ตอนที่ 457 งานเลี้ยงลอบทำร้าย / ตอนที่ 458 ใช้หมดทุกวิธี

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 457 งานเลี้ยงลอบทำร้าย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่พูดอะไร ผงกหัวให้พวกเขาสองสามทีเป็นการทักทาย

 

 

สวีรั่วชีพึงพอใจในการแสดงออกของซย่าเสี่ยวมั่วมาก เธอจึงทำอะไรโจ่งแจ้งมากไม่ได้ แต่ความจริงซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่คุ้นเคยกับพวกเขาอยู่แล้ว จะแสดงออกอย่างเย็นชานั้นก็เป็นเรื่องปกติ

 

 

ตอนที่ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็เข้าไปเปลี่ยนในห้องเดียวกันเลย สวีรั่วชีกระซิบเสียงเบาบอกเล่าถึงสถานะของคนพวกนั้น ก่อนจะช่วยซย่าเสี่ยวมั่วสวมชุดขี่ม้า

 

 

เมื่อที่รัดเอวคลายลง ซย่าเสี่ยวมั่วก็แทบจะล้ม เพราะว่าสายรัดเอวบีบเธออยู่ ดังนั้นเมื่อกี้เธอจึงไม่ได้พูดออกไป เธอมองสวีรั่วชีอย่างเคียดแค้น เพียงแต่สวีรั่วชีไม่สนใจสายตาของเธอ

 

 

“เสร็จแล้วๆ” สวีรั่วชีรูดซิปเรียบร้อยแล้วก็ตบบ่าเธอเบาๆ ให้เธอหมุนตัวกลับมา

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วปล่อยให้เธอมองตนต่อไป ขอไว้อาลัยให้กับขาที่เต็มไปด้วยบาดแผลของตัวเองล่วงหน้าเลยแล้วกัน

 

 

“ทำไมวันนี้เธอถึงสวยในสายตาฉันจัง” สวีรั่วชีมองเธอในชุดขี่ม้าอย่างพึงพอใจ ขนาดสวมหมวกยังดูทะมัดทะแมงและงดงามขนาดนี้

 

 

“ให้มันน้อยๆ หน่อย” มีแค่ตอนที่จะใช้งานตนเท่านั้นแหละที่สวีรั่วชีจะเห็นเธอสวย ในเวลาอื่นไม่แม้แต่จะมองธอด้วยซ้ำ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วก็รู้ตัวเองดี

 

 

สวีรั่วชีสวมชุดขี่ม้าเสร็จก็พาดแขนไปบนตัวของซย่าเสี่ยวมั่วแล้วออดอ้อน “เธออย่าทำแบบนี้สิ ฉันชอบเธอที่สุดเลยนะ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเปลี่ยนเสียงเป็นขันที แล้วเอ่ยเสียงร้ายทันที “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะพูดแบบนี้ต่อหน้า

 

 

สวีอันหรานได้”

 

 

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้” สวีรั่วชีตวัดมือไปด้านหลังแล้วรูดซิปตัวเองขึ้น ก่อนจะคล้องแขนเธอเดินออกมา “วันนี้ฉันเหลือแค่เธอแล้ว เธอต้องเป็นที่พึ่งให้ฉัน”

 

 

ผู้หญิงแต่งงานแล้วขี้ขลาดแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ ซย่าเสี่ยวมั่วงุนงง ถ้ารู้แต่แรกว่าสวีรั่วชีแต่งงานแล้วจะเป็นแบบนี้ ตอนแรกเธอคงจะกอดเขาไว้ไม่ปล่อยแน่นอน

 

 

“ฉันเป็นห่วงเธอมากกว่า ครั้งนี้ไม่มีสวีอันหรานที่จะโผล่ออกมาช่วยเธออย่างกระทันหันแล้วนะ” เมื่อกี้ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นศัตรูของเธอที่ปะปนอยู่ในคนกลุ่มนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

“คราวนี้ก็ไม่มีเหยียนเค่อที่จะโผล่มาอย่างกระทันหันเหมือนกัน” สวีรั่วชีเบ้ปาก

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วถลึงตาใส่เธอ “ต้องเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีศักดิ์ศรี!”

 

 

สวีรั่วชีกุมขมับ นี่เป็นคำพูดที่เธอเคยพูดไว้เมื่อก่อนชัดๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นซย่าเสี่ยวมั่วที่เอามาพูดซ้ำกับเธออีกครั้ง

 

 

เมื่อทั้งคู่กลับไปอีกครั้งก็เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย หญิงสาวคนเดิมเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเธอแล้วพูดคุยสัพเพเหระกับสวีรั่วชีสักพัก ประมาณว่า สวีอันหรานเป็นอย่างไรบ้าง แต่งงานแล้วเป็นอย่างไรบ้าง อีกเดี๋ยวจะเลือกม้าแบบไหน พูดเหน็บแนมเธอเป็นชุด แต่สวีรั่วชีก็ตอบกลับไปส่งๆ เสียงเรียบ ไม่วายพูดค่อนแคะกลับไปอีกด้วย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วยืนอยู่ข้างๆ เป็นตัวประกอบ สวีรั่วชีเพิ่งจะแนะนำให้เธอรู้จักว่านี่เป็นลูกสาวของบ้านตระกูลเฉิง เป็นน้องสาวของผู้ชายที่หลี่หมิงฉวีสนิทด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่อยากจะเสวนากับผู้หญิงคนนี้เลยสักคำ

 

 

ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้สวีรั่วชีทำตัวเหมือนคนโง่เง่า แต่ความจริงนิสัยยังเหมือนเดิมทุกประการ ปากร้ายแถมยังใจร้ายอีก ไม่ต้องให้เธอช่วยเลย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วอาศัยช่วงที่พวกเธอพูดคุยกันเหลือบมองรอบข้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้ตาฝาดมองคนผิดไป ความไม่ชอบใจต่ออการขี่ม้าในครั้งนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นรู้สึกถึงความขัดแย้ง

 

 

สวีรั่วชีรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของซย่าเสี่ยวมั่วได้อย่างรวดเร็ว จึงกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้ “ไปเร็ว ไปเลือกม้ากัน”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเขยิบเข้าไปพูดกระซิบข้างหูเธอ “เซียวอู๋อี้”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองไปรอบๆ กลับรู้สึกว่าการนัดพบปะครั้งนี้ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่สวีรั่วชี แต่เป็นตัวเธอเองนี่ล่ะ

 

 

สวีรั่วชีเห็นตั้งนานแล้ว เพียงแต่เธอไม่สนใจ เธอบีบข้อนิ้วของซย่าเสี่ยวมั่วเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปลอบ “ไม่ต้องไปสนใจ”

 

 

“อืม” เดิมทีซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่สนใจอยู่แล้ว เดินตามสวีรั่วชีไปเลือกม้าที่โรงม้า

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 458 ใช้หมดทุกวิธี

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่หาเรื่องยุ่งยากใส่ตัว แต่เรื่องยุ่งยากกลับพุ่งเข้ามาหาเธอเอง

 

 

ตอนที่ทั้งคู่จูงมาเดินออกมากเจอกับเซียวอู๋อี้พอดี ซย่าเสี่ยวมั่วอยากจะเดินผ่านไปเลย แต่อีกฝ่ายกลับยืนปิดทางไว้ไม่ยอมให้เธอเดินผ่านไป

 

 

“คุณซย่าช่วงนี้สบายดีนะ?”

 

 

“ไม่เท่าเธอหรอก” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากแม้แต่จะพูดคุยตามมารยาท อยากจะอยู่ให้ห่างจากเธอเท่านั้น

 

 

เซียวอู๋อี้แสร้งทำเป็นปิดปากอย่างตกใจ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ หรือว่าประธานเหยียน…”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วขมวดคิ้ว ไม่อยากเล่นสงครามประสาทกับเธอ ม้วนเชือกจูงม้าไว้กับมือก่อนจะเอ่ยเสียดสี “ทำไม ผู้ชายของเธอไม่ต้องการเธอแล้วหรือไง ถึงคิดจะปีนเตียงเหยียนเค่อน่ะ”

 

 

เซียวอู๋อี้นึกไม่ถึงว่าเธอจะพูดจี้ใจดำเธอเช่นนี้ ก่อนจะแค่นเสียงเอ่ยเสียงคุกรุ่น “ซย่าเสี่ยวมั่ว วันนี้ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าอะไรที่เรียกว่า ‘การต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา’”

 

 

“ขอบคุณนะ แต่คนที่ต้องรับผิดชอบก็มีแค่เธอนี่แหละ” ซย่าเสี่ยวมั่วจูงม้าเดินออกจากคอกทันที โดยไม่แม้แต่จะสนใจว่าจะชนเธอหรือไม่

 

 

เซียวอู๋อี้โดนอานม้าจนตัวเอียงไปติดกับรั้วคอกม้า ด้วยความที่หลังม้าบัง ทำให้มองไม่เห็น

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่จูงม้าอยู่อีกฝั่ง

 

 

สวีรั่วชีมองซย่าเสี่ยวมั่วที่แสดงออกอย่างผิดปกติด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนที่ม้าของ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วจะเดินเข้าไป เธอก็เอ่ยเตือนเซียวอู๋อี้ “อย่าคิดจะทำอะไรโง่ๆ ล่ะ โดยเฉพาะในตอนที่ตัวเองเป็นเบี้ยล่างแบบนี้”

 

 

เซียวอู๋อี้กำหมัดแน่นแล้วจ้องตากับสวีรั่วชีอยู่นาน สุดท้ายสวีรั่วชีก็จูงม้าแล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า

 

 

เซียวอู๋อี้มองสองคนที่ยืนข้างกันอยู่รอบนอกของสนามแข่งแล้วก็ขบฟันแน่นอย่างไม่ยอมแพ้

 

 

เฉิงซินเห็นเธอยืนจ้องแผ่นหลังของสวีรั่วชีอยู่ ไม่ต้องคิดก็รู้ทันทีว่ายายนี่ประเมินตัวเองสูงเกินไปอีกแล้ว “อย่าโชว์โง่ การคว้าโอกาสไว้เป็นสิ่งที่คนฉลาดเขาทำกัน”

 

 

เซียวอู๋อี้ถูกความริษยาอันรุนแรงเข้าครอบงำ เธอไม่เห็นโอกาสที่เธอควรจะคว้าไว้ คิดเพียงแต่ว่าอยากจะให้ซย่าเสี่ยวมั่วหายไปจากโลกนี้ตลอดกาลเท่านั้น

 

 

เฉิงซินรู้จักกับเซียวอู๋อี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นเฉิงซินไปทำธุระแถวๆ ฮุยเถิง จึงเจอกับสวีรั่วชีที่กำลังจะไปหาซย่าเสี่ยวมั่ว แต่ตอนนั้นสวีรั่วชีไม่เห็นเธอ จากนั้นก็เห็นสวีรั่วชีคุยกับเซียวอู๋อี้ ดังนั้นเธอจึงเข้าไปหาเซียวอู๋อี้ ทั้งคู่จึงได้มาร่วมมือกันในที่สุด

 

 

เป้าหมายของเฉิงซินคือสวีอันหราน เป้าหมายของเซียวอู๋อี้คือซย่าเสี่ยวมั่ว อย่างไรเสียสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อสวีรั่วชีก็ไม่เป็นผลดีต่อเธอด้วย เธอหวังเพียงว่าเซียวอู๋อี้จะไม่โง่ถึงขนาดเข้าไปประจันซึ่งๆ หน้า

 

 

“เข้าใจแล้ว”

 

 

เซียวอู๋อี้ไม่อยากจะทนแล้ว เฉิงซินเองก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะแกล้งเล่นละครกับ

 

 

สวีอันหรานก็เถอะ แต่เธอชอบสวีอันหรานจริงๆ ตอนแรกนึกว่าทั้งคู่จะคบกันไปได้ถึงตอนสุดท้าย แต่กลับโดนสวีรั่วชีที่โผล่ออกมากลางคันมาทำลายมันลงไป

 

 

“พวกเราก็เหมือนกันนั่นล่ะ ฉันไปทำร้ายเธอหรอก”

 

 

เซียวอู๋อี้พยักหน้า มองเธอเดินเข้าสนามไปทางซย่าเสี่ยวมั่วแล้วก็กระตุกยิ้มมุมปาก

 

 

สิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ที่สุดบนโลกใบนี้ไม่ใช่คำหลอกลวงของผู้ชายยามที่ได้ร่วมรักกัน แต่เป็นคำพูดที่ผู้หญิงพูดกับเพื่อนเพศเดียวกันว่าจะไม่หักหลังต่างหาก อย่างไรเสียตอนนั้นเธอก็พร่ำบอกซย่าเสี่ยวมั่วว่าจะไม่หักหลังกัน แต่สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง

 

 

เฉิงซินเป็นผู้หญิงโลกแคบ ถ้าเธอได้สวีอันหรานมาแล้วก็คงไม่สนใจว่าตนจะเป็นอย่างไรแน่นอน ท่าทางเธอคงต้องหาคนที่สามารถทำลายซย่าเสี่ยวมั่วได้ จะดีที่สุดถ้าเป็นคนที่มีความขัดแย้งโดยตรงกับ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วหรือไม่ก็เหยียนเค่อ เธอจะทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วเจ็บปวดเจียนตาย ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีอะไรก็ตาม