บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 674

ดวงตาอันงดงามของเมเดลีนเหลือบขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ชำเลืองมองเฟลิซิตี้ซึ่งกำลังยิ้มอย่างภูมิใจ “คุณวอล์คเกอร์ สินะคะ? ฉันก็พูดแบบนี้ตลอดแหละค่ะ ถ้าคุณไม่ชอบวิธีที่ฉันพูด คุณก็เลือกที่จะไม่ต้องฟังฉันได้นี่คะ อีกอย่างคุณบอกเองว่าฉันเป็นภรรยาเก่าของเจเรมี่ ดังนั้น ถ้าฉันเป็นภรรยาเก่าของเขา ทำไมฉันต้องพูดดีกับแม่ผัวเก่าด้วยล่ะคะ?”

“…”

เฟลิซิตี้คาดไม่ถึงว่าเมเดลีนจะกล้าต่อปากต่อคำถึงขนาดนี้ เธอเงียบไปชั่วครู่และทำได้เพียงมองหน้าเมเดลีนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกความรู้สึกหมดหนทางจะต่อกรและเจ็บปวด

คาเลนไม่ต้องการอับอายต่อหน้าเฟลิซิตี้ เธอจึงยกมือขึ้นหวังจะตบสั่งสอนเมเดลีน

อย่างไรก็ตาม ตอนที่เธอง้างมือขึ้นหวังจะตบ เจเรมี่พลันพูดขึ้น “คุณพยายามจะทำอะไรกันแน่?”

เฟลิซิตี้คิดว่าเมเดลีนกำลังจะถูกตบ และคาดไม่ถึงว่าเจเรมี่จะปรากฏตัวออกมากระทันหันแบบนี้ “คุณมอนต์โกเมอรี มาที่นี่เพื่อพบผมเหรอ?” เขาเอ่ยถามเมเดลีน

เมเดลีนมองหน้าเขา “ใช่ค่ะ”

ดูเหมือนว่าเจเรมี่จะชะงักได้ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ถ้าผมจำไม่ผิด คุณบอกว่าพวกเราจะไม่เจอหน้ากันอีกแล้วนี่ครับ คุณมอนต์โกเมอรี”

“ถ้าฉันจำไม่ผิดนะคะ คุณวิทแมน ดูเหมือนคุณจะพูดว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจของคุณไปตลอดกาลนี่คะ”

“…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเจเรมี่ก็เปลี่ยนไปทันที เขาจำทุกคำพูดตอนที่เมเดลีนเดินออกไปได้ในทันที

‘หรือว่าตอนนั้นลินนี่จะยังยืนอยู่ตรงนั้น?

‘เธอได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดเหรอ?’

เมื่อมองสลับไปมาระหว่างเมเดลีนกับเจเรมี่ ทั้งคาเลนและเฟลิซิตี้ต่างงุนงงและไม่พอใจอย่างมาก

“เจเรมี่ ฉันชวนเอวาและแดนไปรับประทานอาหารเย็นค่ำนี้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยเกลนเดล ฉันจะรอคุณอยู่ที่นั่นถึงตอนสี่ทุ่มนะคะ”

เมื่อเมเดลีนเห็นว่าเจเรมี่กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ เธอจึงทิ้งระเบิดลูกใหญ่และหันหลังเดินออกไปก่อนที่เขาจะให้คำตอบ

คาเลนรีบห้ามลูกชายทันที “เจเรมี่ ลูกห้ามไปนะ! ลูกตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับมันแล้ว อีกอย่าง เฟลิซิตี้ต้องหึงลูกมากแน่ ๆ ถ้าลูกไป”

“หึง? ทำไมหมอต้องหึงคนไข้ด้วยล่ะครับ?” เจเรมี่ยิ้มก่อนจะขึ้นไปชั้นบน

คืนนั้น เมเดลีนและเอวาดื่มกันอยู่ในร้านอาหารเล็ก ๆ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกลนเดลอีกครั้ง

แดเนียลนั่งมองหน้าเอวาอยู่ด้านข้าง

ดูเหมือนว่าเธอจำสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เมาแอ๋วันนั้นไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม เขายังจำเรื่องเหล่านั้นได้ดี ทุกคืนก่อนเข้านอน เขาอดนึกถึงจูบและคำสารภาพนั้นของเธอไม่ได้

“แดน มีอะไรติดหน้าเอวาเหรอ? ทำไม่เอาแต่จ้องหน้าเธออย่างนั้นล่ะ?” เมเดลีนจงใจถามแบบนั้นออกไป

ในเวลาเดียวกัน ทั้งแดเนียลกับเอวาต่างตกใจกับคำถามของเธอ

เอวาเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย สายตาของเธอประสานเข้ากับสายตาที่ดูไม่สบายใจของแดเนียล จากนั้นเธอจึงนำมือขึ้นมาลูบใบหน้าของตัวเอง “แดน มีอะไรติดหน้าฉันอยู่เหรอ?”

“เปล่า” แดเนียลรีบบอกปัด “แค่เห็นพวกเธอสองคนดื่มกันหนักไปแล้ว ฉันกลัวว่าพวกเธอสองคนจะเมาจนไม่รู้เรื่องอีกน่ะสิ”

“นายต้องหัดสนุกบ้างนะ! บางครั้งเมาสักหน่อยก็ดี มา แมดดี้! อีกกรึ๊บ!” เอวาซัดเข้าไปอีกแก้ว

เมเดลีนไม่รอช้าซัดตามเอวาไปอีกสองสามแก้ว เมื่อเหลือบดูเวลา เธอสังเกตเห็นว่าตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าแล้ว แต่โทรศัพท์เธอยังเงียบอยู่เลย อีกอย่างเจเรมี่ก็ยังไม่ปรากฏตัว

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอรู้สึกเคว้งคว้างอยู่ภายใน

เข็มนาฬิกาเดินไปอย่างเงียบงัน และไม่นานหลังจากนั้นเอวาก็เมาแอ๋หลังจากดื่มเข้าไปมากเกิน

เมเดลีนคิดว่าเมาบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี มีคำกล่าวว่าถ้าผู้หญิงไม่เมาบ้าง ผู้ชายก็คงไม่มีโอกาสเลย เธอมองไปยังแดเนียลอย่างมีแผนการอยู่ในใจ

“แดน คุณไปส่งเอวาก่อนก็ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย”

แม้ว่าเขาอยากจะทำอย่างที่เธอว่าใจจะขาด แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเพราะว่าเมเดลีนเองก็อยู่ในสภาพเมาไม่ต่างกันและยังต้องอยู่คนเดียวอีก

อย่างไรก็ตาม เมเดลีนยืนยันสิ่งที่เธอพูด ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาเอวากลับไปก่อน

เมเดลีนนั่งดื่มอยู่ที่นั่นคนเดียวจนถึงสี่ทุ่ม

หลังจากเห็นว่าโทรศัพท์ของเธอไม่การตอบสนองใด ๆ เธอจึงเดินออกจาร้านอาหารไปอย่างช้า ๆ

ฝนตกปรอย ๆ และลมหนาวที่พัดมาพร้อมกันใต้ท้องฟ้าค่ำคืนนั้นพัดผ่านตัวเธอไป

ทันใดนั้น คนสองสามคนพลันรีบวิ่งผ่านตัวเธอไป เมื่อมองไปด้านหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอได้ยินพวกเขาคุยกัน “มีอุบัติเหตุรถชนข้างหน้านี้!”

“ชายคนนั้นตาบอดใช่ไหม? เห็นว่ารถพุ่งชนเขาอย่างจังเลย!”

“ได้ยินว่าแย่มากเลยด้วย เขาไม่น่าจะรอดแล้วล่ะ เลือดไหลท่วมขนาดนั้น”

หัวใจของเมเดลีนกระตุกแรงเมื่อได้ยินแบบนั้น

ผู้ชายที่โดนรถชนตาบอดอย่างนั้นเหรอ?

‘เจเรมี่?’ ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เธอรีบหันและวิ่งไปที่เกิดเหตุรถชนอย่างรีบร้อนในขณะที่สายฝนโปรยปรายลงมา