ตอนที่ 1097 แค่ร้อยชั่งจะถือว่าเป็นอะไร
เซียวรุ่ย!
ซูหลีเลิกคิ้วขึ้น อย่างไรก็ตามนางมิเคยได้ยินชื่อคนคนนี้มาก่อนจริงๆ
เหล่าคุณชายที่เลื่องชื่อในเมืองหลวง ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงในด้านความเจ้าสำราญหรือด้านพรสวรรค์ก็ดี นางล้วนรู้จักทุกคน
ทว่าเซียวรุ่ย…
นางไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย!
นี่สามารถกล่าวได้ว่า อีกฝ่ายมิใช่ผู้ที่มีพรสวรรค์ และมิใช่คนที่เป็นอันธพาลในเมืองหลวงแบบเดียวกับจี้ฉินกับฉินมู่ปิง
ดังนั้นถึงไม่ได้ไม่มีชื่อเสียงอะไรในเมืองหลวงนัก
ทว่าในเมื่อเขาเป็นบุตรชายของเซียวเสวียน เช่นนั้นซูหลีก็จำเป็นจักต้องรู้จักเขาอย่างลึกซึ้ง
ห้าพันชั่ง? เลียเท้า?
ใบหน้าของซูหลีมีประกายเย็นยะเยียบพาดผ่าน นางไม่ได้มองเซียวรุ่ยที่เดินเข้ามาสักปราด แต่กลับยกมือของตนขึ้นอย่างเกียจคร้าน
“หนึ่งหมื่นชั่ง!”
ทันทีที่เอ่ยจบ ทั้งหอหร่วนเซียงก็มีเสียงดังขึ้น
นี่ซูหลีเสียสติอะไรไปอีก!
การกระทำของนางเมื่อครู่นี้ หลายคนคิดว่านางแค่ล้อเล่นเท่านั้น คิดไม่ถึงว่านางจะเอาจริงเอาจังจริงๆ อีกทั้งเมื่อลงมือก็ประมูลหนึ่งหมื่นชั่งแล้ว
นั่นเป็นถึงเงินหมื่นตำลึงเชียวนะ!
อย่าว่าแต่จะประมูลแม่นางยอดดอกเหมยคนนี้เลย ต้องการจะเหมาประมูลแม่นางทั้งหมดในหอหร่วนเซียงยังทำได้!
คำสามคำที่ซูหลีเอ่ยอย่างสบายๆ เซียวรุ่ยที่เดิมตะโกนออกมาว่าห้าพันชั่ง และยังเตรียมให้หงหลัวเลียเท้า ใบหน้าแดงก่ำจนคล้ายกับสีเลือดหมู
เขาเป็นที่สนใจของทุกคนยังไม่นานเท่าไร กระนั้นยังมีคนภายในห้องหลายคนยังไม่มีท่าทีโต้ตอบอะไร
ซูหลีก็กระทำเช่นนี้เสียแล้ว นี่เป็นการตบหน้าเขาชัดๆ
ในเวลานี้แม้เซียวรุ่ยทราบดีว่า ไม่สามารถต่อสู้กับซูหลีด้วยอคติได้ ทว่าเขาก็ยังยกมือขึ้นอีกครา…
“หนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยชั่ง!”
“คุณชาย! นี่ไม่คุ้มค่านะขอรับ!” เด็กรับใช้สองคนที่อยู่ข้างกายเซียวรุ่ยใกล้เสียสติแล้ว! นี่เป็นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นกว่าชั่ง! แม้สกุลเซียวจะรักและทะนุถนอมเซียวรุ่ยเช่นไร ก็ไม่มีทางที่จะให้เงินเขาเยอะขนาดนี้ในคราเดียว
วันนี้หากสามารถประมูลแม่นางยอดดอกเหมยคนนี้ไปได้ แน่นอนว่าเงินจำนวนนี้ต้องไปถอนที่ห้องบัญชีของสกุลเซียว เมื่อถึงเวลานั้นหากพวกนายท่านในสกุลเซียวทราบเรื่อง เซียวรุ่ยที่เป็นคุณชายคงไม่โดนทำโทษอะไร ทว่าข้ารับใช้อย่างพวกเขาจักต้องประสบหายนะเป็นแน่!
“หึ!” ใครจะคิดว่าครั้นเซียวรุ่ยเอ่ยตัวเลขเหล่านี้ออกมาอย่างหัวร้อน กลับมิได้มีเสียงผู้คนตกใจ แต่กลับมีเสียงหัวเราะเยาะของซูหลี
อารมณ์ที่แสดงออกมาทางสีหน้าของเซียวรุ่ยแทบจะอดกลั้นต่อไปไม่ไหว เขาหันศีรษะมองไปทางซูหลีด้วยความโกรธแล้วเอ่ย “เจ้าหัวเราะอะไร!?”
“คุณชายเซียวไม่ทราบว่าข้าหัวเราะอะไรจริงหรือ” ซูหลีตวัดสายตามองไปทางเขาปราดหนึ่ง
พูดอย่างยุติธรรม ที่จริงแล้วเซียวรุ่ยคนนี้ถือว่าเป็นบุรุษรูปงามและนิสัยแน่ เพียงแต่ซูหลีอยู่ข้างกายฉินเย่หานเป็นเวลานาน จึงทำให้นางรู้สึกว่าเซียวรุ่ยมิใช่บุรุษผู้หล่อเหลาอะไรนัก
ถึงจะหล่อเหลาขนาดไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินเย่หานก็ไม่สามารถเทียบเขาได้
ยิ่งกว่านั้นรูปโฉมของเซียวรุ่ย ยังเทียบกับคนข้างกายนางทั้งสองคนนี้มิได้!
“คุณชายเซียว ในเมื่อวันนี้ต้องการนำแม่นางหงหลัวกลับไปด้วย เช่นนั้นก็ควรใช้ความจริงใจกว่านี้ถึงจะถูก!” สีหน้าของเซียวรุ่ยไม่น่ามองนัก ขณะที่เขาต้องการเอ่ยพูดอะไรออกมา ซูหลีกลับไม่ให้โอกาสนั้นแก่เขา
นางปรายตามอง มีประกายขบขันพาดผ่านในแววตาอย่างบางเบา
คล้ายกับเย้ยหยันและก็คล้ายกับดูแคลน
“เพิ่มแค่ร้อยชั่ง ก็ถือว่าเพิ่มราคาแล้วหรือ” ซูหลีเอ่ยประโยคนี้ด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
เงียบสงัด…
ทั้งห้องโถงของหอหร่วนเซียงตกอยู่ในความเงียบ
เมื่อครู่ที่เซียวรุ่ยเริ่มประมูลด้วยราคาห้าพันชั่ง ทั้งยังต้องการให้อีกฝ่ายเลียเท้า นั่นเป็นเพราะหงหลัวมีดวงตาคล้ายกับซูหลี ต้องการใช้คำพูดนี้เพื่อเหยียดหยามซูหลี
บัดนี้การกระทำของซูหลี ถือเป็นการตบหน้าเซียวรุ่ยอย่างรุนแรง!
มิใช่ต้องการเหยียดหยามนางหรือ มาสิ ไม่ต้องเกรงใจ!
เพียงแต่ต้องการใช้เงินจำนวนหนึ่งร้อยชั่งมาเหยียดหยามผู้อื่นหรือ?
ตอนที่ 1098 ประมูลราคาที่สูงมาก!
ดูเหมือนว่าเซียวรุ่ยจะคิดมากเกินไปแล้ว!
ทันทีที่ซูหลีเอ่ยจบ คนจำนวนมากก็มองไปทางเซียวรุ่ย เซียวรุ่ยที่ถูกสายตาเหล่านั้นมองอย่างวิเคราะห์ เขากลับรู้สึกเลือดที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างพุ่งเข้าสู่สมองของเขาเท่านั้น
ในใต้หล้ามีคนเฉกเช่นซูหลีได้อย่างไรกัน
อย่างไรก็ตามก็มีแล้ว!
ภายใต้ความสนใจอย่างจดจ่อของทุกคน ซูหลีกลับยกมืออย่างเกียจคร้านขึ้นอีกครา
หลายคนมองไปทางนาง ทว่ากลับเห็นริมฝีปากแดงระเรื่อยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า
“หนึ่งหมื่น…ห้าพันชั่ง!”
“ปัง!” ด้านข้างมีคนแทบจะพลั้งมือพลิกโต๊ะขึ้น
เพิ่มอีกห้าพันชั่งอีกแล้ว!
ไม่สิ ต้องกล่าวว่า เพิ่มอีกสี่พันเก้าร้อยชั่ง!
ซูหลีต้องการกระทำสิ่งใดกันแน่!?
“…” เซียวรุ่ยที่ยืนอยู่หน้าประตู สั่นเทาไปทั่วร่าง แม้แต่เด็กรับใช้ที่เขาพามาด้วยทั้งสองคนก็ยังดูภาพตรงหน้าทำให้ตะลึงงัน พวกเขาทำได้แค่เพียงยื้อเซียวรุ่ยไว้อย่างสุดแรง
“คะ คุณชาย! อย่าหุนหันพลันแล่นขอรับ!” หนึ่งหมื่นห้าพันชั่ง เด็กรับใช้ทั้งสองคนยังไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากขนาดนั้น
ซูหลีเป็นคนหัวแข็งได้ ทว่าคุณชายของพวกเขาจะเป็นเช่นนั้นมิได้!
ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นของเซียวรุ่ยจ้องไปที่ซูหลีตาเขม็ง แผงอกขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง เขารู้สึกว่ากำลังถูกผู้อื่นเย้ยหยัน ความอัปยศนี้เป็นความรู้สึกที่เขามิเคยประสบมาก่อน
จะให้เขาอดทนได้อย่างไร
“คุณชายเซียว ข้าสาธิตให้เจ้าดูแล้ว หากต้องการเพิ่มราคา ก็ต้องเพิ่มราคาเช่นนี้!” นี่ยังไม่จบเรื่อง
ในบรรยากาศที่เงียบงัน ซูหลีหันศีรษะมองไปทางเซียวรุ่ยปราดหนึ่ง ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้ม
“เจ้า!” เมื่อเอ่ยจบ สีหน้าของเซียวรุ่ยพลันเปลี่ยนไปถนัดตา ความรู้สึกอับอายขายหน้าเพิ่มมากขึ้นหลายพันเท่า ทำให้เขาเกิดความรู้สึกราวกับถูกคนเปลื้องผ้าออกที่นี่
สายตาของคนที่อยู่โดยรอบคล้ายกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่มิปาน!
“หวังหมัวมัว ดูเหมือนว่าคุณชายเซียวจะเพิ่มราคาไม่ไหวแล้ว ช่างเถอะ!” ซูหลีมองเขาอยู่นาน ครั้นชำเลืองเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเขา นางพลันยกมุมปากขึ้นและแย้มยิ้มอย่างสบายใจ
รอยยิ้มนี้พลันจุดไฟโทสะในใจของเซียวรุ่ยอย่างฉับพลัน
ทำให้เซียวรุ่ยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น!
“สองหมื่นชั่ง!” หวังหมัวมัวยังไม่ทันได้ตอบกลับ เซียวรุ่ยพลันตะโกนเอ่ยประโยคนี้ขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
“คุณชาย!” เด็กรับใช้ทั้งสองที่ยื้อเซียวรุ่ยไว้อยู่เห็นเช่นนี้จึงตกใจ แข้งขาอ่อนแรงและทรุดตัวลงไปคุกเข่าให้กับเซียวรุ่ย
“คุณชายโปรดใคร่ครวญให้ดีเถิด! หากนายท่านทราบเรื่องนี้แล้วล่ะก็ ข้าน้อย…!” เด็กรับใช้คนหนึ่งร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“ถอยไป!” ทว่าเวลานี้เซียวรุ่ยไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ในสายตาเขาในเวลานี้เพียงมองเห็นซูหลีเท่านั้น อีกทั้งบนใบหน้าของซูหลียังมีรอยยิ้มที่ดูแคลนประดับไว้อยู่
เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ของสกุลเซียว ยามนี้เขาถูกคนดูแคลนเช่นนี้รึ
ซูหลีคิดจะเหยียดหยามเขาหรือ!? ฝันไปเสียเถอะ!
“โอ้ คุณชายเซียวช่างเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกโดยแท้ ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ” ซูหลีได้ยินดังนั้นจึงเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่เซียวรุ่ยได้ยินคำพูดที่ฟังดูเหมือนจะจริงใจก็ไม่เชิงประโยคนี้ของนาง สีหน้ากลับดูเป็นธรรมชาติขึ้นเล็กน้อย
ไม่ว่าซูหลีจะคิดอย่างไร เขาก็จะสู้อย่างสุดความสามารถ!
ทว่าใครก็คิดไม่ถึง เรื่องนี้…ยังไม่จบ!
“สามหมื่นชั่ง!” ซูหลียกมือขึ้นอีกครั้ง แย้มยิ้มอย่างงดงาม
ทุกคน…
“ตึง!” นี่ยังไม่สิ่งที่สะกิดใจที่สุด ที่สะกิดใจที่สุดก็คือ หลังจากที่เซียวรุ่ยได้ยินซูหลีเอ่ยคำสามคำนี้ออกมา ดวงตาทั้งสองพลันเหลือบขึ้นและเป็นลมจนล้มพับไป
“คุณชาย!” เด็กรับใช้ทั้งสองรีบเข้าไปประคองเขา สถานการณ์จึงเปลี่ยนเป็นวุ่นวายทันใด
“โอ้! นี่เป็นอะไรไปแล้ว เมื่อครู่ยังดีๆอยู่เลย ไยตอนนี้เป็นลมล้มพับไปได้” ซูหลียืนขึ้นอย่างตื่นตกใจและเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา