บทที่ 175 เหตุผลของท่าทีที่แปลกออกไป

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 175
เหตุผลของท่าทีที่แปลกออกไป

“ปล่อยเหรอ…ใช่สินะ…เธอไม่รักฉันนิ…” ชูอี้เสิ่นปล่อยไหล่ของเธออย่างไร้เรี่ยวแรงพร้อมทั้งพูดพึมพำกับตัวเอง

หยดน้ำตาใสๆไหลออกมาจากหางตาจนทำให้โม่อ้ายลี่ตกใจ ผู้ชายคนนี้รักเธอจริงๆ

เธอเช็ดน้ำตาเขาด้วยผ้าขนหนู ไม่รู้ว่าความซับซ้อนที่อยู่ในใจเธอคืออะไร มันดูเหมือนจะเจ็บจี๊ดๆอยู่นิดหน่อย

“เสี่ยวเสวี่ย ฉันไม่ดีตรงไหน…ฉันเปลี่ยนแปลงได้ไหม…”
“มู่หรง…”
“มู่หรง…”
ไม่รู้ว่าทำไม ในตอนนี้ที่เธอมองไปที่ชูอี้เสิ่นที่เอาแต่พึมพำชื่อของเสี่ยวเสวี่ยถึงทำให้เธอรู้สึกปวดใจ ความรักเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ สำหรับผู้ชายแบบชูอี้เสิ่น เธอคิดว่าเขาคงมีผู้หญิงมากมาย เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้เพื่อความรักที่เขาไม่ได้ครอบครอง

เขาเอาแต่พูดพึมพำเรื่องชื่อของมู่หรงเสวี่ยพร้อมด้วยคำอ้อนวอนพร้อมที่จะทำทุกอย่างมันได้ทำลายความรู้สึกที่เจอกันครั้งแรกไปจนหมด เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายยโส ตอนที่เจอเขาเป็นครั้งแรก สายตาที่เย็นชาและท่าทางไม่เป็นมิตรของเขายังติดตรึงอยู่ในใจของเธอ

หลังจากที่โม่อ้ายลี่เช็ดหน้าให้เขาเสร็จ เธอก็เดินออกมาแต่ตอนที่เดินออกมามีบางอย่างที่ดูเหมือนจะกำลังเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่เริ่มจะรู้สึกสนใจผู้ขายขี้เมาคนนั้นขึ้นมาบ้างแล้ว บางทีสักวันเมล็ดพันธ์ุแห่งความสนใจเล็กๆน้อยๆนี้จะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ก็ได้

มันเป็นเรื่องของอนาคต ใครจะไปรู้ล่วงหน้าได้
ที่อีกฝั่ง ฮวงฟูอี้และมู่หรงเสวี่ยที่เพิ่มมาถึงที่ฐานก็กำลังนั่งอยู่ในห้องของพวกเขาที่มาเมื่อคืน
มู่หรงเสวี่ยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดออกมา “อี้ เราไม่ใช่คู่รักกัน เราจะนอนด้วยกันแบบนี้ไม่ได้ นายเข้าใจไหม?”

ฮวงฟูอี้กะพริบดวงตาคู่สวยพร้อมทั้งพูดออกมาอย่างไร้เดียงสา “แต่ว่าฉันง่วง…”

“ถ้านายง่วย นายก็นอนเองสิ ทำไมคนอื่นจะต้องง่วงกับนายด้วยล่ะ?!” มู่หรงเสวี่ยพูด และรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่าเธอไม่ได้โง่นะ คนปกติเขาก็นอนกันบนเตียงไม่ใช่เหรอ?! แล้วจะนอนไม่หลับได้ยังไงแล้วเรื่องการที่ต้องกอดเธอถึงจะหลับนี่ก็ไร้สาระ

ยิ่งเธอคิดเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น เธอค่อยๆมองไปที่ฮวงฟูอี้ด้วยสายตาสงสัย

สีหน้าของฮวงฟูอี้ไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องที่เขาพูดเป็นความจริง “มาเถอะ ไปที่เตียงกัน” เขานั่งลงที่เตียงพร้อมทั้งยื่นแขนออกมาและเรียกให้มู่หรงเสวี่ยมาอยู่ในอ้อมแขนเขา

สายตาของมู่หรงเสวี่ยทำตาโต นี่คำพูดของเธอไม่มีความหมายเลยใช่ไหมเนี่ย เธอไม่ได้เดินไปและพูดต่อ “อี้ นี่นายไม่ได้ยินเรื่องที่ฉันพูดเลยหรือไง?!! มันไม่ถูกต้อง…”

“แล้วอะไรล่ะ?” ฮวงฟูอี้กอดอกและถามต่อ
“แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะนอนกับนายไง ไม่เข้าใจหรือไง?” มู่หรงเสวี่ยบอกว่าเธอจะมานอนกับเขาทุกครั้งไม่ได้ ไม่งั้นเธอก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่มันผิดปกตินี้ของเขาได้สิ

คิ้วของฮวงฟูอี้เลิกขึ้นเล็กน้อย วันนี้หลงอี้อธิบายให้เขาฟังอยู่ตั้งนานแล้วจู่ๆเขาก็เข้าใจเรื่องความแตกต่างมากมายของผู้ชายและผู้หญิงขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย เข้าใจว่าความต้องการทางร่างกายคืออะไรและความหมายของความรักด้วย สิ่งเดียวที่เขาไม่เข้าใจคือความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองและวิธีที่จะปฏิบัติกับเสี่ยวเสวี่ย ปัญหาพวกนั้นทำเขาสับสนอย่างมาก อันที่จริงเขามีวิธีตั้งมากมายที่จะทำให้เสี่ยวเสวี่ยยอมทำอย่างที่เขาต้องการ เช่นการใช้กำลัง, ข่มขู่หรือใช้เรื่องที่เธอรักมากที่สุด แต่เขาทำแบบนั้นกับเธอไม่ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นคนช่วยเขาและเธอก็ไม่ใช่คนแรกที่เคยช่วยเขาด้วย แต่เธอเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกพิเศษ

“ที่นี่มีแค่เตียงเดียว…” สุดท้ายเขาก็พูดเหตุผลที่ไร้สาระออกมาซึ่งดูไม่ใช่ตัวเขาเลย

มู่หรงเสวี่ยรีบตอบกลับมาทันที “ฉันกลับบ้านก็ได้!”
“ฐานปิดแล้ว มันจะไม่เปิดอีกจนกว่าจะ 11 โมง!” ฮวงฟูอี้มองไปที่นาฬิกาแล้วก็พูดออกมาเสียงเบา

เหตุผลนี้ฟังดูแย่กว่าเดิมอีกแต่เขาพูดออกมาอย่างจริงจังและมู่หรงเสวี่ยก็พูดอะไรไม่ออก

สุดท้าย มู่หรงเสวี่ยก็มองไปที่โซฟาขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้อง ทันใดนั้นสายตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมาและพูดออกมาอย่างมีความสุข “ฉันจะนอนที่โซฟา งั้นเอาแบบนี้ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่งั้นฉันจะโกรธนะ นายจะนอนกอดฉันตลอดเวลาไม่ได้ นี่เป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา! พรุ่งนี้ฉันจะไปหาหมอกับนาย…” เธอพึมพำตอนที่หาผ้าห่มในตู้

สายตาเคร่งขรึมของฮวงฟูอี้จ้องไปที่โซฟาและอยากที่จะฉีกมันให้เป็นชิ้นๆจริงๆ

หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยวางผ้าห่มและหมอนที่โซฟา ฮวงฟูอี้ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เตียง มู่หรงเสวี่ยมองไปที่เขาและพูดออกมา “นอนล่ะนะ ฝันดี!”

เธอดึงผ้าห่มขึ้นแล้วนอนลงไปที่โซฟา หลับตาลงแล้วก็นอนไปจริงๆ

หลังจากที่นั่งอยู่สักพัก ฮวงฟูอี้ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็ลุกขึ้นไปหรี่ไฟและเดินมาหามู่หรงเสวี่ย

เธอหลับตาสนิทและหายใจอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะขนตาเธอที่ยังสั่นเล็กน้อย ฮวงฟูอี้ก็คงจะคิดว่าเธอหลับไปแล้วจริงๆ เขายกมุมปากขึ้นยิ้มแต่ไม่มีเสียงใดๆออกมา

จนกระทั่งเขารู้สึกได้ว่ามู่หรงเสวี่ยดูเหมือนจะกังวลอย่างมากเพราะมือที่จับผ้าห่มแน่น ยังไงซะเขาก็ทนที่เธอรู้สึกแย่ไม่ได้จึงเดินกลับไปที่เตียงและค่อยห่มผ้าให้ตัวเอง อันที่จริงเขายังคงมองไปทางมู่หรงเสวี่ยอยู่เพราะตำแหน่งไม่ได้อยู่ห่างกันมากเขาจึงเห็นสีหน้าของเธอได้

เมื่อมู่หรงเสวี่ยรู้สึกว่าฮวงฟูอี้หันหลังเดินไปแล้ว เธอก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาหน่อย อันที่จริงถ้าฮวงฟูอี้บังคับให้เธอไปนอนที่เตียงกับเขา เธอก็คงขัดขืนไม่ได้ โชคดีที่สุดท้ายเขาก็เดินกลับไปและเธอก็ได้เสียงเขาเอนตัวลงที่เตียงได้

หลังจากที่ผ่านไปไม่กี่นาที ความรู้สึกกังวลในตอนแรกของมู่หรงเสวี่ยก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลงจนเธอค่อยๆผล็อยหลับไป

ฮวงฟูอี้มองไปที่มู่หรงเสวี่ยจากมุมของเขาอยู่ตลอดและไม่แม้แต่จะกะพริบตา จนกระทั่งเขามั่นใจแล้วว่ามู่หรงเสวี่ยหลับแล้ว เขาก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงและเดินช้าไปที่มู่หรงเสวี่ย เขาดึงผ้าห่มของเธอเปิด อุ้มเธอขึ้นมาและวางเธอลงที่เตียง แล้วเขาก็เอนตัวลงนอนข้างๆเธอด้วย หลังจากที่ทั้งสองห่มผ้าเรียบร้อย เขาก็จับที่เอวเธอและดึงร่างของมู่หรงเสวี่ยเข้ามาใกล้อ้อมแขนเขา หลังจากนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจจนหลับตาลงและหลับไปในที่สุด

ค่ำคืนที่ไร้ซึ่งความฝัน วันใหม่ค่อยๆเริ่มส่องแสงร่ำไร… มู่หรงเสวี่ยรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่อบอุ่น เป็นอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างใหญ่ด้วย ทำไมตุ๊กตาหมีในห้องเธอถึงไม่มีขนล่ะ โดยไม่ลืมตาแต่เธอก็ยังลูบไปเรื่อยๆ ทำไมรูปร่างเหมือนคนเลยล่ะ เหมือนคนงั้นเหรอ?! เธอลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่ง เธอมองไปที่ ฮวงฟูอี้ที่หลับอยู่ข้างๆเธอ

เธอจำไม่ได้เลยว่าตัวเองเดินมานอนที่เตียงได้ยังไง เมื่อคืนเธอนอนอยู่ที่โซฟานิ แล้วทำไม?

มู่หรงเสวี่ยที่พยายามจะลุกขึ้นอย่างเบาๆ แต่ก็เห็นว่าฮวงฟูอี้ลืมตาอยู่และสายตาของเขาก็กำลังจ้องมาที่เธอ

“อี้ ฉัน…ฉันมานอนที่เตียงได้ยังไง?” มู่หรงเสวี่ยกัดริมฝีปากและถามออกไป เธอมองไปที่ฮวงฟูอี้อย่างสงสัย เธอกำลังสงสัยว่าจะเป็นเขาคนที่อุ้มเธอมานอนที่เตียงนี่

ฮวงฟูอี้ยกหัวขึ้นมานอนทับที่แขนข้างขวาและเอนตัวอย่างขี้เกียจอยู่บนเตียง เขาจ้องมาที่มู่หรงเสวี่ยและพูดออกมา “เมื่อคืน อยู่ดีๆเธอก็วิ่งมาหาฉันตอนที่ฉันกำลังหลับอยู่กลางดึก เธอกอดฉันจนแทบหายใจไม่ออกแล้วก็ผล็อยหลับไป ฉันพยายามปลุกเธอแล้วนะแต่บางทีเธออาจจะหลับเร็วไปก็เลยไม่ยอมตื่นขึ้นมา ต่อมาฉันก็เลยเผลอหลับไปด้วยเพราะฉันง่วง”

“ไม่มีทาง นายโกหก!” มู่หรงเสวี่ยพูดออกไปอย่างตื่นเต้น เธอเป็นคนนอนเรียบร้อยตลอด ไม่เคยดิ้นหรือตื่นขึ้นมากลางดึกแน่ๆ

ฮวงฟูอี้ลุกขึ้นและพูดสบายๆ “ในห้องนี้มีกล้องวงจรปิดนะ ถ้าเธอไม่เชื่อฉันบอกให้คนเอาภาพมาให้เธอดูก็ได้นะ แล้วถ้ากลายเป็นว่าเธอเป็นคนที่วิ่งมาเอง เธอจะชดเชยให้ฉันยังไงล่ะ?” เขาเดินเข้ามาใกล้และกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูของมู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยตกใจกับท่าทีของเขาที่อยู่ๆก็เข้ามาใกล้แบบนี้จนสีหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นมาทันที “อะไร…ชดเชยอะไร…บ้าหรือไง?” หลังจากที่พูดออกไป เธอก็อยากที่จะกัดลิ้นตัวเองจริงๆ ทำอย่างกับเธอกังวลมากงั้นแหละ แต่เมื่อกี้เธอก็กังวลอยู่นิดหน่อย

“เธอคิดว่าฉันโกหก นั่นทำให้ฉันเสียใจอย่างมากเลยนะ ถ้ามันพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นคนที่เข้าหาฉันเอง เธอก็จะต้องชดเชยโดยการนอนกอดฉัน โอเคไหม?” ฮวงฟูอี้พูดพร้อมรอยยิ้ม

“นาย…ฝันไปเถอะ!” ติดอ่างอีกแล้ว มู่หรงเสวี่ยอยากที่จะตบปากตัวเองจริงๆ เธอกังวลเรื่องนั้นอีกแล้ว!!!

“ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็ต้องขอโทษฉัน!” ฮวงฟูอี้พูด ทำท่าทางใจกว้างอย่างมาก

“หา?! ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย?” ดวงตาของมู่หรงเสวี่ยเบิกกว้าง

ฮวงฟูอี้พูดในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อผ้า “เธอเข้าใจฉันผิด แบบนั้นไม่ต้องขอโทษฉันงั้นเหรอ?”

มู่หรงเสวี่ยรีบปิดตาตัวเองและร้องออกมา “นายถอดเสื้อผ้าทำไม?”

“ฉันใส่ชุดนอนอยู่นิ ถ้าไม่ถอดแล้วฉันจะเปลี่ยนชุดยังไงล่ะ?” ฮวงฟูอี้ไม่รู้ตัวเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติที่จะถอดเสื้อผ้า อีกอย่างมู่หรงเสวี่ยก็เคยเห็นเขาโป๊มาก่อนแล้วด้วย ก่อนหน้านี้ตอนที่ความทรงจำเขาหายไปและยังอยู่ที่เมืองหลวง ในตอนนั้นครั้งหนึ่งเธอเคยช่วยเขาอาบน้ำด้วย

มู่หรงเสวี่ย: โอ๊ย อยากจะบ้าตาย! ก็เพราะมีผู้หญิงอยู่ตรงนี้ไง เข้าใจไหม?!!! เขาจะมาถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเธอได้ยังไง

ฮวงฟูอี้ไม่ปฏิเสธว่าเขาตั้งใจที่จะแกล้งเธอ คอและใบหูที่แดงระเรื่อของเธอทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่ารักเป็นพิเศษ มู่หรงเสวี่ยเป็นคนที่พิเศษจริงๆ เธอทำให้อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย เขาเริ่มที่จะเข้าใจแล้ว