ตอนที่ 492 นิกายพยัคฆ์มังกร (1)
ในตอนที่ที่ปรึกษาจักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงไล่ตามเซียนสวรรค์คนอื่น ๆ ไป พวกเขาก็ไปไกลจนหายไปจากสายตา แต่เสียงของการต่อสู้ก็ได้ยินดังมาแต่ไกล พลังงานทุกธาตุระเบิดใส่กันมาแต่ไกล และลำแสงหลากสีก็ระเบิดออกมา
เจี้ยนเฉินไม่สนใจการต่อสู้ที่เกิดขึ้นแต่ไกลเลยแม้แต่น้อย เขาไม่แม้แต่เหลือบไปมองพวกเขาเลย เขาเชื่อมั่นเต็มที่กับที่ปรึกษาจักรพรรดิ แม้จะมีเซียนสวรรค์ถึง 11 คน อาณาจักรอินทรีสวรรค์ก็ไม่มีโอกาส
“แม่ทัพฉินหวู่หมิง เข้าไปในที่มั่น” เจี้ยนเฉินสั่งการ
“ขอรับ ! ” แม่ทัพตอบรับก่อนที่จะไปที่ที่มั่นเพื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้เหมาะสม ในตอนนี้กองกำลังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ยอมแพ้แล้ว ทั่วทั้งที่มั่นถูกยึดโดยกองทัพเทพดาบตะวันออก
หลังจากที่เสียงโห่ร้องของสงครามจบลง ทหาร 500,000 คนของอาณาจักรเกอซุนก็เริ่มเคลื่อนย้ายไปยังที่มั่นในที่สุด
ในการต่อสู้นี้ กองทัพเทพดาบตะวันออกได้สูญเสียทหารไป 96 คน ในขณะที่ทหาร 20,000 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและอีก 3,000 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้างศัตรูนั้น ทหารมากกว่าแสนคนได้ตายไปพร้อมทั้งอีก 300,000 คนได้ถูกจับกุมเอาไว้ สรุปแล้ว นี่เป็นชัยชนะที่สวยงามของอาณาจักรฉินหวงทีเดียว
มีเพียงกองกำลังยิ่งใหญ่ทั้งแปดและจักรวรรดิใหญ่ทั้งสามที่จะมีสามารถที่จะมีกองกำลังที่ประสบความสำเร็จแบบนี้ได้
หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก ที่ปรึกษาจักรพรรดิก็กลับมาในที่สุด เซียวเทียนพูดกับเจี้ยนเฉินว่า “พวกเราฆ่าพวกนั้นไป 2 คน ในขณะที่อีก 8 คนนั้นหนีไปพร้อมได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“โอ้ ! ” เจี้ยนเฉินพยักหน้า “อาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นมีเซียนสวรรค์ 15 คน หลังจากที่พวกเขาถูกฆ่าไป 4 คนในอาณาจักรเกอซุน พวกเขาก็เหลือ 11 คน ในตอนนี้ พวกนั้นก็ตายเพิ่มอีก 2 คน นั่นหมายความว่าพวกนั้นเหลือเซียนสวรรค์เพียงแค่ 9 คนเท่านั้น”
“และในตอนนี้อาณาจักรอินทรีสวรรค์ไม่ได้เป็นอันตรายกับพวกเราแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีทหารธรรมดามากกว่า แต่ถ้าพวกเขาเข้าต่อสู้ ทหารจำนวนมากขนาดนั้นก็ต้องตายอยู่ดีในตอนท้าย”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย “ถูกต้อง ทหารของพวกเรานั้นมีความสามารถสูงกว่า เมื่อเวลามาถึง ข้าจะเคลื่อนไหวถ้าจำเป็นเพื่อลดการสูญเสียของกองทัพเทพดาบตะวันออก เจ้าทั้งหมดควรจะพักผ่อนในตอนนี้ พวกเราจะสู้กันต่อในวันพรุ่งนี้”
เมื่อสิ้นสุดวันแรก และวันที่สองเริ่มขึ้น กลุ่มทั้งหมดก็เดินทัพไปที่อาณาจักรอินทรีสวรรค์ต่อ
ในวันเดียวกัน อาณาจักรอินทรีสวรรค์ก็เริ่มเคลื่อนที่ทหารทั้งหมดจากที่มั่นอื่นทั้งสามเพื่อย้ายยุทโธปกรณ์รบไปที่เมืองหลวง ทหารทั้งหมดรวบรวมจอมยุทธหลายคนภายในราชวังเพื่อที่จะให้เป็นแนวป้องกันสุดท้ายและเข้าร่วมในสงครามที่จะบอกว่าอาณาจักรอินทรีสวรรค์จะรอดหรือไม่
อาณาจักรอินทรีสรรค์และหนึ่งในแปดกองกำลังใหญ่ต่อสู้กัน ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโดยรอบ อาณาจักรใกล้ ๆ ทั้งหมดสนใจในเรื่องนี้มากและหลายคนก็รวบรวมข้อมูลภายในอาณาจักรอินทรีสวรรค์เพื่อหาว่าอะไรทำให้เกิดสงครามครั้งนี้
หลังจากที่ข้อมูลรั่วไหลออกไป ชื่อของอาณาจักรเกอซุนก็โด่งดังขึ้นมาทันที สถานะของพวกเขาถูกยกขึ้นไปด้วยอัตราที่สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ จากที่เป็นอาณาจักรที่เกือบไม่มีใครเคยได้ยิน พวกเขาก็กลายเป็นตัวตนที่ทุกฝ่ายไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
การที่อาณาจักรฉินหวงโจมตีอาณาจักรอินทรีสวรรค์ ในตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าอาณาจักรเกอซุนกับอาณาจักรฉินหวงนั้นสนิทกันมาก
กองกำลังของอาณาจักรฉินหวงและอาณาจักรเกอซุนเดินทางไปเป็นเวลา 3 วันเต็มก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา – เมืองหลวงของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ ในที่สุด
เมืองหลวงของอาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นมีขนาดใหญ่โตมาก ความสามารถในการป้องกันนั้นเหนือกว่าฐานที่มั่นมาก กำแพงเมืองของมันนั้นสูงกว่าร้อยเมตร มีแผ่นเหล็กกล้าชุบหนา 1 ฟุตล้อมรอบเมืองอยู่เหมือนเป็นชุดเกราะหนัก ไม่เพียงแต่แผ่นเหล็กกล้าชุบนี้จะหนักมาก แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าแผ่นเหล็กกล้าธรรมดามาก
ในตอนนี้ ทหารทั้งหมดของอาณาจักรอินทรีสวรรค์รวมตัวกันอยู่ในเมืองและเตรียมที่จะสู้ตายกับอาณาจักรฉินหวง มันไม่ง่ายที่จะบรรจุทหารทั้งหมดได้เพราะว่าพระราชวังนั้นไม่ใหญ่เหมือนฐานที่มั่น แค่นอกกำแพงเมืองก็มีทหารเกือบ 2 ล้านคนที่อัดกันแน่นเหมือนมด คนนั้นมีมากมายจนสุดลูกหูลูกตา ถ้ามองไปข้างหน้าก็จะเห็นแต่หัว ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรและหน้าไม้ตั้งตั้งนิ่งเป็นแถวอยู่บนพื้นและเล็งไปที่พื้นที่ด้านหน้า ทหารอีกส่วนหนึ่งอยู่บนกำแพงเมืองและประจำอยู่ที่ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรและหน้าไม้ แม้ว่าจะมีคนหลายแสนคนบนกำแพง แต่ก็ไม่มีเสียงใดใดเลย ทุกอย่างเงียบสงัด ในขณะที่ทุกคนมองไปข้างหน้าด้วยความสงบแบบแปลก ๆ แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกได้ถึงความกดดัน
ที่ด้านหน้าอาณาจักรอินทรีสวรรค์ มีทหารเกราะเงินหลายแถวของกองทัพเทพดาบตะวันออกที่อยู่บนหลังของสัตว์อสูรอยู่อย่างเป็นระเบียบ ทั้งกองทัพมีจิตวิญญาณต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่บวกกับพลังแห่งการมีอยู่ของสัตว์อสูรของพวกเขา
ที่ด้านหน้าสุดของกอง เจี้ยนเฉินและสมาชิกคนอื่น ๆ ทั้งสิบสามคนของอาณาจักรฉินหวงนำกองทหารอยู่ พระราชาของอาณาจักรเกอซุน องค์หญิงโหยวเยว่ เจียงหยางป้า หมิงตง ตู่กูเฟิง คาเฟอร์ เย่หมิง ศิษย์พี่อัน และหยุนเจิ้งยืนอยู่ด้านหลังเพื่อที่จะป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ การต่อสู้นี้คงจะตึงเครียดมากกว่าที่เกิดขึ้นที่ฐานที่มั่นอย่างไม่ต้องสงสัย นี่เป็นการต่อสู้ที่จะตัดสินการคงอยู่ของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ เพื่อการนั้น อาณาจักรอินทรีสวรรค์จะต้องมาป้องกันเมืองของพวกเขาแน่ และเพื่อสวัสดิภาพของทุกคน เจี้ยนเฉินให้สหายสนิทและครอบครัวของเขาหลบอยู่ด้านหลัง
กองกำลังทหารของอาณาจักรอินทรีสวรรค์และอาณาจักรฉินหวงยืนอยู่นิ่งและประจำตำแหน่งอยู่ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือรอให้แม่ทัพของพวกเขาออกคำสั่งในการเริ่มรบ
1 ชั่วยามผ่านไป ทั้งสองฝั่งยืนอยู่นิ่งก่อนที่เจี้ยนเฉินจะหันไปที่ฉินหวู่หมิง “สั่งให้โจมตีได้ ! ” อาณาจักรอินทรีสวรรค์ยืนกรานที่จะสู้ตาย ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่อยากเสียเวลาที่จะโน้มน้าวให้พวกนั้นยอมแพ้
ฉินหวู่หมิงพยักหน้าและโบกมือสั่ง “โจมตี ! “
หลังจากที่สั่งไป เสียงอาวุธหลายชิ้นก็ดังขึ้นมาด้านหลังกองทัพเทพดาบตะวันออก พลังงานทรงกลมที่ไม่เสถียรหลายลูกลอยไปข้างหน้าของกองทัพเทพดาบตะวันออกก่อนที่พวกมันจะตกลงไปที่บริเวณที่ทหารของอาณาจักรอินทรีสวรรค์อยู่กันอย่างหนาแน่น
ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรครึ่งหนึ่งนั้นถูกยึดมาได้จากฐานที่มั่นของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ ในขณะที่ครึ่งหนึ่งเป็นของกองทัพเทพดาบตะวันออกเอง ชิ้นส่วนถูกแยกไว้อยู่ในแหวนมิติและจะถูกเอามาประกอบเมื่อจำเป็นต้องใช้ ในขณะที่ชนชั้นนำของอาณาจักรฉินหวงส่วนใหญ่นั้น พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่พวกเขานั้นมียุทโธปกรณ์รบหลายอย่างเตรียมเอาไว้เมื่อสถานการณ์ที่จำเป็น
ก่อนหน้านี้ในตอนที่พวกเขาต่อสู้กับฐานที่มั่นทิศเหนือของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้ปืนใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เอามันออกมาใช้ เมืองหลวงนั้นมีทหารมากมายกว่าที่ฐานที่มั่นมาก นอกเหนือไปจากนั้น เมืองหลวงยังมีกำแพงเหล็กหล้าแกร่งหนา 1 ฟุตปกป้องมันอยู่ด้วย ดังนั้น สัตว์อสูรของกองทัพเทพดาบตะวันออกจึงยากที่จะบุกเข้าไปได้ ไม่มีทางที่พวกมันจะปีนกำแพงเข้าไปได้เร็วนัก เมื่อต้องเจอกับปัญหาแบบนี้ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูร
บู้ม บู้ม บู้ม บู้ม…
เสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง ลูกบอลไฟปะทะไปที่ด้านหลังของกองกำลังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ หลุมหลายหลุมเกิดขึ้นบนพื้น ทหารทั้งหมดที่อยู่ใกล้ ๆ ตายเนื่องจากแรงระเบิด แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียว กองกำลังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ก็สูญเสียไปอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน แม่ทัพของกองกำลังอาณาจักรอินทรสวรรค์ได้ส่งคำสั่งออกไปให้โจมตีเช่นกัน ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรที่ตั้งอยู่บนกำแพงของเมืองได้ยิงออกไปที่ทิศทางของกองกำลังของอาณาจักรฉินหวง พวกลูกปืนใหญ่ส่งเสียงหวีดหวิวผ่านอากาศเสียดหูไปทางกองทัพเทพดาบตะวันออก
เจี้ยนเฉินและอีกทั้งสิบสามคนพุ่งขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะกระจายออกไป แต่ละคนยกฝ่ามือขึ้นและพลังงานก็พุ่งพวยที่มาจากธรรมชาติก็พุ่งออกมาจากพวกเขา ซึ่งทำให้ความเร็วของกระสุนที่พุ่งมาที่พวกเขาลดลง ในท้ายที่สุด บอลพลังงานหลายลูกก็พุ่งไปได้ไม่ไกลเกิน 500 เมตรก่อนที่พวกมันจะสูญเสียแรงและตกลงที่พื้นด้านล่าง บังเอิญที่กองทหารของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ส่วนหนึ่งนั้นก็อยู่ด้านล่างบอลพลังงานพวกนั้นพอดี ไม่เพียงแต่อาณาจักรอินทรีสวรรค์จะทำให้กองทัพเทพดาบตะวันออกบาดเจ็บไม่ได้เท่านั้น พวกเขายังฆ่าทหารของตัวเองแทนไปอีก
“บัดซบ ! เจ้าทำเกินไปแล้วที่กล้ามายุ่งเกี่ยวกับการสู้รบของพวกทหาร ! ” เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังมาจากกำแพงของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ เซียนสวรรค์ 19 คนบินออกมาจากกำแพงเพื่อมาเผชิญหน้าอีก 14 คน
เมื่อเห็นว่าอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีเซียนสวรรค์ถึง 19 คน เจี้ยนเฉินถึงกับตกตะลึง ตามที่เขาคำนวณเอาไว้ อาณาจักรอินทรีสวรรค์น่าจะมีเซียนสวรรค์เหลือเพียง 9 คนเท่านั้น สำหรับการที่มีเซียนสวรรค์เพิ่มมาอีก 10 คนนั้น เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายอย่างมาก
“ถ้างั้นอาณาจักรอินทรีสวรรค์ก็มีคนนอกคอยช่วยเหลืออยู่ ข้าสงสัยว่าใครกันที่ยังพยายามที่จะยึดถืออาณาจักรฉินหวงเป็นศัตรูอีก ? ” สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชาในขณะที่เขายิ้มให้คนทั้งสิบที่มาใหม่
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งในชุดเกราะประสานมือก่อนที่จะพูดออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน “พวกเรามาจากนิกายพยัคฆ์มังกร วันนี้ อาณาจักรอินทรีสวรรค์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิกายเรา พวกเราหวังว่าอาณาจักรฉินหวงจะปล่อยอาณาจักรอินทรีสวรรค์ไป”