ตอนที่ 275 เปิดเผยของขวัญที่ถูกขโมย + ตอนที่ 276 หลังบ้านไม่สงบสุข แผ่นดินจะสงบสุขได้อย่างไร โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 275 เปิดเผยของขวัญที่ถูกขโมย
เจ้าอิงหนานเคยเรียนวาดรูปตอนเด็ก ๆ แต่เธอไม่รักสิ่งนี้ เรียนไม่ถึงครึ่งปีก็เลิกเรียน จึงเปลี่ยนมาเรียนเปียโน เธอยังคงมีสายตาเฉียบคม เพียงแค่มองปราดเดียวก็ดูออกถึงแปลกใหม่ของภาพวาดนี้ ถึงแม้การใช้ดินสอยังอ่อนหัด ทว่าแนวความคิดใหม่และจิตวิญญาณที่อยู่ในนั้นกลับเต็มไปด้วยความล้ำค่า จิตรกรบางคนวาดมาหลายสิบปี ก็ยังวาดภาพที่มีจิตวิญญาณออกมาไม่ได้เลย!
“นี่คือภาพวาดที่เหมยเหมยวาด? อุ๊ยตาย ลูกสาวบุญธรรมของฉัน ทำไมถึงสุดยอดอย่างนี้?”
เจ้าอิงหนานกอดอู่เหมยและหอมหลายฟอด ดูออกว่าเธอมีความสุขกับอู่เหมยจริง ๆ พ่อสยงก็มีสีหน้าเช่นนั้นเหมือนกัน ยิ่งมองอู่เหมยด้วยสายตาที่ทึ่ง ตอนแรกคิดว่าที่สยงมู่มู่พูดว่าอู่เหมยมีพรสวรรค์ในการวาดรูปเป็นเรื่องสนุก แต่ดูแล้วตอนนี้ เขามองคนไม่ออกจริง ๆ
แต่พรสวรรค์ของอู่เหมยไม่ธรรมดาเลยนะ!
“แม่บุญธรรม ภาพวาดนี้เสียหายแล้ว หนูค่อยวาดให้ใหม่นะ?”
อู่เหมยอายมาก ภาพวาดยับยู่ยี่จนเป็นผักเหี่ยว ดูยังไงก็รู้สึกไม่สบายตา
เจ้าอิงหนานสังเกตเห็นความเสียหายของภาพอยู่แล้ว เธอกำลังรอให้อู่เหมยพูดขึ้นมาเอง เธอก็เลยถือโอกาสถามว่า เกิดอะไรขึ้น สยงมู่มู่แย่งพูดก่อน พูดออกมาหมดทั้งเรื่องสร้อยข้อมือเงินโดนขโมย และเรื่องภาพวาดที่ถูกทำลาย เขาปิดบังเรื่องฉิวฉิวไว้ พูดเพียงว่าพวกเขาไปหาเจอเองที่ด้านล่าง
“มิน่า พวกเธอไปหยิบเหล้านานขนาดนี้ แต่มันน่าแปลกจริง ๆ ใครจะขโมยเครื่องประดับเงินที่ไร้ค่า?” เจ้าอิงหนานพูดกับตัวเอง แต่ในใจกลับยิ่งรู้สึกพอใจอู่เหมย
แต่ไม่พูดถึงเครื่องประดับเงินว่ามีค่าหรือไม่ มีแค่ความตั้งใจของยายตัวดีก็มีค่ายิ่งกว่าทองคำแล้ว และยังมีภาพวาดที่ทองพันตำลึงก็หาซื้อไม่ได้ แสดงถึงความจริงใจของอู่เหมยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ท่านผู้เฒ่าเหยียนก็เอารับภาพวาดมาดูอย่างละเอียด ในหัวคิดตลอด แต่เห็นเขาพอใจกับภาพวาดนี้อย่างยิ่ง ยิ่งเพิ่มความชอบต่ออู่เหมยมากขึ้น เขาพูดกับอู่เจิ้งซือ “ภาพวาดนี้ของเหมยเหมยยอดเยี่ยม หากมีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงให้คำแนะนำสักหน่อย ไม่แน่ต่อไปอาจจะมีแกลอรี่เป็นของตัวเอง!”
ตัวท่านผู้เฒ่าเองก็เก่งเรื่องการวาดภาพและระบายสี คำพูดของเขามีน้ำหนักมากกว่าเจ้าอิงหนาน อู่เจิ้งซือประหลาดใจมาก แต่เขาครุ่นคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการเรียนวาดรูปของอู่เหมย มีแกลอรี่เป็นของตัวเองช่างล่อใจเขาจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการเขียนพู่กันหรือวาดภาพ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือคุณไม่มีสไตล์ของตัวเอง ซึ่งสามารถเลียนแบบผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงในระยะแรก และสามารถเลียนแบบพวกเขามาเป็นเวลานาน แต่คุณต้องมีสไตล์ของตัวเอง มิเช่นนั้นก็จะแสดงความโดดเด่นออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงเก็บความยิ่งใหญ่เกรียงไกรเอาไว้
อู๋เหม่ยมีสไตล์ของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยซึ่งดีกว่าหลาย ๆ คน หากฝึกฝนดี ๆ การมีชื่อเสียงโด่งดังก็อาจเป็นไปได้!
หากเป็นเช่นนี้ เขายิ่งมีเกียรติมากยิ่งขึ้น!
แม้ว่าอู่เจิ้งซือจะตื่นเต้น
แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมา ตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ ของที่วางไว้ในบ้าน ปล่อยให้คนมาขโยไป นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
“เหมยเหมย ลูกแน่ใจแล้วเหรอว่าของวางอยู่ในลิ้นชัก? อู่เจิ้งซือถาม
อู่เหมยพยักหน้าอย่างมั่นใจ สยงมู่มู่ก็ช่วยเสริม “ผมเห็นเหมยเหมยเอาของวาง พวกคุณดูนี่ นี่คือกำไลมือที่เหมยเหมยให้ผม สวยไหม?
เขาแกว่งข้อมือไปมา กำไลมือที่เปล่งประกาย ลายก็ลึกลับ ไม่นานก็ดึงดูดสายตาของเจ้าอิงหนาน เธอดึงมือลูกชายไว้ แล้วก็ถอดกำไลออกมา ใส่ลงมือของตัวเอง
“แม่ใส่สวยกว่าลูกใส่นะ แม่เอาแล้ว!” เจ้าอิงหนานแกว่งมือด้วยความพอใจ มันทันสมัยกว่าสร้อยทองที่เธอสวมใส่ชั่วคราวตั้งเยอะ”
“พ่อ ยังไม่ดูภรรยาของพ่ออีก จนกลายเป็นโจรแล้ว แม่ คืนให้ผมนะ ที่เหมยเหมยให้แม่ สวยกว่าของผมอีก แย่งของจากเด็ก แม่ไม่อายเหรอ!
สยงมู่มู่แย่งคืนหลายครั้งก็แย่งไม่ได้ จ้องแม่ของตัวเองด้วยความเจ็บแค้น
……………………………………………………………………..
ตอนที่ 276 หลังบ้านไม่สงบสุข แผ่นดินจะสงบสุขได้อย่างไร
พ่อสยงยืนหยัดที่จะเข้าข้างภรรยา โดยไม่สนใจสายตาอันเศร้าสร้อยของลูกชายแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้เขาจะคีบซี่โครงหมูเป็นการปลอบใจ ช้าเร็วลูกชายก็เป็นของผู้หญิงอื่น แต่ภรรยาเป็นของเขาตลอดชีวิต คนโง่เขลาต่างก็รู้ว่าต้องเลือกอย่างไร!
เจ้าอิงหนานได้ยินว่าเครื่องประดับเงินที่อู่เหมยเตรียมไว้ให้เธอสวยกว่านี้ แต่ก็รู้สึกเสียดาย เธอจึงกล่าวตำหนิ “พรุ่งนี้ฉันต้องไปแจ้งผู้อำนวยการ ความสงบเรียบร้อยของโรงเรียนนับวันยิ่งแย่ ของวางไว้ในบ้านก็หายได้”
สยงมู่มู่ทำเสียง ฮึ อย่างอารมณ์เสีย อ้าปากจะพูดว่าคนในบ้านเป็นขโมย อู่เหมยเอาข้อศอกกระทุ้งเขา เขาเจ็บจนเกือบจะแทบกลั้นโมโหไม่ไหว จ้องมองคนที่ทำให้เขาเจ็บด้วยสายตาดุร้าย อู่เหมยพูดเตือนเสียงกระซิบ “พ่อของฉันรักศักดิ์ศรีที่สุด เธออย่าพูดอย่างนี้ต่อหน้าเขา”
“ฮึ!”
สยงมู่มู่สะบัดหน้าหนี คลึงด้านหลังเอวด้วยหน้าตาบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด ดูแล้วยายตัวดีดูผอมและไม่แข็งแรง แต่พอได้ตีคน ก็เจ็บจริง ๆ
ไม่จำเป็นต้องสยงมู่มู่เตือน คนที่นั่งอยู่ต่างก็นึกถึงเรื่องนี้ เครื่องประดับเงินที่ไม่มีค่า แต่ตระกูลอู่อยู่ชั้นสอง หัวขโมยที่ไหนจะมาเสี่ยงขโมยเครื่องประดับเงินที่ราคาอันน้อยนิดนี้?
จะว่าไปแล้วตระกูลอู่มีคนอยู่บ้าน อยู่กันตั้งสองคนจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่เห็นว่ามีหัวขโมย?
เห็นประจักษ์ชัดแจ้งว่าเรื่องนี้เป็นคนในบ้านทำ ถ้าไม่ใช่เหอปี้อวิ๋นก็เป็นอู่เยวี่ย แต่ว่าพวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเหอปี้อวิ๋น และก็รู้สึกว่ามีเพียงผู้หญิงที่หยาบคายเท่านั้น จึงจะสามารถทำสิ่งนี้ได้!
อู่เจิ้งซือก็นึกถึงเรื่องนี้ สีหน้าเขาดูผิดปกติ บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที พ่อสยงก็เริ่มทำให้บรรยากาศคลี่คลายอีกครั้ง ยังดีที่กินข้าวเกือบจะเสร็จแล้ว ไม่นานงานเลี้ยงก็ต้องเลิกแล้ว
อาหารบนโต๊ะกินหมดแล้ว เหล้าเหลือเยอะ เจ้าอิงหนานให้สยงมู่ม่เอาเหล้าที่กินไม่หมดคืนตระกูลอู่ เธอไม่เอาเปรียบคนอื่น เหอปี้อวิ๋นผู้หญิงคนนี้จะได้ไม่พูดจาไร้สาระข้างนอก
ท่านผู้เฒ่าเหยียนดื่มเยอะไปหน่อย เหยียนหมิงซุ่นประคองเขาเดินไปอย่างช้า ๆ ท่านผู้เฒ่าเหยียนมองอู่เจิ้งซือที่อยู่ด้านข้าง เขาคันปาก อดไม่ได้จึงกล่าวว่า “เสี่ยวอู่ ดังคำกล่าวโบราณที่ว่า กวาดบ้านกวาดช่องไม่ได้ แผ่นดินจะสงบสุขได้อย่างไร? ก็เหมือนกับบ้านนี้ที่ไม่สงบสุข บางเรื่อง คุณก็ต้องจัดการนะ!
อู่เจิ้งซืออับอายจนหน้าแดงก่ำ แม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจกับการชอบวุ่นวายของท่านผู้เฒ่า แต่เอือมระอากับเหอปี้อวิ๋น ตัวการที่ก่อกรรมทำชั่วหลายอย่างมากกว่า คิดเพียงว่าหลังจากกลับไปแล้วต้องอบรมสั่งสอนผู้หญิงคนนี้สักหน่อย
อู่เหมยไม่พูดอะไรมาโดยตลอด เธอกลับจิตใจเบิกบานเป็นอย่างยิ่ง แค่อยากจะไปดูโชว์ที่ยอดเยี่ยมของเหอปี้อวิ๋นหลังจากกลับไปแล้ว อู่เจิ้งซือตาแดง ตั้งแต่แต่ไรมาไม่เคยเห็นเขาโกรธมากขนาดนี้ เหอปี้อวิ๋นซวยแล้ว !
สยงมู่มู่ วางขวดอู่เหลียงเย่ที่เหลือและหงหนี่เอ๋อร์หนึ่งไหลง หันไปหาอู่เหมยแล้วทำหน้าทะเล้น พูดไม่ออกเสียง : “พรุ่งนี้เช้าเล่าให้ฉันฟังด้วยนะ!”
อู่เหมยถมึงตาใส่เขา สยงมู่มู่หัวเราะคิกคัก หากเป็นไปได้ เขาอยากจะอยู่ต่อดูสด ๆ !
เหอปี้อวิ๋นเห็นว่าคืนเหล้ามาครึ่งเดียว รู้สึกดีใจนิดหน่อย แต่ก็ยังเสียดาย เหล้าเหมาไถที่ดีที่สุดหมดแล้ว เหล้าเหมาไถขวดหนึ่งราคาตั้งแปดหยวนกว่านะ!
“เหล่าอู่ คุณทำไมถึงได้ดื่มเยอะอย่างนี้? เจ้าอิงหนานก็เหลือเกิน ไม่ใช่เหล้าของบ้านตัวเองก็ไม่เสียดาย ดื่มจนหมดเกลี้ยง!
เหอปี้อวิ๋น ประคองอู่เจิ้งซือ เธอทนไม่ไหวจึงบ่นขึ้นมา เหล้าเหมาไถสองขวด อู่เหลียงเย่หนึ่งขวด บาดแผลทางใจที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นใหญ่จริง ๆ แม้กระทั่งก็ยังดูสีหน้าที่ผิดปกติของอู่เจิ้งซือไม่ออก
ทีแรกอู่เจิ้งซืออยากจะเรียกเหอปี้อวิ๋นไปที่ห้องนอนแล้วค่อยอบรมสั่งสอน แต่ความโมโหที่ข่มเอาไว้นั้น ก็ถูกเหอปี้อวิ๋นทำให้เดือดดาลขึ้นมาทันที เขาวิ่งไปข้างบนอย่างเร็ว บวกกับเหล้าที่ทำให้มีความกล้ามากขึ้น และยังมีคำพูดของท่านผู้เฒ่าเหยียน และสายตาเห็นอกเห็นใจของเจ้าอิงหนานพวกเขา กระตุ้นความโกรธอู่เจิ้งซือไม่หยุด
…………………………………………………………………..