ตอนที่ 516: หายตัวไป

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 516: หายตัวไป

 

“ถ้างั้น แท่นบูชาเทียนหมิงก็ถูกแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงแย่งชิงมา ไม่ใช่สร้างขึ้น?”

 

อี้เทียนหยุนมองไปที่แท่นบูชาเทียนหมิงนี้ ในใจก็พลันเกิดความคิดขึ้น

 

“ใช่ เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงสามารถควบคุมค่ายกลในแท่นบูชาเทียนหมิงได้ ดังนั้นจึงได้ถือสิทธิ์ครอบครองแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ ด้วยความสามารถอย่างพวกเขา จะไปสร้างแท่นบูชาเทียนหมิงได้ยังไง?” ในสีหน้าของผู้อาวุโสลั่วเต็มไปด้วยความดูถูกอย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็มองไปที่แท่นบูชาเทียนหมิงนี้แล้วพูดว่า “แท่นบูชานี้ กลัวว่าคงมีแต่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ถึงจะสามารถสร้างออกมาได้”

 

“ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์…..”

 

อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์นี้ เมื่อเทียบกับระดับราชาเซียนแล้ว เหนือกว่ามาก พูดได้แข็งแกร่งผิดกันราวกับอยู่คนละโลก แต่ว่าพวกเขาก็ไม่เคยเห็นกันมาก่อน เพราะว่าได้หายไปจากโลกนี้แล้ว

 

บางคนบอกว่าพวกเขาพากันออกไปจากโลกนี้ เพื่อท่องไปยังโลกกว้าง บางคนก็บอกว่าระดับราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นตายไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือไหน ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของพวกเขาเท่านั้น เพราะทุกคนล้วนแต่อยากกลายเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีได้เป็นราชาศักดิ์สิทธิ์เลยสักคน

 

ราชาเซียนนั้นมีอยู่หลายคน แต่กับราชาศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิตอยู่นั้น กลับไม่อยู่ และแท่นบูชาเทียนหมิงตรงหน้านี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สร้างขึ้นได้ เพราะอย่างน้อยแล้ว เผ่าฟีนิกซ์ก็ยังไกลเกินกว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้

 

ในเผ่าพวกเขามีราชาเซียนอยู่ แต่ก็ไม่มีทางที่สร้างแท่นบูชาแบบนี้ขึ้นได้ ดังนั้นจึงตัดสินว่า แท่นบูชาเทียนหมิงนี้ ถูกสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือระดับราชาศักดิ์สิทธิ์!

 

“ใช่แล้ว ราชาศักดิ์สิทธิ์ ระดับที่มีอยู่ในตำนาน เหล่าบรรพชนของพวกเราต่างก็เล็งไปยังจุดนี้ แต่ก็ยังยากเกินกว่าที่จะทำสำเร็จ และก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะสำเร็จ” ผู้อาวุโสลั่วพูดอย่างจริงจัง “แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงปล้นทรัพยากรที่นี่ก็เพื่อที่จะเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์! แต่ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์จะทะลวงผ่านกันได้ง่ายๆ ได้ยังไง เพราะแม้แต่เผ่าฟีนิกซ์ทุกยุคทุกสมัย ก็ยังไม่มีราชาศักดิ์สิทธิ์ปรากฏเลยสักคน!”

 

“ราชาศักดิ์สิทธิ์นี่เป็นยากนักเหรอ?” ในใจอี้เทียนหยุนรู้สึกราวกับถูกคลื่นถาโถมเข้าใส่ ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นที่เขาทะลวงผ่าน จะรู้สึกยังไงบ้าง?

 

เขารู้ว่าตนนั้นสามารถเลื่อนขึ้นสู่ระดับนั้นได้แน่นอน ตราบเท่าที่มีค่าประสบการณ์มากพอ เขาก็จะทะลวงผ่านได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่นี่สิ แต่เขารู้สึกว่าหากตนทะลวงเข้าสู่ระดับราชาเซียนเมื่อไหร่ เขาก็จะกลายเป็นผู้ปกครองที่ไม่มีใครทาบติด!

 

“ใช่แล้ว ยากมากเลยล่ะ ขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายในปัจจุบันก็ยังไม่มีราชาศักดิ์สิทธิ์เลยสักคน แค่นี้ก็รู้ว่าแล้วว่ายากขนาดไหน ขนาดระดับราชาเซียนยังมีอยู่หลายคน แต่กับระดับราชาศักดิ์สิทธิ์นี้ กลับไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว เป็นเพราะว่าการทะลวงระดับนั้น มันยากเกินไปจริงๆ” ผู้อาวุโสลั่วอธิบายออกมา “ดังนั้น กับแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ พวกเราต้องลงมือด้วยความระมัดระวัง…. แล้วอีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเจ้ารู้จักแท่นบูชาเทียนหมิงดีหรอกเหรอ ทำไมถึงได้รู้น้อยกว่าพวกเราล่ะ?”

 

“ข้ารู้แค่เส้นทางคร่าวๆ เท่านั้น แต่เรื่องความเป็นมาพวกนี้ ข้าไม่รู้จัก” อี้เทียนหยุนยิ้มอย่างอายๆ แต่ก็ยังแถต่อไปได้

 

ที่จริงอย่างนี้ก็ไม่แปลก เพราะว่าแผนที่สมบัติใต้พิภพนี้ค่อนข้างซับซ้อนอย่างมาก พูดได้ว่าซับซ้อนยิ่งกว่าแผนที่มังกรขดที่เขาได้มาก่อนหลายเท่า

 

แต่โชคดีที่พวกเขาเข้าใจผิดว่าอี้เทียนหยุนจะทำการเข่นฆ่าจากด้านใน แต่ความจริงแล้ว อี้เทียนหยุนมีความคิดที่จะทำลายแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ เพราะเขาคิดว่าแท่นบูชาเทียนหมิงนี้เป็นสิ่งที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงสร้างขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าแค่ถูกพวกเขาชิงมาเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้สร้างแต่อย่างใด

 

แต่ยังไงก็ตาม ก่อนหน้านี้เขาได้บอกไว้ว่าสามารถทำลายค่ายกลได้ แต่เมื่อต้องมาเผชิญกับค่ายกลระดับผู้สร้างนี้ ก็ได้แต่กระอักกระอ่วน เพราะไม่รู้ว่าจะทำลายยังไง

 

“เอาล่ะ เจ้าเตรียมตัวเสร็จหรือยัง? พวกเราจะเข้าไปกันแล้ว ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว!” พวกเขาพากันมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยสีหน้ามั่นใจ เชื่อว่าอี้เทียนหยุนจะสามารถนำพวกเขาเข้าไปได้

 

อี้เทียนหยุนเป็นปรมาจารย์สลักอาคม คงเป็นไปไม่ได้ที่จะโกหก? พวกเขากังวลก็แค่อี้เทียนหยุนจะตกไปสู่อันตราย ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจเขา บนเขาขจี ไม่มีทางที่จะไม่กังวลไฟป่า ซึ่งนี่ก็เหมือนกัน พวกเขาไม่อยากจะให้อี้เทียนหยุนต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่

 

“ไม่มีปัญหา ให้ข้าจัดการเอง!”

 

อี้เทียนหยุนมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ผู้คุ้มกันในแท่นบูชาเทียนหมิงนี้เข้มงวดมาก ไม่มีทางไหนที่จะบุกเข้าไปได้ง่ายๆ เลย ผู้คุ้มกันระดับวิญญาณเที่ยงแท้สองสามคนที่อยู่ด้านนอกสามารถจัดการได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่มีปัญหา แต่ว่าหากไม่ระวังให้ดี ก็อาจะทำให้ถูกพบได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

 

“แท่นบูชาเทียนหมิงนี้ มีทางเข้าอยู่ด้วยกันหกเส้นทาง แต่ละเส้นทางจะมีผู้คุ้มกันระดับวิญญาณเที่ยงแท้เฝ้าอยู่ ทั้งผู้คุ้มกันที่อยู่ด้านในก็แน่นหนาเช่นกัน ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านในก็มีจำนวนมาก จากข่าวที่พวกเราได้มา ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณมีอยู่ประมาณสามคน และที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ แม่ทัพป้าหลงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ซึ่งเป็นคนที่มีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ มีพลังอยู่ที่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 5 ถือว่าร้ายกาจอย่างมาก!”

 

ผู้อาวุโสลั่วรู้ว่าอี้เทียนหยุนรู้ทาง แต่ไม่รู้ข้อมูลข้างใน ดังนั้นจึงได้อธิบายให้เขาฟังอย่างคร่าวๆ

 

“ดังนั้น พวกเราต้องหลบป้าหลงให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้น มันง่ายที่พวกเราจะถูกพบตัว เพราะว่าพวกเราไม่มีวิธีที่จะสังหารเขาโดยที่ไม่ระเบิดพลังออกมา ซึ่งนี่จะทำให้ถูกเปิดเผยตัวจริงได้ง่ายๆ!”

 

ผู้คนพากันพยักหน้า รู้คร่าวๆ ว่าอะไรเป็นอะไร

 

“นี่คือแผนที่ที่หัวหน้าเผ่ามอบให้เรา ก่อนหน้านี้ทูตศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เห็นแล้ว มีอะไรต่างออกไปหรือเปล่า?” ผู้อาวุโสลั่วส่งแผนที่ให้อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้น

 

อี้เทียนหยุนรับมาดู จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “แผนที่นี้ถูกต้อง แต่ก็มีจุดบอดเต็มไปหมด แม้จะมีเส้นทางอยู่หลายเส้นทาง แต่ก็มีอีกหลายเส้นทางที่ไม่ถูกวาดลงไป…..”

 

นี่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ แผนที่นี้ต่างกับของเขาราวฟ้ากับดิน แผนที่สมบัติโลกวิญญาณที่เขาได้มา เป็นแผนที่ที่บอกเส้นทางภายใน แต่ในขณะที่แผนที่ของเผ่าฟีนิกซ์กลับเป็นแผนที่ที่บอกเส้นทางรอบนอก

 

“แต่ไม่ว่าจะยังไง พวกเราต้องจัดการผู้คุ้มกันที่อยู่ตรงทางเข้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน พวกที่เฝ้าทางเข้ามีระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่าย…. ข้าจะเป็นคนลงมือเอง เพราะว่าข้าเป็นผู้ที่มีความสามารถซ่อนตัวที่แข็งแกร่งที่สุด จะไม่ถูกพบตัวต่อให้อยู่ในระยะ 2 จ้าง” เถ้าแก่เย่ออกหน้า วางแผนว่าจะเป็นคนลงมือเอง พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดว่า “ทูตศักดิ์สิทธิ์  เจ้าคิดว่าควรจะโจมตีเส้นทางไหน?”

 

และตอนนี้เอง พวกเขาก็พบว่าอี้เทียนหยุนได้นั่งอย่างสำรวมพร้อมกับหลับตา ราวกับไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยกัน

 

พวกเขาพากันมองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้รบกวนอะไร ที่นั่งหลับตาไม่ใช่ว่าเขากำลังคิดว่าจะเลือกทางไหน แต่ความจริงแล้วคือเขาไม่ต้องการที่จะเลือก แต่กำลังส่งสัมผัสวิญญาณออกไปสำรวจอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่จะได้ใช้เทเลพอร์ทผ่านเข้าไป!

 

หากจะพูดถึงความสมบูรณ์แบบ การใช้เทเลพอร์ทของเขานี่แหละ คือแผนการที่สมบูรณ์แบบที่สุด

 

และจากนั้นสักพัก เขาก็ทราบถึงสภาพแวดล้อมด้านในอย่างสมบูรณ์ พร้อมกับทำการระบุพิกัดเป้าหมายไว้เรียบร้อย พร้อมกับลืมตาขึ้น

 

“เรียบร้อยแล้ว ข้ารู้แล้วว่าควรจะทำยังไง” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่มั่นใจในตัวเอง

 

“ทางไหน?” ในมือเถ้าแก่เย่ปรากฏมีดสั้นขึ้น เป็นมีดสั้นระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ดูเหมือนว่าเรื่องลอบสังหารนี้ เขาจะผ่านมาไม่ใช่น้อยๆ

 

“จับข้าไว้” อี้เทียนหยุนตอบโดยไม่คิด

 

“ทาง…. หือ!?” พวกเขาพากันมองอี้เทียนหยุนด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าเขากำลังหมายความว่ายังไง

 

“แค่จับไหล่ข้าไว้ก็พอ มา!” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขาเร็วหน่อย

 

พวกเขารู้สึกสงสัย แต่ก็เลือกที่จะจับไหล่เขาไว้ และในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากถามว่าอะไรเป็นอะไรอยู่นั้น ร่างของอี้เทียนหยุนก็กระพริบวาบ พร้อมกับคนทั้งสี่ที่หายไปจากจุดนี้ในทันที ราวกับไม่เคยมีใครอยู่มาก่อน…..