หลายคนทีล้อมรอบดูเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ กำลังตื่นเต้นดีใจกับฉากที่ดูระทึกขวัญ พวกเขาต่างก็กำลังสงสัยกันอยู่ ทำไมไม่เห็นกล้องถ่ายอยู่ในที่เกิดเหตุเลย ถ้าทีมงานถ่ายทำที่นี่ ทำไมถึงไม่มีผู้กำกับอยู่ด้วย หรือว่าซีรีย์เรื่องนี้ซ่อนกล้องถ่ายเอาไว้ ?
จู่ๆ ก็มีคนสองคนพุ่งพรวดออกมาจากประตูโดยไม่คาดคิด คำพูดของหญิงวัยกลางคนทำให้พวกเขาแปลกใจกันมาก พวกเขาจ้องมองไปที่เกิดเหตุ และก้มหน้ามองไปที่กองเลือดบนพื้น !
“ นี่มันกองเลือดหนิ ? ”
” นี่… นี่คือเลือดจริงๆ ! ”
“ ดูแขนเขาเร็ว แขนของเขายังมีเลือดไหลหยดอยู่ นี่มันของจริงเหรอ ? ”
“ ช่างสมเป็นชายชาตรีจริงๆ ! มันน่าตื่นเต้นมาก นี่คือผู้ชายทางเหนือของเรา ซะใจมากจริงๆ ! ”
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาโอบล้อมยืนดู ก้มดูเลือดบนพื้น ก็รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ทำเหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้อยู่ในที่เกิดเหตุ
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้คนส่วนใหญ่ที่รายล้อมดูก็รู้ว่านี่เป็นการต่อสู้จริง จึงหันหลังและเดินหลีกเลี่ยง บางคนถึงกับยกหูโทรศัพท์แจ้งความ !
หยางโปเหยียดมือซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บอ้อมไปข้างหลัง แต่ดวงตากลับจ้องเขม็งไปที่โจวเซี่ยงเฉิง “ พวกคุณอย่าเข้ามา ถ้าพวกคุณเข้ามาก็เท่ากับเข้ามาทำร้ายผม ! ”
หลินหลินมองไปที่หยางโป เมื่อเห็นว่ามือซ้ายของเขาดูเหมือนจะขยับได้ยากมาก เมื่อมองดูดีๆก็ถึงกับเห็นได้ว่าแขนของเขาเหมือนจะดูบิดเบี้ยว เธอจึงอดที่จะตาแดงไม่ได้ !
ฮัวชิงหยุนกอดแขนของหลินหลินไว้ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ จ้องมองทางด้านนี้และถึงกับทำอะไรไม่ถูกไปเลย
ตาหลิวอ้วนค่อยๆขยับตัวไปทางด้านข้างแล้วออกไปจากเรือนสี่ประสาน เขาเข้าไปขว้างหน้าคนที่เดินผ่านไปมาที่ต้องการจะเดินจากไป ” พี่ชาย ช่วยอะไรหน่อยนะ เดี๋ยวสักครู่มากับผม แค่พวกคุณตีคนที่ดาบหักได้ ต่อยโดนหนึ่งทีผมจ่ายให้หนึ่งพันหยวน ถ้าแทงโดน ผมจ่ายให้หนึ่งแสนเลย ! ”
“ แทงทีเดียวหนึ่งแสนหยวน ? ” ชายคนนี้ดูอายุราวๆยี่สิบปี สวมแว่นแลดูอ่อนโยน เขาตกใจทันทีเมื่อได้ยินตัวเลขที่ตาอ้วนหลิวพูดออกมา
ตาอ้วนหลิวพยักหน้า ” วางใจได้ ถ้าแทงตายผมจะรับผิดชอบเอง ! ”
“ ไม่ต้อง ไม่จำเป็น ! ” เมื่อได้ยินประโยคที่ตาอ้วนหลิวพูดเสริม ชายหนุ่มก็โบกมือและปฏิเสธไปทันที !
“ ถ้าแทงแล้วไม่ตาย แผลละแสน สองแผลก็สามแสน ถ้าสามแผลห้าแสน ! หากแทงโดนสี่แผล ล้านหนึ่ง ! ” ตาอ้วนหลิวเพิ่มตัวเลือกในการเจรจาทันที
ชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์อย่างตื่นเต้นดูเหมือนจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาจึงหันหลังและเดินเข้ามา “ ผมขอเข้าร่วมด้วย ถ้าพวกเราหลายคนต่างก็แทงโดน เอามารวมกันได้หรือเปล่า ? ”
“ ได้ ! ” ตาอ้วนหลิวพูดด้วยความตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ตาอ้วนหลิวหันกลับมาและกำลังจะกลับไปหยิบมีด คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างได้ดึงมีดออกมาจากตัวหลายเล่มรอแล้ว ! “ พี่ๆน้องๆ สู้ๆพวกเรา อย่าแทงตรงจุดสำคัญ พยายามแทงไปที่ต้นขาและก้น แทงเข้าไปหลายๆครั้ง แล้วพวกเรามาแบ่งให้เท่าๆกัน ! ”
พอพูดจบ เขาก็ชายตามองไปที่ตาอ้วนหลิวอีกครั้ง ” ถ้าแทงโดนสิบครั้งล่ะ ”
“ สิบล้าน ! ” ตาอ้วนหลิวพูดอย่างมุ่งมั่นและเด็ดขาด.novel-lucky.
เหมือนมีแสงสว่างรออยู่ตรงหน้าทุกคน ดวงตาลุกวาวเปล่งประกาย แต่พวกเขาทำเป็นเพิกเฉย จากนั้นก็ได้ยินชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างตะโกนเสียงดัง “ พี่น้องทุกท่านตามผมมา ! ”
ชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างพุ่งพรวดออกไป อีกสามคนที่เหลือก็เพิ่งจะวิ่งตามมาได้สองก้าว
จู่ๆก็หยุดชะงัก ทิ้งมีดในมือและหันหลังวิ่งไปนอกซอยทันที !
ชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างตะโกนเสียงอันดังโดยที่ไม่ทันได้สังเกตเห็นสถานการณ์ทางด้านหลังเลย เขายกมีดขึ้น และฟันไปทางโจวเซี่ยงเฉิง !
ที่ชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างเห็นการต่อสู้ระหว่างหยางโปทั้งสองคนเมื่อสักครู่ เขารู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น แค่รวดเร็วเท่านั้น นั่นเป็นเพราะในหัวของเขามีแต่ธนบัตรจำนวนมากที่แวบเข้ามา แทงโดนทีหนึ่งแสนหนึ่ง แทงสิบครั้ง สิบล้าน !
ไหนเลยจะคิดถึงว่า แค่โจวเซี่ยงเฉิงหันกลับมาถีบไปแค่ครั้งเดียว ชายหนุ่มทรงผมรองทรงสูงเปิดข้างหักหลบไปด้านข้าง เขาที่คิดว่าคงสามารถหลีกเลี่ยงการถีบนี้ไปได้ ยังไม่ทันได้ตอบโต้ ก็รู้สึกถูกโจมตีอย่างรุนแรง เขาจึงปลิวไปทางด้านหลังทันที !
หยางโปใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ โจมตีเข้ามา เขาพุ่งตัวเข้ามาพร้อมกับกระบี่หยกในมือ
โจวเซี่ยงเฉิงตอบสนองกลับอย่างรวดเร็ว หันกลับไปรับมือกับหยางโปทันที
ทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้ง
ตาหลิวอ้วนมองไปที่ชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างที่ตัวลอยละล่องกลับมา ก็รีบหักหลบไปทางด้านข้างทันที เขาเห็นชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างล้มกระแทกลงกับพื้น ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เขาคิดออกมาได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่ามันยังจะล้มเหลวอีก
หลินหลินและฮัวชิงหยุนดูการต่อสู้ของพวกเขาอย่างกังวลใจมาก
ไม่นานหยางโปก็รู้สึกได้ถึงเจตนารมณ์ของกระบี่ในจุดตันเถียนอีกครั้ง เขาเหลือบไปมอง
โจวเซี่ยงเฉิง แสยะยิ้มเล็กน้อย จากนั้นแสงสีเงินก็พุ่งออกมา
ดูเหมือนว่าโจวเซี่ยงเฉิงจะเตรียมพร้อมตั้งรับไว้แล้ว เขาดึงจี้หยกออกจากเอวและสกัดกั้นไว้ที่หน้าอก เมื่อแสงสีเงินและจี้หยกเข้ามาปะทะกัน ก็เกิดเสียงปะทะดัง “ เพลี้ย ” โจวเซี่ยงเฉิงกุมหน้าอก และถอยไปทางด้านหลัง !
โจวเซี่ยงเฉิงเหลือบมองหยางโป หันหลังและจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว
หยางโปกลับไม่ได้ไล่ตามคู่ต่อสู้ไป เขามองตามหลังของคู่ต่อสู้ที่หนีไป ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นร่างกายก็ค่อยๆอ่อนแรงและทรุดลง เขาอดไม่ได้ที่จะย่อตัวนั่งลงบนขั้นบันได !
หลินหลินและฮัวชิงหยุนรีบวิ่งเข้ามาประคองตัวหยางโปไว้ และคิดที่จะช่วยประคองเขากลับเข้าไป
หยางโปยกมือขึ้นห้าม “ ขอผมนั่งสักพักก่อน ! ”
ตาอ้วนหลิววิ่งกลับมาและมองดูท่าทางของหยางโป โดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง เขาตกใจมาก เดิมทีเขาคิดว่าชายหนุ่มผมรองทรงสูงเปิดข้างเมื่อสักครู่จะสามารถทนได้นานกว่านี้ คิดไม่ถึงว่าจะใช้การไม่ได้เลย !
“ นี่จะทำไงดี ? ทำไมชายคนนั้นจู่ๆถึงโผล่มาหาลูก เสี่ยวโป บอกคุณปู่ของลูกหน่อยไหม ให้หาบอดี้การ์ดมาเพิ่มให้อีกสองสามคน สภาพลูกแบบนี้ จะให้วางใจได้ยังไง ? ” หลินหลินอดที่จะพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
หยางโปนั่งบนขั้นบันได รู้สึกว่าทั่วทั้งตัวไม่ได้เจ็บปวด แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย แต่การต่อสู้ครั้งนี้ก็กินพลังทั้งหมดของเขาไป ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าตัวของเขากำลังแตกสลายและไม่สามารถรวบรวมพลังออกมาได้ !
โดยเฉพาะการโจมตีครั้งสุดท้าย เจตนารมณ์ของกระบี่ทรงพลังมาก แต่ก็ใช้พลังไปจำนวนมากเช่นกัน หยางโปหยิบกระบี่หยกขึ้นมาและดูดซับพลังบางส่วนที่เหลืออยู่ในนั้น นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันของขั้นวรยุทธ์ที่แตกต่างกัน มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต่อสู้ด้วยได้
หยางโปยื่นแขนออกมาขอให้หลินหลินและฮัวชิงหยุนช่วยพยุงเขากลับไปที่ห้อง หยางโปนำกระบี่หยกมาฝึกฝนอย่างระมัดระวังเพื่อฟื้นฟูพละกำลังกลับมา
หลินหลินครุ่นคิดไปมา แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะโทรพูดคุยกับชุยซื่อหยวนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ชุยซื่อหยวนตกใจมาก เขากำลังประชุมอยู่ เขาจึงรีบโทรหาชุยอี้ผิงทันที ชุยอี้ผิงกำลังอยู่กับพ่อของเขาพอดี จากนั้นเขาก็รีบโทรหาชายชราและรีบไปที่เรือนสี่ประสานทันที
ทันใดนั้น คนจากครอบครัวชุยก็รวมตัวกันมาที่เรือนสี่ประสานของหยางโป พอมาถึงนอกประตูใหญ่ ชุยอี้ผิงก็เห็นตำรวจกำลังตรวจพิสูจน์เลือดบนพื้น ก็อดที่จะหน้าถอดสีไม่ได้ เขาหันกลับมามองชายชรา ” คุณปู่ ไม่ต้องกังวล เสี่ยวโปน่ะคนดีผีคุ้ม คนทำดีย่อมไม่มีภัยกับตัวเอง ต้องไม่เป็นอะไรแน่ ! ”
ชายชราสีหน้าเคร่งขรึมเงียบไม่พูดอะไรสักคำ เขามองไปที่คราบเลือดบนพื้นและมองไปที่ประตูบ้านของหยางโปอีกครั้ง เขาจึงอดที่จะชักสีหน้าอย่างครุ่นคิดไม่ได้ เพราะเขาเห็นว่าบนประตูใหญ่บ้านของหยางโป มีรอยฝังลึกจมลงไป มันเหมือนกับรอยชกจากกำปั้นของใครสักคน !