ตอนที่ 668 ทำร้ายต่อ

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 668 ทำร้ายต่อ

เมื่ออันหลิงเกอนึกถึงบาดแผลของเฝิงเยว่เอ๋อแล้ว คนที่เลือกเวลาได้ดีเช่นนี้จักเป็นคนเสียสติไปได้เยี่ยงไร อันหลิงเกอจึงยิ้มออกมาและยืนอยู่ที่เดิมมิไปไหนพร้อมจ้องเฝิงเยว่เอ๋อนิ่ง ๆ อยากรู้เหมือนกันว่าเฝิงเยว่เอ๋อต้องการทำอันใดกันแน่

“นาง นางเป็นใครเจ้าคะ ? ” น้ำเสียงของเฝิงเยว่เอ๋อเบาหวิวแต่ทำให้อันหลิงเกอและมู่จวินฮานที่ได้ยินถึงกับชะงักไป

นางความจำเสื่อมหรือ ? แค่กรีดคอจนเลือดไหลทำให้ความจำเสื่อมได้อย่างไร ?

อันหลิงเกอมองอย่างมิอยากจะเชื่อ แต่เฝิงเยว่เอ๋อกลับมีท่าทีหวาดกลัวนางอย่างมากและพยายามซุกตัวเข้าในอ้อมกอดของมู่จวินฮาน แววตาของมู่จวินฮานที่มองไปยังอันหลิงเกอจึงแฝงไว้ด้วยการตำหนิ

“เกอเอ๋อ” มู่จวินฮานเอ่ยห้ามอันหลิงเกอที่กำลังเดินเข้ามาเพราะเขารู้สึกได้ว่าทุกย่างก้าวของอันหลิงเกอทำให้เฝิงเยว่เอ๋อยิ่งกอดแน่นขึ้น เขารับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงของนางแล้วจะเป็นการเสแสร้งได้เยี่ยงไร

“ข้าหรือ ? ” แววตาของอันหลิงเกอแฝงไว้ด้วยความผิดหวัง นางเหลือบมองเฝิงเยว่เอ๋อปราดหนึ่งและหันไปมองมู่จวินฮานอีกครั้ง เวลานี้นางอยากเปิดโปงเฝิงเยว่เอ๋อให้รู้แล้วรู้รอด เพราะมิอาจทนเห็นอีกฝ่ายใช้วิธีนี้มาเอาชนะนางได้อีก

“เกอเอ๋อกลับไปก่อนเถิด” มู่จวินฮานเอ่ยกับอันหลิงเกอเบา ๆ

เขามิอาจไม่สนใจเฝิงเยว่เอ๋อได้ แม้เฝิงเยว่เอ๋อทำเรื่องที่ผิดไว้มากแต่ความรักที่มีให้นี้ เขาก็มิอาจมองข้ามนางได้

มู่จวินฮานยังจำได้ว่าเฝิงเยว่เอ๋อยอมเสียสละดวงตาเพื่อช่วยเขาเอาไว้

ทั้งหมดนี้เขามิอาจทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวเช่นนั้น

อันหลิงเกอเห็นเขาแสดงออกเช่นนั้นสีหน้าที่ดูผิดหวังก็ยิ่งชัดเจนขึ้น จากนั้นนางจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปทันที มิหันมามองทั้งสองคนอีก

ในจังหวะที่จากมานั้นอันหลิงเกอได้ไตร่ตรองเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา นึกถึงอ้อมกอดที่มู่จวินฮานเคยกอดอย่างทะนุถนอม นึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองคนสนิทแนบแน่นกัน

นึกถึงทุกสิ่งที่นางทำเพื่อให้เขากลับมาจดจำได้อีกครั้งและนึกว่าฟางหลิงซู่เคยเสียสละมากเพียงใดเพื่อความสุขของพวกนาง

สิ่งที่นางนึกถึงล้วนเป็นอดีตไปหมดแล้ว ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมู่จวินฮานเมื่อนางหันกลับมาก็ได้อันตรธานหายไปหมดสิ้น

อันหลิงเกอรู้ดีว่าการที่มู่จวินฮานใจอ่อนกับเฝิงเยว่เอ๋อหมายความว่าคนทั้งคู่ย่อมมีความรู้สึกดีต่อกัน เฝิงเยว่เอ๋อก็รู้ดีเพราะในเมื่อนางสามารถทำให้มู่จวินฮานใจอ่อนได้ก็สามารถครอบครองหัวใจของเขาได้เช่นกัน

แผนการนี้ของเฝิงเยว่เอ๋อนับว่าฉลาดมิน้อย นางเอาเรื่องที่มู่จวินฮานเป็นคนใจอ่อนมาใช้และรู้ว่าเขามิอาจละทิ้งความรับผิดชอบได้

เฝิงเยว่เอ๋อใช้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้มาทำให้อันหลิงเกอพ่ายแพ้จนถูกมู่จวินฮานขับไล่อย่างน่าอับอาย

เมื่อเห็นอันหลิงเกอจากไปแล้ว มู่จวินฮานก็รู้สึกโล่งใจแต่ก็เสียใจในเวลาเดียวกัน มีหลายเรื่องที่มนุษย์มิอาจทำตามใจปรารถนาและเขาเองก็เช่นกัน การถูกบีบให้เลือกระหว่างสตรีสองนาง มิว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ทั้งสองคนพอใจได้

หลังอันหลิงเกอจากไปก็มิได้กลับมาที่สวนแต่มาที่ถ้ำน้ำแข็งแทน อิ่งจือเห็นตาบวมแดงของนางก็รู้ว่าคงเกิดเรื่องขึ้นแน่จึงบอกให้นางนั่งลง

อันหลิงเกอมองอิ่งจือแล้วราวกับความอึดอัดทั้งหมดในใจทะลักออกมา ตอนนี้นางเหลือเพียงอิ่งจือคนเดียวที่สามารถพูดความในใจด้วยได้ ภายในจวนนางไร้ที่พึ่งพิงแล้ว มิมีผู้ใดที่จะพูดได้แม้แต่คนเดียว

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น ? ” ความจริงมิต้องถามก็รู้ว่าคงเกี่ยวกับมู่จวินฮาน แต่เรื่องที่เกี่ยวกับมู่จวินฮานและสามารถสร้างปัญหาแก่อันหลิงเกอได้มีเพียงเฝิงเยว่เอ๋อคนเดียวเท่านั้น

จากนั้นอันหลิงเกอก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อิ่งจือฟัง เมื่อเขาฟังจบก็ขมวดคิ้วมุ่น เขามิได้หงุดหงิดเพราะเรื่องของอันหลิงเกอ แต่รู้ว่าหากตอนนี้มู่จวินฮานมัวดูแลเฝิงเยว่เอ๋อก็จะมิได้มาที่กระท่อมไม้ไผ่อีก เช่นนั้นแผนการของเขาก็ต้องชะงักไปด้วย

เมื่ออิ่งจือนึกถึงตรงนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ก่อนจะยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมด

หากแผนการของเขาต้องเลื่อนออกไปอีก เคล็ดวิชาก็จะอ่อนแอตามระยะเวลาด้วย ถึงตอนนั้นเกรงว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้คงมิง่ายเสียแล้ว

ส่วนอันหลิงเกอเห็นท่าทางหงุดหงิดของอิ่งจือก็นึกว่าเขาโมโหที่นางมิได้รับความเป็นธรรมจึงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก หารู้ไม่ว่านางและมู่จวินฮานเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานของอิ่งจือเท่านั้น

อิ่งจือแม้ทราบปัญหาของอันหลิงเกอแล้วก็มิอาจช่วยอันใดได้ หวังว่าอันหลิงเกอจะกลับไปคืนดีกับมู่จวินฮานได้ในเร็ววันเพื่อทำให้แผนการของเขาสำเร็จเร็วขึ้น

เพราะตอนนี้ความรู้สึกในใจที่อิ่งจือมีต่ออันหลิงเกอหายไปจนสิ้นแล้ว ที่เหลืออยู่มีเพียงความปรารถนาที่จะบรรลุเป้าหมายโดยเร็ว แต่อันหลิงเกอนึกเพียงว่าอิ่งจือเป็นห่วงด้วยใจจริงเยี่ยงในอดีต

ทางด้านมู่จวินฮานยังอยู่กับเฝิงเยว่เอ๋อและเห็นนางที่ดูอ่อนแอเช่นนี้ ภายในใจก็รู้สึกผิดมาก ความรู้สึกผิดที่มีต่ออันหลิงเกอจึงหายไปจนสิ้น ที่เหลืออยู่มีเพียงความรับผิดชอบต่อเฝิงเยว่เอ๋อเท่านั้น

ตอนนี้มู่จวินฮานเห็นเฝิงเยว่เอ๋อตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากจึงตระหนักได้ว่าอันหลิงเกอและเฝิงเยว่เอ๋อล้วนเป็นความรับผิดชอบของเขาทั้งสิ้น หากเขาละเลยเฝิงเยว่เอ๋อก็จะทำให้หลายคนมิพอใจได้

เขารู้ว่าหากเรื่องในวันนี้แพร่ออกไปต้องทำให้เหล่าที่ปรึกษามิพอใจในตัวอันหลิงเกอแน่ หากเป็นเช่นนั้นแล้วในมิช้านางต้องถูกพวกเขาโจมตี มู่จวินฮานจึงต้องการที่จะปกป้องอันหลิงเกอ ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ปลอบเฝิงเยว่เอ๋อเช่นนี้

อีกทั้งมู่จวินฮานหาได้รังเกียจเฝิงเยว่เอ๋อจริงไม่ ที่ผ่านมาเขาแค่รู้สึกเอือมระอานางเท่านั้น

เขาทราบมาตลอดว่าเฝิงเยว่เอ๋อรักตนมากเพียงใดและระหว่างทั้งสองคนหาใช่คนแปลกหน้าต่อกันอีกแล้ว

เขาเข้าใจเฝิงเยว่เอ๋อ ด้านเฝิงเยว่เอ๋อก็เข้าใจเขา ระหว่างทั้งสองต่างมีความเข้าใจกัน ก็เหมือนเขากับอันหลิงเกอ ดังนั้นมิว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจทิ้งนางไปโดยมิเลียวแลได้ จักให้เขาเมินเฉยได้หรือ ?

เมื่ออันหลิงเกอจากไปแล้ว เฝิงเยว่เอ๋อก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่มู่จวินฮานหาได้สังเกตเห็นท่าทางเสแสร้งเช่นนั้นไม่ มิรู้เลยว่าตอนนี้นางแค่แกล้งทำเป็นเสียสติ เพราะเฝิงเยว่เอ๋อรู้จักนิสัยของมู่จวินฮานดี มิว่าอย่างไรเขาต้องสงสารนางแน่นอน

นางรู้ว่าจากนี้ไปขอแค่แกล้งทำเป็นเสียสติเช่นนี้มู่จวินฮานก็ไม่มีทางทอดทิ้งนางแน่นอน นางครุ่นคิดพร้อมลอบยิ้มในใจ อันหลิงเกอได้รับมามากเกินไปแล้ว ต่อจากนี้ต้องเป็นฝ่ายสูญเสียบ้าง

ด้านอันหลิงเกอที่ตอนนี้อยู่กับอิ่งจือก็กำลังทานข้าวด้วยกันและพบว่านางทานได้มากเป็นพิเศษ เขารู้ว่านางชอบของอร่อยจึงได้เตรียมอาหารที่นางชอบมาให้ เมื่อเห็นอันหลิงเกอทานอย่างเอร็ดอร่อยเช่นนี้ อิ่งจือก็วางใจได้