่ติดอยู่ในผ้าฝ้ายนิ่มๆ

อสูรสยบมังกรได้กระโดดเข้าไปหาวิหคอรุณโปรยปรายทันที ด้วยขนาดมที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทําให้อสูรสยบมังกรได้เปรียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด เสียงร้องแหลมของวิหคดังขึ้นทันที

 

วิหคอรุณโปรยปรายอีกตัวรู้สึกเกรี้ยวกราด เพราะระฆังสะท้านจิตของชิงสุ่ยจนเริ่มบินวนเป็นวงกลม มันส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง วิหคอรุณโปรยปรายอีก 2 ตัวที่เหลือต่างก้ติดอยู่ในเถาวัลย์นับไม่ถ้วน แต่พวกมันก็พยายามบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาชิงสุ่ยเมื่อมีโอกาส

 

ชิงสุ่ยส่งกระแสจิตบอกให้เฟิง ซี่และผู้อาวุโสหวังให้เริ่มเคลื่นไหวได้แล้ว เขาบอกให้หยินชา และเฟิงซี่รีบเข้าไปสังหารศัตรู สําหรับผู้อาวุโสหวังนั้นรับมือกับ 2 คนนั้น ในตอนนี้ชิงสุ่ยเรียกอสูรอัสนีคลั่งของเขาออกมา

 

สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายยิ่งนักแต่ชิงสุ่ยก็ยังคงมีไพ่ตายซ่อนเร้นเอาไว้อยู่ อย่างน้อยที่สุด เขาก็มั่นใจได้ว่าเจ้านกพวกนี้จะทําอะไรเขาไม่ได้อย่างแน่นอน

 

วิหคอรุณโปรยปรายนั้นทรงพลังเทียบได้กับอสูรสยบมังกรแต่พวกมันก็ต้องร่วมมือกัน มิฉะนั้นความเร็วของพวกมันจะถูกลดลงไป อันที่จริงแล้วหงหงและหงคู่ต่างก็กําลังจับตามองความเร็วของชิงสุ่ย เพียงแต่ถ้าหากว่าพวกเขาทราบถึงความเร็วที่แท้จริงของชายหนุ่มคงจะไม่ทําเช่นนี้ กลับกันพวกเขาคงจะเลือกสั่งให้วิหคของตนเองร่วมมือกันสังหารผู้อาวุโสหวังอย่างแน่นอน

 

หากพวกเขาสังหารผู้อาวุโสหวังได้สถานการณ์ในตอนนี้ย่อมเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน แต่ดูเหมอนว่าพวกเขาจะคิดว่าการสังหารชิงสุ่ยจะเป็นหนทางที่ง่ายกว่า

 

เหตุผลหลักที่พวกเขาทําเช่นนี้นั่นก็เพราะว่าไม่ต้องการเห็นคนของตระกูลหงต้องเสียชีวิตอีกต่อไป พวกเขาต้องเลือกที่จะทําอะไรบางอย่างไม่เช่นนั้นการสูญเสียก็จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ

 

นี่คือสิ่งที่มักจะได้ผลเสมอ ความผิดพลาดในการตัดสินใจแม้แต่สิ่งที่ไม่สําคัญอาจนําไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

 

ในตอนนี้วิหคอรุณโปรยปราย 2 ตัวก็หลุดออกจากเถาวัลย์ได้สําเร็จ อสูรสยบมังกรได้กําจัดวิหคอรุณโปรยปรายไป 1 ตัวแล้ว ชิงสุ่ยนั้นกําลังถือลูกปัดเหล็กกล้าเหมันต์ในมือของเขา ในตอนนี้อสูรสยบมังกรถอยไปอยู่ข้างหลังเขา

 

ชิงสุ่ยยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจ วิหคอรุณโปรยปรายนั้นดูตกตะลึงและไม่กล้าเข้าใกล้ชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเรียกหุบเขา 9 เทวาออกมาในตอนนี้

 

แม้ว่าพลังของมันในตอนนี้จะไม่อาจทําอะไรผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่มันก็ยังมีผลต่อวิหคอรุณโปรยปราย เพราะตัวมันเองนั้นมีทักษะปราการจู่โจมที่ทรงพลัง

 

หุบเขา 9 เทวา!

 

ชิงสุ่ยสั่งให้หุบเขา 9 เทวาพุ่งเข้าไปปะทะกับวิหคอรุณโปรยปราย พร้อมกันนั้นเขาก็สั่งให้อสูรสยบมังกรพุ่งเข้าไปปะทะในทิศทางที่วิหคอรุณโปรยปรายกําลังหลบหนีออกมา

 

วิหคอรุณโปรยปรายถูกโจมตีมาจากทั้งสองข้าง นอกจากนี้ท่ามกลางการต่อสู้นี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเกิดขึ้นกับอสูรสยบมังกรและหุบเขา 9 เทวา วิหคอรุณโปรยปรายสามารถหลบหนีทั้ง 2 อย่างที่เข้ามาโจมตีได้ ทําให้ชิงสุ่ยต้องใช้อาวุธลับของเขาออกไป

 

อาวุธลับของชิงสุ่ยนั้นไม่อาจมองเห็นได้ มันเจาะเข้าไปในตาซ้ายของนกทันที จากนั้นเสียงของของความเจ็บปวดก็ดังขึ้นทันที อสูรสยบมังกรใช้โอกาสนี้พุ่งเข้าไปโจมตีอีกครั้ง

 

วิหคอรุณโปรยปรายตัวสุดท้ายกําลังพุ่งเข้ามาใกล้ชิงสุ่ยในตอนนี้ ชิงสุ่ยกวัดแกว่งง้าวทองทะลวงศัตรูของเขาอีกครั้ง

กระบี่ทองคํา!

 

กระบี่ที่มีแสงเป็นประกายพุ่งเข้าไปหาวิหคอรุณโปรยปราย ในตอนนี้การโจมตีด้วยธาตุทั้ง 5 ของชิงสุ่ยนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง วิหคอรุณโปรยปรายย่อมได้รับบาดเจ็บรุนแรงอย่างแน่นอนในตอนนี้

 

วิหคอรุณโปรยปรายนั้นโดเด่นในด้านความเร็ว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันสามารถหลบเลี่ยงกระบี่ทองคําของชิงสุ่ยได้ แต่ในตอนนี้อสูรอัสนีคลั่งได้ใช้อัสนีกัมปนาทไปยังวิหคอรุณโปรยปราย ทําให้มันต้องหยุดชะงักไปในทันที

 

หุบเขา 9 เทวาของชิงสุ่ยพุ่งย้อนกลับโจมตีวิหคอรุณโปรยปรายอีกครั้ง

 

ด้วยความเร็วในตอนนี้ของชิงสุ่ย เขาสามารถหลบการโจมตีของวิหคอรุณโปรยปรายได้อย่างง่ายดาย ตําแหน่งมังกรของรูปแบบจัตุรทิศช่วยเพิ่มความเร็วให้แก่ชิงสุ่ยอย่างเห็นได้ชัด

 

หยินชาได้สังหารชายชราคนสุดท้ายไปในตอนนี้ ทางฝั่งของชิงสุ่ยนั้นไม่เพียงแต่ยังมีวิหคอรุณโปรยปรายอีก 2 ตัวแต่ยังมีชายชราที่เป็นผู้นําอีก 2 คนด้วยเช่นกัน จนถึงในตอนนี้ตระกูลหงก็ตระหนักความจริงได้ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าพวกเขานั้นน่าแปลกประหลาดอย่างยิ่ง หากพวกเขาต้องพ่ายแพ้ในวันนี้เหตุผลใหญ่ก็คงเป็นเพราะชายหนุ่มผู้นี้

 

ตาข่ายดักวิญญาณ เคล็ดวิชาล่าสังหาร รวมไปถึงปราณจักรพรรดิ … ด้วยผลของเคล็ดวิชาเหล่านี้ทําให้พลังของชายชราลดลงไปอย่างมาก แม้แต่กระบี่ทองคําก็สามารถตัดแขนของชายชราออกไปข้างหนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้จึงทําให้ชายชราไม่กล้าที่จะเข้ามาปะทะโดยตรงในตอนนี้

 

ชายชราทั้ง 2 คนถือว่าอ่อนแออย่างยิ่งเมื่อเทียบกับทุกๆคนในตอนนี้ พวกเขาเพิ่งจะได้เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่หากเป็นด้านพลังเพียงอย่างเดียว พวกเขาก็นับว่ามากกว่าชิงสุ่ยเพราะจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา

 

แต่ถึงอย่างนั้นพลังของพวกเขาก็ถูกดึงให้ลงไปต่ํากว่าระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่องด้วยปราณจักรพรรดิของชิงสุ่ย ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังสามารถนับเป็นผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่

 

ชิงสุ่ยปลดปล่อยกระบี่ทองคําของเขาออกไปอีกครั้งในตอนนี้

 

วิหคอรุณโปรยปรายที่เหลืออยู่นั้นประสบชะตากรรมที่น่าสังเวช มันถูกโจมตีจากทั้งชิงสุ่ยและอสูรสยบมังกร รวมไปถึงหุบเขา 9 เทวา อสูรอัสนีคลั่งก็ช่วยโจมตีด้วยการปลดปล่อยอัสนีกัมปนาทออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกมันกําจัดจะตายในอีกไม่นานนี้

 

ชิงสุ่ยบอกหยิน ชาให้เขาไปช่วยเหลือผู้อาวุโสหวัง ผู้อาวุโสหวังในตอนนี้เป็นกุญแจสําคัญของการต่อสู้ครั้งนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาการต่อสู้ในวันนี้ต้องยากลําบากอย่างแน่นอน พลังของหงหงและหงคู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้

กระแสของการต่อสู้ฟันดีเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง ตระกูลหงเริ่มตกที่นั่งลําบากในตอนนี้ ชายชราได้ตายไปกว่า 5 คนแล้วและอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นเสาหลักของตระกูลหง การสูญเสียพวกเขาแต่ละคนนั้นย่อมเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อตระกูล ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่นิกายจันทรานิรันกาลจะมีผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะในหมู่นิกายอมตะนั้นพวกเขาที่เป็นนิกายอมตะระดับต่ํา

 

ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยยังไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ แต่ในตอนนี้พวกเขาตระหนักได้ว่าชายหนุ่มที่พวกเขาเคยดูถูกเอาไว้ตั้งแต่แรกนั้นสามารถเอาชนะผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแรกเริ่มได้ หากมีใครพุ่งเข้าไปโจมตีเขาก็จะตกอยู่ในสถาการณ์ที่ยากลําบาก ในตอนนี้ชายชราทั้ง 2 คนไม่กล้าที่จะประมาทใดๆ

 

เมื่อพวกเขาไม่กล้าที่จะพุ่งเข้ามาโจมตีไม่ได้หมายความว่าชิงสุ่ยจะไม่กล้าที่จะทําเช่นนั้นด้วย ด้วยพลังป้องกันของเขาในตอนนี้ เขาพุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจการโจมตีของชายชราทั้ง 2 คนทันที

 

ทักษะย่างก้าว 9เทวา จักรวาลหวนคืน!

 

ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็สลับตําแหน่งตนเองกับชายชราที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทันที การเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ทําให้เขาเข้ามาปะทะกับชายชราที่สูญเสียแขนไปก่อนหน้านี้ เขากวัดแกว่งงาวทองทะลวงศัตรูในมือของตนเองออกไปทันที

 

ดวงตาของชายชราเบิกกว้างขึ้นทันทีพร้อมกับใช้แขนที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวโจมตีสวนกลับไป เขาแทงกระบี่ยาวของตนเองไปที่หน้าอกของชิงสุ่ย

 

อัสนีจู่โจมไร้เงา!

 

เงาของกระบีราวกับลําแสงพุ่งทะลุผ่านหน้าอกของชิงสุ่ยออกไป