ตอนที่ 1019 กระบี่วิเศษ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ฮัวชิงหยุนฉีกยิ้มส่งให้ แต่ไม่ได้พูดอะไร
  ไม่นาน อาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ทุกคนพากันรินเหล้า และเริ่มพูดคุยกัน
  ตาอ้วนหลิวมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน พอได้เอ่ยปากก็พูดไม่หยุด ประสบการณ์การตรวจสอบช่วงระยะเวลาหนึ่ง กลับถูกเขาพูดซ้ำซากไปมา แต่ก็ทำให้ผู้ฟังฟังกันอย่างเพลิดเพลิน !
  หลังจากที่ลู่เจียเฟยฟังจบ ก็รู้สึกสงสัยมาก “ ทำไมฉันรู้สึกว่า พวกเราไม่ได้มีประสบการณ์อะไรที่โชกโชนขนาดนั้น ก็แค่ไปผับบาร์ และบังเอิญเจอกับสาวสวยสองคน และพวกเราพูดคุยกันไม่กี่คำ ทำไมหลังจากนั้นคุณยังทำเรื่องอะไรกับพวกเธอมากมายไปได้ ทำไมผมไม่รู้อะไรเลย ? ”
  “ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ไปตรวจสอบดูที่บริษัทฟีลด้าคอร์ปอเรชั่น ทำไมผมถึงไม่รู้ว่ารองประธานสาวสวยที่หน้าตาดูธรรมดาคนนั้นชอบคุณ ? เธอไม่ควรชอบผมมากกว่าหรือไง ? อย่างน้อยผมก็หล่อกว่านะ…… ”
  ไม่รอให้ลู่เจียเฟยพูดจบ ตาอ้วนหลิวก็รีบตัดบทเขา “ นี่คุณจะมาเพื่อทำลายบรรยากาศใช่ไหม ?ทำไมผมพูดคำ คุณก็พูดขัดคำหนึ่ง หรือว่าที่ผมพูดไม่ใช่ความจริงหรือไง ? สิ่งที่คุณมองไม่เห็นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นมาก่อน ! ”
  “ สาวผมบลอนด์คนนั้นในผับ หลังจากนั้นเธอก็เดินออกไปกับผม เวลานั้นเธอกอดเอวผมไว้จริงๆ และเรียกผมว่าที่รัก ต้องการจะไปโรงแรมกับผม แต่ผมให้เกียรติเธอมาก เลยไม่คิดจะออกไปกับเธอ คุณไม่ทันเห็น มันไม่ได้แสดงว่าไม่เกิดขึ้นมาก่อน ”
  แต่ลู่เจียเฟยกลับพูดขัดขึ้นต่อไปว่า “ นั่นก็แสดงว่าแม่สาวน้อยคนนั่นมาหาคุณเพราะเงิน คุณไม่ให้ เธอจึงคิดที่จะขายให้ ”
  ตาอ้วนหลิวถลึงตาใส่ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างที่จะโกรธ
  หยางโปหัวเราะพลางพูดว่า “ เอาล่ะ เอาล่ะ ออกไปด้วยกันมาตั้งหลายวัน พวกคุณคงจะมีประสบการณ์กันมาอย่างโชกโชน ก็หวังว่าธุรกิจต่อจากนี้ของพวกคุณ จะเริ่มต้นได้ดีนะ ”
  ลู่เจียเฟยอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้ม เห็นได้ชัดว่า ถ้าหยางโปเอ่ยปากพูดแบบนี้ออกมาได้ นั่นก็หมายความว่าเขาตกลงแล้ว อันที่จริงสำหรับโครงการนี้ การลงทุนทั้งหมดคือหนึ่งพันล้านหยวน จำเป็นต้องลงทุนเพียงแค่สามถึงห้าพันล้านหยวน ที่เหลือกู้เงินจากธนาคารทั้งหมดก็เพียงพอแล้ว
  หลังจากพูดคุยเรื่องนี้กันจบ หยางโปก็เงยหน้ามองตาอ้วนหลิว และเอ่ยปากพูดออกมาว่า
  “ คุณคุ้นเคยกับวงการนักสะสมในประเทศดี คุณรู้ไหมใครเก็บสะสมกระบี่หยกไว้เยอะๆ
  กระบี่หยกแบบโบราณพวกนั้นน่ะ ? ”
  “ กระบี่หยก ? ” ตาอ้วนหลิวตะลึงนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง “ ทำไมจู่ๆ นายถึงอยากได้ของเล่นพวกนั้น
  หรือนายคิดที่จะสะสมกระบี่หยกโบราณขึ้นมา ? พิพิธภัณฑ์ของนายยังอีกนานกว่าจะแล้วเสร็จ
  มาใจร้อนเอาตอนนี้แล้วว่างั้น ? ”
  หยางโปค่อนข้างที่จะไม่มีทางเลือกอื่น “ ทำไมคุณถึงได้หยิ่งขนาดนี้นะ ? ตอนนี้ผมมีความสนใจในตัวกระบี่หยก คุณแค่บอกผมว่ามันมีที่ไหน มีใครบ้างที่สะสมไว้ ผมไปหาเองก็จบ ”
  ตาอ้วนหลิวมองหยางโปอย่างพินิจพิเคราะห์ จากนั้นก็หันไปมองฮัวชิงหยุนอีกครั้ง “ ระยะนี้เขาไม่ได้กินยาผิดใช่ไหม ? แต่ก่อนเขาไม่ชอบของเล่นพวกนี้เลย ครั้งนี้ไม่ได้กินยาผิดตัวใช่ไหม ? ”
  ฮัวชิงหยุนยิ้มจางๆ “ คุณวางใจได้ ฉันเป็นพยานให้เขาได้ เขาไม่ได้กินยาผิดตัว แต่ต่อให้กินยาผิดตัว ตัวเขาเองคงไม่ยอมรับว่าตัวเองกินยาผิดตัวแน่ ! ”
  หยางโปจนปัญญา “ อย่ามาชักแม่น้ำทั้งห้า ตอนนี้บอกผมมา เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ? มีข่าวคราวแบบนี้บ้างรึเปล่า ? ”.ไอลีนโนเวล.
  ตาอ้วนหลิวตบโต๊ะอย่างแรง “ นี่นายไม่เชื่อในความสามารถของฉันใช่ไหม มันก็แค่วัตถุโบราณ นายอยากได้ของอะไร ฉันก็สามารถหาผู้ซื้อและผู้ขายให้นายได้หมด ฉันอยู่ในแวดวงนี้มากนานหลายปี ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ งั้นก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว นายวางใจได้ จะเอาเมื่อไหร่
  ฉันจะจัดการให้นายเลย ! ”
  หยางโปพยักหน้า “ ดี คุณควรเริ่มเตรียมการในช่วงบ่ายนี้เลย พวกเราจะค่อยๆ ตามหามันจากระยะใกล้ไปไกล ”
  ตาอ้วนหลินตาโต “ นายจะทำอะไรกันแน่ ทำไมต้องตามหากระบี่หยกเยอะขนาดนี้ ? ต้องการเปิดพิพิธภัณฑ์กระบี่วิเศษหรือไง ? ”
  ลู่เจียเฟยที่นั่งอยู่ด้านข้างอุทานตามไปว่า “ กระบี่วิเศษ ( ต้าเป่าเจี้ยน ) หรืออาบอบนวด
  ( ต้าเป่าเจี้ยน ) ? ”
  หยางโปปัดมืด “ อย่ามาคิดอะไรไร้สาระ เอาล่ะ คุณบอกมาละกันจะจัดการให้ได้เมื่อไร ! ”
  ตาอ้วนหลิวมีอาการลังเลเล็กน้อย “ ฉันรู้มาว่ามีนักสะสมที่สะสมกระบี่มากมายอยู่เฉพาะบริเวณใกล้ตี้จิง แต่ตอนนี้บ่ายกว่าแล้ว หากไปเยี่ยมเขาในช่วงบ่ายจริงๆ จะดูเหมือนกะทันหันเกินไป การไปเยี่ยมแบบกะทันหัน ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร อีกฝ่ายจะต้องระแวดระวังตัว เป้าหมายยากที่จะบรรลุได้ ”
  หยางโปตะลึงนิ่งอึ้งไปช่วงขณะ จากนั้นก็ตั้งสติได้ “ งั้นก็ได้ แล้วคุณคิดว่าควรทำยังไง ? ”
  “ เอาอย่างนี้ละกัน เดี๋ยวช่วงบ่ายฉันจะติดต่อไปหาพวกเขาดูสักหน่อย ดูสิว่าพรุ่งนี้ใครพอมีเวลาบ้าง พวกเราค่อยไปเยี่ยมพรุ่งนี้ช่วงเช้ากัน แบบนี้จะดีกว่า ” ตาอ้วนหลินเสนอข้อคิดเห็น
  หยางโพยักหน้าให้ “ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้างั้นก็เอาตามที่คุณว่าก็แล้วกัน ”
  หลังจากที่ทั้งสี่คนกินข้าวดื่มกันแล้ว หยางโปก็รับพวกเขากลับมาที่เรือนสี่ประสาน และให้พวกเขาพักกันอยู่ที่นี่
  เช้าวันที่สอง หยางโปก็ได้ไปเคาะประตูเรียกตาอ้วนหลิว เขาจึงเดินออกมาด้วยอาการงัวเงีย มือถือรายชื่อแผ่นหนึ่งและหันไปพูดกับหยางโป “ ฉันเรียบเรียงรายชื่อทั้งหมดทั้งคืนออกมาให้แล้ว
  เมื่อวานช่วงบ่ายก็โทรไปนัดให้ก่อนแล้ว พวกเราออกไปกันตอนนี้เลยละกัน ! ”
  “ ไม่เป็นไร ไม่ได้รีบร้อนจะไปตอนนี้ คุณกินข้าวเช้าก่อน แล้วพวกเราก็ค่อยไปกัน ! ” หยางโปกล่าว
  ตาอ้วนหลิวพยักหน้า และไปกินข้าวเช้า จากนั้นถึงเดินไปนั่งในรถกับหยางโป ฮัวชิงหยุนก็เดินตามเข้ามานั่งด้วย
  “ ลู่เจียเฟยล่ะ ? ” หยางโปเอ่ยถาม
  ฮัวชิงหยุนหันมองไปทางห้องนอน “ เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปเคาะประตูเขา เขาบอกว่าจะนอนต่อ ”
  “ ถ้างั้นก็ได้ พวกเราไปกันเถอะ ! ” หยางโปกล่าว
  รถค่อยๆเคลื่อนตัวช้าๆออกจากเรือนสี่ประสานตาอ้วนหลิวมีสีหน้าที่ค่อนข้างสงสัย แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
  หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเรือนสี่ประสานหลังหนึ่ง เรือนหลังนี้ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่ไปหน่อย แต่เรือนดูหลังใหญ่กว่า
  ตาอ้วนหลิวลงจากรถ และวิ่งไปกดกริ่งหน้าประตูใหญ่ จากนั้นก็มีชายแต่งกายเรียบร้อยคนหนึ่งวิ่งมาเปิดประตูให้
  ตาอ้วนหลิวจึงรีบเอ่ยถามไปว่า “ สวัสดีครับ ผมแซ่หลิว เมื่อวานได้โทรนัดกับผู้เฒ่าเหยียนไว้แล้ว ”
  ชายหนุ่มมองสำรวจดูตาอ้วนหลิวสักพัก “ เมื่อวานโทรมาประมาณตอนไหน ? ”
  “ ช่วงบ่ายสองกว่าๆ ” ตาอ้วนหลิวตอบ
  หยางโปยืนอยู่ด้านหลังตาอ้วนหลิว ก็รู้สึกแปลกใจมาก มันเห็นได้ชัดว่า ชายผู้นั้นที่อยู่ในบ้านจะต้องเก่งกาจมาก ไม่อย่างนั้นตาอ้วนหลิวจะไม่มีท่าทีแบบนี้เป็นแน่
  อีกฝ่ายพยักหน้า และเดินกลับเข้าไปด้านใน
  ตาอ้วนหลิว หันกลับมามอง “ คุณเหยียนเป็นทหารเก่า คุณสมบัติดีมาก เรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างของคนที่มีคุณธรรม ”
  หยางโปเข้าใจทันที “ ผมรู้แล้ว ”
  ตาอ้วนหลิวหันไปมองหน้าหยางโปยิ้มๆ ทั้งสองส่งซิกให้กัน และพอที่จะเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายได้ดี
  ไม่นาน ชายหนุ่มคนนั้นก็เดินออกมา และหันไปพูดกับทั้งสามคน “ ทั้งสามท่านตามผมมา ”
  เรือนสี่ประสานหลังนี้มีพื้นที่มาก ด้านในมีศาลา ไม่ใช่เรือนสี่ประสานทั่วๆไป ใจกลางลานบ้านมีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ศาลากลางสระน้ำ
  ตาอ้วนหลิวใช้แขนสะกิดหยางโปไปครั้งหนึ่ง และกระซิบว่า “ ท่านผู้นี้คือผู้เฒ่าเหยียน ”
  หยางโปเงยหน้ามอง ก็เห็นว่าผู้เฒ่าเหยียนผมขาวโพลน ดูเป็นคนจิตใจมีเมตตามาก