ตอนที่ 14 สิงร่างลูกผู้ดี แล้วปรี่เข้าประจบท่านอ๋อง (14)

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

ตันหวายรู้สึกว่าหายใจติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาออกแรงบิดแยกมือที่บีบคอของตนไว้ เมื่อพบว่าแยกไม่ออกก็เหวี่ยงฝาครอบจอกชาในมือตนทุบไปทางกำแพงให้แตกกระจายโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง 

 

 

มือยังไม่ทันแตะถึงโต๊ะ ตันหวายก็มองเห็นลางๆ ว่ามีร่างในชุดขาวร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา มือที่บีบคอเขาคลายแรงลงในชั่วพริบตา 

 

 

ตันหวายขาอ่อนยวบ ทรุดตัวลงไปตามผนังกำแพง ลูบหน้าอกพลางเริ่มสูดเอาอากาศสดชื่นเข้าไปเฮือกใหญ่ 

 

 

แม่มัน บทละครฉากแม้ฉันชอบเธอแต่ก็อยากฆ่าเธอยอดเยี่ยมแห่งปี ถ้าหากเขาไม่ใช่ตัวเอก เขาก็คงต้องพูดประโยคเด็ดสักประโยคแน่นอน! 

 

 

ไม่ง่ายเลยกว่าตันหวายจะหายใจได้คล่อง พอเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นมือข้างหนึ่ง มือนี้สันกระดูกเด่นชัด นิ้วมือเรียวยาว ช่างเป็นมือสวรรค์ประทานที่คู่ควรกับการดีดฉิน 

 

 

ตันหวายยื่นมือให้จวินเฉิงโดยไม่ต้องคิด จวินเฉิงออกแรงดึงก็ฉุดร่างเขาลุกขึ้นมา 

 

 

“ท่านมาได้อย่างไร?” ตันหวายเตะเหอจินหมิงที่นอนสลบเหมือดอยู่กับพื้น 

 

 

จวินเฉิงกวาดตามองคนบนพื้น แล้วเบนสายตามองตรงมายังตันหวายกล่าวว่า “หากข้าไม่มา เจ้าคงตายไปแล้ว” 

 

 

จวินเฉิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตนถึงมา เขาฟังสายสืบแจ้งว่าหลังจากเหอจินหมิงดื่มสุราก็เดินไปทางตำหนักเย็นตามลำพัง เขาจึงได้มา ไม่รู้จุดมุ่งหมายที่ตนมาเสียด้วยซ้ำไป แต่ถึงอย่างไรก็มาแล้ว และโชคดีที่มาทันท่วงที 

 

 

“ไม่ตายหรอก” ตันหวายรินชาจอกหนึ่งให้ตนเองดื่มพอชุ่มคอ 

 

 

เพราะว่าเมื่อครู่โดนบีบคอ เสียงพูดของตันหวายจึงยังคงแหบพร่า “ข้าคิดว่าท่านสุดยอดมากเลย ในวังนี้แทบจะเป็นสวนดอกไม้หลังบ้านท่านอยู่แล้ว ท่านจะไปไหนก็ได้ตามใจนึก” 

 

 

“ท่านตีเขาสลบไปแล้ว มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ตันหวายชี้เหอจินหมิงบนพื้นพลางถาม 

 

 

จวินเฉิงไม่ได้กล่าววาจา สายตาหยุดนิ่งที่บริเวณรอยแดงบนลำคอของตันหวายเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ฝืนใจตนเองละสายตาออกไป 

 

 

เมี๊ยว~ 

 

 

เจ้าไป๋เมาปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน พลางส่งเสียงร้องเรียกหาจวินเฉิง จากนั้นก็สาวเท้าวิ่งกระโจนขึ้นมาบนต้นขาของตันหวายอย่างว่องไว 

 

 

ตันหวายมองมันอย่างเงียบงัน แค่นเสียงหึในลำคอ ตอนนี้รู้จักวกกลับมา ตอนที่เขาเจออันตรายเมื่อครู่มันวิ่งหนีไปไหนเสียล่ะ? 

 

 

ถึงแม้จะหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ตันหวายก็ยังยื่นมือไปกอดเจ้าแมวบนตักเอาไว้ 

 

 

ตันหวายลูบแมวในอ้อมแขน เงยหน้าขึ้นมองจวินเฉิงอย่างเอาจริงเอาจังแล้วกล่าวว่า “เหอจินหมิงต้องการฆ่าข้า แต่ว่าข้าไม่อยากตาย” 

 

 

ระหว่างที่พูด ตันหวายก็ยิ้มขมขื่น “นอกจากกลั่นแกล้งสมัยเยาว์วัยไม่รู้ประสา ข้าก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดใจอะไรต่อเขาอีก แต่เขากลับจ้องเอาชีวิตข้าอยู่ตลอดเวลา แล้วยังพาลเดือดร้อนไปทั้งตระกูลตัน” 

 

 

“เขาแค่ดื่มจนเมามายเท่านั้น” จวินเฉิงกล่าว “หลังจากเขาตื่นก็ไม่ฆ่าเจ้าแล้ว” 

 

 

“แต่ข้าอยากฆ่าเขา!” ตันหวายชะงักมือที่ลูบแมว มองเหอจินหมิงที่นอนอยู่บนพื้นพลางกล่าวว่า “ตระกูลตันจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง เขากลับสังหารทั้งตระกูลตันเพื่อผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว ทรราชเช่นนี้ ไม่มีเสียยังดีกว่า” 

 

 

“เจ้าตัดใจลงหรือ?” 

 

 

“ทำไมจะตัดไม่ลงเล่า?” ตันหวายหัวเราะ “ตอนแรกเขาใช้ข้าเป็นเครื่องมือจนได้ตระกูลตันหนุนหลังขึ้นครองบัลลังก์ จากนั้นค่อยประหารทั้งโคตรตระกูล ข้าจะตัดใจไม่ลงได้อย่างไร?” 

 

 

ตอนที่เขาเพิ่งมาถึงโลกนี้ แทบจะแยกตนเองออกมาจากตันฝูเซิง เพราะว่าความเกลียดชังที่เขามีต่อเหอจินหมิงนั้นไม่ชัดเจนนัก อย่างมากก็แค่คิดว่าเขาร้ายกาจ หลังจากหลอกลวงตันฝูเซิงให้ตายใจแล้วสังหารครอบครัวเจ้าของร่างเดิม สุดท้ายก็ยังไม่ยอมเลิกราวีตันฝูเซิง  

 

 

เดิมทีเขาคิดว่าในเมื่อเป็นการทวงบัญชีแค้น ถ้าเช่นนั้นพอตนประจบสำเร็จแล้วค่อยหาโอกาสเหมาะๆ ลงมือแก้แค้นก็ได้ แต่เมื่อสักครู่นี้ ในขณะที่เกือบจะถูกเหอจินหมิงบีบคอตาย เขารู้สึกได้อย่างแจ่มแจ้งถึงความเกลียดชังของตันฝูเซิง ความเกลียดชังนั้นเกือบจะเผาผลาญเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้ว่า การบรรลุภารกิจในโลกนี้ จำเป็นต้องให้เขาลงมือด้วยตนเอง 

 

 

จวินเฉิงกับเขามีเป้าหมายเดียวกัน พี่สาวของจวินเฉิงคือฮองเฮาพระองค์สุดท้ายของอดีตฮ่องเต้ ส่วนเหอจินหมิงก็คือฆาตกรที่สังหารอดีตฮองเฮา 

 

 

จวินเฉิงจ้องมองตันหวาย เนิ่นนาน ก่อนจะเอ่ยปากรับคำ 

 

 

“ตกลง”