ภาค 4 กวาดล้างหมื่นลี้ บทที่ 395 เป้าหมายที่แท้จริง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

การหลอมกระบี่สายฟ้าอนธการ ยากกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอคาดการณ์ไว้

แต่นี่กลับทำให้เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกยินดี เนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าของล้ำค่าเบื้องหน้านี้แข็งแกร่งกว่าที่คาดคิดไว้

ตอนที่หลินโจวใช้ของล้ำค่าชิ้นนี้ เขาไม่สามารถใช้พลังทั้งหมดของมันได้ เนื่องจากพลังของตนเองยังคงมีจำกัด

กระบี่สายฟ้าอนธารมอบความกดดันมหาศาลให้แก่หลินโจว ทุกครั้งที่เขาใช้กระบี่กระตุ้นสายฟ้าอนธาการ ล้วนส่งผลให้ร่างกายของหลินโจวบอบช้ำ

แน่นอนว่ากระบี่นี้ส่งผลดีต่อหลินโจวมากเช่นกัน เหมือนกับเศษดวงตาราชันสายฟ้าที่เยี่ยนจ้าวเกอซ่อนไว้ในตาขวา หลินโจวก็ใช้ร่างกายของตัวเองในการดูแลกระบี่

ขณะที่ฟูมฟักและหลอมกระบี่สายฟ้าอนธการ เจตจำนงกระบี่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการบำรุงโดยใช้ลมปราณและร่างกายของหลินโจว

ความมืดมิได้หมายถึงความชั่วร้าย ความมืดมิดบริสุทธ์ก็มีประโยชน์เช่นกัน คล้ายกับทารกอยู่ในครรภ์มารดา

เมื่อใช้สายฟ้าอนธการต่อสู้กับศัตรู มันจะมีพลังดุดันจนถึงขีดสุด โดยอาศัยความมืดช่วงชิงความสามารถในการรับรู้ของอีกฝ่าย และในตอนที่แสงสายฟ้าสีเงินยวงของมันระเบิดขึ้น ก็จะทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง

แต่ว่าหากปกติใช้บำรุงร่างกายของตัวจอมยุทธ์ จะมีผลยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเศษดวงตาราชันสายฟ้า ที่ทำให้เกิดสายฟ้าชั่วพริบตาเสียอีก

เยี่ยนจ้าวเกอทำความเข้าใจกับลมปราณที่แฝงอยู่ในกระบี่สายฟ้าอนธการอย่างละเอียด อดพยักหน้าไม่ได้ ‘ถึงแม้ว่าจะอยู่ในลำดับที่เก้าของสายฟ้าเซียนทั้งเก้า พลังทำลายสู้สายฟ้าชั่วพริบตาที่ถูกจัดอยู่ในลำดับหกไม่ได้ แต่ก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง’

ถึงแม้ดวงตาราชันสายฟ้าจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้มันแหลกสลาย และเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองแค่เศษชิ้นส่วนหนึ่งเท่านั้น

ระดับพลังของสายฟ้าชั่วพริบตาจึงยังไม่สมบูรณ์

กลับเป็นกระบี่สายฟ้าอนธการตรงหน้า ที่แม้คุณสมบัติจะไม่อาจเทียบเคียงกับดวงตาของราชันสายฟ้า ซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่แก่นแท้ที่สายฟ้าอนธการหลอมขึ้นก็ค่อนข้างสมบูรณ์แบบนัก

เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญความลี้ลับนี้อย่างเงียบเชียบ ก่อนจะค่อยๆ สัมผัสได้ถึงแก่นแท้อันโดดเด่นของหนึ่งในสายฟ้าเซียนทั้งเก้า

นอกจากลมปราณของสายฟ้าอนธการแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ทำความเข้าใจเจตจำนงกระบี่ที่หลอมรวมกับสายฟ้าเซียนจนกลายเป็นกระบี่อย่างละเอียด รับรู้ได้ถึงความพิเศษของมันเช่นกัน

‘เจตจำนงกระบี่นี้ก่อเกิดสายฟ้าฟาดโดยไม่รู้ตัว ใกล้เคียงกับสายฟ้าอนธการอยู่หลายส่วน มิน่าถึงได้หลอมรวมกันได้สมบูรณ์แบบนัก’

เยี่ยนจ้าวเกอหลอมรวมกระบี่สายฟ้าอนธการ หยุดความคิดฟุ้งซ่านของตน สายตากวาดมองรอบๆ เห็นอาหู่กับพ่านพ่านกำลังสู้กับปีศาจอัคคีจำนวนหนึ่ง

เขาชูแหวนสีแดงก่ำวงนั้น ลมปราณของจักรพรรดิปีศาจอัคคีที่อยู่ด้านในพลันดึงดูดความสนใจทั้งหมดของปีศาจอัคคี ขณะเดียวกันก็ทำให้ร่างกายของพวกมันแข็งทื่อและสั่นเครือ

รอบบริเวณไม่มีจ้าวปีศาจอัคคี ครั้นปีศาจอัคคีที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำเผชิญหน้ากับแหวนวงนี้ ต่างได้รับผลกระทบในระดับที่แตกต่างกันไป

เยี่ยนจ้าวเกอไม่พูดมากความ เขาใช้ธนูนภาอลหม่านโผล่ยิงอาคมน้ำแข็งปราบมารติดต่อกัน

แสงสีทองที่มีสายฟ้าสีม่วงวนรอบระเบิดกลางทะเลลึก ความเย็นเยียบม้วนพัด แช่แข็งน้ำทะเลเป็นแถบใหญ่

ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบจะมีไฟใต้ดินปะทุอยู่ น้ำทะเลเดือดพล่าน แต่อุณหภูมิในตอนนี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

ปีศาจอัคคีถูกธารน้ำแข็งขังไว้ พลังได้รับการกดข่ม การเคลื่อนไหวยิ่งถูกจำกัด

เยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบี่ล้ำเลิศดุจมังกร ร่วมมือกับอาหู่และพ่านพ่าน เริ่มเข่นฆ่าฝ่าวงล้อมออกไปอีกครั้ง

เมื่อออกห่างมาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็หันกลับไปมอง พบว่าแนวเขาก้นทะเลซึ่งมีเหวลึกเป็นจุดศูนย์กลางถูกน้ำวนขนาดยักษ์ปกคลุมอยู่

น้ำวนขยายตัวออกด้านนอกถึงระดับหนึ่ง ในที่สุดก็หยุดเคลื่อนไหว

แต่ว่าน้ำแข็งกับไฟหมุนวนรวมกันไม่หยุด กลายเป็นกระแสน้ำวนที่น่ากลัวนั้น กลับไร้แนวโน้มจะลดลง

แนวเขาก้นทะเลใกล้กระแสน้ำวน หินโสโครกแตกกระจายอย่างต่อเนื่อง มีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา เหมือนเช่นทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกก่อนหน้านี้

น้ำทะเลถูกต้ม ระเหยไปแถบใหญ่ มองไกลออกไปเห็นเป็นสีขาว

เพียงแต่แกนไฟใต้ดินที่เกิดความปั่นป่วนบริเวณน่านน้ำรอบๆ ที่มีสถานที่ตรงนี้เป็นศูนย์กลาง ในตอนนี้สงบลง และกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว

หากเทียบกันแล้ว เหตุการณ์ทั้งสองนี้กลับตาลปัตรจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

เพียงแต่มีแค่น่านน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เท่านั้น จุดอื่นในทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกที่อยู่ไกลออกไป ยังคงเป็นภาพวันสิ้นโลกเพราะท้องทะเลกลายเป็นนรกทะเลเพลิง

อาหู่ยืนอยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ หน้าตาของเขายังคงเป็นของจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์แซ่จางแห่งตำหนักอัสนีสวรรค์

เขาจะมีสภาพเช่นนี้ต่อไปก็ได้ เพราะยังอยู่ในระยะเวลาแปลงกายที่เกิดจากหยกเลียนสังหาร

แต่ก็สามารถอาศัยความต้องการของผู้ใช้หยกเลียนสังหาร คลายร่างแปลงนี้ได้ทุกเมื่อ

ร่างผอมแห้งนั้นพลันยืดตัวขึ้น กระดูกทั่วทั้งร่างส่งเสียงกรอบแกรบ

‘ศิษย์พี่จาง’ ก่อนหน้านี้ พลันมีร่างสูงขึ้นประมาณสองช่วงศีรษะ ร่างกายเปลี่ยนจากผอมบางเป็นกำยำ

อาหู่คืนสู่สภาพเดิมของตัวเอง เขาลูบคางเล็กน้อย “คุณชาย หยกเลียนสังหารมีประโยชน์นัก เสียดายที่มีเพียงชิ้นเดียว”

“ครั้งนี้เจ้าเสี่ยงอันตรายมากทีเดียว” สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอยังจับจ้องอยู่ที่ทิศทางของน้ำวน “ในสถานการณ์ปกติ หากคิดใช้หยกเลียนสังหารแปลงกายเป็นผู้อื่น ก็ต้องใช้รับมือกับคนที่ผู้ถูกเลียนแบบไม่คุ้นเคย หรือเจ้าเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับผู้ถูกเลียนแบบอย่างยิ่ง เหมือนครั้งเขานิมิตทมิฬในอดีต

“มิฉะนั้นต่อให้ภายนอกจะเหมือนกัน แต่สีหน้า น้ำเสียง การเคลื่อนไหว นิสัย ก็ยังมีข้อแตกต่างกับผู้ถูกเลียนแบบค่อนข้างมาก อีกฝ่ายมองแค่แวบเดียวก็อาจสงสัยขึ้นมาได้”

“ถึงแม้จะเลียนแบบลมปราณและการหายใจของอีกฝ่ายได้ แต่ขอเพียงอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องลงมืออย่างรุนแรง แล้วจู่ๆ อีกฝ่ายเกิดสงสัยขึ้นมา ครั้นลงมือทดสอบ ความจะแตกในทันที”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ครั้งนี้อาศัยสถานการณ์ชุลมุน ความสนใจของอีกฝ่ายมิได้อยู่บนตัวเจ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าคงจะเป็นอันตรายอย่างมาก”

อาหู่หัวเราะฮ่าๆ พลางกล่าวว่า “ความสนใจของพวกมันล้วนอยู่บนตัวคุณชายท่าน ถึงแม้ข้าเหมือนจะตกอยู่ในอันตราย แต่ความจริงแล้วปลอดภัยยิ่ง”

ชายหนุ่มพยักหน้า สายตามองน้ำวนไฟน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่อยู่ไกลออกไป

ณ ที่แห่งนั้น น้ำวนไฟน้ำแข็งจะค่อยๆ อ่อนแรงลง สลายไปอย่างช้าๆ ตามกาลเวลา

อาหู่ไตร่ตรองเล็กน้อย “คุณชาย หรือเราต้องลงไปทำลายแต่ละจุดตามแนวเขาขอรับ จุดเชื่อมเช่นนี้ เกรงว่าในทะเลชั้นของนอกทะเลตะวันออกก็คงมีอยู่หลายร้อยจุด!”

เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า “ไม่จำเป็น ฝ่ายปีศาจอัคคีได้เปรียบแล้ว การทำลายจุดเชื่อมเหล่านี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เจ้าลองมองรอบๆ ให้ดีสิ”

อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็ลูบท้ายทอยตัวเอง ก่อนจะตั้งใจมองไป สีหน้าค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น

เนื่องจากเขาพบว่ายิ่งเวลาผ่านไป น่านน้ำใกล้ๆ ที่ตอนแรกกำลังจะสงบลง กลับมีเค้าลางว่าจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก

แนวเขาก้นทะเลแตกทลายอีกครั้ง ไฟใต้ดินที่หายไปก่อนหน้า กำลังจะปะทุขึ้นอีกหน

น้ำทะเลรอบกายที่ถูกปราณจิตรากั้นไว้ มีอุณหภูมิสูงขึ้นชัดเจนจนรู้สึกได้

จู่ๆ เยี่ยนจ้าวเกอก็ยิ้ม “ทางเชื่อมต่างๆ ตัดสลับกันไปทั่วคล้ายกับตาข่ายขนาดใหญ่ อีกทั้งยังครอบคลุมทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก แค่ทำลายจุดเดียว ต่อจากนั้นไม่นาน ตาข่ายยักษ์นี้จะทำงานร่วมงาน ส่งผลให้มุมหนึ่งที่สงบลงแล้วปะทุขึ้นอีกครั้ง

“แต่การเคลื่อนไหวนี้ มีต้นตออยู่ที่ศูนย์กลางของตาข่ายยักษ์”

อาหู่พลันเข้าใจ “คุณชาย นี่เป็นเป้าหมายแท้จริงที่ท่านทำลายจุดเชื่อมนี้ เพื่อโยนหินถามทางสินะขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอทอดสายตามองไปไกล “ถูกต้อง จากการกลับสู่สภาพเดิมของจุดเชื่อมนี้ หากสืบค้นไปตามพลังที่ปะทุขึ้นของตาข่ายยักษ์ พวกเราก็จะยืนยันจุดศูนย์กลางของตาข่ายยักษ์ได้ ที่นั่นต่างหากที่เป็นจุดสำคัญของปัญหา”

เขาระบายลมหายใจยาวเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเยี่ยนจ้าวเกอตีก้นพ่านพ่านที่อยู่ข้างใต้เบาๆ “ตอนนี้ พวกเราออกเดินทางกันเถอะ”