ตอนที่ 346 ย้อนวันวาน / ตอนที่ 347 ใกล้คลอด

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 346 ย้อนวันวาน 

 

 

“เธอตายเหรอ?” 

 

 

โอวหยางหงส่ายหน้า “เปล่า ผู้ชายที่ที่หลงรักเธอช่วยเธอเอาไว้” 

 

 

“แล้วเด็กสองคนนั้นล่ะ?” หู่พั่วรู้สึกได้ว่า เด็กทั้งสองคนที่โอวหยางหงพูดถึง หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นตัวเธอเอง 

 

 

“เด็กสองคนนั้นถูกส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลูกสาวคนเล็กอายุได้เพียงขวบเดียว ไม่นานก็มีคนเอ็นดู รับเลี้ยงเอาไว้ ส่วนลูกคนโตไม่ยอมให้คนรับเลี้ยง ได้แต่รอให้น้องสาวกลับมาหา ทำให้เธอเติบโตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า” 

 

 

“ฉันเป็นลูกคนไหนเหรอ?” หู่พั่วฟังอย่างกับว่าเป็นเรื่องราวของคนอื่น แต่นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอจริงๆ แม้ว่าตอนนี้เธอจะจดจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้เลย แต่เธอรู้สึกอยู่บ้างว่าเธอจะต้องเกี่ยวข้องกับเด็กสองคนนี้แน่ 

 

 

“เธอเป็นเด็กที่ถูกรับเลี้ยงเอาไว้ พ่อแม่ที่เลี้ยงเธอมาแซ่ถัง เพราะว่าตอนนั้นเธอยังเด็กมาก เพราะอย่างนั้นไม่นานเธอก็เข้าใจว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ของเธอ แน่นอนว่าพวกเขาดีกับเธอมาก ดูแลเธอเหมือนกับลูกแท้ๆ” 

 

 

“แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน?” ในเมื่อพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาแซ่ถัง ทำไมโอวหยางหงถึงได้ตั้งชื่อให้เธอว่าหู่พั่ว ให้เธอใช้ชื่อเดิมก็ได้ไม่ใช่เหรอไง? เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่? 

 

 

“พวกเขาสบายดี ว่าแต่คุณไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นบ้างเลยเหรอ เธอเป็นแม่ของคุณนะ” 

 

 

“ทำไมเธอถึงไม่กลับมาตามหาลูก?” หู่พั่วรู้สึกว่าถ้าเป็นแม่ที่รักพวกเธอจริงๆ จะไม่มีทางปล่อยปละละเลยให้พวกเธอใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างแน่นอน ควรจะกลับไปหาพวกเธอไม่ใช่เหรอไง 

 

 

“เพราะว่าเธอเองก็เหมือนกับคุณในตอนนี้ เธอความจำเสื่อม” 

 

 

“ความจำเสื่อมอย่างนั้นเหรอ?” หู่พั่วถึงได้เข้าใจว่า แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าแม่ของเธอไม่ต้องการตามหาเธอ แต่เป็นเพราะว่าเธอตามหาพวกเธอไม่ได้ คนที่ความจำเสื่อมจะไปจำเรื่องราวที่ผ่านมาได้อย่างไร 

 

 

“ใช่แล้ว ความจำเสื่อม เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้หลงลืมพวกเธอไป จนกระทั่งเธอจำเรื่องนี้ได้อีกครั้ง พวกเธอก็โตกันหมดแล้ว” พูดได้เพียงว่านี่เป็นการคลาดจากกัน 

 

 

“ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของคุณอย่างนั้นเหรอ?” หู่พั่วจำสายตาแบบนั้นที่เฉินหลานอีมองเธอได้ดี อย่างกับว่าเธอเป็นของที่สำคัญที่สุดในชีวิตอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

“ใช่ เธอคือแม่ของผม และตอนนี้ก็เป็นแม่ของคุณด้วยเหมือนกัน” โอวหยางหงเห็นว่าในสายตาของหู่พั่วไม่ได้ต่อต้าน ทำให้เขาวางใจลงบ้าง อย่างน้อยๆ ช่วงเริ่มต้นก็สำเร็จไปได้ด้วยดี เรื่องอื่นๆ แน่นอนว่าค่อยพูดกันทีหลัง 

 

 

“แม่…” สำหรับหู่พั่วในตอนนี้ คำพูดนี้ช่างทั้งห่างเหินและคุ้นเคย ห่างเหินเพราะว่าเธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเฉินหลานอีจะเป็นแม่ของเธอ ส่วนที่คุ้นเคยก็คงเพราะว่าหลายปีที่ผ่านมาเธอคุ้นเคยกับการมีแม่อีกคนมาตลอดกระมัง 

 

 

“แล้วเธอล่ะ?” ในเมื่อโอวหยางหงกล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง เฉินหลานอีก็คงจะอยู่แถวๆ นี้ด้วย?หรือว่าอยู่ข้างนอก? 

 

 

“คุณอยากเจอเธอหรือเปล่า ถ้าคุณอยากพบเธอ เธอพร้อมมาหาคุณตลอดเวลา” ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือหู่พั่วจะวางเกราะป้องกันที่มีในใจลงหรือเปล่า ยอมรับการมีตัวตนของแม่แท้ๆ ได้หรือเปล่า ถ้าเป็นหู่พั่วที่ไม่ได้ความจำเสื่อม เรื่องก็คงจะง่ายกว่านี้ 

 

 

เพราะว่าโอวหยางหงรู้ว่า หู่พั่วที่ไม่ได้ความจำเสื่อมรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นเด็กที่บ้านถังรับมาเลี้ยง แม้ว่าจะไม่เคยตามหาแม่แท้ๆ ของตัวเอง แต่ภายในใจก็โหยหาความรักอยู่ไม่น้อย 

 

 

“ฉันอยากพบเธอ คุณเรียกเธอมาได้หรือเปล่า” 

 

 

เฉินหลานอีปิดปาก ผลักประตูที่ปิดเอาไว้อย่างลวกๆ ดวงตาของเธอแดงก่ำไปหมด ดูเหมือนว่าจะยืนฟังอยู่ข้างนอกมานานแล้ว “หู่พั่ว หนูจะยอมรับแม่ได้ไหม?” 

 

 

หู่พั่วไม่ได้ตอบเธอในทันที เธอมองเฉินหลานอีอยู่เงียบๆ เห็นว่าเธอกำลังเข้ามาใกล้ “ถ้าตอนนั้นคุณไม่ได้ความจำเสื่อม คุณจะทอดทิ้งพวกเราไปไหม?” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 347 ใกล้คลอด 

 

 

“ไม่มีทาง แม่ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่” เฉินหลานอีจับมือของหู่พั่วเอาไว้ ตนจะทอดทิ้งลูกไปอย่างไม่สนใจไยดีได้อย่างไรกัน? ในเมื่อตนรักพวกเธอมากมายถึงขนาดนี้! 

 

 

หู่พั่วเห็นเฉินหลานอีน้ำตาคลอ อย่างกับว่าเธอพูดอีกไม่ถึงคำน้ำตาก็จะหลั่งรินลงมา “คุณคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?” 

 

 

“แน่นอนสิ…หู่พั่ว หนูเรียกฉันว่าแม่สักคำได้ไหม?” เฉินหลานอีถามอย่างระมัดระวัง 

 

 

เธอถูมือเข้าด้วยกัน กลัวเป็นอย่างมากว่าเธอจะปฏิเสธ ก้มหน้าอยู่ตลอด ไม่กล้ามองตาของหู่พั่ว หวาดกลัวว่าจะเห็นสายตาที่ชิงชังของเธอ 

 

 

“…แม่” 

 

 

“หู่พั่ว เธอเรียกแม่เหรอ?! เธอเรียกแม่จริงๆ!…ดีเหลือเกิน ลูกของแม่กลับมาแล้ว!” 

 

 

เฉินหลานอีตื่นเต้นดีใจพลางจับมือของโอวหยางหงและหู่พั่วเอาไว้ มือหนึ่งจับไว้คนหนึ่ง ลูกชายและลูกสาวต่างอยู่ข้างกายเธอ เฉินหลายอีอดคิดถึงชิงเหยียนลูกสาวคนโตของเธอไม่ได้ อารมณ์อันพลุ่งพล่านพลันร่วงหล่นในทันใด 

 

 

“หู่พั่ว อยู่ที่นี่ให้สบายใจเถอะนะ ลุงโอวหยางกับน้องชายของลูกจะดีกับลูกให้มากๆ ใช่ไหม หงเอ๋อร์?” 

 

 

“แน่นอน พี่สาว พี่อยากให้พวกเราเรียกชื่อก่อนหน้านี้ของพี่หรือจะให้เรียกว่าหู่พั่ว” 

 

 

“ความทรงจำของฉันก่อนหน้านี้สวยงามหรือว่าเจ็บปวดล่ะ?” 

 

 

“อย่างละครึ่งก็ว่าได้ ทำไมเหรอ” หรือว่าเพราะพี่จดจำเพราะว่ามันสวยงาม และหลงลืมเพราะว่ามันเจ็บปวดกันล่ะ? 

 

 

“เรียกฉันว่าหู่พั่วเถอะ ตอนนี้ฉันชินกับชื่อนี้แล้ว นายเรียกชื่อก่อนหน้านี้ของฉันคงรู้สึกแปลกๆ” หู่พั่วรู้สึกว่าชื่อนี้ดีมากๆ เจือไว้ด้วยความคาดหวังที่จะมีชีวิตใหม่ 

 

 

“ได้สิ อย่างนั้นพี่คุยกับแม่ไปก่อน ผมขอตัว” โอวหยางเลี่ยเหลือพื้นที่ให้กับสองแม่ลูกที่เพิ่งจะรู้จักกัน เขาเชื่อว่า แม่ของเขาจะต้องมีอะไรอยากจะพูดกับหู่พั่วมากมาย 

 

 

“หู่พั่ว หลายวันที่ผ่านมา เป็นเพราะแม่ใช่ไหมลูกเลยไม่ออกไปข้างนอก?” เฉินหลานอีดึงเธอมานั่งที่ริมหน้าต่าง แสงแดดที่อยู่ข้างนอกช่างสวยงาม แม้ว่าภายในห้องจะมีแสงลอดเข้ามาบ้าง แต่เทียบกับข้างนอกแล้ว เรียกว่าเทียบกันไม่ติดเสียด้วยซ้ำ 

 

 

“เปล่าค่ะ แค่ช่วงนี้กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ก็เท่านั้น” แม้จะยอมรับแล้วว่าเฉินหลานอีเป็นแม่ของเธอ ทว่าความใกล้ชิดกับเธอก็ยังคงไม่คืบหน้า 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นให้แม่ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนลูก ดีไหมจ๊ะ?” 

 

 

“…ก็ได้ค่ะ” หู่พั่วเห็นแสงในฤดูใบไม้ผลิที่อยู่ข้างนอกแล้วก็อยากออกไปมาก เพียงแต่ข่มใจตัวเองไว้มาโดยตลอด 

 

 

หู่พั่วออกตัวคล้องแขนของเฉินหลานอี เมื่อเห็นแขนของตนพาดลงบนมือเล็กของเธอ เฉินหลานอีก็รู้สึกสึกเบิกบานใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าที่ผ่านมาโอวหยางเลี่ยจะดีกับเธอมาตลอด แต่ตอนนั้นเธอสูญเสียความทรงจำ ทำให้รู้สึกว่าภายในใจช่างว่างเปล่า 

 

 

ตอนนี้หู่พั่วเกิดเรื่องแบบเดียวกับเธอ ทำให้เฉินหลานอีรู้สึกว่าเธอทั้งสองคงจะเข้าใจกัน 

 

 

“หู่พั่ว ไม่ต้องรีบนะจ๊ะ ตอนนี้ลูกกำลังตั้งท้องอยู่ ต้องคิดถึงเด็กในท้องก่อนนะ” เฉินหลานอีกับหู่พั่วอาบไล้แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ 

 

 

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใกล้จะถึงเวลาที่หู่พั่วต้องคลอดแล้ว ขณะที่เฉินหลานอีกำลังเดินเล่นเป็นเพื่อนเธออยู่ในเรือนกระจก จู่ๆ เธอก็ทรุดลงกับพื้น จับท้องพลางร้องว่าเจ็บ “แม่คะ หนูเจ็บท้องมากๆ เลย…” 

 

 

“จะคลอดแล้วเหรอ? เดี๋ยวแม่จะรีบไปตามคนมาให้นะ หู่พั่ว ใจเย็นๆ นะ แม่จะรีบตามคนมาให้” 

 

 

เฉินหลานอีรีบวิ่งออกมาจากเรือนกระจก ก่อนจะพบเข้ากับโอวหยางหงที่ยกชาแดงออกมาพอดี เขานำมาให้พวกเธอเป็นชายามบ่าย 

 

 

“แม่ครับ ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนี้ล่ะ เกิดเรื่องอะไรกับหู่พั่วหรือเปล่าครับ” 

 

 

“หงเอ๋อร์ ลูกมาพอดีเลย หู่พั่วจะคลอดแล้ว ลูกรีบไปตามหมอมาเร็วเข้า”