ตอนที่ 572 ขอบคุณที่ท่านให้เวลาข้า / ตอนที่ 573 ความคิดนี้ไม่ดีหรือ

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 572 ขอบคุณที่ท่านให้เวลาข้า

 

 

หลิงอวี้จื้ออารมณ์ดีขึ้นมาก เธอตบหน้าอกตัวเองรับประกัน

 

 

“เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าพอ อาจิ่น เจ้ากลับไปรอฟังข่าว สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าตอนนี้คือทำใจให้สบายบำรุงครรภ์ เรื่องนี้จะปล่อยให้ใครรู้ไม่ได้”

 

 

“ขอบใจนะ อวี้จื้อ”

 

 

“ขอบใจข้าทำไม เจ้าก็พูดเอง แม้จะไม่มีนี่อวิ๋น ข้าก็จะช่วยเจ้า”

 

 

หลิงอวี้จื้อมองท้องของจูจิ่น ได้แต่รู้สึกดีใจมาก จูจิ่นตั้งครรภ์ตอนนี้ จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมู่หรงนี่อวิ๋นกลับมาอีกแล้ว ขอเพียงแค่จูจิ่นอยากคลอด ต่อให้ต้องทุ่มสุดชีวิตจิตใจ เธอก็จะต้องรักษาเด็กคนนี้เอาไว้ให้ได้

 

 

จูจิ่นไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ตามมั่วชิงมา ให้มั่วชิงไปเตรียมหน้ากากมนุษย์ อยากได้คนที่ทำหน้ากากมนุษย์ได้อย่างเร็วที่สุด

 

 

เมื่อนึกได้ว่าเมินเซียวเหยี่ยนมาหลายวัน ตอนเย็น หลิงอวี้จื้อก็ตุ๋นซุปไก่เองแล้วเอาไปให้เซียวเหยี่ยน เธอไม่ถนัดทำของเช่นนี้ ซุปไก่นี้เธอตุ๋นจนทั้งมันทั้งเลี่ยน

 

 

เซียวเหยี่ยนเห็นเธอเข้ามา ก็เงยหน้า ยิ้มให้หลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้อเร่งฝีเท้า เอาถาดวางบนโต๊ะชา แล้วยกซุปไก่ออกมาอย่างระมัดระวัง เขินอายเล็กน้อยพูดว่า

 

 

“อาเหยี่ยน ซุปไก่นี้เลี่ยนไปหน่อย ท่านร่วมมือดื่มสักหน่อย ซุปไก่ที่ท่านเคยดื่มล้วนดูใสสดชื่น ข้าไม่เคยรู้เลยว่าในเนื้อไก่จะมันเยอะขนาดนี้”

 

 

“เจ้าตุ๋นเองหรือ”

 

 

“อื้ม”

 

 

“มือโดนลวกหรือไม่”

 

 

หลิงอวี้จื้อส่ายหน้าติด ๆ กัน

 

 

“ไม่เลย ไม่เลย ท่านชิมซุปไก่นี้ดูก่อนสิ”

 

 

เซียวเหยี่ยนย่อมไม่หักหลังความพากเพียรของหลิงอวี้จื้อ ถึงแม้จะกินยากเพียงใด เขาก็จะกิน

 

 

เซียวเหยี่ยนยกซุปไก่ขึ้นมาแล้วดื่ม เพิ่งดื่มไปได้คำเดียว ก็คายสิ่งที่อยู่ในปากออกมา เห็นเซียวเหยี่ยนใช้ผ้าเช็ดหน้ารับสิ่งนี้ออกมา หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกอับอายโดยสิ้นเชิง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผมเส้นหนึ่ง

 

 

หากเป็นคนอื่น คาดว่าคงถูกลากตัวออกไปประหารแล้ว หลิงอวี้จื้อกระอักกระอ่วนใจสุดขีด ไม่ง่ายกว่าจะได้ปรนนิบัตรเอาใจเขาสักครั้ง นึกไม่ถึงว่าสวรรค์จะทำให้เธอดูน่าเกลียดอีกแล้ว ผมนี่มันร่วงลงไปตอนไหนกัน ยาวขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นผมของเธอ

 

 

“อาเหยี่ยน คราวหน้าข้าจะต้องระวังให้ดีแน่นอน”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดขณะก้มหน้าไว้อาลัย

 

 

“ข้าชินนานแล้ว”

 

 

“ซุปนี้ไม่ต้องดื่มแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดพลางเตรียมจะยกซุปไป เซียวเหยี่ยนจับมือเธอไว้

 

 

“ไม่เป็นไร ข้าชอบดื่ม”

 

 

“มีผมท่านก็ยังจะดื่มอีกหรือ”

 

 

“ดึงออกมาก็เรียบร้อยแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้ออึ้ง ไหนบอกว่าเป็นคนบ้าความสะอาดไง หรือว่าตอนนี้โดนเธอรักษาจนหายแล้ว นึกไม่ถึงว่าเห็นผมแล้วจะนิ่งขนาดนี้ ดึงออกมาแล้วยังดื่มต่อได้ เซียวเหยี่ยนมีข้อยกเว้นให้เธอมากมาย

 

 

“อารมณ์ดีขึ้นแล้วหรือ”

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้า

 

 

“ข้าดีขึ้นมากแล้ว อาเหยี่ยน ขอโทษนะ หลายวันมานี้ข้าอารมณ์ไม่ดี ไม่สนใจท่านเลย พลอยมีผลกระทบต่อท่านไปด้วย”

 

 

หลายวันมานี้เซียวเหยี่ยนได้แต่อยู่เป็นเพื่อนหลิงอวี้จื้อเงียบ ๆ และไม่ได้พูดอะไรมากความ ประกอบกับตารางงานที่ยุ่งของเขา ทั้งหมดก็เป็นเหมือนอย่างที่เคย เขารู้ว่าต้องให้เวลาหลิงอวี้จื้อสักหน่อย ในเวลานี้พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ เหตุผลใครจะไม่เข้าใจ แต่การยอมรับว่าคน ๆ หนึ่งจากไปแล้วต้องอาศัยเวลา

 

 

“อวี้จื้อ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ ข้ารู้ว่าหลายวันมานี้เจ้าอารมณ์ไม่ดี เพียงแต่หวังว่าเจ้าจะสบายใจขึ้นเร็ว ๆ เห็นเจ้าหดหู่ไม่มีความสุขแล้ว ใจข้าก็เป็นทุกข์ยิ่งนัก”

 

 

หลิงอวี้จื้อยื่นมืออกไปโอบคอเซียวเหยี่ยนอย่างรักใคร่

 

 

“อาเหยี่ยน ขอบคุณนะที่ให้เวลาข้า”

 

 

เซียวเหยี่ยนลูบหัวหลิงอวี้จื้อ หากเธอหดหู่ไม่มีความสุขเช่นนี้ต่อไป เขาก็เตรียมจะพาหลิงอวี้จื้อออกไปพักที่อื่นสักระยะหนึ่งแล้ว เขาทนเห็นหลิงอวี้จื้อเศร้าซึมเช่นนี้ไม่ได้ เห็นแล้วปวดใจนัก

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 573 ความคิดนี้ไม่ดีหรือ

 

 

หลิงอวี้จื้อพิงอ้อมอกของเซียวเหยี่ยน ได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น รู้สึกพอใจมาก เธอพูดเสียงเบา

 

 

“อาจิ่นอุ้มท้องลูกของนี่อวิ๋นล่ะ”

 

 

“อืม”

 

 

ใครบางคนมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่นิ่งมาก

 

 

หลิงอวี้จื้อเงยหน้าขึ้น ถามอย่างสงสัย

 

 

“อาเหยี่ยน เหตุใดท่านไม่ตกใจแม้แต่น้อย หรือว่าท่านรู้เรื่องนี้นานแล้ว”

 

 

“ไม่รู้”

 

 

“เช่นนั้นท่าน…”

 

 

“เรื่องปกติของมนุษย์ เหตุใดข้าต้องตกใจ”

 

 

เซียวเหยี่ยนยังคงนิ่งอยู่

 

 

“การตั้งครรภ์ย่อมเป็นเรื่องปกติของมนุษย์อยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่อาจิ่นกับนี่อวิ๋น สองคนนี้ไม่ได้เป็นคู่กันด้วยซ้ำ”

 

 

“อาจิ่นก็ไม่ใช่ผู้ชายเสียหน่อย”

 

 

หลิงอวี้จื้อแพ้ราบคาบ พวกเขาสองคนไม่ได้เดินอยู่บนทางเส้นเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะเซียวเหยี่ยนพบเจอเรื่องราวมามากมาย ดังนั้นจึงไม่ได้เอาเรื่องทำนองนี้มาใส่ใจ ไม่มีแม้แต่ปฏิกิริยาตอบโต้ เธอเหยียดปาก

 

 

“ดีร้ายอย่างไร อาจิ่นก็เป็นเพื่อนสนิทกับท่าน เพื่อนสนิทตั้งครรภ์ ท่านมีปฏิกิริยาเช่นนี้เองหรือ”

 

 

“หากเจ้าตั้งครรภ์ ข้าถึงจะมีปฏิกิริยาตอบโต้มากขึ้นหน่อย”

 

 

เซียวเหยี่ยนบีบ ๆ แก้มหลิงอวี้จื้อ

 

 

“อาจิ่นมาหาเจ้าให้ช่วยคิดวิธีใช่หรือไม่”

 

 

“อืม ข้าคิดอะไรดี ๆ ออก ท่านก้มลงหน่อย ข้าจะกระซิบบอก”

 

 

ถึงแม้ในห้องมีพวกเขาเพียงสองคน ถึงแม้หลิงอวี้จื้อจะพูดเสียงดังออกมา คนอื่นก็ไม่ได้ยิน เซียวเหยี่ยนก็ยังให้ความร่วมมืออย่างดีก้มลงมา ต่อหน้าหลิงอวี้จื้อ เขามักจะลืมว่าคนเองเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทำตัวเป็นผู้ชายธรรมดา

 

 

ไม่ว่าหลิงอวี้จื้อจะเสนออะไร เขาก็จะร่วมมือโดยไม่คัดค้าน ไม่ว่าบางเรื่องอาจจะดูเด็กน้อยมาก หากคนอื่นพูด เขาต้องไม่มีทางทำแน่นอน แต่กับหลิงอวี้จื้อ เขายินดีทำสิ่งเหล่านี้

 

 

หลิงอวี้จื้อเล่าแผนการของตัวเองให้เซียวเหยี่ยนฟัง พูดพลางก็สังเกตสีหน้าของเซียวเหยี่ยนพลาง แววตาเป็นประกายใสแจ๋วจ้องมองเซียวเหยี่ยนไม่กระพริบตา ราวกับรอรางวัลจากเซียวเหยี่ยน เห็นเธอเป็นเช่นนี้ เซียวเหยี่ยนก็ลูบหัวเธออย่างรักใคร่ อดยิ้มออกมาไม่ได้

 

 

“ความคิดนี้ของข้า ไม่ดีหรือ”

 

 

หลิงอวี้จื้อหน้าหงอยลงทันที

 

 

“ดีมาก ข้าจะเอาภาพเหมือนของเหลียนไห่ให้เจ้า”

 

 

พูดจบเซียวเหยี่ยนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ พูดต่อว่า

 

 

“อีกไม่กี่วันในวังมีงานเลี้ยง ไทเฮาต้องเชิญเจ้าแน่

 

 

อวี้จื้อ แป้งหอมเขตตะวันตกที่มู่หรงกวานเสวี่ยพูดถึง ข้าสั่งคนให้ไปตรวจสอบแล้ว อวี้ไท่เฟยชอบทาแป้งเหล่านี้มากจริง ๆ ข้าให้คนไปลองภูมิวิทยายุทธฺของอวี้ไท่เฟยแล้ว พบว่านางไม่มีวิทยายุทธ์

 

 

เช่นนี้แสดงว่ามีความเป็นไปได้สองอย่าง หากไม่ใช่เพราะวิทยายุทธ์ล้ำลึกมากจนประมาณไม่ได้ ซ่อนไว้จนมิดชิด ก็ไม่มีวิทยายุทธ์เลย ตอนนี้เรื่องตัวตนของนางยังมั่นใจไม่ได้ เจ้าเข้าวังไปแล้วก็ลองสังเกตนางมากหน่อย”

 

 

หลิงอวี้จื้อทำท่าคารวะอย่างซุกซน

 

 

“รับรองว่าภารกิจสำเร็จแน่นอนเพคะ”

 

 

“ไปเรียนมาจากไหนอีกรึ”

 

 

“ฮ่า ๆ ไม่บอกท่านหรอก อาเหยี่ยน ท่านดูเอกสารราชการไปเถิด ข้ากลับห้องก่อน”

 

 

หลิงอวี้จื้อยืดคอจูบแก้มเซียวเหยี่ยนเบา ๆ แล้วขยิบตาให้เซียวเหยี่ยนอย่างซุกซน แล้วก็วิ่งฉิวไปอย่างรวดเร็ว

 

 

เห็นหลิงอวี้จื้อกระโดดโลดเต้นอย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เซียวเหยี่ยนก็อารมณ์ดีมาก เขาทำจิตใจให้นิ่งสงบ แล้วหยิบเอกสารราชการบนโต๊ะขึ้นมาอ่าน

 

 

วันถัดมา หลิงอวี้จื้อได้บัตรเชิญไปงานเลี้ยงในวัง

 

 

หลังจากนั้นสองสามวัน หลิงอวี้จื้อก็เข้าวังไปร่วมงานเลี้ยง

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าวังไปในฐานะพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ด้วยเหตุนี้จึงได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เธอสวมชุดสีแดงกุหลาบ ผมดำขลับถูกเกล้าขึ้นไปทั้งหมด ปักด้วยปิ่นเสียบผมและปิ่นระย้า แต่งตัวเช่นนี้แล้ว ทำให้ตัวเธอดูมีมาดสูงศักดิ์ ความเป็นเด็กน้อยลดลงไปเยอะมาก