ถึงแม้พวกเขาจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง และค่าตัวในการปรากฏตัวสูงลิบ แต่ท้ายที่สุดเงินที่หามาได้ก็ไม่มากพอ ต้องใช้เงินหลายสิบล้านหยวนในการซื้อบ้านในเมืองหลวง พวกเขาจะหาเงินได้มากขนาดนั้นได้อย่างไร หรือแม้จะหามาได้มากพอ แต่เงินออมก็จะหมดไปหากซื้อบ้าน แล้วพวกเขาจะยังเหลืออะไร
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะซื้อบ้านในเมืองหลวง!
จึงไม่มีใครซื้อบ้านในเมืองหลวง แต่เช่าบ้านแทน สำหรับพวกเขา การต้องเดินทางไปถ่ายทำละครและออกรายการตลอดทั้งปี ทำให้การเช่าบ้านดีกว่าซื้อบ้าน พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อบ้านในเมืองหลวงเลยด้วยซ้ำ…
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากสำหรับพวกเขา ที่จะส่งเสริมบทบาทให้เพื่อนร่วมงาน หรือเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ปรากฏตัวในรายการ พวกเขาไม่ได้สูญเสียอะไร แต่อาจได้บ้านฟรี! หรือแม้จะไม่สามารถทำให้เพื่อนร่วมงานเป็นดาราดังได้ พวกเขาก็ไม่ได้เสียอะไรเลย!
นี่เป็นสิ่งล่อใจที่สุดยอด! จะไม่ดึงดูดใจได้อย่างไร
ถังซีเห็นว่านักแสดงแถวหน้าหลายคนเอนเอียงไปกับข้อเสนอของเธอ แต่… ถังซีมองไปที่สวีฟัง หญิงสาวเลิกคิ้วใส่เธอ ถังซียังคงมองหน้าสวีฟัง แต่สวีฟังไม่สนใจและเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ ถังซีเม้มริมฝีปากและยิ้ม “อีกอย่างหนึ่ง ฉันลืมบอกพวกคุณไปว่าบริษัทของเรากำลังจะร่วมมือกับบริษัทภาพยนตร์ฮอลลีวูด ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเราจะเซ็นสัญญาภายในครึ่งปีแรกนี้ จากนั้นนักแสดงบางคนในบริษัทเราจะมีโอกาสก้าวสู่วงการฮอลลีวูด พวกคุณรู้แล้วใช่ไหมว่า บริษัทเราสามารถให้โอกาสดีๆ กับพวกคุณได้มากมาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ผู้คนก็แตกตื่น ดาราทุกคนในโลกล้วนโหยหาฮอลลีวูด! หากการได้บ้านในเมืองหลวงฟรีเป็นเพียงเหยื่อเล็กๆ น้อยๆ โอกาสที่จะได้พัฒนาไปสู่ระดับฮอลลีวูดก็เป็นสิ่งล่อใจที่ไม่มีใครอดใจได้! เรื่องนี้ดึงดูดใจยิ่งกว่าการได้บ้านในเมืองหลวงถึงสองหลังเสียอีก!
ประการแรก เอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ถึงขนาดไปร่วมมือกับบริษัทในฮอลลีวูดได้ แสดงว่าไม่ใช่เป็นบริษัทเล็กๆ แล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเขาจะไม่เพียงได้รับแค่บทบาทเล็กๆ น้อยๆ ในภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่จะได้บทบาทสำคัญ หรือแม้แต่บทนำเลยทีเดียว…
ประการที่สอง แม้พวกเขาจะไม่ได้ช่วยเหลือนักแสดงที่ยังไม่มีชื่อเสียงของบริษัท แต่บริษัทก็จะผลักดันพวกเขาให้มีชื่อเสียงกว้างไกลยิ่งขึ้น ดังที่ถังซีเพิ่งพูดไป เอ็มไพร์กรุปสามารถให้โอกาสที่ดีแก่พวกเขาได้มากมาย ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยเหลือนักแสดงรุ่นเด็กๆ ถังซีก็จะให้โอกาสที่ดีแก่พวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดก็ต้องถึงเวลาขาลง! ทำไมพวกเขาถึงจะไม่สร้างดาราใหม่ๆ ขึ้นมาด้วยมือของพวกเขาเองล่ะ หากเป็นเช่นนั้นบริษัทก็จะเห็นคุณค่าและบุญคุณของพวกเขา และในเวลาเดียวกันพวกเขาก็จะได้อยู่ในฐานะรุ่นบุกเบิก!
ถังซีรู้ว่าทุกคนเห็นด้วยเมื่อเธอเห็นท่าทางที่พวกเขาแสดงออก เธอยิ้มและมองพวกเขาแต่ละคน “คุณคิดยังไงกับข้อเสนอของฉัน คุณเต็มใจจะช่วยผลักดันนักแสดงคนอื่นๆ ไหม”
สวีฟังมองถังซี ยิ้มอย่างเย็นชา และหัวเราะเยาะขณะกล่าวเสียงต่ำ “ช่างเป็นตัวตลกที่น่าขันจริงๆ”
เมื่อได้ยินคำเสียดสีของสวีฟัง ประกายเยือกเย็นก็วาววับในดวงตาถังซี เธอหันมามองสวีฟังแล้วยิ้ม “จริงหรือ ให้ฉันแสดงให้ดูไหมล่ะ ว่าตัวตลกสามารถทำอะไรได้บ้าง”
สวีฟังกำลังจะโต้ตอบ แต่พนักงานผู้ดูแลเธอรีบดึงแขนเธอ ส่งสัญญาณไม่ให้เธอพูด แต่ถังซีไม่ยอมให้เธอหยุด ถังซีไม่มีวันลืมว่าผู้หญิงคนนี้เสแสร้งทำเป็นใสซื่ออย่างไรบ้าง หลังจากฆ่าพี่สามของเธอ! เธอมองหน้าสวีฟัง และกล่าวว่า “คุณสวี มีอะไรจะพูดหรือ”
“ไม่ค่ะ ไม่มีค่ะ ท่านประธานถัง เธอเป็นคนพูดไม่เก่ง อย่าเก็บเอามาใส่ใจเลยค่ะ” สวีฟังยังคงอยากพูดจาเหน็บแนมถังซี แต่ผู้ดูแลเธอห้ามไว้ และผู้ดูแลเธอยังคงกล่าวขอโทษถังซี “ท่านประธานถังคะ สวีฟังไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณขุ่นเคืองหรอกค่ะ ได้โปรด…”
ถังซียิ้ม ทันใดนั้นดวงตาเธอก็หรี่ลงราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “อ้อ ฉันจำได้ว่าสัญญาของเรากับคุณสวีกำลังจะหมดลงในเดือนหน้านี้ใช่ไหม คุณกำลังมองหาเจ้านายคนใหม่อยู่เหรอ มิน่าล่ะคุณถึงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะคุยกับฉัน อย่างนั้นใช่ไหมคะ”
ใบหน้าสวีฟังเข้มขึ้นทันที เธอขมวดคิ้วนิ่วหน้าใส่ถังซี “ถังซี คุณหมายความว่ายังไง”
ผู้ดูแลเธอพยายามห้ามเธออีกครั้ง ถังซีคำรามเบาๆ อย่างเยาะหยัน จ้องหน้าสวีฟังที่กำลังเดือดดาล และถามอย่างเยือกเย็น “แล้วเธอคิดว่าฉันหมายความว่ายังไงล่ะ”
พนักงานคนอื่นๆ ต่างประหลาดใจที่เห็นถังซีพูดกับสวีฟังอย่างรุนแรง ฝ่ายบริหารแอบตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสวีฟัง พวกเขาให้โอกาสดีๆ แก่เธอ เพียงเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับถังเหา ตอนนี้ถังเหาถูกไล่ออกไปแล้ว และเธอก็สร้างความระคายเคืองให้เจ้านาย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจให้โอกาสเธอได้อีกในอนาคต แม้เธอจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียงก็ตาม…
ถังซีมองหน้าสวีฟังแล้วยิ้ม “เธอคิดว่าฉันหมายความว่ายังไง เธออยากออกจากเอ็มไพร์กรุปใช่ไหม ฉันจะบอกเธอให้นะว่าเป็นไปไม่ได้! เธอรู้ไหมว่าเพราะอะไร”
สวีฟังหลิ่วตามองถังซี ถังซีกล่าวอย่างเยือกเย็น “เพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการ! ถ้าเธอกล้าออกจากเอ็มไพร์กรุปฉันจะทำลายเส้นทางทำมาหากินของเธอ! เธอควรหยุดคิดสักวินาทีจะดีกว่านะ ก่อนจะตัดสินใจ!”
“ถังซี!” สวีฟังผุดลุกขึ้นยืนและจ้องหน้าถังซีเขม็ง ถังซีกอดอกมองสวีฟัง และคำรามเยาะหยัน “ฉันไม่ได้หูหนวก เธอไม่ต้องพูดเสียงดัง และอย่ามามองฉันแบบนี้ นี่คือผลกรรมที่ตามสนองเธอไงล่ะ!”
ทันใดนั้นสวีฟังก็ร้องไห้ออกมา และมองถังซีด้วยท่าทางน่าสงสาร “ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้”
ถังซียิ้ม หันหลังให้เธอ จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง และมองไปยังบรรดาผู้ที่นั่งอยู่ด้านล่าง “เอาละค่ะ ฝ่ายวางแผน ช่วยจัดทำตารางงานของแต่ละคนอย่างละเอียดให้ฉันโดยเร็วที่สุด และพวกคุณที่เหลือ ทำให้ฉันเห็นศักยภาพของพวกคุณ พวกเรามาช่วยกันทำให้บริษัทของเรา เป็นดวงดาราที่เปล่งประกายเจิดจ้าที่สุดในวงการบันเทิงกันนะคะ!”
หลังจากการประชุมหยางเล่อก็เดินตามถังซีออกไป และกำลังจะถามเธอว่าจะจัดการอย่างไรกับสวีฟัง เมื่อสวีฟังรีบลุกพรวดพราดมายืนขวางทางถังซี ถังซีขมวดคิ้ว มองหน้าเธอ เธอแสดงท่าไร้เดียงสาถามเสียงแผ่วต่ำ “ท่านประธานถัง ฉันทำอะไรผิด ทำไมคุณถึงตั้งหน้าตั้งตาทำลายฉันอย่างนี้”
สวีฟังไม่เชื่อว่าถังซีจะกล้าพูดเรื่องนั้นที่นี่! ใช่ ถังซีร่ำรวย แล้วไงล่ะ ความคิดเห็นของมหาชนสามารถทำลายใครก็ได้! ถังซีคิดว่าจะทำให้เธอหายไปจากวงการบันเทิงได้ เพียงเพราะตนเองเป็นประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์งั้นเหรอ ไม่มีทาง!
“เธอไม่รู้หรือว่าเธอทำอะไรผิด” ถังซีหัวเราะเยาะ และกล่าวออกมาดังๆ “ถังชิงอวี่ตายเพราะเธอ! ชายหนุ่มที่แสนดีคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะเธอ! เธอคิดยังไงเหรอ ที่มาถามฉันว่าทำไมฉันถึงทำกับเธอแบบนี้” ถังซีกอดอก จ้องหน้าสวีฟังขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฉันต่างหากที่ควรถามคำถามนี้กับเธอ!”