บทที่ 1414 มรดกที่แท้จริงเปลี่ยนเจ้าของ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

นางรำหงหยุนบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเมฆา แต่ด้วยวิธีค้นวิญญาณที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ ผู้อมตะรุ่นหลังจึงได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้

 

ตอนนี้นางกำลังค้นวิญญาณของฮันหลี่ นางได้เรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขารวมถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่ในค่ายกลวิญญาณ

 

“น่าสนใจ!” นางรำหงหยุนคว้าฮันหลี่และเดินไปยังถ้ำใต้พิภพ

 

ถ้ำเกือบพังทลายลงแล้วแต่นางรำหงหยุนยังพบค่ายกลวิญญาณขนาดเล็กอยู่ที่มุมหนึ่งของถ้ำ

 

นางมาถึงด้านหน้าค่ายกลวิญญาณ เส้นทางเปิดออกขณะที่จิตวิญญาณค่ายกลอุทาน “นายท่าน!”

 

แน่นอนว่ามันกำลังเรียกฮันหลี่

 

‘จิตวิญญาณค่ายกล! ค่ายกลวิญญาณที่พังทลายลงก่อนหน้านี้ยังสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง นี่ต้องเป็นผลงานของจิตวิญญาณค่ายกลอย่างแน่นอน!’ นางรำหงหยุนถูกล่อลวง

 

‘มรดกที่แท้จริงของเจิ้งหยวนซือยังอยู่ที่นี่ ฮ่าฮ่า โอกาสของข้ามาถึงแล้ว!’ นางรำหงหยุนรู้สึกมีความสุขมาก

 

ดวงตาของนางส่องประกายขึ้น นางกล่าวกับฮันหลี่ “เด็กน้อย ข้าช่วยชีวิตเจ้า ดังนั้นเจ้าควรมอบมรดกที่แท้จริงนี้ให้ข้า”

 

ฮันหลี่เปิดเปลือกตาขึ้น “เอาไปเลย”

 

“เจ้าได้ยินแล้ว จิตวิญญาณค่ายกล เจ้านายของเจ้ามอบทุกสิ่งให้ข้าแล้ว” นางรำหงหยุนหันหน้ากลับมากล่าวกับจิตวิญญาณค่ายกล

 

“นี่…” จิตวิญญาณค่ายกลลังเล

 

“อันใด? เจ้าจะขัดคำสั่งเจ้านายของเจ้างั้นหรือ?” นางรำหงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

จิตวิญญาณค่ายกลนิ่งเงียบ

 

นางรำหงหยุนเย้ยหยัน “จิตวิญญาณค่ายกล เจ้าของเดิมของเจ้าคือเจิ้นหยวนซือ เขาสร้างมรดกที่แท้จริงเพื่อส่งต่อให้กับบุคคลในอนาคต ตอนนี้ฮันหลี่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของเจ้าแล้ว เจ้าจะต่อต้านเขางั้นหรือ?”

 

“ไม่อย่างแน่นอน” จิตวิญญาณค่ายกลกล่าวโดยไม่ลังเล

 

“แล้วเจ้าจะทำตามคำสั่งของฮันหลี่เจ้านายคนใหม่ของเจ้าหรือไม่?” นางรำหงหยุนถาม

 

“ข้าจะทำ” จิตวิญญาณค่ายกลตอบ

 

“เช่นนั้ฮันหลี่ให้เจ้าตอบแทนความเมตตาของข้า เจ้าจะต่อต้านหรือไม่?” นางรำหงหยุนกดดัน

 

จิตวิญญาณค่ายกลนิ่งเงียบไปชั่วขณะ มันรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติแต่มันไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

 

ในที่สุดมันก็ถอนหายใจกล่าว “ไม่ปฏิเสธ ท่านจะเป็นเจ้านายคนใหม่ของข้า”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ยอมจำนนต่อข้าและอย่าต่อต้าน” หลังกล่าวจบคำ นางรำหงหยุนก็ส่งพลังงานอมตะของนางเข้าไป

 

จิตวิญญาณค่ายกลไม่ต่อต้านและปล่อยให้นางรำหงหยุนปรับแต่งแกนกลางของค่ายกล

 

วิญญาณอมตะถูกเปลี่ยนเจ้าของอย่างรวดเร็ว

 

นางรำหงหยุนได้รับวิญญาณอมตะหลายดวงและวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมาย มันเป็นมรดกที่แท้จริงและสมบูรณ์แบบของเจิ้นหยวนซือ

 

นางรำหงหยุนหัวเราะเสียงดัง นางไม่ได้เข้าไปทันทีแต่โบกมือไปที่ฮันหลี่

 

“กรุบ!”

 

ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ฮันหลี่กลายเป็นกองเนื้อ เขาตายแล้ว กระทั่งดวงวิญญาณยังถูกทำลาย!

 

ปรากฏว่าฮันหลี่ไม่ได้ตื่นขึ้นจริงๆ นางรำหงหยุนใช้วิธีของนางเพื่อควบคุมฮันหลี่

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะได้รับวิญญาณอมตะ

 

แต่ฮันหลี่เป็นมนุษย์ขณะที่นางรำหงหยุนเป็นผู้อมตะ

 

ความแตกต่างระหว่างผู้อมตะและมนุษย์ใหญ่โตเกินไป นางรำหงหยุนสามารถปราบปรามฮันหลี่ได้อย่างสมบูรณ์ เขาไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย

 

แน่นอนว่าหากผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์มีวิญญาณอมตะ มันจะไม่ง่ายสำหรับผู้อมตะที่จะฉกชิงวิญญาณอมตะจากพวกเขา

 

ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์สามารถทำลายวิญญาณอมตะได้ด้วยความคิดของพวกเขาเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของฮันหลี่พิเศษมาก

 

แม้ฮันหลี่จะผ่านการทดสอบและกลายเป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริง แต่เขาไม่สามารถปรับแต่งค่ายกลวิญญาณหรือวิญญาณอมตะใดๆ

 

ดังนั้นวิญญาณของเจิ้นหยวนซือจึงถูกทิ้งไว้ที่เดิมและยังเต็มไปด้วยเจตจำนงของเขา

 

นี่เป็นช่องโหว่ที่นางรำหงหยุนใช้

 

มีเหตุผลพิเศษอีกประกาย นั่นคือจิตวิญญาณค่ายกล

 

จิตวิญญาณค่ายกลถูกสร้างขึ้นโดยเจิ้นหยวนซือ เขาจำลองมันมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินและจิตวิญญาณสวรรค์

 

จิตวิญญาณค่ายกลเกิดจากวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา มันคล้ายกับจิตวิญญาณแผ่นดินและจิตวิญญาณสวรรค์ มันทั้งไร้เดียวสาและไม่สามารถโกหก

 

สิ่งนี้ทำให้นางรำหงหยุนสามารถหลอกล่อและโน้มน้าวมัน

 

หากปราศจากจิตวิญญาณค่ายกล นางรำหงหยุนจะไม่สามารถเจรจากับวิญญาณอมตะและปรับแต่งพวกมันได้อย่างง่ายดาย

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้นางรำหงหยุนก็กลายเป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของเจิ้งหยวนซือไปแล้ว

 

“เจิ้งหยวนซือเป็นผู้อมตะจากกองกำลังตระกูลเช่อ ผู้ใดจะคิดว่าผู้อมตะฝ่ายธรรมะจะทิ้งมรดกที่แท้จริงไว้ที่นี่แต่ไม่ใช่ตระกูลของเขา” เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงถอนหายใจ “ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นความจริง เจิ้งหยวนซือไม่มีความสัมพันธ์อันดีกับกองกำลังของเขา เขาถูกขับไล่ออกมา”

 

“ทั้งหมดต้องขอบคุณสามีที่ทำให้เราพบโชคลาภนี้โดยบังเอิญ” นางรำหงหยุนยิ้ม

 

“อืม หลังจากช่วยซุ้ยป๋อและกลับไปที่ทะเลทรายหมื่นรูปปั้น จงมอบมรดกที่แท้จริงนี้ให้กับร่างหลักของข้า อย่ากังวล เจ้าจะได้รับส่วนแบ่งที่เหมาะสม” เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าวอย่างชัดเจน

 

นางรำหงหยุนรู้สึกสูญเสียกับเรื่องนี้ หากนางมอบมรดกที่แท้จริงให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง เขาจะเหลือสิ่งใดให้นางบ้าง

 

แต่นางต้องมอบให้เขา

 

ตลอดกระบวนการ เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเฝ้ามองนางอย่างใกล้ชิด

 

นางรำหงหยุนค่อนข้างแข็งแกร่งแต่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปด นางยังไม่ถือเป็นสิ่งใด

 

‘แต่หากข้าอยู่เพียงลำพัง ข้าย่อมไม่เสี่ยงและจะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงของเจิ้งหยวนซือ ทุกอย่างเป็นเพราะสามี’

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จิตใจของนางรำหงหยุนจึงสงบลง

 

นางตรวจสอบกำไรที่ได้รับและพบว่ามรดกนี้มีวิญญาณอมตะสามดวง สองดวงเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล แม้มันจะมีน้อย แต่พวกมันก็เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

 

จิตวิญญาณค่ายกลถูกพิจารณาว่าเป็นกึ่งวิญญาณอมตะ

 

หากไม่ใช่เพราะค่ายกลวิญญาณนี้พังทลายลงไปบางส่วน นางรำหงหยุนจะได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้

 

หลังจากเปลี่ยนสถานะ นางรำหงหยุนเย้ยหยันฮันหลี่ว่าเป็นขยะ เป็นเพียงมนุษย์แต่กล้าทดลองรับมรดกที่แท้จริงของผู้อมตะ เขาสมควรตายอย่างแท้จริง!