ภาค 5 ผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า บทที่ 397 เจดีย์ในเหวเพลิง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

สนามต่อสู้หลักในทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก เป็นสถานที่ของยอดฝีมือจากมหาอำนาจแปดพิภพและเผ่าปีศาจอัคคีที่เข้ามารุกราน และบัดนี้สงครามครั้งใหญ่ก็กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด

แกนไฟใต้ดินระเบิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีศาจอัคคีได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ พวกมันโจมตีโต้กลับ ส่งผลคุกคามต่ออาณาเขตด้านนอกทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกอย่างไม่หยุดยั้ง

ยอดฝีมือระดับสุดยอดอย่างพวกหยวนเจิ้งเฟิงในตอนนี้ ต่างก็รู้สึกได้ถึงสถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดการปะทุของแก่นแท้แห่งไฟใต้ดิน จึงรีบพากันมาทันที

ยอดฝีมือระดับสุดยอดของเผ่าปีศาจอัคคีก็มารวมตัวกันที่นี่เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ที่น่านน้ำแห่งนี้ด้วยอยากจะตัดสินให้เด็ดขาด

เยี่ยนจ้าวเกอหยุดอยู่ด้านนอก มิได้บุ่มบ่ามเข้าใกล้

จุดศูนย์กลางของสนามรบ มียอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์มากกว่าสิบคนลงมือต่อสู้พร้อมกัน อากาศแทบจะถูกทำลายจนหมดสิ้น

ถึงแม้จะเป็นผู้เข้าร่วมสงครามที่อยู่บริเวณรอบๆ อย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ หากเป็นเผ่าปีศาจอัคคี ต่างก็อยู่ในระดับจ้าวปีศาจอัคคีทั้งสิ้น มิฉะนั้นแค่คลื่นหลงเหลือจากการต่อสู้ของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว

เหมือนกับสถานการณ์ครั้งหายนะของเมืองทะเลมรกตในตอนแรก เพียงแต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับตาลปัตรกันทั้งสองฝ่าย

ในตอนนั้นหยวนเจิ้งเฟิงกับอันชิงหลิน ต้องร่วมมือกันป้องกันการโจมตีของราชันปีศาจอัคคีจิ่งจง และต้องแบ่งจิตใจมาปกป้องเมืองทะเลมรกตเพื่อไม่ให้ถูกทำลายด้วย

ตอนนี้กลับตรงข้ามกัน เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีคิดปกป้องแกนกลางตาข่ายเพลิงแห่งนี้ เพื่อไม่ให้ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทำลายที่นี่ทิ้งเสีย

ด้วยเหตุนี้เอง ในสถานการณ์ที่พลังฝึกปรือของทั้งสองฝ่ายไม่ต่างกันมาก ฝ่ายโจมตีย่อมได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย

หากฝ่ายป้องกันตั้งใจป้องกัน แต่เผยช่องโหว่วออกมา ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นโอกาสให้ฝ่ายโจมตีฉวยโอกาส ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ

แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป ปีศาจอัคคีจะพลิกบทบาทจากแขกเป็นเข้าบ้าน เปลี่ยนทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกเป็นทะเลเพลิง ใช้ประโยชน์จากสนามรบได้เหี้ยมหาญขึ้นอีก

หากชะงักงันแบบนี้ต่อไป เผ่าปีศาจอัคคีก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน

พวกมันมุ่งเน้นเฉพาะจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ อย่างพวกหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยเท่านั้น

สำหรับจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ พวกมันกลับมิได้สนใจ

มีมหาปรมาจารย์เผ่ามนุษย์คิดเข้าใกล้เหวเพลิง แต่กลับมิอาจทำลายเหวเพลิงนั้นได้

พลังงอันแข็งแกร่งพุ่งลงบนเหวเพลิง ทำให้แสงไฟด้านในกระจายไปทั่ว แกนไฟใต้ดินสั่นไหว ไม่เห็นทีท่าสงบลง

หลังจากมหาปรมาจารย์เผ่ามนุษย์ลองอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ จึงหันกลับไปช่วยพวกหยวนเจิ้งเฟิง เพื่อช่วยให้พวกเขาทำลายแนวป้องกันของปีศาจอัคคี

ด้านปีศาจอัคคีเองก็ตามติดจอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์เผ่านมนุษย์ โดยมีราชันปีศาจอัคคีหลายตัวเป็นผู้นำ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้เหวเพลิง

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสำรวจอย่างละเอียด เขาก็ลองติดต่อกับผู้อาวุโสในสำนักเขากว่างเฉิงที่อยู่ในสนามรบ

หยวนเจิ้งเฟิงรู้สึกได้ถึงชายหนุ่มเป็นคนแรก แต่ว่าเขากำลังสู้กับราชันปีศาจอัคคีจิ่งจงอย่างสูสี จึงปลีกตัวมาไม่ได้

ผ่านไปพักหนึ่ง เงาร่างสายหนึ่งแหวกไฟร้อนแรง มาถึงเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ

เป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งจากเขากว่างเฉิงของทะเลตะวันออก ที่ก่อนหน้านี้คอยควบคุมสถานการณ์ในทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ราชินีขี่เมฆาฟู่เอินซู

ฟู่เอินซูเป็นสตรีที่มีนิสัยแข็งกร้าวดุดัน ในตอนนี้กอปรด้วยความดุร้ายจากเลือดและอัคคีหลายส่วน

“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่” ฟู่เอินซูถาม “หรือคนที่ทำลายจุดหนึ่งของตาข่ายเพลิงก่อนหน้านี้จะเป็นเจ้า”

“เป็นข้าเองจอรับ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ “อาจารย์ป้า ช่วยส่งข้าไปที่ใจกลางตาข่ายเพลิงได้หรือไม่”

“ปีศาจอัคคีพยายามขวางทาง หลักๆ ก็เพื่อสกัดพวกอาจารย์” ฟู่เอินซูกล่าว

นางพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้ามีความคิดอะไรอีกแล้วใช่หรือไม่ แต่เกรงว่าที่นี่จะแตกต่างกับสภาพจุดเชื่อมที่เจ้าทำลายไปก่อนหน้านัก”

เยี่ยนจ้าวเกอพลันกล่าว “ข้ามีวิธีที่อยากลองดู ไม่กล้าบอกว่ามั่นใจ แต่น่าจะใช้ได้ขอรับ”

ฟู่เอินซูครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจทันที “ได้ ข้าเชื่อเจ้า!”

หลังจากพูดจบ นางก็ยกนิ้วชี้กับนิ้วกลางตั้งตรงประดุจกระบี่ รอบๆ ตัวพลันเกิดประกายกระบี่อันยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ประกายกระบี่หลายสายรวมตัวกันเป็นอาคมกระบี่ จากนั้นก็กลายเป็นค่ายกลกระบี่ ม้วนเยี่ยนจ้าเกอพุ่งขึ้นฟ้า บินออกไปไกล

ค่ายกลกระบี่กว้างใหญ่ราวกับโลกใบหนึ่ง เป็นกระบี่นภาไร้ขอบเขต หนึ่งในสามยอดเคล็ดวิชาของเขากว่างเฉิง

ฟู่เอินซูวาดกระบี่ใส่อากาศในแนวขวาง พาเยี่ยนจ้าวกอฟันทะเลมุ่งหน้าไปยังเหวเพลิงที่ก้นทะเล

มีปีศาจอัคคีล้อมเข้ามาขวางประกายกระบี่ทันที

นางทำเป็นมองไม่เห็นพวกมัน

กลางอากาศพลันมีฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งพุ่งลงมา กระแทกน้ำทะเลเบื้องล่างให้กระจายออกไปรอบๆ ราวกับนภาถล่มก็ไม่ปาน อีกทั้งยังสังหารปีศาจอัคคีไปได้เป็นจำนวนมาก

หยวนเจิ้งเฟิงเป็นผู้ลงมือ กวาดทางให้เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซู

หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง จอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์อย่างฟู่เอินซูจึงคิดช่วยให้จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นพวกหยวนเจิ้งเฟิงบุกทะลวง

ตอนนี้เกิดการพลิกกลับอีกครั้ง เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีตั้งตัวไม่ทัน ทำให้หยวนเจิ้งเฟิงและฟู่เอินซู สองศิษย์อาจารย์บุกทะลวงเปิดทางได้สำเร็จ

กลยุทธ์ขวางทางในปัจจุบันของปีศาจอัคคี ถ้าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์แน่วแน่ไม่ยอมถอย มหาปรมาจารย์ย่อมไม่ละความพยายาม

ชั่วขณะนั้น ประกายกระบี่ของฟู่เอินซูพุ่งลงไปยังก้นทะเล

ถึงแม้จะมีนิสัยบ้าคลั่ง แต่การกระทำที่ผิดปกติของจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์นี้ ทำให้ปีศาจอัคคีเกิดความรู้สึกกระวนกระวาย จึงมีราชันปีศาจอัคคีคิดลงมือเพื่อขัดขวางฟู่เอินซู

“แพ้ชนะอยู่ที่ตอนนี้!” ท่ามกลางเสียงตวาดของหยวนเจิ้งเฟิง พลังโจมตียิ่งใหญ่ดุจกระแสงน้ำ พลันกดดันพวกราชันปีศาจอัคคีจิ่งจงให้รับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมกับจอมยุทธ์ศักดิสิทธิ์เผ่ามนุษย์คนอื่น

แต่มีจ้าวปีศาจอัคคีเริ่มหันไปไล่ตามฟู่เอินซูแล้ว

ประกายกระบี่ของฟู่เอินซูขยายออก ปล่อยเยี่ยนจ้าวเกอลง พุ่งไปที่เหวเพลิง

นางหมุนตัว ใช้กระบี่ป้องกัน ปะทะจ้าวปีศาจอัคคีที่ไล่ตามมาอย่างเหี้ยมหาญ

พอเห็นเงาร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็มีปีศาจอัคคีพุ่งเข้ามาหาพร้อมสีหน้าคลุ้มคลั่ง

แต่ว่าปีกายกระบี่ที่หนาหนักเกือบจะแทงทะลุตัวมัน

ฟู่เอิ้นซือถือกระบี่ อาภรณ์สีขาวขาวของนางพลิ้วไหว พลิกตัวกลับมาสกัดปีศาจอัคคี ราวกับเข็มเทพหยุดทะเล[1]

การต่อสู้ตัดสินชะตาในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอมิอาจหันกลับไปมองภาพด้านหลัง เอาแต่พุ่งสู่ปากเหวด้วยความเร็วสูงสุด

เขาเปิดถุงย่อส่วน น้ำแข็งย้อยเก้าแท่งพลันปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นเขาก็มันโยนออกไปให้ลอยคว้างอยู่กลางทะเล

หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดหนึ่งออก ปราณจิตราจากหมัดกระตุ้นให้น้ำแข็งย้อยจัดเรียงเป็นค่ายกล

แสงสีน้ำเงินหลายสายสว่างวาบ ลวดลายค่ายกลหลายแถวตัดสลับกัน รวมกันเป็นค่ายกลขนาดยักษ์

น้ำแข็งย้อยเก้าแท่งแยกกันตั้งอยู่ที่ขอบค่ายกล ส่องแสงเปล่งประกายทั้งหมดเก้าสาย ค้ำยันค่ายกลเอาไว้

เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ อาคมน้ำแข็งปราบมารทั้งหมดที่เหลืออยู่ต่างเขาไปสู่ใจกลางค่ายกล

ชายหนุ่มต่อยหมัดออกอีกครั้ง ค่ายกลสั่นไหวในทันที ก่อนจะตกลงสู่เหวเพลิงเบื้องล่าง ขณะที่มีเสาแสงสีขาวเก้าต้นล้อมรอบอยู่

เหวลึกสั่นสะเทือนเล็กน้อย แสงไฟเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวดับ แต่ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดที่มากกว่านั้น

จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ที่เดิมทีมีความหวังอยู่หลายส่วน บัดนี้ต่างเผยใบหน้าผิดหวังอย่างอดไม่ได้

ทุกคนทำได้เพียงตั้งสติ กลับมาใช้แผนก่อนหน้า พยายามช่วยพวกหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยบุกทะลวงแนว ป้องกันของปีศาจอัคคี

แม้วิธีการนี้จะไม่ได้ผลเหมือนจุดเชื่อมก่อนหน้านี้ แต่สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ปรากฏความกระวนกระวายเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงมองเหวเพลิงเบื้องล่างอย่างตั้งใจ

ท่ามกลางแสงจากไฟ เยี่ยนจ้าวเกอมองเห็นอะไรบางอย่าง

สิ่งของที่ไม่เข้ากันกับสภาพแวดล้อมรอบๆ

เป็นเจดีย์ขนาดเล็กสีแดงฉานองค์หนึ่ง

……………………………………….

[1] เข็มเทพหยุดทะเล สุภาษิตจีน หมายถึง มั่นคง แน่วแน่