ตอนที่ 13 สิงร่างลูกผู้ดี แล้วปรี่เข้าประจบท่านอ๋อง (13)

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

กลางคืน 

 

 

ตันหวายใช้พู่กันเติมอีกหนึ่งขีดบนตัวอักษร ‘正’ ตอนนี้เขาเขียนตัวอักษรเจิ้งได้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ซึ่งหมายความว่าเขามาถึงโลกนี้เป็นเวลาห้าวันแล้วเช่นกัน 

 

 

เจ้าเหมียวที่อยู่บนพื้นอ้าปากหาวหวอด เมียงมองตันหวายอย่างเกียจคร้าน จากนั้นจึงค่อยหลุบปิดดวงตาอันสูงส่งของตนอีกครั้ง 

 

 

ตันหวายพูดไม่ออก เขาพบว่าแมวตัวนี้ช่างขี้เกียจเสียจริง ตั้งแต่กลับเข้ามาก็ขดตัวตลอดเวลาไม่ขยับไปไหน ถ้าไม่นอนหลับอยู่ก็กำลังตั้งท่าจะนอนหลับ 

 

 

ตันหวายอุ้มแมวขึ้นมา เพิ่งกอดไว้ในอ้อมแขนไม่ทันไรประตูก็ถูกผลักเปิด คนผู้นี้ผลักประตูด้วยพละกำลังมหาศาล ประตูกระแทกกับผนังส่งเสียงดังสนั่น 

 

 

เจ้าเหมียวในอ้อมแขนตกใจเสียงที่ดังขึ้นกะทันหันจนสะดุ้งตื่น ก่อนจะมุดเข้าไปในอกตันหวายโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง 

 

 

“ใครน่ะ?” 

 

 

คนผู้นั้นผลักประตูออกแต่กลับไม่เข้ามา ตันหวายขมวดคิ้ว มองเห็นหน้าตาของคนข้างนอกไม่ชัดเจนนัก 

 

 

สายลมเย็นในยามราตรีโชยพัดผ่านประตูที่เปิดอยู่เข้ามา ตันหวายร่างสั่นสะท้าน ก่อนขยับเข้าใกล้โต๊ะอย่างระมัดระวัง แอบยัดฝาครอบจอกชาฝาหนึ่งไว้ในแขนเสื้อของตนอย่างเงียบเชียบ 

 

 

อืม เวลาจำเป็นยังพอทุบให้แตกใช้ฟาดคนได้! 

 

 

ผู้ที่อยู่ข้างนอกเคลื่อนไหวในที่สุด เขาเดินโซซัดโซเซเข้ามา เมื่อมองเห็นตันหวายก็หยุดชะงัก 

 

 

เหอจินหมิง? 

 

 

ตันหวายเลิกคิ้ว เขามาทำอะไรกัน? 

 

 

กลิ่นสุราฉุนจัดลอยตลบอบอวลอยู่ในอากาศ ตันหวายเห็นสายตาเลื่อนลอยของเหอจินหมิงแล้วก็เข้าใจในทันที 

 

 

ที่แท้ก็เมาเหล้ามานี่เอง 

 

 

เหอจินหมิงเดินใกล้เข้ามาทีละนิด ตันหวายก็ถอยหลังทีละน้อย กระทั่งถอยไปจนถึงมุมกำแพง เจ้าเหมียวที่อุ้มเอาไว้ก็ดิ้นหลุดจากอ้อมแขนของตันหวายราวกับตื่นตระหนกแล้ววิ่งหนีไป  

 

 

!!! 

 

 

ไอ้เจ้าแมวตัวนี้ ไหนตกลงกันว่ามีทุกข์ร่วมฝ่าฟันไงเล่า? 

 

 

ตันหวายกลอกตาด้วยความโกรธเคือง 

 

 

เหอจินหมิงยกมือขึ้น ใช้ท่อนแขนต้อนตันหวายไว้ที่มุมกำแพง 

 

 

คาเบะด้ง? 

 

 

ตันหวายกระตุกยิ้มมุมปาก เตรียมจะย่อตัวมุดออกไปจากใต้แขนของเหอจินหมิง ใครจะรู้ว่าเหอจินหมิงตอบสนองรวดเร็วกว่าเขาเสียอีก เอาตัวเองโถมทับลงมาบนร่างเขาทั้งตัว 

 

 

ตันหวายส่งเสียงโอดครวญ เบือนหน้าหนีพลางเอาแขนผลักเหอจินหมิงออกไป แต่ว่าเหอจินหมิงราวกับกินยาชูกำลังมา ทำอย่างไรก็ผลักไม่ออกเสียที 

 

 

 ตันหวาย “…” 

 

 

ทะนุถนอมคนแรงน้อยสักหน่อยไม่ได้เลยหรือไง? 

 

 

เหอจินหมิงกระซิบพึมพำอยู่ข้างหูตันหวาย อาจเป็นเพราะสาเหตุว่าดื่มเหล้ามา ถึงได้พูดจาฟังไม่ได้ศัพท์ ตันหวายต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะฟังรู้เรื่องว่าเขากำลังเรียกชื่อของตันฝูเซิง 

 

 

ชายผู้หนึ่งยังพึมพำเรียกชื่อคนอื่นหลังจากเมาเหล้า ถ้าเช่นนั้นคนที่ถูกเรียกชื่อย่อมต้องมีความหมายพิเศษอย่างยิ่งสำหรับชายผู้นี้ หากไม่เป็นศัตรูคู่อาฆาตที่สังหารครอบครัวเขา ก็ต้องเป็นคนที่ชายผู้นี้รักหมดหัวใจ 

 

 

ตันหวายมองชายที่กอดตนไว้ด้วยสายตาซับซ้อน คิดว่าเหอจินหมิงช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียจริงๆ 

 

 

ตันหวายถูกเหอจินหมิงกอดรัดไว้แน่นจนขยับเขยื้อนไม่ได้ อึดอัดแทบขาดใจ พยายามผลักชายหนุ่มออกตลอดเวลา 

 

 

“อย่าขยับ!” เหอจินหมิงกอดตันหวายแน่นขึ้นอีก “หากเจ้าชอบข้าเร็วกว่านี้สักหน่อยคงจะดีเหลือเกิน หากเจ้า…เร็วกว่านี้สักหน่อยก็คงจะดี” 

 

 

ตันหวายขนลุกซู่ เหอจินหมิงพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? เขาชอบเจ้าของร่างเดิมหรือ? 

 

 

ใครจะรู้ว่าเหอจินหมิงพูดจบประโยคนี้ก็หัวเราะออกมา ตันหวายที่ถูกเขากอดไว้รู้สึกได้ว่าเขาหัวเราะเสียจนตัวสั่น  

 

 

เหอจินหมิงออกแรงมือหนักขึ้นอีก ชั่ววูบหนึ่งตันหวายนึกว่าเขาเกือบจะรัดตนตายแล้ว 

 

 

ทว่าความจริงก็เป็นเช่นนั้น เหอจินหมิงตั้งใจจะรัดเขาให้ตายจริงๆ! 

 

 

ตันหวายรู้สึกได้ว่าเส้นเลือดใหญ่บนลำคอของตนแนบติดกับฝ่ามือของชายตรงหน้า เขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ชายหนุ่มออกแรงบีบ ก็สามารถหักคอของเขาได้อย่างง่ายดาย 

 

 

ตันหวายแววตาจดจ่อ มือไพล่ไปด้านหลังอย่างแผ่วเบา เพียงแค่เหอจินหมิงออกแรงบีบ เขาก็สามารถทุบฝาครอบจอกชาให้แตกแล้วฟาดใส่เหอจินหมิง 

 

 

ตะเกียงภายในห้องถูกลมที่โชยเข้ามาพัดจนริบหรี่วูบไหว ตันหวายมองเห็นสีหน้าโหดเ**้ยมของเหอจินหมิงได้อย่างชัดเจน 

 

 

เหอจินหมิงนัยน์ตาแดงก่ำ พูดพร่ำไม่หยุดว่า “หากเจ้าไม่ใช่คนตระกูลตันคงจะดีเหลือเกิน หากเจ้าเจอเราช้ากว่านี้คงจะดีเหลือเกิน!” 

 

 

 พอสิ้นเสียงกล่าว เหอจินหมิงก็รวบมือที่บีบรัดตันหวายไว้แน่น 

 

 

เขาคิดจะฆ่าตันฝูเซิงจริงๆ ตันหวายคิด