บทที่ 602 เรื่องราวแห่งการสังหาร : ท่านหลัวตัวน้อย

โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล

RC:บทที่ 602 เรื่องราวแห่งการสังหาร : ท่านหลัวตัวน้อย

 

ร่างทั้งสองของมังกรยักษ์ พุ่งตรงมายังจุดที่หลินเฟิงและเสี่ยวหยางยืนอยู่ พวกเขาเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปพร้อมที่จะสังหารคนของสี่ตระกูลใหญ่

 

ราชามังกรแห่งกาลเวลาต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ต่างดาวเทียนเว่ยเพื่อปิดบัญชีปัญหาที่ค้างคากันมานาน การโจมตีของเหล่าราชามังกรในวันนั้น ต้องการที่จะตัดการควบคุมของเผ่าพันธุ์ต่างดาวให้ไม่รุกลามจนกระทั้งถึงวันนี้ 

 

หลินเฟิงและเสี่ยวหยางพัวพันอยู่กับเหล่านักรบของสี่ตระกูลใหญ่ ราชามังกรแห่งกาลเวลาดึงดูดความสนใจด้วยร่างกายขนาดใหญ่ของเขา จากนั้นมังกรยักษ์ก็ลอบโจมตีจากอีกด้านหนึ่ง

 

สิ่งนี้ทำให้สัตว์ประหลาดจากต่างดาวตกอยู่ในอันตรายทันที ราชินีมังกรสังหารชายร่างกำยำทั้งสองคนที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเอเลี่ยนทันที

 

ผู้ที่ติดกับดักวังวนไม่สามารถขยับไปไหนได้ ม่านพลังที่น่าเกรงขามของราชามังกรขังพวกเขาเอาไว้จนขยับออกไปไหนไม่ได้เลย

 

และต่อมา คนจากหลินกรุ๊ปทั้งหมดก็กรีดร้องออกมา

 

หลินเฟิงและเสี่ยวหยางยืนชนหลังกัน เมื่อศัตรูคู่แรกของพวกเขาถูกกำจัด เสี่ยวหยางและหลินเฟิงไม่ลังเลที่จะปะทะกับเหล่าคนต่อ ๆ ไปเลย

 

เสี่ยวหยางรับมือกับอีกฝ่ายด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ในขณะที่หลินเฟิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปราบคู่ต่อสู้ของเขา

 

แต่ทั้งสองคนต่างก็ต้องปะทะกับคนจากตระกูลทั้งสี่และมีบางคนก็สนิทกับพวกเขามาก่อน หลินเฟิงไม่กล้าทำหนักมือไปกว่านั้นเลย

 

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้หลินเฟิงต้องคอยเป็นฝ่ายตั้งรับมาโดยตลอด และไม่ได้โต้ตอบกลับไปเลย

 

เขาทำได้เพียงรอเวลาให้ราชามังกรและราชินีมังกร จัดการกับต้นตอของปัญหาเพื่อให้ทั้งสี่ตระกูลฟื้นคืนสติกลับมา ไม่งั้นสถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้มาก

 

ราชามังกรแห่งกาลเวลาและราชินีมังกรร่วมมือกันอย่างพร้อมเพียง นั้นแทบจะทำให้การโจมตีของสองจ้าวมังกรแทบจะไร้ผู้ต่อต้านแล้ว แต่ถึงยังไงการต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวนั้นดุเดือดกว่าที่ควรจะเป็นมาก หลายครั้งที่เผ่าพันธุ์ต่างดาวของเทียนเว่ยปะทะกับสองจ้าวมังกร พลังวิญญาณที่ปกคลุมร่างของราชินีมังกรก็ปกป้องร่างของเทพมังกรเอาไว้จนเกิดแรงปะทะกระจายออกมาทั้วทั้งท้องฟ้าอันกว้างใหญ่

 

ร่างของผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ที่ถูกควบคุมโดยสัตว์ประหลาดได้กลับคืนสู้สภาพในตอนแรกแล้ว พวกเขายังถูกปิดล้อมโดยม่านพลังของราชามังกร หลินเฟิงและเสี่ยวหยางหยุดการปะทะและปล่อยให้การต่อสู้ของเหล่ามังกรดำเนินต่อไป

 

ในช่วงเวลานี้หลินเฟิงเรียกสัตว์ของตัวเองขึ้นมา สัตว์วิญญาณทั้งหมดก็ถูกเรียกออกมา เสี่ยวหยางได้สร้างส่วนต่าง ๆ ให้ร่างกายเหล่าของเหล่าสัตว์วิญญาณ เพื่อให้พวกมันมีกายหยาบสกัดกั้นผู้แข็งแกร่งของทั้งสี่ตระกูล

 

ในท้ายที่สุดเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนเทียนเว่ยก็ผ่ายแพ้ต่อราชันมังกรแทั้งสองตน

 

ในขณะที่มนุษย์ต่างดาวถูกสังหารจนหมดสิ้นแล้ว ร่างของคนจากทั้งสี่ตระกูลต่างชะงักและหมดสติไป

 

“กะ…เกิดอะไรขึ้น” ผู้คนที่ได้สติต่างมองมาที่หลินเฟิงด้วยความงงงวยและเมืองมองไปรอบ ๆ ตัว พวกเขาก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

และแล้วเทพมังกรทั้งสองตนก็บินลงมา จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบผู้ที่ฟื้นคืนสติทีละคน เพื่อดูว่าพวกเขาเหล่านั้นหลุดออกจากการควบคุมหมดแล้วหรือไม่

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากการเฝ้ามองอย่างละเอียด ราชามังกรก็พบว่าทุกคนในที่นี่ไม่ได้ถูกควบคุมอีกต่อไปแล้ว แต่ราชามังกรแห่งกาลเวลาและราชินีมังกรรู้ดี และรู้อยู่เสมอว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นไม่ตายง่าย ๆ แบบนี้แน่นอน

 

สิ่งที่ไม่มีใครรู้ก็คือตอนนั้นราชามังกรและราชินีมังกรไม่ได้ตรวจสอบอยู่สองคน นั่นคือหลินเฟิงและเสี่ยวหยาง

 

เนื่องจากในดวงตาทั้งสองข้างของพวก ทั้งของหลินเฟิงและเสี่ยวหยางเป็นปกติมากไม่มีวี่แววว่าจะถูกควบคุมได้ ดังนั้นเจ้ามังกรจึงไม่ได้ตรวจสอบพวกเขา

 

หลินเฟิงและเสี่ยวหยาง ไม่ได้ของให้ราชามังกรตรวจสอบ เพราะพวกเขาเองคิดว่าพวกเขาไม่อยู่ภายใต้การควบคุม

 

แต่ไม่ว่าจะถูกควบคุมหรือไม่นั้น มันก็ไม่ใช่อะไรที่จะรู้สึกได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว

 

หลังจากนั้นไม่นาน หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ทั้งสี่ตระกูลใหญ่และผู้คนที่ติดตามเข้ามาก็ถูกตบตาทั้งหมด

 

มีเพียงผู้มีอำนาจบางส่วนเท่านั้นที่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากได้ยินคำพูดของหลินเฟิงหัวใจของทุกคนก็เต็มไปด้วยความกลัว

 

“ขอบคุณมาก ครั้งนี้ฉันไม่คาดคิดเลย ว่าจะทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนไปด้วย” ผู้นำตระกูลหนานกงกล่าว

.

ผู้นำอีกสามตระกูลเองก็ออกมาขอบคุณเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะหลินเฟิงพวกเขาแก้ปัญหาสัตว์ประหลาดจากต่างดาวแล้วหละก็ ตอนนี้พวกเขาคงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน

 

หลังจากนั้นหลินเฟิงก็ถามว่าพวกเขาดูว่าพวกเขาถูกควบคุมอย่างไร จากนั้นไม่นานกลุ่มคนเหล่านั้นก็มองไปที่ทิศทางเดียวกัน ในคือชายร่างกำยำทั้งสี่ของแต่ลตระกูลที่เดินนำหน้าเข้ามาก่อน

 

แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความตั้งใจของทั้งสี่ตระกูล ที่ถูกเจ้าตัวประหลาดนั้นควบคุม

 

เมื่อหลินเฟิงและคนอื่น ๆ มองไปที่ชายสี่คนนั้น พวกเขาก็มองหน้ากันเองด้วยความงุนงง หลังจากนั้นผู้แข็งแกร่งทั้งสี่คนก็รีบวิ่งไปข้างหน้าและกล่าวขอบคุณ: “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือขอรับ ของคุณที่ช่วยกำจัดการควบคุมและปีศาจตนนั้น!”

 

แต่ยังไงก็จ้องขอบคุณมาก ๆ ที่ทุกคนยังให้อภัยทั้งสี่คนนี้อยู่

 

หลินเฟิงไม่ตอบสนองอะไร หลังจากผ่านไปอีกครึ่งของเวลาการประชุม หลินเฟิงกล่าวว่า “ตอนนี้ที่นี่มันโทรมมาก พวกเราไปนั่งในห้องโถงใหญ่กันดีกว่าไหม”

 

หลังจากนั้นหลินเฟิงก็พาผู้คนไปที่ห้องโถง และเสิร์ฟไวน์ อาหาร ให้พวกเขาไป

 

ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังดื่มด่ำกับรสอาหาร ราชามังกรแห่งกาลเวลาเอ่ยปากขึ้นมาว่า “หลินเฟิงข้าจะกลับไปที่ต้นไม้แห่งชีวิตก่อน หน้าที่ส่วนที่เหลือข้าขอมอบให้เจ้า!”

 

“ขอบคุณท่านมาก” หลินเฟิงคำนับให้ราชันมังกรทั้งสอง

.

อย่างไรก็ตามหลังจากที่พวกเขาจากไป ดวงตาสีแดงสดคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า มันพูดกับตัวเองว่า “ฮึ่ม! ไอเฒ่าสองตัวนั้น โชคดีที่ฉันยังเก็บไพ่ตายเอาไว้ไม่งั้นเราต้องจบเห่จริง ๆ แน่!”

 

ทันใดนั้นหลินเฟิงก็ครุ่นคิดและมองไปข้างหลังของเขา สิ่งที่เขาเห็นเบื้องหลังก็คือเสี่ยวหยาง

 

“ มีอะไรเหรอพี่หลินเฟิง “ เสี่ยวหยางถาม

 

“โอ้ไม่มีอะไร! นายคงเหนื่อยมากแล้วกลับไปพักผ่อนดีไหม หลินเฟิงพูดและตบที่ไหล่เสี่ยวหยางเบา ๆ 

 

“ได้เลย!” จากนั้นเสี่ยวหยางก็ก้าวเท้าออกไป

 

หลินเฟิงสร้างความบันเทิงใจให้กับตระกูลทั้งสี่และคนอื่น ๆ ที่เขาไม่รู้ที่มา

 

หลังจากที่เขาได้รีบเลี้ยงดูจากตระกูลทั้งสี่เป็นอย่างดี หลินเฟิงก็เริ่มพูดคุยกับคนเหล่านั้น เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมัน มีบางเรื่องที่เขาเองก็ยังกลัวอยู่.

 

คนเหล่านี้ผ่านพ้นวิกฤตมหันตภัยต่าง ๆ มากมากมาย พวกเขาผนึกตัวเองในความว่างเปล่าจนถึงวันสิ้นโลก หลังจากนั้นพวกเขาก็ตื่นขึ้นมาทีละคน ๆ 

 

แต่เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมา ก็ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวจากสวรรค์ที่ยังไม่ตายในสมัยโบราณ พวกเขาเพิ่งตื่นขึ้นมาจากการจำศีลเป็นเวลานาน ความแข็งแกร่งของพวกเขายังไม่ฟื้นขึ้นตามมาด้วย พวกเขาก็จึงถูกควบคุมแทบจะในทันที

 

และในวันนั้นเผ่าพันธุ์ต่างดาวใช้ประโยชน์จากพวกเขาเพื่อเข้าใกล้กลุ่มผู้นำของตระกูลใหญ่ทั้งสี่จากนั้นใช้ก็ชักใยและหาโอกาสเพื่อเข้าใกล้กลุ่มตระกูลหลินอีกที โดยเจตนาจากนั้นก็คือการจัดการกับกลุ่มตระกูลหลินนั้นเอง

 

แต่โชคดีที่จ้าวมังกรทั้งสองจากยุคโบราณ มองเห็นแผนของสัตว์ประหลาดเสียก่อน และนำมาสู่สถานการณ์ในตอนนี้ในที่สุด

 

“ฉันเข้าใจแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้พวกคุณจะทำอะไรกันต่อไป” หลินเฟิงถาม

 

“ตอนนี้ยังไม่มีแผนอะไรเลย ลองช่วยกันคิดดูตอนนี้ก่อนนะ! พวกเราเพิ่งตื่นขึ้นมาจากการจำศีล พวกเราตัดขาดจากโลกไปนานพอสมควรค ถ้าพี่ใหญ่หลินไม่รังเกียจพวกเราก็หวังว่าจะได้เข้าร่วมทีมเดียวกัน!” ชายคนหนึ่ง ยืนขึ้นและกล่าวออกมา

 

หลินเฟิงมองไปที่ชายคนนั้น เขาชื่อเทียนเฟิง ความแข็งแกร่งของเขาจัดได้ว่าหน่วยก้านดีกว่าทุกคนในบรรดาคนเหล่านี้ ผู้คนต่างรู้สึกอย่างคลุมเครือว่าเขาคือผู้นำอย่างแน่นอน

 

“ยินดีต้อนรับ!” หลินเฟิงกล่าวอย่างมีความสุข