ภาค 5 ผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า บทที่ 398 เยี่ยนจ้าวเกอขี่มังกร

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เจดีย์เล็กสีแดงฉานถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง แต่กลับให้ความรู้สึกสุขสงบ

ไฟร้อนแรงรอบๆ เจดีย์ไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไป

แต่ว่าเป็นเพราะการดำรงอยู่ของเจดีย์ ทำให้แสงสีแดงหลายสายพวยพุ่งขึ้นข้างบน หยุดข่ายอาคมบึงน้ำแข็งที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้ดับทะเลเพลิง

ข่ายอาคมที่ประคองไว้ด้วยแสงขาวเก้าสาย หยุดอยู่เหนือทะเลเพลิง ไม่อาจลงไปได้อีก

ถึงแม้จะถูกเหวเพลิงหยุดไว้ ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจทำความเข้าใจอย่างละเอียดได้ แต่ก็รู้สึกได้ถึงจิตพลังอันน่าอัศจรรย์ด้านใน

เจดีย์เล็กสีแดงองค์นี้คล้ายกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับแกนไฟใต้ดิน ไม่แบ่งแยกกันเอง

ไม่ต้องถามก็รู้ว่า ที่เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีสามารถสั่นไหวการไหลเวียนของแกนไฟใต้ดินในมหาอำนาจแปดพิภพได้โดยง่าย ของสิ่งนี้จะต้องส่งผลสำคัญแน่

เจดีย์สีแดงตอนนี้เชื่อมต่อกับแกนไฟใต้ดิน ทำให้การโจมตีจากยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ยากจะก่อเกิดประโยชน์

เยี่ยนจ้าวเกอคิดใช้ข่ายอาคมบึงน้ำแข็งก่อกวน แต่ถูกเจดีย์เล็กสีแดงหยุดไว้

‘มิน่าถึงได้ป้องกันแค่จอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์’ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นภาพนี้ ก็พยักหน้าเงียบๆ

ขณะที่มองอยู่ ก็รู้สึกว่าเหนือศีรษะมีจิตสังหารรุนแรงกดดันลงมา

ถึงแม้ราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวงจะถูกหยวนเจิ้งเฟงฆ่าตาย แต่พอเยี่ยนจ้าวเกอปรากฎตัว ก็ดึงดูดความสนใจของปีศาจอัคคีทุกตัวทันที

ภาษาเฉพาะของปีศาจอัคคีคำรามขึ้นสลับกันอย่างสับสน พวกจ้าวอัคคีไม่สนใจมหาปรมาจารย์เผ่ามนุษย์คนอื่นอีก พุ่งมาหาเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนผึ้งแตกหลัง

ฟู่เอินซูตั้งกระบี่ขวางไว้ด้านหน้า เผชิญหน้ากับปีศาจอัคคีที่ดุร้ายโดยไร้ความเกรงกลัว เข้าปะทะด้วยตัวเอง

จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงและมหาปรมาจารย์เมืองทะเลมรกตเห็นดังนั้น ก็รีบพุ่งลงด้านล่าง ช่วยฟู่เอินซูขัดขวางจ้าวปีศาจอัคคีเหล่านี้

จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์จากเขาไร้พรมแดนและหอคลื่นโหมลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งลงด้านล่าง ต่อสู้ตะลุมบอนกับเผ่าปีศาจอัคคี

ถึงแม้สถานการณ์จะยังไม่แน่ชัด แต่ปาฏิหาริย์ที่เยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในเวลาอันตราย ทำให้พวกเขาเลือกเชื่อคนหนุ่มผู้นี้

จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ ช่วยหวงพวกกวงเลี่ยและเฉินลี่ต่อ ด้วยหวังว่าให้จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายตัวเองทะลายแนวป้องกันของราชันปีศาจอัคคีลงได้

ในหมู่ยอดฝีมือระดับสุดยอดแห่งมหาอำนาจแปดพิภพทั้งหมด เนื่องจากสภาพแวดล้อม คนที่แสดงฝีมือได้โดดเด่นที่สุดในตอนนี้จึงเป็นจอมยุทธ์แห่งทิศบูรพาหวงกวงเลี่ย

ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยทะเลเพลิง จอมยุทธ์สุริยันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งสู้ยิ่งเหี้ยมหาญเหมือนกับปีศาจอัคคี

หวงกวงเลี่ยเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ยิ่งแข้งกร้าวดุดันกว่าปีศาจอัคคีเสียอีก

แต่ว่าปีศาจอัคคีเองก็หมายเล่นงานกวงเลี่ย เพื่อขัดขวางการเดินหน้าของเขาเช่นกัน

การต่อสู้ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ปีศาจอัคคีต้องใช้พลังทั้งหมดหยุดยอดฝีมือของเผ่ามนุษย์

การต่อสู้ระดับมหาปรมาจารย์กลับตาลปัตรกันพอดี จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ใช้พลังทั้งหมดหยุดปีศาจอัคคีที่พุ่งเข้ามาโดยมีฟู่เอินซูเป็นผู้นำ

จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ที่เสียเปรียบด้านสถานที่อยู่แล้ว เมื่อขาดสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ไป ทำให้ไม่อาจการเผชิญหน้าจากการโจมตีที่รุนแรงเหมือนกระแสน้ำของปีศาจอัคคี

เริ่มมีจ้าวปีศาจอัคคีบางตัวทำลายแนวป้องกัน พุ่งไปยังเหวเพลิงที่อยู่ระหว่างภูเขาก้นทะเลด้านล่าง

ประกายกระบี่ของฟู่เอินซูสว่างวาบ ทะลุท้องทะเลเหมือนรุ้งเส้นยาว ด้านปลายที่พุ่งลงฟันขาครึ่งหนึ่งของจ้าวปีศาจที่คล้ายปูทิ้งได้พอดี

จ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้นคำราม ส่วนท้องเปิดออก จากนั้นเสาเพลิงขนาดใหญ่ก็พวยพุ่งออกมา กระแทกประกายกระบี่ของฟู่เอินซูสั่นไหว

ขณะเดียวกัน จ้าวปีศาจอัคคีอีกตัวก็ไล่ตามลงมา เป้าหมายคือจุดอ่อนด้านหลังของฟู่เอินซู

แสงกระบี่ของฟู่เอิ้นซูกลายเป็นเป็นวง รัศมีแสงวงหนึ่งปรากฏขึ้น ราวกับเป็นประตูใหญ่ของโลกใบใหม่

อีกทั้งยังคล้ายถุงหนังที่กลืนกินฟ้าดิน ปากถุงเปิดออก ตอบโต้ด้วยวิธีเดียวกัน

เจตจำนงกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ทำให้จ้าวปีศาจอัคคีได้แต่หยุดเคลื่อนไหว ไม่ส่งตัวเองไปติดกับ

แต่ว่าวินาทีต่อมา จ้าวปีศาจอัคคีตัวนี้พลันหมุนตัวมาอยู่ด้านข้างของฟู่เอินซู ก่อนจะพุ่งลงไปหาเยี่ยนจ้าวเกอต่อ

ฟู่เอินซูชักกระบี่กลับมาป้องกัน ใครจะรู้ว่าจ้าวปีศจอัคคีตัวนั้นจะวกกลับมาโจมตี เป้าหมายการโจมตีที่แท้จริงของมันก็คือนางนั่นเอง

“โดน!” ฟู่เอินซูเบิกตาโพลง ไม่หลบหลีก นางปะทะกับศัตรูซึ่งหน้า พลางแทงกระบี่ออกไป

เอวของนางถูกปีศาจอัคคีคว้าไว้ แต่ว่าคมกระบี่ก็แทงทะลุจ้าวปีศาจอัคคีตัวนี้เช่นกัน

แต่อีกด้านหนึ่ง การโจมตีของปีศาจอัคคีดูร้อนรนขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำลายแนวป้องกันที่พวกฟู่เอินซูสร้างขึ้นได้ พากันพุ่งลงไปที่เหวเพลิงเบื้องล่าง

เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงปากเหวในตอนนี้ตั้งใจรวบรวมสมาธิ ต่อให้มีดาบหรือกระบี่จ่อคอหอยอยู่เขาก็ไม่สนใจ

ความสนใจของเขาอยู่ที่แกนไฟใต้ดิน ซึ่งในตอนนี้เคลื่อนไหวอย่างผิดปกติอยู่เหนือเจดีย์เล็กสีแดง

‘ตอนแรกคิดจะเอาของกลับสำนัก ตอนนี้ดูเหมือนต้องเก็บไว้เองแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจ “แม้จะไม่ถือว่าสิ้นเปลือง แต่งบางทีอาจจะต้องลงมือแรงสักหน่อย”

หลังจากคำนวณกลยุทธ์ในใจแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอพลันเปิดถุงย่อส่วนของตัวเอง

ในถุงย่อส่วน เนื่องจากเสาระเบียงตำหนักเทพมิได้สะกดต่อ ซากมังกรที่ถูกแช่แข็งในเสาน้ำแข็งจึงลอยออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เสาหินและเสาน้ำแข็งออกมาจากถุงย่อส่วน ขยายขนาดเป็นใหญ่ยักษ์ในพริบตา

เยี่ยนจ้าวเกอกระตุ้นปราณจิตราทั่วร่างให้กลายเป็นความร้อน จากนั้นก็กางธนูนภาอลหม่าน ง้างสายธนูออก

สายธนูสั่นไหว อัสนีสีม่วงและอัคคีสีแดงฉานสอดประสานกัน โจมตีใส่เสาน้ำแข็งที่แช่แข็งซากมังกร!

เสาน้ำแข็งเริ่มแตกร้าว ซากมังกรด้านในสั่นไหว ส่งเสียงคำรามดังขึ้นเลือนราง

มังกรน้ำแข็งที่ตายไปแล้วมิได้คืนชีพขึ้นมา

แต่ว่าวิญญาณที่แฝงอยู่ด้านใน กลับทำให้คนรู้สึกเหมือนมีมังกรตัวเป็นๆ ปรากฏตัวขึ้นบนโลกมนุษย์

อำนาจมังกรอันยิ่งใหญ่ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเป็นปีศาจอัคคีล้วนต้องตกตะลึง!

จ้าวปีศาจอัคคีที่ลงไปในปากเหวคำรามขึ้น พุ่งลงไปอยู่เบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอในพริบตา!

เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนไม่เห็นจ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้น เพียงแต่ยืนอยู่เหนือเสาระเบียงวังเทพ จากนั้นก็เหยียบสองเท้าลงด้านล่าง!

เสาระเบียงวังเทพส่องแสงเจ็ดสี สะกดซากมังกรน้ำแข็งอีกครั้ง จากนั้นมันก็ตกลงสู่ก้นเหวด้านล่าง!

ภายในนั้น ข่ายอาคมบึงน้ำแข็งของเยี่ยนจ้าวเกอถูกเจดีย์เล็กสีแดงหยุดไว้ จึงไม่ส่งผลอันใด

แต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอยืนบนเสาระเบียงวังเทพ คอยสะกดซากมังกรน้ำแข็งเบื้องล่าง ขณะเดียวกันก็พุ่งตัวลงไปในค่ายกลที่ครอบคลุมเสาแสงสีขาวเก้าต้น

ประกายแสงสว่างแวบ เสียงมังกรค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจริง

พลังความเย็นสุดขีดกระจายออกมา ทำให้อุณหภูมิที่ก้นเหวลดลงด้วยความเร็วสูง ไม่ได้ร้อนลวกเช่นเดิมอีกต่อไป

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บเสาระเบียงวังเทพ ก่อนจะพุ่งลงไปในข่ายอาคมบึงน้ำแข็ง

เขายื่นสองมือออก ปราณจิตราหนึ่งเย็นหนึ่งร้อนหลอมรวมกัน จากนั้นก็ฟาดลงด้านล่างอย่างพร้อมเพรียง

มังกรน้ำแข็งเหมือนมีชีวิตขึ้นมา ร่างมังกรยักษ์วนเวียนเหนือเจเดีย์สีแดงฉาน

ร่างกายเลือดเนื้อของจริงค่อยๆ กลายเป็นมังกรแสงสีน้ำเงิน

จ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้นไม่ยอมลดละ ตามเยี่ยนจ้าวเกอไปถึงก้นเหว กรงเล็บพุ่งใส่ศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่ว่าภายใต้การครอบคลุมของข่ายอาคมบึงน้ำแข็ง เยี่ยนจ้าวเกอได้พุ่งลงไปอยู่เหนือเจดีย์สีแดงฉานแล้ว

เขาต่อยหมัดหนึ่งใส่ใจกลางของยอดเจดีย์ พลังงานที่มีน้ำแข็งและไฟผสมผสานกันพลันพุ่งขึ้นท้องฟ้า ป้องกันกรงเล็บของจ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้น!

ท่ามกลางเสียงคำรามอย่างไม่ยินยอมของจ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้น เยี่ยนจ้าวเกอส่งเสียงร้องประดุจมังกร เจดีย์สีแดงเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!