ตอนที่ 1021 ต่อรองราคา

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

พอเดินออกมาจากประตู ตาอ้วนหลิวก็รู้สึกแปลกใจมาก เขาอดไม่ได้ที่จะชายตามองไปทาง
  หยางโป “ พวกเราแค่ดูกระบี่พวกนั้นเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ? ”
  “ เพราะเขาดูแลกระบี่หยกไม่ถูกวิธี คุณก็เห็นแล้ว กระบี่หยกพวกนั้นถูกเก็บและวางไว้ในที่โล่ง ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม มันก็ต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา ” หยางโปกล่าว
  ตาอ้วนหลิวพยักหน้าคล้อยตาม และพูดปลอบใจตัวเอง “ ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราเลย ! ”
  ฮัวชิงหยุนยืนอยู่ด้านข้าง เธอหันไปมองหยางโป “ เมื่อตะกี้คุณไม่ได้จับเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ? ”
  หยางโปส่ายหน้า “ ผมก็ไม่รู้ ”
  ฮัวชิงหยุนเหลือบมองหยางโป แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีลับลมคมใน มันอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับหยางโป แต่เธอก็ไม่กล้ายืนยัน ยังไงซะ เรื่องนี้มันก็แปลกเกินไป ถ้าให้เธอบอกกับคนอื่นว่าหยางโปใช้สายตาจ้องมองจนกระบี่หัก กลัวว่าทุกคนจะคิดว่าตัวเธอมีปัญหาเอาได้ !
  แต่ไม่รู้ทำไม ฮัวชิงหยุนถึงได้มีความคิดแบบนี้ มันไม่มีทางปกปิดไว้ได้เลย
  หลังจากขึ้นมาอยู่บนรถใหม่อีกครั้ง หยางโปได้เลือกนั่งที่ทางเบาะด้านนั่งด้านหลัง เขารู้สึกถึงเจตนารมณ์ของกระบี่ในจุดตันเถียนและอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเล็กน้อย เจตนารมณ์ของกระบี่ห้าหกเล่มถูกเขาดูดซับไปแล้ว เจตนารมณ์ของกระบี่เพิ่มและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก !
  ต่อจากนั้น ตาอ้วนหลิวก็ก้มหน้ามองไปที่สมุดบันทึกเล่มเล็ก และจัดสถานที่ให้ใกล้ขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเป็นร้านขายวัตถุโบราณร้านหนึ่ง
  “ เถ้าแก่หลิว ไม่ได้พบกันนานเลย คุณไม่ได้มาหาผมนานมากแล้ว ทำไม หรือว่ารวยแล้ว เลยไม่อยากมาเยี่ยมเยียนกันแล้ว ? ” เถ้าแก่วัยสี่สิบกว่า เมื่อพบกับตาอ้วนหลิว ก็เข้ามาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น
  ตาอ้วนหลิวเดินเข้าไปจับมือกับอีกฝ่าย “ คุณคิดว่าถ้าผมรวยแล้ว ผมยังจะเห็นคุณอยู่ในสายตาอยู่ไหม ? ”
  อีกฝ่ายหัวเราะดั่งลั่น “ ดี เดี๋ยวเที่ยงเราไปดื่มด้วยกันสักสองสามแก้วดีไหม ? ”
  ตาอ้วนหลิวโบกมือ “ อ้อ ยังมีคุณชายอีกคนที่ผมต้องดูแลรับใช้ คุณมีกระบี่หยกอยู่ไหม นำมาให้หมด คุณชายผู้นี้มีเงิน !! ”
  เถ้าแก่หันไปมองหยางโป แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยเลยแม้แต่น้อย “ ได้สิ จะเอามาให้ดูเดี๋ยวนี้ ! ”
  หลังจากพูดด้วยเสียงอันดัง เถ้าแก่ก็เดินกลับเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
  หยางโปหันไปมองตาอ้วนหลิว “ ร้านนี้ไม่ได้ใหญ่นะ ! ”
  ร้านนี้ดูเหมือนจะมีพื้นที่สิบกว่าตารางเมตร มีเคาน์เตอร์วางอยู่ที่หนึ่ง ทั้งสามคนจึงนั่งลง แต่รู้สึกว่าค่อนข้างที่จะเบียดเสียดกัน ดังนั้นหยางโปถึงได้เอ่ยถามออกมาแบบนี้
  ตาอ้วนหลิวพยักหน้า “ นายก็ได้ชื่อว่าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจนี้มานานแล้ว เรื่องบางเรื่อง
  คนอื่นไม่เข้าใจ นายก็ยังจะไม่เข้าใจอีกเหรอ ? ”
  หยางโปชายตามองตาอ้วนหลิว พยักหน้าให้เล็กน้อย เขาแค่นึกถึงก็เข้าใจแล้ว
  ฮัวชิงหยุนที่นั่งอยู่ด้านข้างตกตะลึง จนเธออดที่จะถามไม่ได้ “ ทำไมเหรอ ? ”
  หยางโปเลยต้องอธิบายไปว่า “ ธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุโบราณนี้ ค่อนข้างแตกต่างกับธุรกิจอื่น สิ่งใดที่เป็นของดี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนย่อมมีคนพยายามเสาะแสวงหาจนพบในที่สุด วงการของแต่ละที่ล้วนมีข้อจำกัด แค่มีของอยู่ในมือ ไปมาหาสู่กันนานๆ จะต้องสามารถดึงดูดเพื่อนร่วมธุรกิจเดียวกันมาได้ไม่น้อยแน่ ! ถึงแม้ร้านนี้จะดูไม่ใหญ่มากนัก แต่แหล่งที่มาของสินค้านั้นมีอยู่เยอะมาก บางทีร้านเล็กๆแบบนี้ อาจแค่ทำไว้เพื่อหลอกตาเท่านั้น ”
  ฮัวชิงหยุนพยักหน้า และถามอีกครั้ง “ ถ้าไม่มีหน้าร้านจะซื้อสินค้าได้ยังไง ? ”
  หยางโปชายตามองตาอ้วนหลิว จากนั้นเขาก็หันไปพิงเก้าอี้ และไม่ได้อธิบายอะไรอีก
  ตาอ้วนหลิวไม่มีทางเลือกอื่น กระซิบบอกไปว่า ” เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องดึงดูดแหล่งที่มาของสินค้าเลย ! พวกเขามีช่องทางการจัดหาของตัวเอง คนประเภทนี้ติดต่อกับสำนักศาสนาและสำนักนักคิดต่างๆ หรือแม้แต่โจรปล้นสุสานจำนวนมากพวกนั้น ! “.novel-lucky.
  ตาอ้วนหลิวเหลือบมองฮัวชิงหยุน เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของเธอ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
  ฮัวชิงหยุนสำรวจดูการตกแต่งในร้านด้วยอาการตกใจ ทุกอย่างที่นี่ดูเรียบง่ายมาก โต๊ะเก้าอี้ทั้งหมดเป็นเพียงโต๊ะเก้าอี้ธรรมดาทั่วไป แต่เธอคิดไม่ถึงว่าจะมีกลุ่มโจรปล้นสุสานแอบแฝงตัวอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ !
  ไม่นาน เถ้าแก่ก็เดินออกมา เขาหันไปส่งยิ้มให้หยางโป ” ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่ทำงานล่าช้าไปหน่อย ผมมีของดีหลายอย่างอยู่ที่นี่จริงๆ เดี๋ยวผมจะโชว์ของดีให้ดู ! ”
  ในขณะที่พูด เถ้าแก่ก็เดินตรงไปที่ประตูใหญ่ เมื่อไปถึงหน้าประตู เขาก็กดกริ่ง จากนั้นประตูม้วนก็ปิดลง ดูเหมือนว่ากำลังจะปิดร้านแล้ว
  ถ้าไม่ใช่เพราะคำอธิบายก่อนหน้านี้ของตาอ้วนหลิว เกรงว่าเวลานี้ฮัวชิงหยุนคงจะหวาดกลัวมาก แต่ถึงยังไงพอนึกถึงโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกขุดออกมาเมื่อสักครู่นี้ ฮัวชิงหยุนก็แอบรู้สึกประหม่าและตื่นเต้น
  เถ้าแก่ยิ้มและปรบมือให้ จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมา ชายหนุ่มสองคนเดินนำกล่องใบหนึ่งมาวางไว้กลางร้าน เถ้าแก่ชี้ไปที่กล่อง ” นี่แหละ ! ”
  หยางโปจ้องไปที่กล่องด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างจะแปลกใจ กล่องใบนี้ใหญ่กว่ากระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ไปเล็กน้อย เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองใช้แรงมากในการยกมา ข้างในคงมีกระบี่เต็มไปหมดแน่นอน !
  ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวไปเปิดกล่องข้างหน้า แล้วยืนอยู่ข้างๆ
  ในที่สุดหยางโป ก็เห็นของทั้งหมดภายในกล่อง นี่คือกล่องไม้ใบหนึ่งที่มีกองกระบี่วางอยู่ข้างใน หยางโปเห็นแม้กระทั่งคราบสนิมบนกล่องอีกด้วย !
  หยางโปตกตะลึง “ ทั้งหมดนี้เลย ? ”
  เถ้าแก่พยักหน้า “ คุณสามารถสำรวจดูอย่างละเอียดได้ ! ”
  ตาอ้วนหลิวจ้องมองไปด้านใน “ เหล่าเหลียง ตอนนี้ธุรกิจของคุณใหญ่มาก ทำไมยังห่อของไม่เป็นอีก ถ้าคุณเก็บกระบี่พวกนี้ทั้งหมดไว้ในกล่องผ้าไหม อย่างน้อยมันก็จะขายได้ราคามากกว่านี้นะ ? ”
  “ เถ้าแก่หลิว คุณคิดว่าผมจะขายให้ราคาต่ำๆหรือไง ? ” เถ้าแก่เหลียงถาม
  ตาอ้วนหลิวอึ้งไปครู่หนึ่ง ฝืนยิ้มให้ ” ก็ถูก แค่ความสามารถของเถ้าแก่เหลียงอย่างคุณ แม้จะไม่บรรจุหีบห่อ ราคาขายก็ไม่มีทางถูกแน่ ”
  หยางโปไม่สนใจที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน เขาเริ่มหยิบกระบี่หยกออกมาทีละเล่ม จากนั้นแสงสว่างไสวก็กระพริบผ่านตาของเขาไป ไม่นาน ก็สามารถระบุอายุของกระบี่ล้ำค่าออกมาได้ แน่นอน เขาสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์ของกระบี่ในใจที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และถึงขั้นทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มใจขึ้นมาทันที !
  หยางโปรีบถอดหายใจ ค่อยๆลดความเร็วของการเต้นของหัวใจ เขาค่อยๆทยอยหยิบกระบี่ออกมาศึกษาทีละเล่ม
  ไม่นานหยางโปก็คัดเลือกกระบี่หยกสามเล่มนี้มาจากกล่องด้านใน และวางไว้อีกด้าน กระบี่ทุกเล่มที่เขาหยิบขึ้นมา มักจะทำให้เขาใจเต้นแรง แต่เขาก็ไม่ได้กังวล ถ้าครั้งนี้กระบี่เกิดหักขึ้นมา คงยากที่อธิบายแล้ว
  หลังจากที่หยางโปคัดเลือกเสร็จ ก็เงยหน้าขึ้นมองตาอ้วนหลิว “ เอากระบี่สามเล่มนี้ ”
  ตาอ้วนหลิวตกตะลึงไปชั่วครู่ “ ให้ฉันไปต่อรองราคาให้งั้นเหรอ ? ”
  “ อืม คุณไปคุย ” หยางโปกล่าว เขาไม่มีทางเสียเวลาไปพูดคุยเรื่องนี้แน่
  ตาอ้วนหลิวทำตัวไม่ถูก “ เถ้าแก่เหลียง พวกเรามาพูดคุยกันหน่อยดีไหม ? ”
  เถ้าแก่เหลียงนิ่งอึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง “ คุณชักชวนลูกค้าให้มาซื้อของอยู่ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมคุณถึงมาต่อรองราคาให้ล่ะ ? ”
  “ คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของผม เพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย สิ่งที่เขาสั่งมา ผมไม่ฟังไม่ได้ ! ” ตาอ้วนหลิวกล่าว