เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 502
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

ตระกูลเฉินส่งคนมาฆ่าเขาถึงตงไห่

เขาปล่อยตระกูลเฉินต่อไปไม่ได้อีกแล้ว!

ในอนาคตไปที่จงโจว

สิ่งที่เขาจะทำลายเป็นอย่างแรกคือตระกูลเฉิน!

พูดจบ

หยางเฟิงก็ไม่แยแสเฉินเป่ยเหออีก

แล้วหันไปมองที่หลันจื่อแทน…

เมื่อเห็นสายตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็งของหยางเฟิง

ใบหน้าของหลันจื่อก็เผยความหวาดกลัวอ่างลึกล้ำ

เธอไม่คิดเลย

เป็นถึงท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลเฉิน

ผู้แข็งแกร่งแห่งแดนปรมาจารย์

จะมาตายอยู่ในเงื้อมมือของหยางเฟิง!

หยางเฟิงคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ

ทำไมเขาแข็งแกร่งได้ขนาดนั้น?

หลันจื่อยังจำได้

เมื่อห้าปีก่อน

หยางเฟิงเป็นแค่เพียงลูกเขยแต่งเข้าคนหนึ่งของตระกูลเย่

ถ่อมตน ต่ำต้อย ไร้ความสามารถเป็นที่สุด!

ในตอนนั้น เธอสามารถเยาะเย้ยหยางเฟิงได้มากเท่าที่เธอต้องการ

ตอนนี้ผ่านไปแล้วห้าปี

หยางเฟิงแข็งแกร่งมาก ถึงขนาดที่ทำให้จิตวิญญาณของเธอสั่นสะท้าน

ความแตกต่างของสองสิ่งนี้

ห่างไกลกันราวฟ้ากับเหว!

หยางเฟิงไม่สนใจความคิดในใจของหลันจื่อ

เขาเดินเข้าไปหาหลันจื่อทีละก้าว ทีละก้าว

ตึก!

ตึก!

ตึก!

ทุกก้าวที่เดิน ราวกับเหยียบไปพร้อมกับจังหวะหัวใจของหลันจื่อ

ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง

เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างอย่างแรง

“อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามานะ!”

“แกออกไป ไสหัวไป๊ป!”

หลันจื่อตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ในตอนนี้

เธอรู้สึกว่าตนเองใกล้บ้าเต็มทนแล้ว

เงามืดแห่งความตายปกคลุมอยู่บนหัวของเธอ

ราวกับว่าในวินาทีถัดไป เธอจะต้องตาย!

เมื่อเห็นท่าทางราวคนบ้าคลั่งของหลันจื่อ

ใบหน้าของหยางเฟิงไม่ยินดียินร้าย ไม่มีความผันผวนทางอารมณ์ใดๆ

หลันจื่อผู้หญิงชั่วร้ายคนนี้

ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

ตึก!

ตึก!

ตึก!

……

เสียงฝีเท้าดังขึ้นไม่หยุด

ราวกับโน้ตเพลงของเทพมรณะ เต้นเป็นจังหวะไม่หยุด

ทุกๆย่างก้าว ความตายก็เข้าใกล้หลันจื่อขึ้นมาทีละก้าว

“อ๊ากก!”

ในที่สุดหลันจื่อก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันทางจิตใจอย่างมหาศาลได้

เธอส่งเสียงตะโกนลั่น

หยิบปืนพกที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมา เล็งไปที่หยางเฟิง และตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

“หยางเฟิง แกมันไอ้สารเลว! อย่าเข้ามานะ! ถ้าเข้ามา ฉันจะยิงแกให้ตายจริงๆด้วย!”

เมื่อเห็นปืนในมือของหลันจื่อ

ใบหน้าของหยางเฟิงยังคงนิ่งเฉยไร้อารมณ์

ตึกตึกตึก!

สามเมตร!

สองเมตร!

หนึ่งเมตร!

หยางเฟิงเข้าใกล้หลันจื่อมากขึ้นเรื่อยๆ

รังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัว พุ่งเข้าหาหลันจื่อราวกับว่าเป็นของจริง

ราวกับมือที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งคว้าคอของหลันจื่อเอาไว้

ใบหน้าของเธอแดงขึ้น

ราวกับว่าตนเองจะขาดอากาศหายใจตายเมื่อใดก็ได้!

“โอ๊ยๆๆ!”

“ไปตาย! ไปตายซะ!!!”

ปัง!

ปัง!

ปัง!

หลันจื่อร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ใช้มือลั่นไกปืนไม่หยุด

กระสุนแต่ละลูกคำรามพุ่งเข้าหาหยางเฟิง

ด้วยเปลวไฟแห่งความตาย

ราวกับว่าต้องการทำให้ร่างของหยางเฟิงแหลกเป็นจุล

“ท่านแม่ทัพ!”

เห็นดังนั้น

สีหน้าของหม่าตงตะโกนลั่นอย่างกระวนกระวาน

ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพละกำลังของหยางเฟิงแข็งแกร่ง

ฆ่าสิบปรมาจารย์ใหญ่ตายได้ในดาบเดียว

แต่อย่างไรเสียในมือของหลันจื่อคือปืน!

ในยุคนี้ ถูกเรียกว่าเป็นราชาของอาวุธทั้งหลาย!

ต่อให้วิทยายุทธ์ของคุณจะสุดยอดแค่ไหน

ลูกปืนผ่านไปลูกเดียวก็ถึงกับต้องเบิกงบเลย!

แต่ภาพเหตุการณ์ถัดมา

ทำให้หม่าตงตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง

หยางเฟิงหายไปจากจุดเดิม

ร่างกายเขากลายเป็นร่างเคลื่อนไหวเร็วนับไม่ถ้วน

ราวกับซุปเปอร์แมนที่ทำได้ทุกอย่าง เหมือนในภาพยนตร์!

กระสุนนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านข้างกายของเขาไป

แต่ร่างกายของหยางเฟิงกลับไม่มีการบาดเจ็บแม้แต่น้อย!

เห็นดังนั้น

หม่าตงอ้าปากค้างเนิ่นนานและไม่รู้จะปิดลงอย่างไร

ไม่ใช่แค่หม่าตง

หนิวต้าลี่และพวกก็เบิกตากว้าง

พระเจ้า!

นี่เขายังเป็นคนอยู่ไหม?

แม้แต่กระสุนปืนยังหลบได้

นี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!

“นี่มัน…”

หลันจื่อก็ทึ่งไปเช่นกัน

เธอไม่คิดเลยว่า

ปืนในมือตน สำหรับหยางเฟิงแล้วเป็นแค่พลุไฟแท่งหนึ่งเท่านั้น