ตอนที่ 563 ทำเงินได้จนมืออ่อน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

นักปรุงยาที่อยู่ในที่แห่งนี้มึนงงไปครู่ใหญ่กว่าจะได้สติกลับมา

สายตาที่พวกเขามองมู่เฉียนซีนั้น ราวกับได้พบยาเม็ดที่หาพบได้ยากเย็นก็มิปาน

“ท่านอาจารย์ โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถอะ!”

“หัวหน้าหอโอสถมู่ ถึงแม้ว่าข้านั้นจะโง่เขลา แต่ข้าก็มีดวงใจใฝ่รู้ ขอให้เจ้ารับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถอะนะ”

“หัวหน้าหอโอสถมู่…” นักปรุงยาแต่ละคนแทบอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไปกอดขาของมู่เฉียนซีเพื่อขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์

งานชุมนุมในครั้งนี้กลับกลายเป็นงานฝากตัวเป็นศิษย์ไปเสียดื้อ ๆ

มู่เฉียนซีเองก็สับสนเช่นกัน นางรู้เพียงแต่ว่าวันนี้นางจะต้องทำให้นักปรุงยาเหล่านั้นยอมรับให้ได้

นางตัดสินใจกล่าวว่าจะชี้แนะสิ่งที่นักปรุงยาเหล่านั้นผิดพลาด และพวกนั้นจะต้องยอมตอบตกลงที่จะมาทำงานให้นางอย่างแน่นอน

แต่ทว่า ตาเฒ่าผู้นี้มาไหว้วอนขอให้รับเป็นศิษย์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?! คนเหล่านี้อายุมากยิ่งกว่าบิดาของนางเสียอีก นางนั้นไม่อยากจะรับลูกศิษย์ที่แก่ชราถึงเพียงนี้เลย

มู่เฉียนซีไม่เข้าใจเลยจริง ๆ  นางที่รับมรดกจากหม้อเทพนิรันดร์เพียงกล่าวประโยคนั้นออกไป กลับทำให้นักปรุงยาเหล่านั้นตกตะลึงได้ถึงขนาดนี้เลย

พวกเขาถึงขั้นสงสัยว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ดูเหมือนเพิ่งจะพ้นภาวะเติบโตเป็นผู้ใหญ่มาได้ไม่นานนั้นมีอายุมาแล้วกี่หมื่นปี มิเช่นนั้นแล้ว เหตุใดถึงได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการปรุงยาอย่างแจ่มแจ้งเช่นนี้

ทุกคนในที่นั้นตะลึงลาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นนักปรุงยาขั้นสูงมาขอเป็นลูกศิษย์ของผู้อื่นที่อายุน้อยกว่ามาก!

“อะแฮ่ม!” มู่เฉียนซีกระแอมไอคราหนึ่งเพื่อให้พวกเขาทั้งหมดเงียบสงบลง “ข้านั้นยังไม่คิดที่จะรับลูกศิษย์ หากพวกเจ้าต้องการเรียนรู้ ผู้ที่ได้สิบสองอันดับแรกสามารถเข้าไปทำงานในหอหมอปีศาจได้ เพื่อที่จะไปเป็นนักปรุงยาประจำหอหมอปีศาจของข้า”

“ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในสิบสองอันดับแรก รอประกาศหางานจากหอหมอปีศาจในภายหลัง  ในภายภาคหน้า หอหมอปีศาจมิได้มีเพียงแค่ที่เมืองตงไห่แห่งนี้เพียงที่เดียว”

หอหมอปีศาจจะกระจายตัวไปทั่วทั้งทวีปเสียโจวและทั้งแดนใต้ ในที่สุดก็จะกลายเป็นกลุ่มกำลังที่ไม่มีใครริอ่านสั่นคลอนการมีอยู่ของมันได้

“ตกลง!” เหล่านักปรุงยาที่ได้เข้ารอบสิบสองอันดับแรกตอบตกลงออกไปอย่างไม่รอช้าแม้แต่น้อย

“ในเมื่อตอบรับกันแล้ว เช่นนั้นก็ลงนามในสัญญานี่เสีย”

“ระยะเวลาของสัญญาคือสามปี หลังจากสามปีนั้นจะตัดสินกันด้วยความสามารถว่าใครจะอยู่ใครจะไป ส่วนเรื่องเงินทองค่าตอบแทน ข้าทราบดีว่าไม่ได้มีแรงดึงดูดอะไรต่อนักปรุงยาอยู่แล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ดึงดูดนั้นคือสูตรการปรุงยา”

“ค่าตอบแทนคือหนึ่งเดือนมอบสูตรยาขั้นปฐพีให้หนึ่งใบ เมื่อถึงสิ้นปีจะให้รางวัลเป็นสูตรยาขั้นปฐพีระดับเก้าหนึ่งใบ”

สวัสดิการเช่นนี้ช่างดีเหลือเกิน!

ดี!

ดีเยี่ยมจริง ๆ!

พวกนักปรุงยาเหล่านั้นที่ไม่ได้โอกาสนี้ต่างมองด้วยสายตาอิจฉาริษยา พวกเขานั้นเกลียดตนเองนักที่มิได้ฝึกฝนฝีมือปรุงยามาให้ดีกว่านี้ มิเช่นนั้นแล้วคงไม่ต้องมาได้อันดับย่ำแย่ ทำให้ตนเองต้องพลาดโอกาสไปเปล่า ๆ อย่างเช่นตอนนี้

จากนี้ไปพวกเขาจะต้องแก้จุดอ่อนเหล่านั้นของตนเองที่หัวหน้าหอโอสถมู่ชี้แนะไว้ เพื่อที่จะปรับปรุงความสามารถของตนเอง และทำให้พวกเขาได้รับการเลือกให้อยู่ต่อในครั้งต่อไป ก่อนการประลอง พวกนั้นยังดูถูกเหยียดหยาม และกล่าวว่าจะไม่ยอมไปทำงานที่หอหมอปีศาจอยู่เลย แต่บัดนี้กลับทำตาปริบ ๆ เพราะอยากไปเสียอย่างนั้น

งานรับสมัครงานครั้งใหญ่ถูกจัดขึ้นและปิดท้ายด้วยความสำเร็จ  เหล่านักปรุงยานั้นต่างพากันมาสมัครงานจนครบตามตำแหน่งที่ต้องการ นักปรุงยาระดับสูงสิบสองคน เพียงพอที่จะทำให้หอหมอปีศาจสาขาเมืองตงไห่ดำเนินกิจการไปได้

สำหรับโม่จิ่นแล้ว เวลานี้เขายิ่งนับถือมู่เฉียนซีมากขึ้นไปอีก นางทำให้เขารู้สึกนับถืออย่างที่สุด!

“นายท่านช่างร้ายกาจนัก เรียกได้ว่าเป็นมารร้ายเลยก็ยังได้”

“เจ้าอย่าได้พูดมาก พรุ่งนี้เจ้ามีเรื่องให้วุ่นวายแน่ ๆ” ……

รุ่งอรุณวันต่อมา

มู่เฉียนซีที่เป็นหัวหน้าหอโอสถ ได้ทำการตัดผ้าผูกหูกระต่ายมงคล จากนั้นนางพลันหนีหายไป  ส่วนเรื่องที่เหลือที่ต้องจัดการ แน่นอนว่านางโยนมันให้โม่จิ่นเป็นคนจัดการ

การโฆษณาได้ผลดีเกินไป เมื่อเริ่มเปิดกิจการ ผู้คนหลั่งไหลมาเยือนหอหมอปีศาจกันอย่างล้นหลาม

ยิ่งมีการจัดกิจกรรมลดราคาโอสถและการจับรางวัลด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งหอหมอปีศาจครึกครื้นอย่างเป็นที่สุด

โม่จิ่นแสยะยิ้ม โชคดีที่นายท่านผู้วิปริตของพวกเขาหลอมยาเม็ดเอาไว้มากมาย มิเช่นนั้นแล้วเพียงเปิดร้านวันแรกก็คงได้สินค้าขาดมือไปแล้วเป็นแน่

นักปรุงยาทั้งสิบสองคน เมื่อได้เห็นก็ล้วนแต่ตะลึงอึ้งค้างไป “สวรรค์! ความบริสุทธิ์แบบเต็มร้อยส่วน เด็กหนุ่มมู่ซีนั่น เขาหลอมมันออกมาได้ยังไง ?!”

“ประสิทธิภาพของยานี้เป็นอะไรที่ทำให้ดีได้ยากมาก แต่เขากลับสามารถทำให้มันดีถึงขั้นนี้ได้ โอ้!”

“โอ้…” ในตอนนี้ พวกเขานั้นมองมู่เฉียนซีเป็นผู้ที่แข็งแกร่งและลึกลับเป็นอย่างมากผู้หนึ่ง ดูห่างชั้นกับพวกเขาที่เป็นนักปรุงยาขั้นสูงธรรมดา ๆ มากมายนัก

หลังจากนี้ไป มู่เฉียนซีจะฝึกเป็นการพิเศษให้แก่พวกเขา ถึงแม้ว่าระดับการปรุงยาของพวกเขานั้นจะไม่ถึงขั้นที่ว่ามีร้อยส่วนเต็มร้อนส่วนอย่างเช่นนาง แต่ถ้าหากให้พวกเขาทำให้ถึงแปดสิบส่วนได้ละก็ นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่เบาสบายมือมาก

นี่เป็นปาฏิหาริย์อย่างแน่นอน!

นักปรุงยาเหล่านี้เคารพมู่เฉียนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าพวกเขาก็จะปรุงยาให้กับหอหมอปีศาจอย่างทุ่มเททั้งกายใจ

ด้วยมีเจ้าของหอโอสถที่น่ากลัวเช่นนี้อยู่ พวกเขามองเห็นอนาคตอันสดใสเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน พวกเขารู้สึกว่าตนเองโชคดีเหลือล้นที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานให้กับหอหมอปีศาจ

เรื่องทั้งหมดนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ทว่าโม่จิ่น เขากลับวุ่นเสียจนขาอ่อน ถึงแม้ว่าจะได้รับสมัครเด็กรับใช้มาแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากกิจการเป็นไปได้ด้วยดีมากเหลือเกิน มันยังคงยุ่งเป็นอย่างมากอยู่ดี

มู่เฉียนซีมองโม่จิ่นที่เหมือนกับเป็นคนโง่เขลา นางกล่าวขึ้น “เหนื่อยแล้วก็ไปกินยาสักเม็ดสิ นั่นจะทำให้เจ้ากระปรี้กระเปร่าตลอดเวลาได้”

“ระ ราคาของมันนั้นสูงนัก ข้ามิอาจนำมาใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายได้”

ยาเม็ดของหอหมอปีศาจมีราคาถูกกว่าหอโอสถแห่งอื่นอยู่บ้าง แต่ยาก็คือยา หาใช่ผักกาดขาวไม่ อย่างไรเสียราคาของมันก็ยังคงจัดว่าแพง

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “เมื่อเจ้าออกไปข้างนอกก็อย่าได้ไปบอกใครเขานะว่าเจ้าเป็นคนของหอหมอปีศาจ  ข้าขายหน้านัก เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าจะขาดเหลือยาเพียงเล็กน้อยแค่นี้รึ ?” “ข้ากิน! ข้ากินแล้ว” เมื่อนึกถึงภาพฉากที่มู่เฉียนซีนำยาออกมากินได้เหมือนลูกกวาด โม่จิ่นจึงเข้าใจ เขาจำต้องทำใจให้สงบเข้าไว้ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เขาจะต้องชินกับมัน

นี่เป็นครั้งแรกที่โม่จิ่นรู้สึกได้ถึงรสชาติของการมีเงินทองมากมาย

มันสบายเช่นนี้นี่เอง…

แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อาวุโสที่สามแห่งตําหนักโม่อวี่ เขานั้นก็ไม่ได้สนใจในเรื่องเงินทองอะไรมากมายนัก เดือนหนึ่งเดือนเขาเองก็มีเงินทองครอบครองเพียงไม่เท่าไหร่  เขาเชื่อว่าหากหอหมอปีศาจพัฒนาเช่นนี้ต่อไปอีก ย่อมหาเงินได้ถึงขนาดที่จะเอาหยกวิญญาณไปฝังกลบตำหนักโม่อวี่เอาไว้ได้ตลอดเวลา

หลังจากที่เขาได้ค้นพบว่ารสชาติของการหาเงินหาทองมันดีเช่นนี้ โม่จิ่นจึงกล่าวขึ้น “นายท่าน พวกเราจะพัฒนาหอหมอปีศาจต่อไปอีกขั้นเมื่อไรรึ ?! ข้าคิดว่ามีแค่ที่นี่ยังไม่พอหรอก” เขารู้ดีว่าตอนนี้นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของตำนาน มู่เฉียนซี “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เราจะออกจากเมืองตงไห่”

โม่จิ่น “ยังไม่ถึงเวลาอันควรอีกหรือ ? การบริหารงานส่วนต่าง ๆ ในร้านก็จัดการไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนพวกนักปรุงยานั้นก็มีประสบการณ์เป็นอย่างมาก และพวกเขาก็คุ้นมือกับงานแล้วด้วย ถึงต่อให้ท่านไม่ปรุงยา ยาก็ยังมีเพียงพอที่จะให้หอหมอปีศาจดำเนินกิจการต่อไปได้”

มู่เฉียนซีตอบ “ไม่ ยังไม่พอ”

“เจ้าคิดว่ากิจการหอหมอปีศาจของพวกเรานั้นไปได้สวย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเช่นนี้ ร้านโอสถร้านอื่นในเมืองตงไห่จะสามารถทนดูเราเจริญอยู่ร้านเดียวได้หรือ ?”

โม่จิ่นพยักหน้ารับ “นั่นก็ใช่ ช่วงนี้พวกเราไปแย่งเอาลูกค้าพวกเขามา อีกทั้งยังแย่งมาอย่างบ้าคลั่งเสียด้วย หลายวันมานี้ร้านโอสถอื่น ๆ แทบไม่มีคนเลย” ยาของหอหมอปีศาจของพวกเขาทั้งมีคุณภาพที่ดี มีให้เลือกมากมายหลากชนิด อีกทั้งยังมีการลดราคาโอสถต่าง ๆ และยังมีการจับรางวัลอย่างบ้าคลั่ง ใครเล่าจะยังไปอุดหนุนจุนเจือยาที่มีคุณภาพแย่  ไม่มีความหลากหลาย ไร้การลดราคาอีกเล่า

ดวงตาของโม่จิ่นฉายแววเย็นยะเยือกออกมาหนึ่งครา “นายท่านคาดว่าพวกเขาจะลงมือกับเราใช่หรือไม่ ? ถ้าเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น งั้นเราชิงลงมือก่อนเพื่อความได้เปรียบเถอะ”

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม “ถ้าหากว่าลงมืออย่างเงียบ ๆ ก็จะไม่สามารถสร้างความน่าเกรงขามได้ เพราะฉะนั้นข้าว่าเรารอไปก่อนดีกว่า”

โม่จิ่นกล่าวเห็นด้วย “อืม สิ่งที่นายท่านพูดมา ล้วนแต่ถูกต้องทั้งหมด”

เขาติดตามมู่เฉียนซีมาตั้งแต่ยังอยู่เกาะวิญญาณมรณะ และได้พบเห็นนางทำเรื่องเหลือเชื่อมาแล้วมากมาย  ในตอนนี้ เขานั้นได้กลายเป็นผู้ติดตามที่ตามติดอย่างไร้สมองเพราะไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายแล้ว

……

“ผู้อาวุโสเซียว ท่านจะต้องแก้แค้นให้ข้า! เด็กเหิมเกริมผู้หนึ่งกล้าที่จะท้าทายข้า ข้าจะต้องทำให้มันได้เห็นดีกัน”

“วะฮ่า ๆ! เจ้าวางใจได้ เจ้าเด็กนั่นเรียกตัวเองว่าหมอปีศาจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะส่งมันไปเมืองผีเสียก็จบ”