บทที่ 1408 แยกไม่ออก

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ในวันนี้ผู้คนทั้งหมดของภาคใต้ต่างตื่นตระหนกและตกใจ

 

เส้นโลหิตปฐพีเกิดการสั่นสะเทือนทำให้สถานที่สำคัญหลายแห่งถูกทำลาย

 

มนุษย์ผู้เคราะห์ร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนเสียชีวิต กองกำลังต่างๆพบความสูญเสียที่ไม่คาดคิด

 

แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดของภาคใต้สงบลง

 

พวกเขาละทิ้งความขัดแย้งและเริ่มตรวจสอบสาเหตุของความโกลาหลดังกล่าว

 

อาจกล่าวได้ว่าตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน นี่เป็นครั้งแรกที่เรื่องเช่นนี้ขึ้น

 

โลกของผู้อมตะภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะ ฝ่ายปีศาจ หรือผู้บ่มเพาะสันโดษ พวกเขาต่างสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของความปั่นป่วนครั้งนี้

 

“สัญญาณของยุคที่ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นแล้ว” ฟางหยวนที่อยู่ในทะเลทรายตะวันตกได้รับข้อมูลของภาคใต้เช่นกัน

 

ในเวลานี้พวกเขาต้องออกเดินทางอีกครั้ง

 

ราตรีล่วงไปเมื่อแสงแรกของรุ่งอรุณส่องสว่างขึ้นที่ขอบฟ้า

 

ในไม่ช้าดวงอาทิตย์ก็ขึ้นและทำให้โลกกลับมาสดใส

 

ฟางหยวนในชุดคลุมขาวมองไปที่ดวงอาทิตย์ด้วยอารมณ์อันลึกซึ้ง

 

เปรียบเทียบกับดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว อนาคตของเขายังคงมืดมน

 

ในอดีตเขาถูกขังอยู่ในความมืดแต่หลังจากได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับยุคที่ยิ่งใหญ่

 

ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง

 

สิ่งนี้แตกต่างจากชีวิตแรกของเขา ในช่วงชีวิตแรกของฟางหยวน เทพปีศาจจิตวิญญาณประสบความสำเร็จในการท้าทายโชคชะตา เขาสามารถต่อต้านวังสวรรค์และเจตจำนงสวรรค์ สุดท้ายยังสามารถเลือนเวลาของยุคที่ยิ่งใหญ่ออกไปถึงห้าร้อยปี

 

เจตจำนงสวรรค์ถูกบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ดังนั้นมันจึงต้องเสี่ยงใช้ฟางหยวนเป็นเครื่องมือและส่งเขากลับมาในอดีตโดยใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อขัดขวางแผนการของนิกายเงา

 

แน่นอนว่าฟางหยวนประสบความสำเร็จ

 

ด้วยวิธีนี้โลกทั้งใบจึงกลับสู่เส้นทางเดิมของมัน

 

โดยปราศจากนิกายเงาและเทพปีศาจจิตวิญญาณ ยุคที่ยิ่งใหญ่จะมาถึงอย่างรวดเร็ว

 

แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแห่งยุคที่ยิ่งใหญ่นี้

 

‘ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง กำแพงภูมิภาคจะหายไป แต่ก่อนหน้านี้เส้นโลหิตปฐพีของทั้งห้าภูมิภาคจะรวมเป็นหนึ่ง’

 

‘หลังจากนี้แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงภาคใต้ แต่อีกสี่ภูมิภาคก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เดียวกัน’

 

‘เหตุผลที่ภาคใต้เกิดขึ้นก่อนเพราะภาคใต้มีเส้นโลหิตปฐพีอยู่มากที่สุด เมื่อยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึง โลกทั้งใบจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ช่วงแรกของยุคนี้จะสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่’

 

ฟางหยวนไตร่ตรอง

 

ยุคที่ยิ่งใหญ่ขัดขวางแผนการเดิมของเขา

 

ตามแผนเดิมของเขา เขามีเวลาอีกมากมาย

 

ฟางหยวนยังสามารถบ่มเพาะและใช้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อเสริมสร้างรากฐานให้กับตนเอง เมื่อสงครามห้าภูมิภาคเริ่มขึ้นในยุคที่ยิ่งใหญ่ เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีรากฐานที่ลึกล้ำ แม้เขาจะไม่ใช่ปรมาจารย์ในทุกเส้นทางแต่อย่างน้อยมันก็ใกล้เคียง

 

ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับประโยชน์สูงสุดในสงครามห้าภูมิภาค

 

แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว

 

ยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึงเร็วเกินไป แผนการของฟางหยวนถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถูกไล่ล่าโดยวังสวรรค์และเจตจำนงสวรรค์ เขาต้องวิ่งหนีทุกนาทีและระวังตัวตลอดเวลา ศัตรูที่แข็งแกร่งสามารถปรากฏตัวขึ้นได้เสมอ

 

‘นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่’

 

‘ตอนนี้มีเพียงข้า วังสวรรค์ นิกายเงา และกองกำลังอื่นอีกสองสามแห่งเท่านั้นที่รู้ความจริงเบื้องหลังการสั่นสะเทือนของเส้นโลหิตปฐพีในครั้งนี้’

 

‘อย่างไรก็ตามผู้อมตะคนอื่นๆไม่ได้โง่เขลา หลังจากตรวจสอบ พวกเขาจะรู้ความจริงในไม่ช้า’

 

‘หลังจากนั้นทุกคนจะเข้าใจตรงกันว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกำลังจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้’

 

‘เห้อ…ความได้เปรียบของการกำเนิดใหม่ของข้ากำลังลดน้อยลงอีกครั้ง’

 

‘หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน ข้าก็ยังสามารถใช้ตัวตนของวูอี้ไห่ต่อไป แผ่นดินไหวที่ภาคใต้จะทำให้สัตว์อสูรและพืชอสูรหายากปรากฏตัวขึ้น’

 

‘นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยม กองกำลังทั้งหมดจะต่อสู้เพื่อพวกมัน สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำในทั้งห้าภูมิภาค แต่ภาคใต้จะได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะเส้นโลหิตปฐพีของภาคใต้มีรากฐานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันเหมือนคลังสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด สำหรับภูมิภาคที่น่าสงสารที่สุดคือทะเลตะวันออก เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดจากเส้นโลหิตปฐพี ทะเลตะวันออกจะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้น้อยที่สุด’

 

ฟางหยวนจำเรื่องเหล่านี้ได้

 

ทะเลตะวันออกมีทรัพยากรมากที่สุดในห้าภูมิภาคมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ผู้อมตะภูมิภาคอื่นจึงยินดีแบกรับความเสี่ยงเพื่อไปสำรวจมัน

 

อย่างไรก็ตามทะเลตะวันออกกลับได้รับประโยชน์น้อยที่สุดจากการสั่นสะเทือนของเส้นโลหิตปฐพี

 

มีทฤษฎีจากชีวิตแรกของฟางหยวนอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามันเป็นของขวัญจากสวรรค์พิภพเพื่อสร้างสมดุลให้กับห้าภูมิภาค

 

หากฟางหยวนยังสามารถใช้ตัวตนของวูอี้ไห่ เขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล ด้วยความทรงจำของเขา เขารู้แหล่งทรัพยากรเกิดใหม่มากมายรวมถึงวิญญาณอมตะ!

 

โชคไม่ดีที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับของขวัญเหล่านี้

 

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายแต่เขาไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ช่วยเขาเอาไว้

 

เนื่องจากการสั่นสะเทือนของเส้นโลหิตปฐพี ค่ายกลวิญญาณของตระกูลวูจึงถูกทำลายย แผนการของวูหยงล้มเหลว ขณะที่ฟางหยวนรอดพ้นวิกฤตมาได้อย่างฉิวเฉียด

 

แน่นอนว่าเรื่องนี้เกิดจากโชคที่ระเบิดขึ้นของฟางหยวน

 

‘โชคดีที่ข้าได้รับวิญญาณอมตะรักตัวเองระดับเจ็ด หลังจากใช้ท่าไม้ตายชำระล้างตัวเอง ข้าสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เป็นอันตรายทั้งหมดบนร่างของข้า นี่รวมถึงข้อตกลงพันธมิตรของตระกูลวู’

 

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงสามารถออกจากตระกูลวูได้อย่างสมบูรณ์และไม่มีความเชื่อมโยงกับพวกเขาอีกต่อไป

 

‘ป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของข้าแตกสลายไปแล้ว วูหยงไม่สามารถใช้สิ่งนี้เพื่อจัดการข้าได้อีก’

 

แม้ความกังวลของเขาจะหมดไปแต่ฟางหยวนยังเห็นจุดอ่อนของท่าไม้ตายนี้

 

ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อผู้อมตะแต่ผลลัพธ์ของมันไม่เป็นไปตามความต้องการของฟางหยวน

 

ตัวอย่างเช่นฟางหยวนสามารถกำจัดข้อตกลงพันธมิตรของตระกูลวูได้อย่างสมบูรณ์ แต่ข้อตกลงพันธมิตรระหว่างเขากับกองกำลังอื่นเช่นชูตู๋ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มนุษย์กลายพันธุ์ และสามปีศาจคลั่งยังอยู่

 

นี่เป็นเพราะร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของข้อตกลงพันธมิตรเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อฟางหยวน ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองจึงไม่กำจัดพวกมันทิ้งไป

 

หากฟางหยวนละเมิดข้อตกลง ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้จะลงโทษเขา ในกรณีนี้มันจะสายเกินไปที่เขาจะชำระล้างพวกมัน

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้อันตรายต่อฟางหยวนเป็นอย่างมาก เป็นธรรมชาติที่ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองจะกำจัดพวกมัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าตกใจก็คือหลังจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้นถูกทำลาย เพียงไม่นานพวกมันก็ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

 

ด้วยความเร็วของมัน ในเวลาเพียงหกชั่วโมง ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เกิดจากท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของวังสวรรค์จะฟื้นฟูขึ้นอย่างสมบูรณ์

 

‘การชำระล้างตัวเองเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดในด้านนี้ของราชันภูเขาม่วง’

 

‘แม้มันจะได้ผลแต่ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป’

 

‘ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพธิดาจื่อเว่ยขณะเดียวกันนางก็ได้รับประโยชน์จากกระดานหมากรุกกลุ่มดาว’

 

ฟางหยวนคาดเดาและค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้

 

เหตุผลเป็นเพราะเขาเคยเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าลักษณะนี้มาก่อน

 

วิญญาณกาลเวลาเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ ขณะที่ร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนถูกผนึกไว้ด้วยวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

หลังจากได้รับมรดกที่แท้จริงของราชันภูเขาม่วง ฟางหยวนได้เรียนรู้ว่าผู้อมตะระดับเก้าสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ถูกดัดแปลงขึ้นใหม่

 

ฟางหยวนเดาว่าเทพธิดาจื่อเว่ยใช้กระดานหมากรุกกลุ่มดาวเพื่อกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบ

 

เนื่องจากกระดานหมากรุกกลุ่มดาวเป็นของเทพอมตะกลุ่มดาวที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของนาง

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าชนิดพิเศษเหล่านี้ไม่พึ่งพาพลังงานอมตะ

 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือวิญญาณอมตะระดับแปดโชคชะตาท้าทายสวรรค์ที่ส่งผลกระทบต่อโชคของหม่าหงหยุนจนกว่าเขาจะตาย แก่นแท้ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์นี้คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนร่างกายของเขาดึงดูดโชคของคนรอบข้างเพื่อเพิ่มโชคให้กับเขาอย่างไม่รู้จบสิ้น สิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานอมตะแม้แต่น้อย

 

อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

ผนึกศักดิ์สิทธิ์และผลึกภูตผี

 

ท่าไม้ตายอมตะทั้งสองจะสร้างชุดคลุมบางๆขึ้นในจิตวิญญาณของพวกเขา แน่นอนว่ามันก็คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า ผลกระทบของท่าไม้ตายอมตะทั้งสองจะคงอยู่ตลอดไปโดยไม่พึ่งพาพลังงานอมตะใดๆ ในเวลาเดียวกันหากมันเกิดความเสียหาย มันก็สามารถฟื้นฟูตัวเอง

 

‘เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่าผู้อมตะระดับเก้าเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางของพวกเขา’

 

‘จากประสบการณ์การบ่มเพาะของราชันภูเขาม่วง ความสำเร็จระดับปรมาจารย์สามารถเลียนแบบเส้นทางสายอื่น ปรมาจารย์เอกสามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าในธรรมชาติ ขณะที่ปรมาจารย์สูงสุดสามารถสร้างพลังงานแห่งเต๋าเฉพาะตัวเป็นของตนเอง นี่ทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากขีดจำกัดเรื่องพลังงานอมตะ?’

 

มรดกของราชันภูเขาม่วงทำให้ฟางหยวนเข้าใจระดับความสำเร็จของผู้อมตะได้อย่างชัดเจน

 

กล่าวได้ว่าเขาได้รับความรู้ใหม่มากมาย

 

กับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในร่างผีดิบอมตะของเขาสามารถแก้ไข แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่บนร่างทารกอมตะยากที่จะจัดการ

 

‘ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลได้ส่วนหนึ่ง แต่ยิ่งข้าลบมันมากเท่าใด มันก็ยิ่งฟื้นฟูเร็วขึ้นเท่านั้น’

 

‘การใช้ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองหนึ่งครั้งสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลได้สิบส่วน แต่ในครึ่งวันพวกมันก็สามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์’

 

‘นี่หมายความว่าหากข้าต้องการกำจัดพวกมันทั้งหมด ข้าต้องชำระล้างตัวเองตลอดเวลาเป็นเวลาประมาณครึ่งเดือนโดยไม่หยุดพัก!’

 

ฟางหยวนประเมินตามข้อมูลที่เขามี

 

นี่เป็นปัญหา ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของวังสวรรค์ยากลำบากกว่าที่เขาคาดไว้ไปมาก

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตังเองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึงครึ่งเดือนได้งั้นหรือ?

 

แล้วเขาควรทำอย่างไร?

 

“หากเจ้ามีเวลาเตรียมตัว เจ้าอาจแก้ไขได้ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เจ้าไม่มีโอกาสเหลืออยู่” ในวังสวรรค์ เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มมั่นใจ

 

เพราะนี่เป็นวิธีการของเทพอมตะกลุ่มดาว

 

อาจกล่าวได้ว่าตราบเท่าที่ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบนี้ยังอยู่ ตำแหน่งของฟางหยวนจะถูกค้นพบโดยกระดานหมากรุกกลุ่มดาวและไม่สามารถหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

การกำจัดฟางหยวนเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างสมบูรณ์

 

ตราบเท่าที่เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ให้เวลาฟางหยวนมากพอ ความได้เปรียบของนางและวังสวรรค์จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ