เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 501
แม้แต่เขา ก็ยังทำไม่ได้ขนาดนี้
แท้จริงแล้วนี่คือคน?
หรือปีศาจ?
ทันใดนั้น
เฉินเป่ยเหอก็รู้สึกเสียใจที่มาตงไห่
ถ้ารู้อย่างนี้ก็จะอยู่เฉยๆที่จงโจวไม่ออกมาหรอก
ไม่อย่างนั้น คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
แต่ตอนนี้ พูดอะไรมันก็สายเกินไปแล้วล่ะ
เฉินเป่ยเหอสูดหายใจเข้าลึก มองไปที่หยางเฟิงแล้วกล่าวว่า : “หยางเฟิง อย่าคิดนะว่าแกฆ่าปรมาจารย์ใหญ่ของตระกูลเฉินไปแล้ว แกจะไร้ศัตรูในใต้หล้า วันนี้ฉันจะทำให้แกได้สัมผัสความเก่งกาจของฉัน! จะทำให้แกได้รู้ ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าปรมาจารย์ใหญ่!”
จากนั้น
เช้งง!
เสียงดังชัดเจน
เฉินเป่ยเหอชักดาบออกมาจากข้างเอว
“ย้ากก!”
เสียงคำรามลั่น
ไม่มีคำพูดไร้สาระใดๆ
เฉินเป่ยเหอตรงเข้าไปหาหยางเฟิง
เมื่อเห็นเฉินเป่ยเหอจะเข้ามาฆ่า
มุมปากของหยางเฟิงก็เหยียดยกขึ้นอย่างไร้คำบรรยาย
ฟี้วว!
เงาร่างโฉบผ่านไปอย่างไว
หยางเฟิงที่ถือกระบี่หลงเฉวียนไว้ในมือหายตัวไปจากจุดเดิมแล้ว
ชั่วครู่เดียว
แสงดาบสองเล่ม พุ่งเคลื่อนที่ผ่านกันกลางอากาศ
ในตอนนี้
ทุกคนกลั้นหายใจและจดจ่อ มองดูการต่อสู้ระหว่างหยางเฟิงและเฉินเป่ยเหออย่างตื่นเต้น
ทุกๆคนล้วนอยากเห็นว่า
ในท้ายที่สุดธงชัยจะตกอยู่ในมือใคร!
คนที่ตื่นเต้นที่สุดในนี้ก็คือหลันจื่อ
หลันจื่อเบิกตากว้าง มองไปที่กลางอากาศ
เธอไม่กล้ากะพริบตาแม้แต่นิดเดียว
เพราะหากเฉินเป่ยเหอพ่ายแพ้
นั่นก็หมายความว่าเธอต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ส่วนคนที่ไม่ตื่นเต้นมากที่สุดก็คือเสือขาว
พละกำลังของท่านแม่ทัพของตนเป็นอย่างไร
เขารู้ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว
คนไร้ค่าอย่างเฉินเป่ยเหอจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของท่านแม่ทัพได้อย่างไร?
ปั้งง!
ในที่สุด แสงดาบทั้งสองก็ปะทะกันกลางอากาศ
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นจนพื้นแผ่นดินสั่นสะเทือน
ระเบิดผ่านไป
หยางเฟิงและเฉินเป่ยเหอลงถึงพื้นพร้อมกัน
เลือดสดหนึ่งหยด ไหลลงมาจากกระบี่ของหยางเฟิง
“สังหารทหารนับล้านในเจียงหนาน ดาบที่เอวยังคงคาวเลือด” ช่างเป็นประโยคที่มีเสน่ห์!
เฉินเป่ยเหอยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ท่าทางมึนงง
เงียบเชียบอยู่ครู่หนึ่ง
เฉินเป่ยเหอค่อยๆเอ่ยปาก : “หยางเฟิง…”
อั่ก!
เพิ่งพูดได้สองคำ
เลือดสดก็ถูกพ่นออกมาจากปากของเขา
เคร้ง!
เสียงดังชัดเจน
หยางเฟิงรับกระบี่ไว้ในมือ กล่าวเสียงเรียบนิ่ง
“ที่จริงแกควรตายไปแล้ว ตั้งแต่ที่จินหลิง!”
“ฉันแค่ให้แกได้ใช้ชีวิตอีกสักพัก นับว่าเป็นประโยชน์กับแกแล้ว!”
ตอนนั้น ที่จินหลิง
เฉินเป่ยเหอมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ ช่วยตัวเฉินป้าเซียนออกไป
เรียกได้ว่าหยิ่งผยอง
ต่อหยางเฟิงที่สูงส่งยิ่งนัก
เขาไม่เคยคิดเลย
ว่าวันหนึ่ง จะตายอยู่ภายใต้ดาบของหยางเฟิง
“กระบี่หลงเฉวียน เทพมรณะ โลกแห่งความตาย กิโยติน…”
ทันใดนั้น
เฉินเป่ยเหอนึกถึงวลีหนึ่งขึ้นมา
นี่เป็นวลีที่แพร่หลายที่สุดในจงโจว
คนที่พูดวลีนี้
ก็คือเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ย แม่ทัพเทพมรณะ!
ว่ากันว่า
กระบี่หลงเฉวียนคือกระบี่ของแม่ทัพเทพมรณะ
ใครได้เห็นกระบี่หลงเฉวียน ก็เท่ากับว่าเดินเข้าไปในโลกแห่งความตาย เครื่องกิโยตินแล้ว
ในขณะที่ประมือกับหยางเฟิง
ฉับพลันเฉินเป่ยเหอก็พบว่า
หยางเฟิงคือเทพมรณะ!
“แกคือเทพมรณะ!”
ปึ้งง!
พูดจบประโยคสุดท้าย
เสียงหนึ่งดังขึ้น
เฉินเป่ยเหอล้มลงไปกับพื้นทั้งตัว ไม่มีแล้วชีวิต
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
ถ้ามองให้ดีๆ ก็จะเห็นได้ว่าในนัยน์ตาของเขา มีความเสียใจที่ไม่รู้จบ
ถ้ารู้แต่แรกว่าหยางเฟิงคือแม่ทัพเทพมรณะ
แม้ว่าเขาจะได้รับความกล้าหาญสิบประการก็ไม่กล้าที่จะต่อกรกับหยางเฟิง
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เฉินเป่ยเหอเสียใจภายหลังมากที่สุดคือ
ผู้นำตระกูลของตน เฉินเป่ยเสวียนไม่รู้ว่าหยางเฟิงคือแม่ทัพเทพมรณะ
มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะส่งข่าวไป
ทำให้แม่ทัพเทพมรณะไม่พอใจ
ตระกูลเฉินต้องถูกทำลายแน่!
หยางเฟิงหันไปเหลือบมองศพของเฉินเป่ยเหอ แล้วพูดอย่างเฉยเมย : “แกรู้ช้าไปแล้วล่ะ!”