ภาค 5 ผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า บทที่ 396 สงครามของผู้ศักดิ์สิทธิ์

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอนั่งบนหลังพ่านพ่าน สายตามองออกไปไกล แต่กลับเหมือนไม่ได้เพ่งมองสิ่งใดเป็นพิเศษ

เขาตั้งใจครุ่นคิด รับรู้การเปลี่ยนแปลงและทิศทางการเคลื่อนของชั้นใต้ดินที่ก้นทะเลอยู่ตลอดเวลา คอยแยกแยะต้นกำเนิดการเคลื่อนไหวของต้นติไฟใต้ดินอย่างจริงจัง

จุดเชื่อมทั้งหมดที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ถูกกระตุ้นให้ปะทุขึ้นพร้อมกัน ซ่อนแกนกลางที่แท้จริงของทางเชื่อมตาข่ายเพลิงที่ปีศาจอัคคีวางไว้

ตอนนี้มีเพียงจุดเชื่อมนั้นถูกทำลายลง ก็จะคืนสภาพเนื่องจากการเกาะเกี่ยวร่วมกันของตาข่ายเพลิง

การเคลื่อนไหวของเส้นสายตาข่ายเพลิงพลันปรากฏร่องรอย ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอหาต้นกำเนิดและจุดศูนย์กลางอยู่ได้แล้ว

น่านน้ำที่เกิดน้ำวนไฟน้ำแข็งก่อนหน้า ในตอนนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอสลัดไว้เบื้องหลัง

แต่เขารู้สึกได้ว่าตรงนั้นกลับคืนสู่สภาพเหมือนวันสิ้นโลก ที่ไฟใต้พิภพปะทุขึ้นอีกครั้ง ทะเลมรกตอันยิ่งใหญ่กลายเป็นทะเลเพลิงไร้ขอบเขต

การเปลี่ยนแปลงส่งผลสืบเนื่องมาจนถึงตอนนี้ อีกทั้งจะยังคงอีกหลายวัน น้ำทะเลของในชั้นนอกของทะเลตะวันออกระเหยหายเป็นจำนวนมาก ถ้าหากไร้การเติมเต็มจากน่านน้ำรอบๆ เกรงว่าทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกที่กว้างใหญ่คงจะถูกเผาจนเหือดแห้ง

การเปลี่ยนแปลงอันแปลกประหลาดของธรรมชาติ ทำให้สภาพภูมิอากาศบนทะเลในปัจจุบันปั่นป่วนถึงขีดสุดเช่นกัน

พายุฝนฟ้าคะนอง แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ ล้วนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

แกนใต้ดินในทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกเกิดความผิดปกติเช่นนี้ มหาสมุทรทั้งหมด หรือแม้แต่ทิศทางของปราณวิญญาณในมหาอำนาจแปดพิภพต่างถูกกระตุ้น

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะยิ่งส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้างขึ้น จนยากจะจินตนาการ

สำหรับปีศาจอัคคีที่ชอบทำลายล้างและปล้นชิง มหาอำนาจแปดพิภพตรงหน้าจะกลายเป็นอย่างไร พวกมันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

แต่สำหรับจอมยุทธ์ที่เกิดในมหาอำนาจแปดพิภพ ความผิดปกติจากการเคลื่อนที่ของปราณวิญญาณเป็นภัยพิบัติใหญ่หลวงอย่างไม่ต้องสงสัย

อาหู่ที่มีนิสัยไม่ค่อยสนใจอะไร ในตอนนี้ก็ยังรู้สึกกังวลใจ “คุณชาย ที่แกนกลางเกรงว่าจะมียอดฝีมือเผ่าปีศาจอัคคีเฝ้าอยู่กระมัง”

เยี่ยนจ้าวเกอมองไปข้างหน้า กล่าวว่า “อาจจะเป็นไปได้”

คนทั้งสองนั่งบนหลังพ่านพ่าน มุ่งไปด้านหน้า

เส้นทางที่เชื่อมติดกับจุดเชื่อมยังคงเงียบสงบ เป็นบริเวณปลอดภัยซึ่งค่อนข้างแคบยาว แนวเขาก้นทะเลเงียบสงัด ไม่เห็นไฟใต้พิภพปะทุ

ในอาณาเขตที่สามารถมองเห็นได้ จะเห็นสองข้างทางของเส้นทางยาวแคบสายนี้มีไฟร้อนแรงพวยพุ่งออกมาจากก้นทะเล กระทบกับน้ำทะเลด้านบนตลอดเวลา กลายเป็นฟองขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ก่อนจะลอยขึ้นสู่ผิวทะเลไป

เส้นทางยาวแคบเช่นนี้มิได้มีแค่เส้นทางเดียว แต่ตัดสลับกัน ทั้งยังแผ่กระจายทั่วทะเลชั้นนอกทะเลตะวันออกอยู่เป็นจำนวนมาก

เยี่ยนจ้าวเกอมิได้มุ่งหน้าตามเส้นทางจนสุดสาย แต่เปลี่ยนทางทิศทางหลายครั้ง เพื่อให้ไปถึงที่หมายเร็วขึ้น

ขณะเดินทางได้ผ่านจุดเชื่อมหลายจุด แต่ชายหนุ่มไม่ได้ลงมือทำอะไร เพียงมุ่งหน้าไปยังทิศทางของแกนกลางด้วยความรวดเร็ว

น้ำแข็งย้อยเก้าแท่งที่ใช้สร้างข่ายอาคมบึงน้ำแข็งก่อนหน้านี้ ได้สลายไปในเหวลึกตรงจุดเชื่อมนั้นแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอตอนนี้นั่งบนหลังพ่านพ่าน ระหว่างเดินทางก็หลอมสร้างน้ำแข็งย้อยชุดที่สองไปพลาง

น่าเสียดายที่ตอนนี้เตาผลึกหินชั้นในของเขาถูกทำลายไป เพราะช่วยให้เมืองทะเลมรกตสร้างกระบี่สัตยาทะเลมรตสำเร็จ

เวลานี้คิดจะหลอมสร้างน้ำแข็งย้อย มีความยากมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย เยี่ยนจ้าวเกอได้แต่ขัดเกลามันอย่างเชื่องช้า

แม้บนทะเลชั้นนอกของตะวันออกในตอนนี้จะมีปีศาจอัคคี แต่ก็มีจอมยุทธ์แห่งมหาอำนาจแปดพิภพเช่นกัน สงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป

ถึงทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกในปัจจุบัน จะยังไม่ได้มีสภาพแวดล้อมเป็นไฟทั้งหมดเหมือนโลกปีศาจอัคคีก็ตาม

แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบนอกยังคงทำให้สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายกลับตาลปัตร นอกจากพลังต่อสู้ของเผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีจะเพิ่มขึ้นเหมือนสู้อยู่ในสนามรบของตัวเองแล้ว พวกมันยังเหี้ยมหาญเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ได้แต่กัดฟันเข้าปะทะ การบาดเจ็บล้มตายค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น

ขณะเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นปีศาจอัคคีหรือจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ เยี่ยนจ้าวเกอล้วนได้พบอยู่ไม่น้อย

แต่การเดินทางในครั้งนี้ เยี่ยนจ้าวเกอเก็บแหวนสีแดงก่ำที่จักรพรรดิปีศาจอัคคีเหลือเอาไว้ เพื่อไม่เผยลมปราณ

ไม่เพียงแค่นั้น ชายหนุ่มพยายามเก็บกลิ่นอายกระบี่ด้วย เพราะถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เขาก็ดึงดูดความสนใจพวกมันได้มาก และพวกมันก็จดจำเขาได้เป็นอย่างดี

เขาต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในสภาพอันชุลมุนในตอนนี้

ในเมื่อยืนยันตำแหน่งของแกนกลางตาข่ายเพลิงได้คร่าวๆ แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ตัดสินใจร่นระหว่างเดินทางให้มากที่สุด

น้ำทำให้การเดินทางช้าลง ถึงแม้จะมีพ่านพ่านเปิดทาง แต่ก็ยังเร่งความเร็วสู้ขณะที่อยู่บนบกไม่ได้

ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบก็ยิ่งเลวร้าย

สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอเรียบเฉยเหมือนปกติ แต่ว่าสายตาปรากฏความกังวล

ในที่สุดก็เข้าใกล้จุดเชื่อมอีกจุดหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอตบพ่านพ่านเล็กน้อย เป็นการบอกให้มันลดความเร็วลง

ถึงตรงนี้จะดูปกติ ไม่แตกต่างกับจุดเชื่อมอื่น แต่จากการคำนวณหลายครั้ง เยี่ยนจ้าวเกอแน่ใจว่าจุดเชื่อมที่โผล่มาด้านหน้านี้ ก็คือแกนกลางที่เป็นต้นกำเนิดตาข่ายยักษ์ อันครอบคลุมทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลของทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกทั้งหมด

ปีศาจอัคคีสามารถสั่นสะเทือนทิศทางการเคลื่อนที่ของปราณวิญญาณของมหาอำนาจแปดพิภพ ที่มีขนาดใหญ่โตเช่นนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น ขณะเดียวกันก็ยังปิดบังหูตาของจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ โดยพึ่งพาการปะทุของแกนไฟใต้ดิน คาดว่าการกระทำทั้งหมดเกิดขึ้นจากที่นี่เป็นส่วนใหญ่

เหตุผลที่เยี่ยนจ้าวเกอหยุดเคลื่อนไหว เป็นเพราะภาพเบื้องหน้าเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างแท้จริง

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ก้นทะเล ก้นทะเลมีแต่หินโสโครกที่เงียบสงบ แต่ตรงกลางของกลุ่มเขาก้นทะเลมีปากเหวลึกขนาดใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้น ด้านในมีแสงไฟสีแดงฉานสว่างอยู่หลายกลุ่ม

ปัญหาอยู่บนผิวทะเล เพราะคลื่นพลังงานที่บ้าคลั่งเหลือประมาณส่งมาจากผิวทะเลที่อยู่เหนือเหวเพลิง

เหนือผิวทะเลมีการต่อสู้ที่รุนแรงถึงขีดสุดดำเนินอยู่

ความรุนแรงของการต่อสู้ครั้งนี้ ยิ่งใหญ่และน่ากลัวกว่าหายนะกว่างเฉิง และหายนะเมืองทะเลมรกตก่อนหน้าเสียอีก!

ถึงแม้เยี่่ยนจ้าวเกอจะขวัญกล้าเทียมฟ้า แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ต้องหยุดรั้งรีรอ ไม่อาจเข้าใกล้ได้โดยง่าย

คำพูดที่บอกว่าฟ้าดินถล่มทลาย พลิกสายน้ำกลับสมุทรน่าจะเป็นเช่นนี้เอง

ภาพที่ทำให้ใบหน้าของทุกคนถอดสีนี้ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นแล้วกลับระบายลมหายใจด้วยความโล่งอก ความกังวลในดวงตาคลายลง ‘พวกอาจารย์หาเจอแล้วเหมือนกัน’

ผู้กำลังต่อสู้กันจนพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินในตอนนี้ ก็คือยอดฝีมือระดับสุดยอดของมหาอำนาจแปดพิภพ หยวงเจิ้งเฟิง หวงกวางเลี่ย และพวกราชันปีศาจอัคคีที่บุกมหาอำนาจแปดพิภพ

ยอดฝีมือระดับสุดยอดของโลกทั้งสองใบเดิมทีเข่นฆ่ากันไปทั่วทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกอย่างสูสี แต่ว่าในตอนนี้กลับมารวมตัวกันที่น่านน้ำซึ่งอยู่ใกล้ใจกลางตาข่ายเพลิง

เยี่ยนจ้าวเกอทำลายจุดเชื่อมจุดหนึ่งบนตาข่ายเพลิงจากไกลๆ ทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง ดำเนินการซ่อมแซมตัวเอง

เหล่ายอดฝีมือเผ่ามนุษย์ที่สู้กับปีศาจอัคคีไปพลาง หาวิธีหยุดความผิดปกติของแกนไฟใต้ดินไปพลาง รู้สึกได้ถึงความแตกต่างทันที

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างหยวนเจิ้งเฟิง ผู้มีพลังฝึกปรือแข็งแกร่งที่สุดรู้สึกถึงความแตกต่างได้ในทันที พากันคำนวณสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศ และตามหาใจกลางตาข่ายเพลิง

ราชันปีศาจเช่นพวกจิ่งจงย่อมไม่ยอมให้พวกหยวนเจิ้งเฟิงบุกทำลาย จึงสู้พลางไล่ตามพลาง พากันรวมตัวกันอยู่ที่นี่

น่านน้ำแห่งนี้ สำหรับคนธรรมดา ถือว่ากว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง

แต่สำหรับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ กลับเป็นพื้นที่ที่มีจำกัด

บัดนี้ บนพื้นที่ที่มีจำกัดแห่งนี้เอง ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ มากกว่าสิบคนของทั้งสองฝ่าย ต่างรวมตัวกันต่อสู้กันจนฟ้าดินถล่มทลาย!