ตอนที่ 344 ความต้องการด้านความรู้สึก / ตอนที่ 345 สารภาพให้เธอฟัง

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 344 ความต้องการด้านความรู้สึก

 

 

เฉินหลานอีกำลังคิดว่าเธอมองข้ามความต้องการด้านความรู้สึกของหู่พั่วไปหรือเปล่า ตอนนี้เฉินหลานอีเคยชินกับชื่อหู่พั่วแล้ว ชื่อในอดีตจึงเจือจางไปในสายน้ำแห่งความทรงจำเส้นยาว ชื่อใหม่แทนการเริ่มต้นใหม่ เธอจะให้หู่พั่วรู้จักเธอที่เป็นคนใหม่

 

 

“คุณป้าคะ คุณป้าดูแลหนูมากไปแล้วล่ะค่ะ หนูไม่ได้ไม่สบายตรงไหน เพียงแต่ไม่อยากออกไปจริงๆ” หู่พั่วเห็นว่าเฉินหลานอีเอาจริงเอาจังขึ้นมาก็อธิบายทันที

 

 

เธอไม่กล้าอยากทะเลาะกับเฉินหลานอี ไม่อย่างนั้นสองพ่อลูกจะเป็นห่วงขึ้นมาอีก แม้ว่าโอวหยางหงจะเป็นคนช่วยหู่พั่วเอาไว้ ทว่าในใจกลับรู้สึกตงิดๆ ว่าเธอไม่ควรอยู่ที่นี่ อย่างกับว่าเธอหลงลืมเรื่องสำคัญอะไรไป แต่ว่าเป็นเรื่องอะไร เธอคิดอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกสักที

 

 

หู่พั่วฝันถึงเงาร่างที่ตัวเธอหลงลืมไปแล้วอยู่ทุกวัน เหมือนว่าจะเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ทว่าใบหน้าถูกซุกซ่อนอยู่ในม่านหมอก มองเห็นไม่ชัด เธอลองขยับเข้าไปใกล้ๆ แต่ทุกครั้งที่ใกล้จะเห็นเต็มตา เธอก็จะตกใจตื่นจากความฝันทุกที

 

 

เฉินหลานอีเห็นว่าดวงตาของหู่พั่วมองเหม่อลงไปข้างล่าง อย่างกับว่าเธอได้ยินเสียงของคนสวนที่กำลังตัดเล็มดอกไม้ใบหญ้า “หู่พั่ว ป้าจะไม่ถามหนูแล้วล่ะ รีบกินซุปถ้วยนี้เถอะนะ”

 

 

เวลานี้เธอจะไม่บังคับหู่พั่วอีก สำหรับหู่พั่ว เธอเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า บางครั้งบางคราวเรื่องนี้ก็ทำให้เฉินหลานอีท้อใจ แต่พอคิดให้ดีแล้ว ขอเพียงเธอทำแบบนี้ต่อไป สักวันหู่พั่วก็จะรับรู้ได้ถึงความรักที่เธอมีให้เอง

 

 

หู่พั่วเห็นเฉินหลานอียกถ้วยซุปมาให้ตรงหน้า การที่เธอไม่อยากออกไปก็เพราะความหวังดีที่เฉินหลานอีมีให้ ความหวังดีนี้แปลกประหลาดเกินไป ทำให้เธอรู้สึกสงสัย แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้มีอะไรที่เหมาะสม

 

 

“คุณป้าคะ หนูเพิ่งกินอะไรไปเอง กินไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ” หู่พั่วใช้มือผลักชามซุปออกไป เฉินหลานอีรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็ปลอบใจตัวเองพลางยิ้มให้ “จ้ะ หู่พั่ว ถ้าอย่างนั้นหนูพักผ่อนให้สบายนะ ป้าไม่รบกวนหนูแล้วจ้ะ”

 

 

พอเฉินหลานอีปิดประตู หันกลับมาก็เห็นเงาร่างของโอวหยางหงผู้เป็นลูกชาย “หงเอ๋อร์ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

 

 

เฉินหลานอีไม่คิดว่าโอวหยางหงจะยืนอยู่ข้างหลังเธอ เด็กคนนี้มาไม่ให้สุ้มให้เสียง เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิด

 

 

“แม่ครับ แม่ถูกหู่พั่วปฏิเสธมาอีกแล้วใช่ไหม?”

 

 

นี่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว หู่พั่วไม่เพียงแต่ออกมาข้างนอกน้อยลง ทั้งของที่เฉินหลานอีนำมาให้ แม้ว่าทุกครั้งจะรับปากว่าอีกเดี๋ยวจะกิน แต่รอจนคนรับใช้เข้าไปทำความสะอาดภายในห้อง ของที่อยู่ในชามก็ไม่ได้ลดลงเลย รู้ได้เลยว่าหู่พั่วไม่ได้แตะต้องมันแม้สักนิด

 

 

“ใช่จ้ะ เธอบอกว่าเพิ่งกินอิ่ม ไม่อยากกินอะไรตอนนี้” เฉินหลานอีเองค่อนข้างเศร้าใจ เธออยากทำดีกับหู่พั่วแท้ๆ แต่ทำไมหู่พั่วถึงไม่ยอมรับความหวังดีนี้ไว้นะ หรือว่าหู่พั่วไม่รู้ถึงเจตนาดีของเธอ?

 

 

“แม่ครับ ผมว่าแม่ต้องบอกเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง และให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่อย่างนั้นขืนเป็นแบบนี้ต่อไป หู่พั่วก็จะคิดหนีออกไปจากที่นี่”

 

 

“ลูกรู้ได้ยังไงว่าเธอคิดแบบนั้น หรือว่าเธอเคยบอกลูก?”

 

 

เมื่อเฉินหลานอีได้ยินว่าหู่พั่วคิดจะจากไปก็รับไม่ได้ ลูกสาวของเธอจะไปจากเธอได้อย่างไร เธอพรากกับลูกมานานขนาดนี้ เธอจะต้องคอยอยู่ข้างๆ หู่พั่ว เพื่อชดใช้ความรักจากแม่ที่ขาดหายไปนานหลายปี

 

 

“เธอไม่เคยบอกผมหรอกครับ แต่แม่ครับ แม่ไม่รู้สึกบ้างเหรอว่าระยะนี้เธอดูแปลกๆ ไป? เธอไม่ใช่คนที่ชอบอุดอู้อยู่ในห้อง สาเหตุที่บีบบังคับให้เธอต้องอยู่ในห้องทั้งวันคืออะไร?”

 

 

บางครั้ง แม้แต่มื้อกลางวันกับมื้อเย็นเธอก็ไม่ยอมลงมา กลับให้พ่อบ้านนำอาหารขึ้นมาให้

 

 

 

 

ตอนที่ 345 สารภาพให้เธอฟัง

 

 

“เธอบอกว่าช่วงนี้ไม่อยากออกไปไหน”

 

 

“แม่ แม่เชื่อเหตุผลแบบนี้ด้วยเหรอครับ?” โอวหยางหงไม่เชื่อว่าหู่พั่วจะไม่อยากออกมาข้างนอก ด้วยนิสัยของเธอแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมอยู่คนเดียวเงียบๆ แม้ว่าตอนนี้จะความจำเสื่อม แต่จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ได้อย่างไร

 

 

“แต่ถ้าบอกกับเธอตอนนี้…” เฉินหลานอีไม่กล้า ถ้าหู่พั่วรู้เรื่องเข้า เธอจะเกลียดเธอหรือเปล่า? จะไม่สนิทใจกันอย่างตอนนี้ด้วยหรือเปล่า?

 

 

“แม่ครับ ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ผมเชื่อว่าคนที่จิตใจดีอย่างเธอจะไม่โทษแม่หรอก อีกอย่างตอนนั้นแม่ก็มีความลำบากของตัวเองอยู่เหมือนกัน” โอวหยางหงไม่อยากให้แม่ของตัวเองต้องแบกรับความผิดทั้งหมดไว้เพียงคนเดียว

 

 

“จริงเหรอ? หู่พั่วจะให้อภัยแม่จริงๆ เหรอ?” เฉินหลานอียังไม่มั่นใจนัก เธอกลัวว่าก้าวขาออกไปแล้ว จะไม่สามารถหดกลับมาได้อีก

 

 

“แม่ วางใจเถอะนะครับ มีผมอยู่ทั้งคน ผมจะคอยช่วยแม่เอง” โอวหยางหงพยายามอย่างหนักที่จะปลอบประโลมความเจ็บปวดของเฉินหลานอี เขาสงสัยว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นของแม่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าเป็นใครกันแน่ที่อยากให้แม่ของเขาตาย

 

 

เฉินหลานอีได้รับกำลังใจจากลูกชายก็เริ่มมีความคิดอยากจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หู่พั่วฟัง ถ้าลูกสาวของเธอทำตัวห่างเหินกับเธออย่างนี้ เธอเองก็จะไม่ท้อถอย เธอจะทำให้หู่พั่วยอมรับการมีตัวตนของแม่คนนี้ให้ได้

 

 

“หู่พั่ว ผมโอวหยางหง เข้าไปได้หรือเปล่า?” โอวหยางหงเคาะประตูห้องของเธอ หู่พั่วได้ยินเสียงโอวหยางหงอยู่ที่นอกประตูก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อกี้เฉินหลานอีเพิ่งจะมานี่นา แล้วเขามาได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

 

“…เข้ามาสิ” เมื่อรู้ว่าตัวว่าตัวเองกำลังเหม่อลอย หู่พั่วจึงรีบตั้งสติทันที ให้โอวหยางหงเข้ามาในห้อง

 

 

เมื่อโอวหยางหงเดินเข้ามาก็เห็นว่าหน้าต่างเปิดอยู่ ผ้าม่านพลิ้วไหวไปตามสายลมโชยอ่อน ผ้าคลุมไหล่พาดอยู่บนไหล่ของหู่พั่ว เธอนั่งอยู่ริมหน้าต่างคนเดียว นัยน์ตาราวกับว่ามองออกไปยังสถานที่ที่ไกลแสนไกล

 

 

“หู่พั่ว คุณทำอะไรอยู่เหรอ” โอวหยางหงมองตามสายตาของเธอไปยังสถานที่แห่งนั้น นอกจากดอกไม้ก็มีแต่ผืนหญ้า หรือว่าเธอกำลังมองทิวทัศน์ภายนอก?

 

 

“มองอะไรไปเรื่อยๆ คุณโอวหยาง มาหาฉันมีอะไรเหรอคะ” หู่พั่วหยุดสายตาไว้บนร่างของโอวหยางหง

 

 

โอวหยางหงยิ้มพลางพูดออกไปว่า “หู่พั่ว วันนี้ผมมีเรื่องบางอย่างจะบอกกับคุณ คุณจะยินดีรับฟังหรือเปล่า?”

 

 

“เรื่องอะไรเหรอ”

 

 

“เกี่ยวกับชีวิตของคุณเอง” โอวหยางหงเห็นว่าดวงตาของหู่พั่วจ้องมองมาที่เขาเพราะได้ยินประโยคนี้ ก็รู้ได้เลยว่าในใจของหู่พั่วอยากรู้เรื่องราวในอดีตของตัวเองมากขนาดไหน

 

 

“นั่งลงก่อนสิ” เธอให้เขานั่งลงตรงหน้าเธอ คนหนึ่งนั่งมองทิวทัศน์ที่นอกหน้าต่าง อีกคนหนึ่งกลับมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม โอวหยางหงเริ่มต้นเล่าเหตุการณ์ให้เธอฟัง

 

 

“มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอโตจนถึงวัยที่เหมาะสมแล้ว ต่อมาทั้งสองครอบครัวต่างเต็มใจ เมื่อเธอเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังสง่างาม คนในครอบครัวต่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก ก็เลยตกปากรับคำ”

 

 

“ทั้งสองหมั้นกันเอาไว้ก่อน เพียงไม่นานก็แต่งงานกัน มีลูกด้วยกันหนึ่งคน เป็นเด็กผู้หญิง แต่เมื่อหญิงสาวคลอดลูกคนแรกแล้วเธอก็พบเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง ชายคนนี้หลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ หลังจากที่รู้จักเธอมากขึ้น ความรู้สึกที่มีให้เธอก็ยิ่งเพิ่มพูน”

 

 

“หญิงสาวไม่รับรักเขา เพราะว่าเธอแต่งงานกับชายอื่นแล้ว ชายหนุ่มทำได้เพียงเคารพการตัดสินใจของเธอ อีกไม่นานเธอก็คลอดลูกคนที่สอง ยังคงเป็นลูกสาวเหมือนเดิม และขณะที่เด็กหญิงทั้งสองยังเป็นเด็ก อุบัติเหตุทางรถยนต์ก็พรากชีวิตของเธอไป ลูกทั้งสองเองก็หายสาบสูญไปเช่นกัน